"ตอนนี้ถ้าผมตายไปก็ถือว่าภาคภูมิใจแล้ว ผมจะอยู่ไปจนสิ้นชีวิต เท่ากับดิสเครดิตเขาไปในตัว เพื่อไม่ให้เขาซ้ำเติมเรามากเกินไป แต่ผมอาจจะไม่ได้เห็นนายกฯ มาจากการเลือกตั้ง"
"แต่ฝากเลย คสช. ถ้าไม่เอานายกฯ มาจากการเลือกตั้ง ต่อไปคุณก็อยู่ลำบาก เพราะสังคมโลกเขาไม่ยอมรับ"
"71 แล้ว ต่อไป ถ้าเราทำอะไรไม่ได้พอ 75 อาจจะหลุดโลกไปแล้ว เสียดายตัวเองนะ พอหลุดโลก เราก็ไม่มีความหมายแล้ว" ฉลาด วรฉัตร ทิ้งท้ายการสนทนากับ "ประชาไท"
ชื่อของฉลาด วรฉัตร กับการอดอาหารประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยนั้นมาคู่กันเสมอ พลันที่มีการประกาศยึดอำนาจปกครองครั้งล่าสุด "ประชาไท" โทรสอบถามจุดยืนของเขา เขายืนยันอดอาหารประท้วงการรัฐประหาร โดยเดิมเขามีกำหนดการอดอาหารเพื่อประท้วงการออกกฎอัยการศึกในคืนวันเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว
สองอาทิตย์ผ่านไป ท่ามกลางเกมไล่จับหนูทั่วกรุง จากไล่จับคนชูป้ายประท้วงรัฐประหาร ชูกระดาษเอสี่เปล่าๆ จนเหลือแค่ชูสามนิ้ว และกินแซนวิช "ประชาไท" สัมภาษณ์ "ฉลาด วรฉัตร" ผู้เลือกวิธีอดอาหารประท้วงรัฐประหาร
สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง
ระยะสองสามวันนี้ มีอาการอ่อนเพลียและหน้ามืด สำคัญที่สุดคือหน้ามืด นั่งเดินไม่ค่อยได้ อาจจะเนื่องจากเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย แต่พอนอนเข้าก็โอเค บางทีก็นอนพูดไป
โรคแทรกซ้อนที่มีอยู่คือโรคหัวใจ สองวันนี้มีหมอมาตรวจ พอดีมีหมอมาเยี่ยมแล้วก็เป็นห่วง หมอตรวจว่าน้ำตาลเยอะ เพราะกินน้ำผึ้ง สองแก้วต่อหนึ่งมื้อ ตอนนี้ลดเหลือแก้วเดียวก็คงจะดีขึ้น วันละ 3 ครั้ง อย่างไรก็จำเป็นต้องดื่มน้ำผึ้งด้วย เพราะเราต้องกินยา มันจะเป็นอันตรายต่อกระเพาะ
หมอห้ามไหม
คุณหมอส่วนใหญ่รู้อยู่แล้ว ผมได้รับการสั่งสอนมาจากโรงพยาบาลวชิระฯ ก็ก่อนนั้นเคยอดอาหารตอนประท้วงนายกฯ เกรียงศักดิ์ อยู่ได้สองวัน พอเข้าโรงพยาบาล หมอโรงพยาบาลวชิระบอกว่าถ้าจะสู้ทางการเมือง ต้องยืดเวลายาวหน่อย ก็ต้องดื่มน้ำ ตอนหลังบอกต้องมีน้ำผึ้ง เพราะประสาทเราจะไม่เสื่อม
แล้วสุขภาพทางใจเป็นอย่างไร
สุขภาพจิตเต็มร้อย คราวนี้ผมยอมรับ ผมเต็มร้อยเพราะผมคาดการณ์ไม่ผิดพลาดเลย ที่มา เราช่วยอะไรไม่ได้หรอก เพียงแต่ผมอาจจะมีผลงานที่เคยชนะจากการอหิงสา อหิงสา ชนะก็ดูตรงที่ ถ้าเราไม่ถึงที่ตายเดี๋ยวเราก็ชนะ แต่ไม่ใช่นอนเฉยๆ นี่ผมทำงาน เดี๋ยวต้องไปยื่นฟ้องร้องตามกระบวนการและส่งต่างประเทศ เพื่อให้อหิงสาเป็นผล เราจะต้องเปิดเผยไปสู่โลกภายนอกด้วย ว่าเราคนหนึ่งในประเทศไทย ยอมเสียสละชีวิตแลกกับประชาธิปไตย
จะฟ้องอะไรบ้าง
มาตรา 112 คสช.ละเมิดหรือหมิ่นพระมหากษัตริย์และราชวงศ์ เพราะอยู่ๆ ดีเอาสิ่งที่ผิดกฎหมายไปให้ในหลวงเซ็น คสช.ไม่ใช่คณะรัฐมนตรี เป็นไปไม่ได้ จะมาอ้างว่าเป็นกฎอัยการศึก ยิ่งเป็นกฎอัยการศึก เข้า 112 ทันที เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากพระมหากษัตริย์ แล้วพอตัวเองผิดกฎหมาย แล้วเที่ยวมาไล่จับคนที่ทำถูกกฎหมาย มีกฎหมายคุ้มครอง
คสช.กับกฎอัยการศึก ไม่ชอบทั้งคู่ เมื่อกฎอัยการศึกไม่ชอบ คสช.ก็ย่อมไม่ชอบ
มาตรา 113 มาล้มรัฐธรรมนูญ มาก่อกบฏ มาตรานี้แรงจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
มาตรา 114 เป็นข้อสุดท้ายของหมวดความมั่นคง คนโบราณเขาเขียนกฎหมายไว้ลึกล้ำ แล้วป้องกันไว้เต็มที่ แต่เราไม่ปฏิบัติกัน เราไม่เคยบังคับใช้ตามกฎหมาย เขาบอกไว้ว่า ถ้ารู้ว่าเขารัฐประหาร ถ้าไม่ต่อต้านแจ้งความร้องทุกข์เขา คุณต้องมีความผิด ตั้งแต่ 3 -15 ปี
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย (1) พระมหากษัตริย์ (2) พระราชินี (3) รัชทายาท หรือ (4) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของ แผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ามีผู้จะเป็น กบฎแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
|
ถ้าถูกเรียกรายงานตัวจะทำอย่างไร
ตำรวจเขามาหาผมแล้ว เร็วๆ นี้เอง มาถามผมว่า ถ้าทหารเขาให้ผมไปรายงานตัว จะไปไหม ผมบอกว่าไม่ไป แต่ถ้ามาจับ ไป
ก็ผมอยากมีความผิดและผมอยากไปอยู่ในคุกทหาร เพราะฉะนั้นผมต้องดำเนินการฟ้องดักไว้ก่อน เพราะยังไงศาล ศาลทหารหรือศาลไหนก็แล้วแต่ ที่สนับสนุนคนทำผิดกฎหมายก็ไม่ใช่ความถูกต้องแล้ว คุณจะไปบอกว่า คนไปปล้นเขามา นี่มันเหมือนปล้นกันทั้งประเทศเลยนะ พอคุณปล้นสำเร็จไม่มีใครต่อต้านคุณ แล้วคุณบอกว่าฉันมีอำนาจโดยชอบธรรม มันเป็นไปได้ไหม หรือว่าคุณจะทำความดีเอามาชดใช้ หมายถึงว่าคุณไปปล้นเขามา แล้วก็เอามาแจกคนยากคนจน แล้วคุณก็บอกว่านี่คือความดี
นี่ก็เหมือนกันคุณจะไปปล้นอำนาจของประชาชน แล้วคุณจะมาบอกว่ามันจำเป็นต้องทำ เพราะไม่อย่างนั้นคนมันแตกแยก คนมันกำลังจะใช้ความรุนแรง ถามว่าถ้าเขาเดินหน้าไปในระบอบประชาธิปไตย เผด็จการไม่เข้ามาขัดขวาง หรือทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่ออำนาจกลับคืนไป เหตุการณ์นี้ไม่มีหรอกในประเทศไทย ประชาธิปไตยไม่มีความรุนแรงและไม่มีการขัดแย้งกันอย่างนี้ ไอ้นี่มันนอกรัฐสภา
หมายถึงเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง?
ใช่ องค์กรที่ทำ พรรคการเมืองที่ทำเพราะยังมีเผด็จการหนุนหลัง เผด็จการมีกระบอกปืนมีรถถังหนุนหลัง ถ้าพลเรือนด้วยกันทำไม่ได้
เผด็จการตั้งแต่ปี 49 ก็พยายามขึ้นมามีอำนาจ เพราะฝ่ายประชาธิปไตย พยายามยกเลิก-แก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วคนพวกนี้ วางอำนาจไว้ในรัฐธรรมนูญ ศาล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งหลังสุด กกต.ชัดเจน ถ้า กกต.จัดเลือกตั้ง 2 ก.พ.เสร็จเรียบร้อย ป่านนี้ก็มีรัฐบาล แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มี เรื่องขัดขวาง ถ้าเอาจริง ให้ทหารหรือตำรวจไปจัดการ แต่คุณไม่ทำ ยอมเลื่อนบ้างอะไรบ้าง
ผมเคยทำหนังสือถึงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่เขาไม่สนใจเลย ก่อนถูกศาลตัดสิน ผมมานั่งเพื่อใช้เวลาคิด ทำอย่างไรถึงจะสู้ไม่ให้เกิดเหตุช่องว่าง ให้ประกาศภาวะฉุกเฉินเต็มอัตรา พูดให้ประชาชนเข้าใจก่อนว่ายิ่งลักษณ์ออกจากนายกฯ แล้วรักษาการตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพื่อรอคนมาใหม่ ไม่ใช่คนต่อไปจะเป็นยิ่งลักษณ์ พรรคอื่นอาจจะขึ้นก็ได้ จะเรียกร้องให้เขาลาออก ตั้งนายกฯ คนกลาง บ้าหรือเปล่า เขาจะเลือกตั้งกันอยู่แล้ว
แต่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่พยายามเรียนรู้ว่าตอนศาลรับเรื่อง อย่างไรก็ต้องตัดสินปลด ผมเสนอไป เครื่องมือของรัฐบาลเลย ระหว่างรัฐบาลรักษาการ ประกาศภาวะฉุกเฉินได้เต็มอัตราศึก เพื่อให้การดำเนินการเลือกตั้ง เป็นไปตาม กฤษฎีกาแล้ว ให้นายกฯ อบจ.ทุกจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์แล้วให้รองผู้ว่า เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ แล้วสั่งกองทัพ ตำรวจ ถ้า ผบ. คนไหนไม่ฟัง ปลดไว้ก่อน
คุณจะต้องเข้าใจว่า มาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญทุกฉบับเขียนไว้ว่าประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คนแย้งที่เป็นเผด็จการ หมดสิทธิจับอย่างเดียว แต่เราไม่ทำ ไม่เคยบังคับใช้กฎหมาย กลัวนั่นกลัวนี่ แล้วดูเผด็จการ เขาออกกฎอัยการศึกมา ไม่ถูกต้อง ไม่มีรัฐมนตรี ไม่ได้ขออนุญาตในหลวง
รัฐประหารครั้งนี้เหมือนหรือต่างกับครั้งก่อนๆ อย่างไร
ครั้งนี้เขาทันสมัยมาก ทำโดยไม่หวาดกลัว ทำมาไม่เหมือนเก่าๆ เก่าๆ พอปฏิวัติปั๊บต้องประกาศรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวขึ้นมา เพื่อรองรับ นี่ไม่ต้อง เขาสถาปนาตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศเลย สั่งเข้าไปในกระทรวงได้ อย่างนี้ใครๆ เขาก็รู้ว่าเรียกนักเลง พูดหยาบๆ ก็โจรชัดๆ โจรชัดๆ มาปล้นประเทศ
เขาบอกว่าขอเวลาสองปี ในการสลายสี จะเป็นไปได้แค่ไหน
ถ้าจะเอาคนที่ผิดกฎหมายร้ายแรงขนาดนี้ เอาความดีมาเปรียบเทียบเราก็ต้องเลิกพูดกัน เพราะกฎหมาย แม้แต่เด็กหิวโหยไปขอทานไปขโมยขนมยังยอมความกันไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรมาเปรียบเทียบอย่างนี้ ก็เขาทำผิดกฎหมายแล้วคุณจะไปฟังเขาทำไม เพียงแต่ตอนนี้ประชาชนคนไทยต้องหาหนทางแจ้งความร้องทุกข์เขา แล้วก็ขึ้นศาล เขาติด ทำกันทุกคนเถอะ แล้วมันจะอยู่รอดปลอดภัย ทุกคนไม่ต้องไปเดินขบวน แหย่เขาเอา เขามีปืน แต่ถ้าเราออกไปตามกฎหมาย เรามาเรียกร้องเป็นกลุ่มเป็นก้อน ก็ทำได้ทั้งนั้น เขาทำผิดกฎหมาย มาตรา 114
เขาหาว่าผมสุดโต่ง เพราะผมเคยออกกฎหมาย เพราะฉะนั้นคนเรียนกฎหมาย ต้องฟังคนออกกฎหมายสิ ถูกเปล่า เพราะฉะนั้นในเมื่อเขาผิดกฎหมายแล้วคุณไปยอมรับเขา เพราะคุณกลัวกระบอกปืนกับรถถัง
ถ้าอย่างนั้น จะแก้ไขความขัดแย้งตอนนี้อย่างไร
ถ้าแก้ด้วยระบอบประชาธิปไตย [ความขัดแย้ง] จะหายไปทันที ทำแป๊บๆ หาย รัฐธรรมนูญในประเทศไทย เชื้อเผด็จการทั้งนั้น ที่เราเปลี่ยนแปลงการปกครองมีฉบับเดียวคือ 2475 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 ถ้าเราจะทำต่อไปให้สมบูรณ์ ก็ต้องเอาปี 2495 มาทำให้สมบูรณ์กับยุคสมัยนี้ คุณไม่ต้องไปพูดถึงกฎหมายฉบับอื่นเผด็จการทั้งดุ้น
รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 มันเป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ของประเทศว่าเราเปลี่ยนแปลงการปกครอง ร.7 เป็นคนพระราชทานให้ แล้วกฎหมายบอกว่าคุณล้มเลิกรัฐธรรมนูญไม่ได้ แล้วมันฉบับไหนล่ะ ฉบับอื่นคุณล้มเขามา
จะให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ตอนนี้เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนต้องเอามาแก้ไขให้เป็นประชาธิปไตยเหลืออีกสามข้อก็เป็นแล้ว
หนึ่ง พรรคการเมืองควรเป็นองค์กรของรัฐ โดยประชาชนเป็นสมาชิก แล้วก็ไม่ควรมีเกินสามพรรค
ถ้าเราบังคับไว้ในรัฐธรรมนูญว่าทุกคนต้องเป็นสมาชิกพรรค แสดงว่าพรรคการเมืองไม่มีใครเอาไปเล่นอะไรได้แล้ว ทำไมกองทัพต้องเป็นของรัฐล่ะ นี่คือความมั่นคง ปกครองทหาร ข้าราชการ ข้าราชการประจำทั้งแผ่นดิน ของรัฐก็คือของประชาชน
สอง ต้องมีนโยบายขึ้นมา ไม่ต้องไปเขียนอะไรมากมาย เพราะหัวใจของประชาธิปไตยคือรัฐต้องจัดปัจจัยสี่ให้ประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน คือ
1) รัฐต้องจัดให้คนมีเงินดำรงชีพ คนละไม่ต่ำว่า 15,000 บาท หรือเทียบเท่า ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งตาย
2) รัฐต้องยกระดับการศึกษาภาคบังคับจากม. 6 เป็นปริญญาตรี และใช้หลักสูตรนานาชาติ
3) การรักษาพยาบาล ต้องทำให้อยู่ในระดับเดียวกันแล้วรักษาได้ทุกโรค ไม่ใช่แรงงานใช้อย่างหนึ่ง ข้าราชการใช้อย่างหนึ่ง
4) ทุกคนต้องมีที่อยู่อาศัยให้เหมาะสมกับความเป็นมนุษย์
สาม กระจายอำนาจ
มีคำแนะนำต่อโรดแมปของ คสช. ไหม
ไม่ต้องแนะนำ เพราะผมมีลัทธิประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น ผมบอกเขาเลยว่า ประชาธิปไตยกับเผด็จการ มันจะผสมผสานมันไม่ได้
ถ้าคุณหวังดี บอกมันจะฆ่ากันตายหมด พอเรามาทำอย่างนี้ มีดนตรีจะสามัคคีได้ (หัวเราะ) มันเป็นไปไม่ได้หรอก
มาจากกระบอกปืน คุณจะปฏิรูปยังไงก็แล้วแต่ มันขัดต่อระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปไตย เขาลงพรรคหาเสียง ต้องบอกประชาชนว่าจะทำอะไร แต่ปฏิรูปของเขาจะวางกรอบให้ ส.ส.ไม่กระดิกกระเดี่ย
ผมไม่ใช่พวกทักษิณ แต่ต้องยุติธรรมต่อเขา เพราะเขามาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่อยู่ดีๆ สนธิ บุญยรัตกลิน มาจากเผด็จการ แต่กลับมาเป็น ส.สได้ แต่ทักษิณต้องหนีออกนอกประเทศหมายความว่าไง คดีเขาเป็นคดีตอนคุณปฏิวัติ ถ้าคดีตามปกติผมไม่ว่าหรอก ไม่เป็นไร
คิดอย่างไรกับโครงการต่างๆ ของรัฐบาลก่อนที่มีการนำมาปัดฝุ่นใหม่
คุณบอกจะอยู่ชั่วคราว แล้วมาทำโครงการทำไม ตอนนี้น่าจะพูดเรื่องโครงการของสังคม ให้นักการเมืองอยู่ในกรอบอย่างไร นี่หาเสียงอย่างเดียว หวังจะเป็นนายกฯ
ก่อนกลับ แพทย์พร้อมผู้ช่วย 2 คนเดินเข้ามาขอตรวจสุขภาพฉลาด เขาบอกว่าเขาเคยตรวจอาการของฉลาด เมื่อปี 2535 วันนี้กลับมาอีกครั้ง ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เมื่อถามถึงสุขภาพ แพทย์ระบุว่า มีอาการความดันต่ำ ทำให้หน้ามืดจะเป็นลมบ่อยๆ ร่างกายขาดสารอาหารและน้ำ บวกกับอายุที่มากขึ้นและโรคหัวใจ ทำให้ร่างกายทรุดโทรมเร็ว ในฐานะแพทย์ แนะนำให้รักษาชีวิต เลิกประท้วง แล้วกลับไปกินอาหารให้เพียงพอ แต่ถ้าด้วยอุดมการณ์ ก็คงต้องเคารพการตัดสินใจของเขา |
หมายเหตุ: ฉลาด วรฉัตร ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง (8 มิ.ย.) แจ้งว่าอังคารนี้ (10 มิ.ย.) จะไปแจ้งความ คสช. ข้อหาล้มล้างการปกครอง