วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

รายงานตัว สนช. วันที่ 2 ยังคึกคัก 'พล.อ.ธวัชชัย' เตรียมยื่นใบลาออก สนช. เหตุคุณสมบัติขัด รธน.

2 ส.ค. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่าตั้งแต่เวลา 08.30น. วันนี้ (2 ส.ค. ) ที่อาคารรัฐสภา 2 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเปิดให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ  แต่งตั้งมารายงานตัว บรรยากาศคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า เพียงครึ่งวัน มีผู้มารายงานตัวแล้ว 36 คน ส่วนใหญ่เป็นนายทหารและตำรวจ โดยเฉพาะกองทัพอากาศที่เดินทางมาพร้อมกัน 6 คน
 
สำหรับรายชื่อผู้ที่เดินทางมาในวันนี้ อาทิ พล.อ.อู้ด เบื้องบน พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ  นายศักดิ์ทิพย์ ไกรฤกษ์ พล.ท.ธีรชัย นาควานิช นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ  พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี  คุณหญิง สุมณฑา พรหมบุญ นางเสาวณี สุวรรณชีพ พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง โดยรัฐสภาจะเปิดให้รายงานตัวถึงเวลา 16.30 น.
 
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เผยดีใจและเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจะตั้งใจทำงานเต็มที่ ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพราะมีความชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของ ประชาชน
 
“พล.ต.อ.วัชรพล” หนุน “พรเพชร” นั่งประธาน สนช.
 
พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พร้อมทำหน้าที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เนื่องจากเคยทำหน้าที่นี้เมื่อปี 2549 มาแล้ว ซึ่งขณะนี้เตรียมจะเสนอแนวทางการกระจายอำนาจในการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ เพื่อให้แต่ละหน่วยสามารถจัดการงบประมาณและมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น
 
“ส่วนการเลือกประธาน สนช. ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกัน แต่เห็นว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เนื่องจากเคยร่วมงานกันมาก่อน ขณะเดียวกัน เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีความเหมาะสมที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากที่ผ่านมา สามารถจัดการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้กลับมาสงบเรียบร้อยได้” พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรุ่งนี้ (3 ส.ค.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะเดินทางมารายงานตัวที่อาคารวุฒิสภา
 
“สุรชัย” ระบุนัดอดีต ส.ว.ทานอาหาร 4 ส.ค.นี้นานแล้ว ไม่เกี่ยวล็อบบี้ ปธ. สนช.
 
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงกรณีนัดหารือและรับประทานอาหารกลางวันกับอดีต ส.ว. วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคมนี้ ว่าไม่มีนัยหรือต้องการล็อบบี้ตำแหน่งใน สนช.  แต่ได้นัดกันไว้ล่วงหน้าก่อนจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็น สนช.
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีแคนดิเดตตำแหน่งประธาน สนช.หลายคน นอกจากนายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่คาดว่าจะมารายงานตัววันพรุ่งนี้ (3 ส.ค.) แล้วยังมีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยสนับสนุน พล.อ.ธีรเดช มีเพียรด้วย
 
ทั้งนี้ สนช.จะประชุมนัดแรกเพื่อเลือกประธานและรองประธาน สนช. วันที่ 8 ส.ค.  นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิก สนช.จะมายื่นใบลาออกจาก สนช.ต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา วันที่ 4 ส.ค. เวลา 10.00 น. หลังปรึกษาฝ่ายกฎหมายแล้วพบว่ามีลักษณะต้องห้ามเป็น สนช.ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนด ห้ามดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองภายในระยะ 3 ปี ก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช.
 
เลขาฯ กฤษฎีกาไม่ขัดข้องถ้า "พล.อ.ประยุทธ์" เป็นนายก
 
นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเข้ารายงานตัวเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช. ) ว่า ไม่ขัดข้องหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุม สนช. และไม่คิดว่าเป็นการแทรกแซงงานของฝ่ายบริหาร แต่จะทำให้การทำงานของทุกฝ่ายมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
 
นายชูเกียรติ ยืนยันว่าไม่รู้สึกกังวลในการทำหน้าที่ สนช. เพราะทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำงาน ส่วนการประชุมของ สนช. จะเดินหน้าไปได้หรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎอัยการศึกไม่ใช่เรื่องใหญ่ เชื่อว่าจะเดินหน้าประชุมต่อไปได้ ส่วนการพิจารณากฎหมายสมาชิกจะพิจารณาตามลำดับความสำคัญของกฎหมายแต่ละฉบับที่มีความเร่งด่วน แม้ สนช.จะมีกรอบเวลาการทำงานไม่นานนัก แต่เชื่อว่าโรดแมปของ คสช. ได้พิจารณากรอบเวลามาอย่างรอบคอบแล้ว ส่วนอำนาจในการถอดถอดผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของ สนช. ต้องขอศึกษาข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงก่อน
 
'พล.อ.ธวัชชัย' เตรียมยื่นใบลาออก สนช. เหตุคุณสมบัติขัด รธน. ลั่นไม่ยึดติดตำแหน่ง
 
ด้านมติชนออนไลน์รายงานว่าพล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) ลำดับที่ 57 เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ เวลาประมาณ 10.00 น. ตนจะเข้ายื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งสนช.ต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา หลังจากที่ได้ปรึษากับฝ่ายกฎหมายและบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้วพบว่า ตนมีลักษณะต้องห้ามของการเป็น สนช.ตามที่รัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มาตรา 8(1) ว่าด้วยการดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองภายในระยะ3ปีก่อนวันที่ได้รับการแต่งตั้งเป็น สนช.กำหนดไว้ ทั้งนี้การลาออกดังกล่าวไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดเสนอเรื่องให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบก่อน เมื่อตนรู้ว่ามีคุณสมบัติที่ขัดด้วยตนเองก็พร้อมจะลาออก โดยไม่ยึดติดกับตำแหน่งใดๆ
               
"ต้องให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย กรณีที่สื่อนำข่าวไปลง โดยผมไม่ได้ชี้แจง ทั้งนี้ผมได้รับการแต่งตั้งเป็นสนช. ผมไม่ได้เข้าไปสมัครด้วยตนเอง ตอนแรกผมดีใจที่ได้รับเลือกให้เข้าไปทำงานเพื่อประเทศแต่เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองแล้วพบว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ต้องลาออกเอง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ส่วนการลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคชาติพัฒนาก่อนหน้านี้ เป็นไปตามคำชักชวนของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรค ที่อยากให้เข้าร่วมการแก้ปัญหาบ้านเมือง" พล.อ.ธวัชชัย กล่าว

ครึ่งปีการเมืองเปลี่ยน 'ลุงอะแกว' อัมพาต ไม่เปลี่ยน


อัพเดทอาการล่าสุดนายอะแกว แซ่ลิ้ว เหยื่อคมกระสุนศึกชิงคูหาเลือกตั้งหลักสี่ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างมากในเวลาครึ่งปี ลูกสาวเผยชีวิตครอบครัวเปลี่ยนต้องลาออกจากงานมาดูแลพ่อที่ยังอัมพาต
วันที่ 2 ส.ค.นี้ถือเป็นวันครบรอบครึ่งปีของการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ.57 ที่ผ่านมาการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หลังเลือกตั้งกลุ่ม กปปส. ก็ยังคงชุมนุมต่อเนื่อง จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนที่กําหนดให้มีการเลือกตั้ง ส.ส. เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ. นั้น ไม่สามารถจัดการให้เป็นการเลือกตั้งวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร จึงไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 วรรคสอง และตามมาด้วยการรัฐประหารเข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา จนล่าสุดประเทศไทยพึ่งได้เห็นชื่อรายสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่ชาติอีก 200 รายชื่อแล้ว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 2 ก.พ. เพียง 1 วัน อีกข่าวที่ได้รับความสุนใจขณะนั้นคือข่าวศึกชิงคูหาเลือกตั้งที่หลักสี่ กรุงเทพ โดยด้านหนึ่งปรากฏภาพ ‘มือปืนป็อบคอร์น’ และมือปืน ‘ถุงกีต้าร์’ ขณะที่อีกด้านหนึ่งปรากฏภาพชายชรานอนจมกองเลือดอยู่ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์กขณะนั้นตั้งแต่ถูกฝ่ายเสื้อแดงยิงบาดเจ็บ จนเป็นชาวกัมพูชาที่เป็นแกนนำกองกำลังติดอาวุธที่มายิงทำร้ายผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.
ซึ่งต่อมาทราบชื่อคือนายอะแกว แซ่ลิ้ว วัย 72 ปี พ่อค้าขายน้ำหวาน น้ำอัดลมที่บริเวณหน้าโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 2 ที่วันเกิดเหตุด้วยความเป็นห่วงลูกสาวที่ทำงานขายอาหารอยู่ฟู้ดเเลนด์ ภายในห้างไอทีสเเควร์ จึงได้เดินทางมาหา และเห็นมาการชุมนุมกันบริเวณที่เกิดเหตุจึงเข้าไปสังเกตุการณ์และถูกยิงจนกลายเป็นอัมพาตจนกระทั่งปัจจุบัน
วลัยพร แซ่ลิ้ว บุตรสาวของนายอะแกว วัย 35 ปี เปิดเผยอาการล่าสุดของบิดาตนว่า ขณะนี้อาการดีขึ้น กลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว ไม่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจแล้ว แต่ยังมีการพ้นยาละลายเสมหะอยู่เพราะไม่สามารถขับออกมาด้วยตนเองได้ และยังคงให้อาหารผ่านทางสายยางอยู่ ส่วนอาการอัมพาตนั้นยังเป็นเหมือนเดิม และไม่สามารถพูดได้  แต่สามารถขยับปากได้เท่านั้น
สำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้น วลัยพร กล่าวว่าใช้สิทธิบัตรทอง ส่วนเงินเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆนั้นยังไม่ได้รับ มีเพียงได้รับจากเงินช่วยเหลือจากผู้ที่มาเยี่ยม รวมทั้งบริจาคผ่านบัญชีที่ตนเปิดไว้
วลัยพร กล่าวถึงสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือขณะนี้ว่า ต้องการเครื่องสำหรับพ้นยา    รวมทั้งรถเข็นที่สามารถนอนได้สำหรับใช้เคลื่อนย้ายบิดาได้ เนื่องจากบ้านที่อยู่นั้นอยู่ในเคหะทุ่งสองห้อง ทำให้รถไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ เวลาเหตุฉุกเฉินหากต้องนำตัวบิดาออกมาเพื่อไปโรงพยาบาลจะค่อนข้าง เนื่องจากเตียงนอนนั้นแม้จะเข็นได้แต่ไม่ใช้เตียงที่ใช้สำหรับเข็นบนถนน
วลัยพร กล่าวด้วยว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชีวิตของครอบครัวเปลี่ยนค่อนข้างมาก พี่สาวของตนก็ต้องออกจากงานเพื่อมาดูแลบิดาโดยตรง ขณะที่ตนเองก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มที วันหยุดก็ไม่สามารถทำโอทีได้ ต้องมาช่วยพี่สาวดูแลพ่อ

สำหรับหมายเลขบัญชีธนาคารทหารไทยที่เปิดรับบริจาคนั้น 
ชื่อบัญชี ‘วลัยพร แซ่ลิ้ว’ หมายเลขบัญชี 265 201 9817 

"เปิ้ล กริชสุดา" เผยเบื้องหลังวาทะ "มีความสุขจนไม่รู้จะพูดยังไง"


จอม เพชรประดับสัมภาษณ์ "เปิ้ล กริชสุดา" เผยถูกทำร้ายช่วง จนท.ควบคุมตัว ถูกสอบหนักเรื่องช่วยเหลือนักโทษการเมือง-อาวุธสงคราม-ความเชื่อมโยงกับ "ทักษิณ" - ก่อนออกช่อง 5 มีนายทหาร "โฆษกคนดัง" เข้ามากล่อมให้พูดดีๆ หลังจากถูกปล่อยตัว ขออยู่ต่างประเทศ ต่อจากนี้จะให้ข้อมูลกับหน่วยงานสิทธิมนุษยชน
ภาพจากวิดีโอสัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน โดยนายจอม เพชรประดับ เผยแพร่ใน YouTube ช่อง Jom Voice เวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 2 ส.ค. 2557 ต่อมาผู้อัพโหลดได้ปิดการเข้าถึงวิดีโอ โดยมีผู้สำรองข้อมูลไว้ในช่องอื่น

เผยคลิป "จอม เพชรประดับ" สัมภาษณ์สหายสุดซอย เผยถูกทำร้ายช่วงควบคุมตัว
2 ส.ค. 2557 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ทางเว็บไซต์แชร์วิดีโอ YouTube ช่อง Jom Voice มีการเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน หรือ "เปิ้ล สหายสุดซอย" โดยนายจอม เพชรประดับ ใช้ชื่อตอนว่า "Thai Voice Media EP1 มีความสุขจนไม่รู้จะพูดยังไง" รวมความยาว 33 นาทีเศษ (คลิปสัมภาษณ์)
ทั้งนี้ น.ส.กริชสุดา ซึ่งถูกทหารสังกัด มทบ.14 จ.ชลบุรี ควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. เวลา 19.00 น. ระหว่างที่ทหารเข้าตรวจค้นบ้านของนางมนัญชยา เกศแก้ว หรือ "เมย์ อียู" กลุ่มคนเสื้อแดงในยุโรป ที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 24 มิ.ย. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ภายหลังการปล่อยตัว น.ส.กริชสุดา ได้เดินทางออกจากประเทศไทยและพำนักอยู่ในทวีปยุโรป โดยวางแผนขอสถานะผู้ลี้ภัย
ในคลิปที่มีการเผยแพร่ดังกล่าว นายจอมรายงานว่า ยืนยันว่า น.ส.กริชสุดา ได้เดินทางออกนอกประเทศไทยเพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ไม่มีการระบุสถานที่ลี้ภัย จากนั้นนายจอม ได้พูดคุยกับ น.ส.กริชสุดา ผ่านโปรแกรมสนทนาสไกป์
ทั้งนี้ น.ส.กริชสุดา ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวแรกๆ บนรถยนต์ของทหาร มีผ้าผูกตาเอาไว้ แต่ยังพอทราบว่าถูกนำตัวไปที่ไหนจากการได้ยินเสียงรถ หรือเสียงจ่ายค่าผ่านทางด่วน อย่างไรก็ตามเมื่อถึงสถานที่ควบคุมตัว มีการนำเทปกาวมาพันรอบผ้าอีกที ทำให้ไม่ทราบว่าเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน และถูกมัดมือด้วย โดยต้องอยู่ประจำที่เดิมเป็นเวลาประมาณ 7 วัน และเจ้าหน้าที่ซึ่งเข้ามาสอบสวนได้ตบที่ใบหน้าด้วย เมื่อนายจอม สอบถามว่าเจ้าหน้าที่ทำเช่นนั้นเพราะเหตุใด น.ส.กริชสุดา ตอบว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุเหตุผล
น.ส.กริชสุดา ตอบคำถามนายจอมเรื่องกิจวัตรประจำวัน โดยระบุว่าระหว่างที่ถูกควบคุมตัว ได้อาบน้ำไม่กี่ครั้ง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิง มาถอดเสื้อผ้าและอาบน้ำให้ อย่างไรก็ตามตอนที่อาบน้ำก็ได้ยินเสียงผู้ชายด้วย
"เขามาถอดเสื้อผ้าให้ คนที่ทำให้เป็นผู้หญิง หนูถูกปิดตาไม่ทราบว่าเป็นใคร ไม่ทราบว่ามีผู้ชายหรือเปล่า เขาอาบน้ำถูสบู่ให้ ผู้หญิงเป็นคนทำให้ แต่มีเสียงผู้ชายด้วย"
นอกจากนี้เวลาต้องการเข้าห้องน้ำก็จะมีเจ้าหน้าที่มาช่วยอำนวยความสะดวก โดยที่มือก็ยังถูกมัด และถูกปิดตาอยู่ น.ส.กริชสุดากล่าวว่า ได้บอกเจ้าหน้าที่ว่าสามารถทำเองได้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต โดยบอกว่าไม่ได้รับคำสั่ง และเกรงว่า น.ส.กริชสุดา จะหลบหนีหรือต่อสู้
ทั้งนี้ระหว่างถูกสอบสวน น.ส.กริชสุดา อ้างว่าถูกทำร้ายด้วย โดยมีผู้ใช้กำปั้นมาชกที่ใบหน้าและลำตัว รวมทั้งใช้เท้าด้วย โดยยืนยันว่าที่ถูกเปิดผ้าผูกตาออกยังเห็นร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย อย่างไรก็ตามวิธีเหล่านี้ยังไม่โหดร้ายเท่ากับการเอาถุงมาคลุมหัวทำให้ไม่มีอากาศหายใจ โดย น.ส.กริชสุดา ระบุว่าตอนนั้นรู้สึกเหมือนกับ "ทำให้เหมือนตายไปแล้วหลายรอบ"
น.ส.กริชสุดา ตอบนายจอมว่า ที่ถูกทำร้ายนั้น เพราะผู้ที่มาสอบสวนต้องการให้เธอบอกสิ่งที่รู้เกี่ยวกับคนเสื้อแดง โดย น.ส.กริชสุดา กล่าวกับนายจอมด้วยว่า "ถ้าอยากรู้คุณถามก็ถามกันตรงๆ พูดกันดีๆ แต่สิ่งที่พูดไปไม่ใช่ความจริง แต่เป็นการทำอย่างไรก็ได้ ต้องพูด"
ทั้งนี้ประเด็นที่ น.ส.กริชสุดา ถูกถามในช่วงถูกสอบสวนก็คือ ใครเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ ในการเยียวยาผู้ต้องโทษในเรือนจำ และถามเรื่องอาวุธสงคราม
โดย น.ส.กริชสุดา ตอบว่า ทั้งนี้การช่วยเหลือเยียวยานั้นเป็นเรื่องปกติ คนเสื้อแดงที่ได้รับความลำบากระหว่างถูกดำเนินคดีนั้น ก็จะขอความช่วยเหลือคุณเมย์ (หมายถึง นางมนัญชยา แกนนำคนเสื้อแดงในยุโรป) ซึ่งความช่วยเหลือมาจากคุณเมย์ และคนเสื้อแดงในยุโรป
น.ส.กริชสุดาเล่าว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้สอบสวนได้ถามต่อว่า "ทำไมต้องดูแลนักโทษ พวกกระทำความผิด" โดย น.ส.กริชสุดา ตอบว่าต้องดูแลนักโทษการเมือง แต่พอตอบว่าที่ไปช่วยเหลือ "ก็เพราะความไม่ถูกต้องของพวกคุณ" ทำให้ผู้สอบสวนไม่พอใจและตบ
ในการให้สัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา ตอบคำถามที่ว่าผู้สอบสวนต้องการให้พูดอะไร โดย น.ส.กริชสุดาระบุว่า "เขาต้องการโยงให้ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนดูแลนักโทษ เป็นผู้ยุยงส่งเสริมให้กระทำผิด"
ส่วนที่มีข่าวว่า น.ส.กริชสุดา ขออยู่ในความควบคุมตัวต่อไปอีก 7 วันนั้น น.ส.กริชสุดาตอบว่าที่เขียนไปเพราะถูกบังคับ และต้องเขียนเพื่อเอาตัวรอด ต่อมาในวันที่ 23 มิ.ย. มีการนัดให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจาก ททบ. 5 โดย น.ส.กริชสุดา ได้พาดพิงชื่อนายทหารโฆษกชื่อดังยศนายพันรายหนึ่งด้วยว่า ก่อนมีการสัมภาษณ์กับสื่อ นายทหารคนดังกล่าวได้เข้ามาพูดคุยด้วยว่า "น้องต้องพูดให้กองทัพดูดี ไม่ว่าจะเป็นลักษณะอย่างไร น้องรู้ น้องฉลาดพอที่จะพูด"
ทั้งนี้ต่อมาหลังจากที่ น.ส.กริชสุดา ได้รับการปล่อยตัววันที่ 24 มิ.ย. น.ส.กริชสุดา กล่าวกับนายจอมว่า "ถ้าจะให้อยู่เมืองไทยต่อ คงอยู่ประเทศไทยไม่ได้"
"ปรับทัศนคติด้วยการทำร้ายร่างกายผู้หญิง ไม่เรียกว่าปรับทัศนคติ หนูอยู่ต่างประเทศดีกว่า"
ทั้งนี้ น.ส.กริชสุดา กล่าวด้วยว่า แฟนของ น.ส.กริชสุดา ก็ถูกทารุณเช่นกันในช่วงถูกควบคุมตัว โดยมีสภาพจิตใจแย่มาก อย่างไรก็ตาม น.ส.กริชสุดา ยืนยันกับนายจอมว่า ทั้งสองอยู่ต่างประเทศแล้ว และปลอดภัย
ทั้งนี้ น.ส.กริชสุดากล่าวด้วยว่า หลังจากที่อยู่ต่างประเทศแล้ว ก็ต้องการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพให้กับผู้ที่ถูกทารุณ และจะเดินทางไปให้ข้อมูลหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศ รวมทั้งสำนักงานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในต่างประเทศ รวมทั้งหน่วยงานของสหประชาชาติด้วย
"อยากเรียกร้องสิทธิให้คนไทยทุกคน อยากขอคืนความสุขให้กับคนไทยทุกคนจริงๆ เถอะค่ะ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มอำนาจบางคนเท่านั้น" น.ส.กริชสุดา กล่าวในช่วงสุดท้ายของการให้สัมภาษณ์
ล่าสุดนับตั้งแต่มีการเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา ใน YouTube ต่อมาวันที่ 3 ส.ค. บีบีซีไทยสัมภาษณ์ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและ คสช. โดยปฏิเสธข่าว น.ส.กริชสุดา คุณะเสน ถูกทำร้ายระหว่างควบคุมตัว ยืนยันมาตรฐานการปฏิบัติไม่มีปัญหาใดๆ ระดับแกนนำที่เคยถูกคุมตัวก็ไม่มีการถูกทำร้าย พ.อ.วินธัย กล่าวด้วยว่าพร้อมให้สัมภาษณ์ร่วมกับ น.ส.กริชสุดา เพื่อยืนยันความจริง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ ททบ.5 ระหว่างถูกควบคุมตัว
น.ส.กริชสุดา คุณะเสน ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ททบ.5 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. โดยในการให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าความเป็นอยู่สุขสบายดี และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเป็นอย่างดี
อนึ่ง เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทางสถานีโทรทัศน์ ททบ.5 ได้เผยแพร่คำสัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา ภายหลังจากที่ผู้อำนวยการองค์การฮิวแมนไรท์วอชท์ ภูมิภาคเอเชีย ขอให้กองทัพเปิดเผยข้อมูลความเป็นอยู่ของ น.ส.กริชสุดา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ทั้งนี้ในการให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่ทาง ททบ.5 น.ส.กริชสุดากล่าวว่า ถูกควบคุมตัวมาตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค. จากนั้นครบ 7 วันได้ทำเรื่องขออยู่ต่อ เพราะนึกถึงความไม่ปลอดภัย ส่วนความเป็นอยู่ก็สุขสบายดี
"ก็มีเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้หญิงนะคะ พี่เขาก็อำนวยความสะดวกให้ อยากได้อะไรพี่เขาก็ไปซื้อให้ ก็ปกติทุกอย่างอะค่ะ อยู่ในห้องตามปกติ ดูหนัง อยากได้หนังสืออ่าน พี่เขาก็ไปซื้อให้ อยากกินอะไร พี่เขาก็ไปซื้อให้อะค่ะ ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น" ทั้งนี้ในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ผู้สื่อข่าว ททบ. 5 ถามว่า "ไม่ได้มีการทรมานหรืออะไร" โดย น.ส.กริชสุดาตอบว่า "ไม่มีค่ะ"
"มันไม่รู้จะพูดยังไงว่าตัวเองก็ยังอยู่สุขสบาย เนี่ยก็กินข้าวกันกับแฟน ยังอยู่ในความดูแล แล้วก็ดีมาโดยตลอด แล้วก็ปกติ คือมันสุขสบายเกินที่จะพูดอะค่ะ ดีทุกอย่าง" น.ส.กริชสุดากล่าวช่วงหนึ่งของการให้สัมภาษณ์
ทั้งนี้ในรายงานข่าวของผู้สื่อข่าว ททบ. 5 เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. มีการรายงานด้วยว่า น.ส.กริชสุดา ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเป็นอย่างดี ขอให้สังคมไทยกลับสู่ความสงบโดยเร็ว และเมื่อได้รับการปล่อยตัวออกไปก็จะใช้ชีวิตตามปกติต่อไป

โฆษก คสช. ปฏิเสธข่าว "กริชสุดา" ถูกทำร้ายช่วงควบคุมตัว



บีบีซีไทยสัมภาษณ์ พ.อ.วินธัย สุวารี ปฏิเสธข่าว "กริชสุดา คุณะเสน" ถูกทำร้ายระหว่างควบคุมตัว ยืนยันมาตรฐานการปฏิบัติไม่มีปัญหาใดๆ ระดับแกนนำถูกคุมตัวก็ไม่มีการทำร้าย และยินดีให้สัมภาษณ์พร้อม "กริชสุดา" เพื่อยืนยันความจริง
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. (แฟ้มภาพ)
3 ส.ค. 2557 - ตามที่เมื่อคืนวานนี้ (2 ส.ค.) ทางเว็บไซต์แชร์วิดีโอ YouTube ช่อง Jom Voice มีการเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน หรือ "เปิ้ล สหายสุดซอย" สัมภาษณ์โดยนายจอม เพชรประดับ ใช้ชื่อตอนว่า "Thai Voice Media EP1 มีความสุขจนไม่รู้จะพูดยังไง" รวมความยาว 33 นาทีเศษ โดย น.ส.กริชสุดา กล่าวว่าถูกทำร้ายในช่วงที่ถูกควบคุมตัว และภายหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ขณะนี้ได้ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศในทวีปยุโรปนั้น
ล่าสุดวันนี้ บีบีซีไทยได้ติดต่อขอความเห็นจากพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกและคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช. ซึ่งบอกว่า ยังไม่เห็นการให้สัมภาษณ์ดังกล่าวแต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นความจริง เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีการทำร้ายร่างกายและที่ผ่านมาก็ไม่มีใครถูกทำร้ายร่างกาย ทางกองทัพมีวิดีโอที่สามารถจะเปิดเผยให้สาธารณชนตรวจสอบได้
“ข่าวนี้มาจากโซเชี่ยลมีเดียซึ่งไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว ยืนยันได้ว่ามาตรฐานการปฏิบัติของเราเหมือนกันหมด กระบวนการของเราไม่ได้มีปัญหาใด ๆ ผู้ถูกคุมตัวบางคนเป็นถึงระดับแกนนำก็ไม่เห็นมีใครโดนทำร้าย ทุกคนได้รับการปฏิบัติเหมือนกันหมด เรื่องการถูกทำร้ายผมว่าไม่มีทางเป็นไปได้ เราไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำอย่างนั้น จะทำไปเพื่ออะไร”
พ.อ.วินธัย บอกว่าพร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ร่วมกับ น.ส.กริชสุดา เพื่อนำความจริงมายืนยัน

ยืนยันปฏิบัติต่อผู้ถูกควบคุมตัวด้วยความสุภาพ
ต่อมา มติชนออนไลน์ เผยแพร่คำแถลงของ พ.อ.วินธัย โดยระบุว่า การดำเนินการต่อ น.ส.กริชสุดา นั้น เริ่มมาจากต้องสงสัยว่าอาจเกี่ยวพันในคดีทางอาญาหลายคดี จึงเชื่อว่าเจ้าตัวคงมีความกังวลอยู่พอสมควรถึงผลพวงต่างๆ ที่อาจตามมาได้ ทั้งจากเรื่องคดีความ และจากผู้เสียประโยชน์จากการให้ข้อมูล ซึ่งไม่เหมือนกับอีกหลายๆ คนที่เคยถูกเชิญมารายงานตัวด้วยเหตุผลที่ต่างจากกรณีนี้
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ซึ่งที่ผ่านมาในการสอบสวน น.ส.กริชสุดา มักได้ความร่วมมือเป็นอย่างดีต่อเจ้าหน้าที่ และข้อมูลที่ได้เป็นประโยชน์อย่างมากกับทางเจ้าหน้าที่ ถึงขั้นเจ้าตัวรู้สึกและกังวลในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก จึงอยากขออยู่เงียบๆ ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนให้มากที่สุด และร้องขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูแล ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการให้ตามความเหมาะสม
จนกระทั่งเคยมีข่าวลือว่า เสียชีวิตหลังถูกควบคุมตัว ทางเจ้าหน้าที่จึงจัดให้มีการให้สัมภาษณ์แสดงตนต่อสาธารณะ สิ่งสังเกตกิริยาอาการรอยยิ้มที่แสดงออกมา ก็แสดงให้เห็นชัดว่าเป็นไปโดยธรรมชาติปกติ แววตาใบหน้าก็ดูเปล่งปลั่ง ไม่เหมือนเป็นการเสแสร้งที่แสดงออกในลักษณะถูกบังคับได้อย่างที่กล่าวอ้าง ยืนยันได้ว่าตลอดระยะเวลา เจ้าหน้าที่ให้การดูแลเป็นอย่างดีไม่เคยปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ที่กระทำความผิด หรืออย่างที่มีการกล่าวอ้างอย่างแน่นอน
จึงค่อนข้างแปลกใจกับการมาให้ข้อมูลของ น.ส.กริชสุดาในครั้งนี้ซึ่ง เจ้าหน้าที่ยังมีข้อสงสัยหลายประการ ส่วนหนึ่งเป็นไปได้ที่จะพยายามใช้เงื่อนไขเดิมๆ ให้มองว่าเป็นการละเมิด เพื่อดึงให้บางองค์กรที่มีความสนใจเรื่องนี้และเข้ามาสนับสนุน เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ โดยการให้ข้อมูลที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง กล่าวอ้างโดยปราศจากหลักฐานข้อพิสูจน์
เป็นไปได้ว่าอาจไม่มั่นใจผลลัพธ์ในทางคดีต่างๆ ที่อาจตามมา ที่ น.ส.กริชสุดา เข้าไปมีส่วนสนับสนุนพัวพันอยู่หลายคดี ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะได้ให้คำมั่นไว้แล้ว ด้วยเพราะขณะนี้คดีต่างๆ มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก โดย น.ส.กริชสุดา คงอาจประเมินดูแล้ว พบความเสี่ยงว่าอาจได้รับผลกระทบในทางคดีแน่นอน หรือไม่ก็ได้รับอันตรายจากผู้เสียผลประโยชน์จากคำให้การต่างๆ ของตนที่ให้ไว้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นไปได้เมื่อได้กลับไปปรึกษาพบปะกับคนรอบข้างกลุ่มเดิมที่หลบอยู่ในต่างประเทศ จึงอาจมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป
ขอยืนยันว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ที่ผ่านมาได้เคารพต่อสิทธิมนุษยชนมาตลอด การปฏิบัติใดๆ มีหลักการและเหตุผลรองรับทุกประการ การควบคุมดูแลบุคคลหนึ่งบุคคลใด เป็นไปด้วยความสุภาพเรียบร้อย และไม่มีเหตุผลที่ทางเจ้าหน้าที่จะต้องไปดำเนินการอะไรที่ขัดต่อความรู้สึกของสังคมอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน และสถานการณ์ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้

รอง ผบ.ตร. ระบุคำให้สัมภาษณ์ "กริชสุดา" ใช้จินตนาการไปเอง

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กล่าวถึงคลิปให้สัมภาษณ์ "กริชสุดา คุณะเสน" ว่าพูดเสกสรรค์ปั้นแต่งได้หมด อยู่ที่เราจะเชื่อหรือเปล่า ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณว่าคนประเภทนี้มาแถลงน่าเชื่อถือแค่ไหน ส่วนตัวไม่ได้ให้ความสำคัญ
3 ส.ค. 2557 - ตามที่เมื่อคืนวานนี้ (2 ส.ค.) ทางเว็บไซต์แชร์วิดีโอ YouTube ช่อง Jom Voice มีการเผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน หรือ "เปิ้ล สหายสุดซอย" สัมภาษณ์โดยนายจอม เพชรประดับ ใช้ชื่อตอนว่า "Thai Voice Media EP1 มีความสุขจนไม่รู้จะพูดยังไง" รวมความยาว 33 นาทีเศษ โดย น.ส.กริชสุดา กล่าวว่าถูกทำร้ายในช่วงที่ถูกควบคุมตัว และภายหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ขณะนี้ได้ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศในทวีปยุโรป (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
มติชนทีวีสัมภาษณ์ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีคำให้สัมภาษณ์ น.ส.กริชสุดา คุณะเสน
ต่อมาวันนี้ (3 ส.ค.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์มติชนทีวีกรณีคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.กริชสุดา ดังกล่าว โดยระบุว่า "เขาจะพูดว่าเขาจะทำอะไร ถูกควบคุมตัวเป็นอย่างไร เขาก็พูดเสกสรรค์ปั้นแต่งได้หมด อยู่ที่ว่าเราจะเชื่อหรือเปล่า เพราะว่าสิ่งที่เขาจะพูดหรือจะแถลง ก็เป็นสิ่งที่เขาสร้างสรรค์ หรือจินตนาการของเขาเอง แต่เราที่เป็นประชาชน เราต้องใช้วิจารณญาณว่า สิ่งที่คนแบบนั้น คนประเภทนั้นมานำเสนอหรือแถลงน่าเชื่อถือแค่ไหน ซึ่งตัวผมเองไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้ เพราะเขาไม่มีค่าควรจะให้ความสนใจ"
ก่อนหน้านี้ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก และ คสช. ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย และปฏิเสธคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.กริชสุดา เช่นกัน โดยยืนยันว่ามาตรฐานการปฏิบัติไม่มีปัญหาใดๆ ระดับแกนนำระหว่างถูกคุมตัวก็ไม่มีการทำร้าย และยินดีให้สัมภาษณ์พร้อม "กริชสุดา" เพื่อยืนยันความจริง 

ห้ามขายเกม Tropico 5 ในไทย เหตุเนื้อหากระทบ 'ความสงบเรียบร้อย'

4 ส.ค.2557 บริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเกมลิขสิทธิ์ โพสต์แจ้งในเฟซบุ๊กว่า เกมสร้างเมือง Tropico 5 ไม่ผ่านการพิจารณาของสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เนื่องด้วยเนื้อหาเกมบางส่วนอาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประเทศ จึงทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถวางจำหน่ายเกม Tropico 5 ได้

เว็บไซต์เกม Game Toshokan รีวิวเกมไว้ว่า “Tropico 5 เป็นเกมแนวสร้างเมืองแบบเบาสมองซึ่งผู้เล่นต้องรับบทเป็นประธานาธิบดีที่ได้รับคำสั่งให้ไปทำการบุกเบิกเกาะใหม่ภายใต้พระนามขององค์จักรพรรดิ ทำให้ภาคนี้เราต้องเริ่มเล่นจากยุคบุกเบิก ที่เราต้องคอยส่งเครื่องบรรณาการต่างๆ กลับไปให้องค์จักรพรรดิตามคำสั่งที่ได้รับ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเราจะสามารถประกาศให้เกาะของเราเป็นอิสระภาพจากการปกครองขององค์จักรพรรดิได้ทำให้เราก้าวเข้าสู่ยุคของสงครามโลกและสงครามเย็นตามลำดับ”
นักเล่นเกมให้ความเห็นว่า อาจเป็นเพราะประเทศในเกมมีลักษณะคล้ายประเทศที่เป็นเกาะในอเมริกากลางและปกครองด้วยระบบเผด็จการ ผู้ใช้เน็ตอีกรายให้ข้อมูลว่าในเกมยังมีคำสั่งรัฐประหารและกฎอัยการศึก และในช่วงเวลาเลือกตั้งผู้เล่นสามารถลอบสังหารผู้ลงสมัครคู่แข่งได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจยังสามารถซื้อเกมได้ผ่านระบบ Steam
อนึ่ง เกมคอมพิวเตอร์ จัดเป็น "วีดิทัศน์" ตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 การจำหน่ายต้องผ่านจากตรวจก่อน ตามมาตรา 47 ที่เขียนไว้ว่า "วีดิทัศน์ที่จะนำออกฉาย ให้เช่า แลกเปลี่ยน หรือจำหน่ายในราชอาณาจักรต้องผ่านการตรวจพิจารณาและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์" 

อัยการทหารฟ้องจาตุรนต์ 3 ข้อหา, วรเจตน์ 2 ข้อหา ให้ประกันตัวพร้อมเงื่อนไข


4 ส.ค. 2557 อัยการทหารพิจารณาสั่งฟ้องนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ โดยทั้งสองได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว และได้รับอนุมัติในประกันตัวแล้ว บ่ายวันนี้
นายวรเจตน์ ถูกฟ้องด้วยความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 2 ครั้ง คือ ความผิดฐานไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 5/2557 และ 57/2557
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายวรเจตน์ได้ดำเนินการยื่นประกันตัวด้วยวงเงินประกัน 20,000 บาท ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง หรือแสดงความคิดเห็นให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
ทั้งนี้นายวิญญัติได้แสดงความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า ในชั้นสอบสวนได้แจ้งข้อหาขัดคำสั่ง คสช. ฉบับ 57/2557 เพียงข้อหาเดียว แต่สำนวนส่งฟ้องกลับมีข้อหาเพิ่มในข้อหาคือขัดคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 5/2557 ซึ่งอาจถือว่าไม่เป็นธรรมในการสั่งฟ้อง
สำหรับนายจาตุรนต์ ถูกฟ้อง 3 ข้อหา คือ
1.ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเรียกรายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
2.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา116 จากกรณีฝ่าฝืนกฎอัยการศึกและยุยง ปลุกปั่น และ
3.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550
โดยทีมทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว พร้อมหลักทรัพย์ประกันตัว 4 แสน ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และห้ามเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง หรือแสดงความคิดเห็นให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
เว็บไซต์มติชนออนไลน์รายงานคำสัมภาษณ์ของนายจาตุรนต์ว่า รู้สึกผิดหวังและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหลายกรณี อาทิ การที่ตนเองเดินทางไปชี้แจงให้เหตุผลถึงความจำเป็นที่ไม่สามารถไปรายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช. ที่ได้ทำการแถลงข่าวที่สมาคมนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งความมุ่งหวังที่แท้จริงก็เพื่อต้องการให้ประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยโดยสันติ และต้องการให้เกิดความสงบในบ้านเมือง แต่กลับถูกนำมาเป็นหลักฐานในการสั่งฟ้องในครั้งนี้ จึงถือว่าตรงข้ามกับสิ่งที่ตนมุ่งหวังและไม่เป็นธรรม ดังนั้น กระบวนการต่อไปที่ตนสามารถทำได้ คือเตรียมทนายความ และรวบรวมหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตนจะยังคงเดินหน้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยต่อไป และยังสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสุจริตได้ ตราบใดที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย และเงื่อนไขของศาล