วันพฤหัสบดีที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ศอ.รส.เล็งขอหมายจับผู้บริหารบลูสกาย ข้อหาสนับสนุนกบฏ

ศอ.รส.เล็งขอหมายจับผู้บริหารบลูสกาย ข้อหาสนับสนุนกบฏ
              ศอ.รส. เล็งขอหมายจับผู้บริหารบลูสกาย ข้อหาสนับสนุนการก่อกบฏ ยันไม่ปิดกั้นการออกอากาศ ด้าน กทม.-ผู้ว่าฯ อาจโดนด้วย ผอ.บลูสกาย ยันทำหน้าที่สื่อ รายงานความเคลื่อนไหวประชาชน พร้อมต่อสู้ตามกฎหมาย
              5 ธ.ค.2556 ที่ ศอ.รส. สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ กำกับดูแล ศอ.รส. แถลงว่า นัดประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ หลังจากนายกฯ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย โดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 4 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการกำหนดยุทธศาสตร์จัดทำแผนและประสานงาน มีตนเองเป็นประธาน มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ และ จารุพงศ์ เรืองสุวรณ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธาน นอกจากนี้จะมีคณะกรรมการด้านกฎหมาย มี รมว.ยุติธรรมเป็นประธาน คณะกรรมการดูแลประชาชน มี รมว.มหาดไทยเป็นประธาน และคณะกรรมการด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ มี  รมว.ไอซีทีเป็นประธาน
              สุรพงษ์กล่าวอีกว่า การประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ มีข้อสรุปหลายประเด็น การดำเนินการของคณะทำงานที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ในตอนนี้ ต้องยึดกฎหมายเป็นหลัก อย่างกรณี สุเทพเป็นผู้ต้องหากบฏ ดังนั้นผู้สนับสนุนสุเทพ จะถือว่าเป็นผู้ที่สนับสนุนผู้ที่เป็นกบฏ ต้องมีความผิดแน่นอนตาม ม.114 ต้องใช้ข้อกฎมายให้ชัดเจน ซึ่งได้กำชับ ผบ.ตร.ออกหมายจับผู้ให้การสนับสนุน ซึ่งทางดีเอสไอและ ผบ.ตร.คงทยอยออกหมายจับต่อไป
             ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมผู้สนับสนุนรายใดบ้าง สุรพงษ์กล่าวว่า จากการหารือรายแรก คือ สถานีบลูสกาย แต่ไม่ใช่เป็นการปิดสถานี เพียงแต่ผู้บริหารบลูสกายนั้นชัดเจนว่าให้ความสนับสนุนนายสุเทพ ผิด ม.114 ดังนั้นบลูสกายจะต้องเจอหมายศาลอย่างแน่นอน ส่วนจะมีรายอื่นเข้ามาด้วยหรือไม่ คงต้องรอ จะมีการออกหมายจับเป็นระยะๆ โดยจะเน้นที่แกนนำก่อน สำหรับผู้ชุมนุมจะยังไม่พิจารณาว่าผิดหรือไม่ผิด แต่จะเริ่มทยอยออกหมายจับ และเมื่อเราออกหมายศาลแล้วมามอบตัวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่มามอบตัวเมื่อทุกอย่างจบก็คงต้องติดคุกหัวโต เพราะคดีดังกล่าวมีโทษจำคุก 3-15 ปี ต่างกรรมต่างวาระกันไป
               ต่อข้อถามว่านอกจากบลูสกาย ยังมีหน่วยงานอื่นที่จะออกหมายจับอีกหรือไม่ สุรพงษ์ กล่าวว่า มีแน่นอน เพราะกำชับดีเอสไอไปแล้ว จะออกหมายจับทั้งบริษัทและห้างร้านที่ให้การสนับสนุน เพียงแต่วันนี้เน้นบลูสกายเพราะชัดเจน
           “นอกจากนี้ในส่วนของ กทม.ที่ให้การสนับสนุนกบฏ ถือว่าผิด ม.114 เช่นกัน อย่างเช่นนำส้วมไปให้ใช้ หรือรถน้ำไปให้ก็มีความผิด กทม.ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย วันนี้ได้กำชับกระทรวงมหาดไทยแล้ว ให้ดำเนินการแจ้งเตือนไปก่อน เพราะหลักฐานที่มีอยู่ชัดเจนว่าให้ความช่วยเหลือกบฏ ต้องถูกจับกุมทั้งหมด ซึ่งไม่คิดว่าจะเพิ่มความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพราะเราว่ากันตามกฎหมาย แม้แต่ตัวผู้ว่าฯ กทม.ถ้ามีความผิดชัดเจนก็ต้องถูกดำเนินการเช่นกัน” รองนายกฯกล่าว
           เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าจะออกหมายศาลเพื่อจับกุมผู้ว่าฯ หากมีหลักฐานชัดเจนอย่างนั้นหรือ สุรพงษ์กล่าวว่า แน่นอน เพราะเรารู้ว่ามีการสนับสนุนก็ต้องโดนแน่ๆ ใครทำผิดก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งรัฐบาลจะทำในทุกๆ แนวทาง โดยเราจะไม่ปล่อยคนทำผิดกฎหมาย ซึ่ง รมว.ยุติธรรมจะเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
 ผอ.บลูสกายลั่นทำหน้าที่สื่อตาม กม.
             ขณะ เถกิง สมทรัพย์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ให้สัมภาษณ์โพสต์ทูเดย์ต่อกรณีดังกล่าวว่า การทำหน้าที่ของบลูสกายเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยรายงานเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของภาคประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม หาก ศอ.รส.จะดำเนินการเอาผิด ก็ขอให้ใช้อำนาจอย่างเป็นธรรมตามกรอบกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ศาลต้องใช้อำนาจไต่สวนข้อกล่าวหา โดยทางสถานีก็พร้อมให้ความร่วมมือชี้แจงต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม
            ทั้งนี้ เถกิงระบุด้วยว่า แทนการตรวจสอบในประเด็นนี้ ควรตรวจสอบประเด็นที่สถานีบลูสกายถูกรบกวนสัญญาณมากกว่าว่าเป็นการดำเนินการจากฝ่ายใด พร้อมเตือนว่า ที่ผ่านมา มีความพยายามปิดสถานีบลูสกาย ซึ่งหากวันใดสถานีเกิดจอดำขึ้นมา มวลชนที่เคยติดตามสถานการณ์ผ่านโทรทัศน์จะออกมาร่วมชุมนุมเพื่อดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง

เสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ (อีกครั้ง) 10 ธ.ค.ที่อยุธยา ดูท่าที ‘สุเทพ’ 6 ธ.ค.นี้

เสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ (อีกครั้ง) 10 ธ.ค.ที่อยุธยา ดูท่าที ‘สุเทพ’ 6 ธ.ค.นี้
              ‘เหวง’ เผยเสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่เพื่อปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ลั่นไม่ยอมให้ ‘สุเทพ’ โค่นแล้วนำนายกฯ มาตรา 7 มาใช้แทน ขู่กลับห้ามบุกยึดสนามบินเด็ดขาด ด้านเพื่อไทยไม่เชื่อจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ใน 6 ธ.ค.แค่สร้างราคา 'ปชป.'เย้ยรัฐ ซื้อเวลาต่ออำนาจ

 
<--break->
 
เสื้อแดงนัดชุมนุมใหญ่ (อีกครั้ง) 10 ธ.ค.ที่อยุธยา
 
           5 ธ.ค.2556 มติชนออนไลน์รายงาน นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนํา นปช.กล่าวว่า การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. อ้างเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 เพื่อขอนายกฯ พระราชทานตามมาตรา 7 เป็นการอ้างแบบวิปริต เพราะไม่สามารถนำเหตุการณ์ในครั้งนั้นที่เป็นรัฐบาลเผด็จการทำรัฐประหารตัวเองมาเปรียบเทียบกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนได้
 
          เหวงกล่าวต่อว่า ส่วนการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงนั้นจะขอรอดูท่าทีของนายสุเทพที่ประกาศจะเผด็จศึกรัฐบาลในวันที่ 6 ธ.ค.ก่อน จึงจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะปกป้องรัฐบาลถึงที่สุด ซึ่งในวันที่ 10 ธ.ค.คนเสื้อแดงจะจัดชุมนุมใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อประกาศปกป้องรัฐสภาและรัฐบาลชุดนี้ คาดว่าจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมหลายหมื่นคน
 
          "เราไม่อยากชุมนุมในกรุงเทพฯ เพื่อป้องกันเหตุความวุ่นวายให้เกิดการเผชิญหน้ากันอีก ที่ผ่านมาวิธีการของนายสุเทพเดินตามรอยนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทุกอย่าง แต่ขณะนี้นายสุเทพจนแต้มแล้ว จึงขอเตือนว่าในวันที่ 6 ธ.ค.ที่บอกว่าจะเผด็จศึกรัฐบาลนั้น อย่าไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิเด็ดขาด” เหวงกล่าว
 
 
เพื่อไทยไม่เชื่อจะเผด็จศึกรัฐบาลได้ใน 6 ธ.ค.แค่สร้างราคา
 
          5 ธ.ค.2556 ไทยรัฐออนไลน์รายงาน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ทางพรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุม ส.ส.พรรคเป็นกรณีพิเศษ เพื่อหารือสถานการณ์การเมือง กรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปลุกระดมมวลชนเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งข้อเสนอจัดตั้งสภาประชาชน และนายกรัฐมนตรีมาตรา 7 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย

 
          การอ้างเรื่อง นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายกฯ พระราชทาน ช่วงเหตุการณ์ 14 ต.ค.16 นั้น ธรรมนูญการปกครองขณะนั้นไม่ได้ระบุว่า นายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง ต่างจากรัฐธรรมนูญปี 50 ที่กำหนดให้นายกฯ มาจาก ส.ส.เท่านั้น อย่าทำตัวเป็นศรีธนญชัยทางการเมือง หากจะให้มีนายกฯ มาตรา 7 พรรคประชาธิปัตย์ต้องเสนอแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291
 
            ส่วนที่นายสุเทพประกาศเผด็จศึกรัฐบาล ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เป็นแค่การดึงมวลชนเพื่อประโยชน์ทางการเมือง สร้างราคาให้ตัวเอง ไม่เชื่อว่านายสุเทพจะล้มรัฐบาลได้ ก่อนหน้านี้ ก็ประกาศล้มรัฐบาล ภายในวันที่ 30 พ.ย. และประกาศยกระดับการชุมนุมหลายครั้ง ขอเรียกร้องผู้ชุมนุมอย่าตกเป็นเหยื่อ สุดท้ายนายสุเทพต้องตกม้าตาย
 
 
'ปชป.'เย้ยรัฐ ซื้อเวลาต่ออำนาจ
 
          ในวันเดียวกัน (5 ธ.ค.2556) ไทยรัฐออนไลน์รายงานด้วยว่า ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงการที่ นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เสนอให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อเขียนบทเฉพาะกาล ว่าในช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งในบ้านเมือง ขอให้มีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากคนนอก ว่า ขณะนี้การเสนอแนวทางต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย เป็นเพียงการซื้อเวลาให้รัฐบาล เพราะถ้ามีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เรื่องต่างๆ ก็คงไม่บานปลายจนถึงขนาดนี้ รวมทั้งเป็นการยื้อเวลาเพื่อรักษาอำนาจให้รัฐบาลเท่านั้น
 
         ทั้งนี้ สิ่งแรกที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว. ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเห็นนายกฯ จะรับผิดชอบอะไร
 
         อย่างไรก็ตาม วันนี้ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลไม่ต้องเสนอแนวทางอะไร เพียงแต่ให้แสดงความรับผิดชอบเพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่า นายกฯ จะไม่ตระบัดสัตย์กับประชาชนอีกแล้ว        
 
 
ผอ.ศูนย์สันติวิธีฯ ม.มหิดล พร้อมเป็นคนกลางหาทางออกชาติ

      
            5 ธ.ค.2556 ASTVผู้จัดการออนไลน์รายงาน นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะเสนอชื่อตนเป็นตัวกลางในการดำเนินการเปิดเวทีทางวิชาการ เพื่อพูดคุยทุกภาคส่วนในการหาทางออกให้กับประเทศ
 
           ส่วนตัวหากสามารถช่วยอะไรที่จะทำให้ความขัดแย้งคลี่คลายได้โดยแนวทางสันติวิธีก็พร้อมที่จะช่วย แต่ขณะนี้เห็นว่ายังไม่ได้เริ่ม ซึ่งการจัดเวทีต้องเป็นเวทีที่เปิดกว้าง รับทุกความคิดเห็นเข้ามา เป็นเวทีที่ใครคับข้องใจสามารถมาพูดกันได้ เพื่อให้สังคมได้รับรู้  ซึ่งปัญหาทางการเมืองขณะนี้ต้องใช้เวลาในการเยียวยา พูดคุยหลายรอบ หลายเวที และหลายฝ่าย  เพื่อให้เสียงดังจนสังคมสนใจ หากเสียงสอดคล้องกันก็จะเดินหน้าได้ แต่หากยังอึมครึมก็ยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้

พบผู้ใช้เว็บทั่วโลกรวมทั้งไทยถูกขโมยรหัสผ่านร่วม 2 ล้านรหัส

พบผู้ใช้เว็บทั่วโลกรวมทั้งไทยถูกขโมยรหัสผ่านร่วม 2 ล้านรหัส
             ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตพบว่า รหัสผ่านหรือพาสเวิร์ดของผู้ใช้เว็บไซต์ยอดนิยมอย่างเฟซบุ๊ก กูเกิล ทวิตเตอร์ ยาฮู ถูกขโมยร่วม 2 ล้านพาสเวิร์ดทั่วโลก ในจำนวนนี้มีผู้ใช้ในไทยรวมอยู่ด้วย
            5 ธ.ค.2556 สำนักข่าวไทย รายงานว่า คณะผู้เชี่ยวชาญในสไปเดอร์แลบส์ของบริษัททรัสต์เวฟในสหรัฐเผยว่า พบเรื่องนี้ระหว่างตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ในเนเธอร์แลนด์ที่แก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ใช้ควบคุมเครือข่ายเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากที่ถูกเจาะระบบหรือที่รู้จักกันในชื่อ โพนีบอตเน็ต บริษัทได้แจ้งให้เว็บไซต์และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่จากทั้งหมดกว่า 90,000 แห่งได้ทราบแล้ว
           พาสเวิร์ดที่พบว่าถูกขโมยเป็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 326,000 บัญชี ของกูเกิล 60,000 บัญชี ของยาฮูกว่า 59,000 บัญชี และของทวิตเตอร์เกือบ 22,000 บัญชี เหยื่อมีทั้งผู้ใช้ในสหรัฐ เยอรมนี สิงคโปร์ ไทยและอีกหลายประเทศ ตัวแทนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ชี้แจงว่า ได้ปรับพาสเวิร์ดของผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบแล้ว ส่วนกูเกิลและยาฮูยังไม่ชี้แจงใดๆ
          สไปเดอร์แลบพบว่า พาสเวิร์ดที่ถูกขโมยมากที่สุดคือ 123456 มีผู้ใช้พาสเวิร์ดนี้ประมาณ 16,000 บัญชี รองลงมาคือการใช้คำว่า password admin 123 และ 1 นอกจากใช้พาสเวิร์ดที่ง่ายต่อการถูกขโมยแล้วหลายคนยังใช้พาสเวิร์ดเดียวกับบัญชีเว็บไซต์หลายบัญชีทั้งที่เสี่ยงถูกขโมยหมดทุกบัญชี

พระราชดำรัส 5 ธันวา: บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ

บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ
            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำรัสในการพระราชพิธีเสด็จออก ณ มหาสมาคม เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา ที่วังไกลกังวล หัวหิน
            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ในการพระราชพิธีเสด็จออก ณ มหาสมาคม เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล (ที่มา: โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ)
             สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล (ที่มา: โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ)
            ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถวายพระพรชัยมงคล ด้านหลังคืออดีตนายกรัฐมนตรี (จากซ้ายไปขวา) พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อดีตนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ช่วง 2523 - 2531 อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรีสองสมัยระหว่างปี 2534 - 2535 และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 จนถึง 29 มกราคม 2551 (ที่มา: โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ)
             พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลถวายพระพร และขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยทหารทุกหน่วย ทุกเหล่าทัพ (ที่มา: โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ)
           พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัส แก่ผู้ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการพระราชพิธีเสด็จออก ณ มหาสมาคม เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา (ที่มา: โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ)
           5 ธ.ค. 2556 - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ รายงานว่า วันนี้ (5 ธ.ค.) เวลา 10.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากตำหนักเปี่ยมสุข ไปยังท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ภายใต้พระนพปฎล มหาเศวตฉัตร เจ้าพนักงานรัวกรับ ชาวม่านเปิดพระวิสูตร เจ้าพนักงานชูพุ่มดอกไม้ทองให้สัญญาณ ชาวพนักงานประโคมกระทั่งมโหระทึก ประโคมแตร ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลง เพลงสรรเสริญพระบารมี ขณะนั้น ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ครั้นสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพร ชัยมงคลตามลำดับ
          เมื่อสุดเสียงประโคมแล้ว สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร เสด็จออกหน้าพระที่นั่งพุตตานกาญจนสิงหาสน์ กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล แทนพระบรมวงศานุวงศ์ ต่อจากนั้น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ,นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กราบบังคมทูลพระกรุณาถวายพระพรชัยมงคล จากนั้นพลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กราบบังคมทูลพระกรุณา กล่าวนำทหารรักษาพระองค์ถวายคำสัตย์ปฏิญาณ ทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณ 
       จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัส แก่ผู้ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในการพระราชพิธีเสด็จออก ณ มหาสมาคม เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล ความว่า
"ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิตพรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญา ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพรและไมตรีจิตนั้นด้วยใจจริง เช่นกัน บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้ สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติ ตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือ ความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคนให้มีแต่ความสุข ความเจริญตลอดไป"
         จากนั้น ผู้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในมหาสมาคมทั้งหมด ถวายความเคารพ ก่อนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จพระราชดำเนินกลับ

แถลงการณ์: ต่อต้านกบฏ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ


แถลงการณ์: ต่อต้านกบฏ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ
Posted: 03 Dec 2013 08:38 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)





แถลงการณ์ ฉบับที่ 1/2556


“ต่อต้านกบฏ ปกป้องรัฐบาลประชาธิปไตย ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ”



            จากปรากฏการณ์การยกระดับ “ม๊อบฝนตกขี้หมูไหลฯ” ของพวกอันธพาลทางการเมือง “กลุ่มพลังอนุรักษ์นิยม” ภายใต้การชี้นำของ “เครือข่ายอำมาตย์” ที่ได้จัดตั้งองค์กรสัปปะรังเคในนาม “คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” (กปปส.) แสดงให้เห็นถึงการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อนำไปสู่อุดมการณ์สูงสุด คือ “รัฐบาลแห่งชาติ” (รัฐบาลพระราชทาน/ รัฐบาล ม.7) ที่จะมาจาก “คนดีมีศีลธรรม” ซึ่งเป็นแผนการรื้อฟื้น, สถาปนา “ระบอบอำมาตยาธิปไตย” ขึ้นมาใหม่

              ดังนั้น ทาง “สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย” (สปป.) ซึ่งเป็นองค์กรกลางในการประสานงานองค์กร, เครือข่าย “กลุ่มพลังประชาธิปไตย” และประชาชน, เสรีชนผู้รักประชาธิปไตย ในขอบเขตทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ “สร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แท้จริง” ให้เกิดขึ้นในแผ่นดินไทย ที่มีรายชื่อแนบท้ายนี้ จึงมีข้อเสนอต่อสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ดังนี้

ข้อเสนอต่อ นปช. และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

  1. ให้รวมพลังกาย พลังใจ สามัคคีกัน เพื่อลุกขึ้นต่อสู้กับพวก “กบฏ กปปส.” โดยไม่ยอมจำนนอย่างถึงที่สุด
  2. ให้เตรียมคน เตรียมความคิด เตรียมเสบียง และเตรียมอุปกรณ์ เพื่อรองรับการต่อสู้ในระยะยาว
  3. ให้ นปช. , พรรคเพื่อไทย (พท.) และประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ร่วมกันจัดชุมนุมต่อต้านกบฏที่หน้า “ศาลากลางจังหวัด” ในทุกจังหวัดอย่างรวดเร็ว

ข้อเสนอต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

  1. ไม่เห็นด้วยกับการที่จะใช้วิธีการยุบสภา และลาออก โดยสิ้นเชิง 
  2. ให้เข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายต่อพวก “กบฏ กปปส.” อย่างเด็ดขาด 
  3. ขอให้กำลังใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องระบอบประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุด
ขอประกาศจุดยืนของ สปป. และภาคีเครือข่าย ดังต่อไปนี้

  1. จะต่อต้านพวกกบฏ การรัฐประหาร สภาประชาชน ทุกรูปแบบ
  2. ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ (รัฐบาลพระราชทาน/ รัฐบาลที่มาจาก ม.7)
  3. ขอประณามแนวทางอันธพาลทางการเมือง ที่กำลังก่ออาชญากรรม กระทำพฤติกรรมเยี่ยงโจรของพวก “กบฏ  กปปส.” และจะต่อสู้เพื่อขจัดพวกกบฏลูกสมุนอำมาตย์ให้สิ้นซากไปจากสังคมไทยในทุกรูปแบบ และจากนี้ไป ทาง สปป. จะจัดเวทีชุมนุมในวันที่ 7 ธันวาคม 2556 ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ประชาชน, เสรีชนผู้รักประชาธิปไตยได้แสดงจุดยืนทางการเมืองร่วมกัน
ประชาชน เสรีชน ผู้รักประชาธิปไตย จงสามัคคีกัน !!!
“สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย” (สปป.)
3 ธันวาคม 2556


รายชื่อกลุ่ม/ องค์กร สมาชิก
  • 1. แนวร่วมแรงงานและเกษตรกรเพื่อประชาธิปไตย (นรกป.)
  • 2. กลุ่มสร้างสรรค์ชีวิตและสังคมอีสาน (กสส.) 
  • 3. เครือข่ายองค์กรชุมชนแก้ไขปัญหาที่ดินภาคอีสาน (คอป.อ.)
  • 4. กลุ่มดงมูลเพื่อการพัฒนา (กดม.) จ.กาฬสินธุ์
  • 5. กลุ่มต้นอ้อ จ.ขอนแก่น 
  • 6. กลุ่มมิตรภาพ จ.ขอนแก่น
  • 7. กลุ่มศึกษาปัญหาสังคมเพื่อการเปลี่ยนแปลง (ศสป.)
  • 8. กลุ่มภูเวียงเพื่อการพัฒนา (กภว.) จ.ขอนแก่น 
  • 9. กลุ่มประชาชนไทยแวงน้อย จ.ขอนแก่น
  • 10. กลุ่มภูพานเพื่อการพัฒนา (กภพ.) จ.สกลนคร 
  • 11. กลุ่มเพื่อนพัฒนาภูกระดึง จ.เลย
  • 12. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้ำพรมตอนต้น จ.ชัยภูมิ
  • 13. กลุ่มเยาวชนอนุรักษ์ลุ่มน้ำบัง จ.ยโสธร
  • 14. องค์กรอิสระเถียงนาประชาคม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • 15. กลุ่มปุกฮัก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • 16. กลุ่มเพื่อนสังคม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • 17. กลุ่มเพื่อนปริญญาโทรักความเป็นธรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • 18. ซุ้มเกี่ยวดาว มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • 19. กลุ่มข้าวต้มมัด มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  • 20. คณะกรรมการรณรงค์การกระจายอำนาจภาคอีสาน
  • 21. เครือข่ายอนุรักษ์ภูเก้า-ภูพานคำ จ.หนองบัวลำภู
  • 22. เครือข่ายองค์กรชาวบ้านลุ่มน้ำปาว (คอป.) จ.กาฬสินธุ์
  • 23. เครือข่ายอนุรักษ์ภูผาเหล็ก จ.สกลนคร
  • 24. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ลุ่มน้ำโขง จ.อุบลราชธานี 
  • 25. เครือข่ายคนรุ่นใหม่ยโสธร จ.ยโสธร
  • 26. เครือข่ายคนรุ่นใหม่มหาสารคาม จ.มหาสารคาม
  • 27. เครือข่ายอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชุมชนเขลาโคก จ.ร้อยเอ็ด
  • 28. สหพันธ์เยาวชนอีสาน (สยส.)
  • 29. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.)
  • 30. สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) 
  • 31. สถาบันเพื่อพัฒนาเยาวชนแห่งประเทศไทย (สยท.)
  • 32. กลุ่มครูเพื่อประชาธิปไตยภาคอีสาน (กคส.)
  • 33. สำนักเรียนรู้กระจายอำนาจและปกครองตนเอง (กอ.ปอ.)
  • 34. สถาบันสร้างสรรค์ชีวิตและสังคม (LSI.)
  • 35. ชมรมส่งเสริมการเรียนรู้ภาคเหนือตอนล่าง
  • 36. กลุ่มนักวิชาการเพื่อประชาธิปไตยภาคอีสาน (กนป.)
  • 37. สมาคมส่งเสริมสิทธิแรงงาน (สสร.)