ม.เที่ยงคืน ประณามการใช้ความรุนแรงในความเห็นต่างทางการเมือง | |
"ขอให้ทุกฝ่ายจงร่วมกันใช้ความอดทน เหตุผล และสติปัญญา ในการรับฟังความเห็นที่แตกต่างออกไป การใช้กำลังจะไม่ได้เป็นออกไปจากปัญหาแต่อย่างใด รวมทั้งจะนำไปสู่ความยุ่งยากที่เพิ่มมากขึ้นในสังคมแห่งนี้" หมายเหตุ: วันนี้ (1 มี.ค.) มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เผยแพร่แถลงการณ์ "ประณามการใช้ความรุนแรงในความเห็นต่างทางการเมือง" โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ แถลงการณ์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน เรื่อง ประณามการใช้ความรุนแรงในความเห็นต่างทางการเมือง กรณีที่มีบุคคลได้ใช้กำลังทำร้ายอาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ หนึ่งในกลุ่มนิติราษฎร์เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นการคุกคามและเป็นการใช้ความรุนแรงต่อบุคคลที่มีความเห็นต่างอย่างป่าเถื่อน อันเป็นเหตุการณ์ที่สังคมไทยต้องร่วมมือกันปกป้องอย่างเข้มแข็ง โดยมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีความเห็นดังต่อไปนี้ ประการแรก เป็นที่เหตุได้อย่างชัดเจนว่าการกระทำดังกล่าวนี้เป็นผลมาจากการแสดงความเห็นและความเคลื่อนไหวของอาจารย์วรเจตน์ในการเสนอแก้ไขมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์อาจมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและผู้ที่เห็นต่าง แต่ทั้งหมดก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติในแต่ละสังคมซึ่งจะมีบุคคลซึ่งมีความเห็นไม่เหมือนกัน หนทางในการจัดการกับความเห็นต่างดังกล่าวที่ดีที่สุดก็ด้วยการใช้เหตุผลและการแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างผู้คนฝ่ายต่างๆ การใช้กำลังเพื่อทำร้ายบุคคลที่มีความเห็นต่างจึงต้องควรถูกประณามรวมถึงต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ไม่เพียงการลงโทษกับตัวบุคคลผู้ลงมือเท่านั้น บรรดาฝ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชน นักวิชาการ นักการเมือง องค์กรประชาชน ที่มีส่วนต่อการ “สาดน้ำมันเข้ากองไฟ” อย่างไร้เหตุผลก็ควรต้องถูกประณามด้วยเช่นกัน ในฐานะที่เป็นที่มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการสร้างบรรยากาศแห่งความเกลียดชังให้เพิ่มสูงขึ้น ประการที่สอง การปกป้องเสรีภาพในความเห็นต่างทางการเมืองนั้นมิใช่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปกป้องบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หากต้องการให้ทุกฝ่ายที่เห็นต่างในทางการเมืองสามารถแสดงความเห็นของตนได้อย่างเสรีและเป็นความเห็นที่มิได้บิดเบือนหรือให้ร้ายกับผู้คนกลุ่มอื่น การร่วมกันปกป้องเสรีภาพในการแสดงความเห็นจึงรวมถึงคนทุกกลุ่มในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง กลุ่มนิติราษฎร์ กลุ่มสยามประชาภิวัฒน์ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น ล้วนต้องสามารถแสดงความเห็นที่ยืนอยู่บนเหตุผลได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าบุคคลใดก็ไม่สมควรจากการถูกทำร้ายหรือถูกคุกคามในการแสดงความเห็นของตน มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนจึงขอประณามการใช้ความรุนแรงในการจัดการกับความเห็นต่างในทางการเมือง และขอให้ทุกฝ่ายจงร่วมกันใช้ความอดทน เหตุผล และสติปัญญา ในการรับฟังความเห็นที่แตกต่างออกไป การใช้กำลังจะไม่ได้เป็นออกไปจากปัญหาแต่อย่างใด รวมทั้งจะนำไปสู่ความยุ่งยากที่เพิ่มมากขึ้นในสังคมแห่งนี้น | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2555
เกษียร : สื่อและนักวิชาการต้องรับผิดชอบที่เพาะเชื้ออวิชชา ทำให้คนบ้าเลือดสิ้นคิดหูเบาทำร้ายวรเจตน์ | |
เราคงปล่อยให้เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตเราไม่ได้ ผมจะทำต่อไป (ที่มา:ประชาไท) โดย เกษียร เตชะพีระ ที่มา facebook ก่อนที่หมัดเถื่อนนั้นจะชกออกมา คือคำโกหกเถื่อน ๆ เรื่อง "ล้มเจ้า" ของผู้เรียกตัวเองว่าสื่อและนักวิชาการ ก่อนจะมีคนร้าย ๒ คนเข้ามาทำร้ายร่างกายอ.วรเจตน์อย่างอุกอาจในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่มีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว แต่ไม่สามารถแม้แต่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้บุคลากรที่ถูกข่มขู่คุกคามก่อนหน้านี้ของตัวเองนั้น สิ่งบัดซบที่เรียกตัวเองว่า "สื่อมวลชน" และ "นักวิชาการ" ได้ปูพื้นเตรียมการทางความคิดให้คนบ้าเลือดสิ้นคิดหูเบาที่ไหนก็ได้ที่หลงเชื่อคำใส่ร้ายป้ายสีโกหกบิดเบือนของพวกเขาเตรียมทำร้ายอ.วรเจตน์กับพวกมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อพวกคุณรุมป่าวร้องโกหกว่าอ.วรเจตน์กับพวกคิด "ล้มเจ้า" พวกคุณกำลังร้องเชียร์ให้คนร้ายทั้งคู่ชกอ.วรเจตน์อยู่ปาว ๆ ทุก ๆ ถ้อย ทุก ๆ คำอย่างขี้ขลาดตาขาวที่สุดและไม่มีความรับผิดชอบที่สุด ถ้าผมคิดว่าพวกคุณยังมีมโนธรรมสำนึกเหลืออยู่ ผมคงหวังว่าพวกคุณจะออกมารับผิดว่าโกหกและเรียกร้องให้ยุติการพยายามทำร้ายอ.วรเจตน์กับคณะด้วยความรุนแรง แต่ผมไม่หวังแล้ว และมันก็ออกจะสายไปแล้วด้วย พวกคุณต้องรับผิดชอบที่หว่านเพาะเชื้ออวิชชา มุสาวาทาและความเกลียดชังเพิ่มพูนขึ้นแก่สังคมไทย ลูกหลานครอบครัวของพวกคุณจะอยู่ในสังคมเดียวกันนี้ที่คุณหว่านเพาะอวิชชา มุสาวาทาและความเกลียดชังจนกลายเป็นความรุนแรงไปแล้ว ผมหวังว่ากรรมจะตามสนองพวกคุณทุก ๆ คน ทุก ๆ ถ้อย ทุก ๆ คำ ขอให้ธรรมะจงปกป้องคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม ขอให้กรรมจงตามสนองผู้ก่อความรุนแรงและผู้ยั่วยุโกหกบิดเบือนให้เกิดความรุนแรงทุกคน ********* เรื่องเกี่ยวเนื่อง: -8 องค์กรสิทธิไทย ประณามเหตุ 'วรเจตน์' ถูกทำร้าย ร้องรัฐต้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน -วรเจตน์ยันไม่ยุติบทบาททางวิชาการ นครบาลจัดกำลังคุ้มครอง -แถวนี้แม่งเถื่อน!บุกทำร้ายวรเจตน์ถึงในธรรมศาสตร์ | |
http://redusala.blogspot.com |
แฝดนรกชกวรเจตน์อันธพาล อยากเตะนักข่าว | |
ตำรวจนำแฝดนรกชกวรเจตน์แถลงข่าว-จากกรณีนายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมาชิก "กลุ่มนิติราษฎร์" ถูกคนร้ายชก ที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ โดยคนร้ายมาดักรอทำร้ายร่างกาย ที่บริเวณลานจอดรถของคณะนิติศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม รายงานล่าสุดระบุว่า คนร้ายที่ทำร้ายร่างกาย นายวรเจตน์ ชื่อ นายสุพจน์ ศิลารัตน์ และนายสุพัฒน์ ศิลารัตน์ อายุ 30 ปี พี่น้องฝาแฝด เป็นชาว อ.ธัญญบุรี ปทุมธานี ได้เดินทางมาเพื่อให้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) นำตัวมาแถลงข่าว ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้ต้องหากล่าวว่าที่ทำร้ายดร.วรเจตน์เพราะเห็นต่างทางการเมือง เกิดความไม่พอใจ ไม่ได้สังกัดไหน ไม่ได้รับจ้างใครมา ผู้ต้องหาทั้งสองไม่มีทีท่าสะทกสะท้านหรือสำนึกผิด เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากพูดอะไรไหม 1 ใน 2 แฝดนรกตอบว่า"อยากเตะนักข่าว" ส่วนพ่อของแฝดนรกบอกกับนักข่าวว่า "อ.วรเจตน์สมควรโดนแล้ว ลูกตนเป็นพวกหัวรุนแรง" รูปของ สุพจน์ ศิลารัตน์ ในfacebookของเขา รูปของสุพัฒน์ ศิลารัตน์ ในfacebookของเขา จากการตรวจสอบประวัตินายสุพัฒน์ น้องชาย พบว่าเคยถูกจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย ในท้องที่ สน.สายไหม สน.ดอนเมือง สน.ธัญญบุรี มาก่อน เนื่องจากเป็นคนมีนิสัยใจร้อน ไม่พอใจอะไรก็จะแสดงออกด้วยการชกต่อยอยู่บ่อยครั้ง | |
http://redusala.blogspot.com |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)