เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสั่งห้ามชาวบ้าน กลุ่มรักษ์สิ่งแวล้อม ต.หนองใหญ่ จ.กาฬสินธุ์ ฉายคลิปรายการเปิดปม ตอนเปิดแผลปิโตรเลียมอีสาน อ้างต้องขออนุญาตอำเภอก่อน ด้านอำเภอบอกให้ไปขอ TPBS แล้วเอามายื่นกับอำเภอ
27 ส.ค. 2558
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2558 ประชาชนกลุ่มรักษ์สิ่งแวล้อม ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เดินทางไปยื่นหนังสือ ณ ที่ว่าการอำเภอหนองกุงศรี เพื่อขออนุญาตฉาย
คลิปรายการเปิดปม ตอน เปิดแผลปิโตรเลียมอีสาน หลังจากคืนวันที่ 23 ส.ค. 2558 ระหว่างที่ กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม ต.หนองใหญ่ กำลังฉายคลิปดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้หยุดฉาย โดยอ้างว่าอาจผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ให้ขออนุญาตจากทางอำเภอก่อน
ทั้งนี้วันที่ 23 ส.ค. 2558 ประมาณ 21.00 น. กลุ่มรักษ์สิ่งแวล้อม ต.หนองใหญ่ ได้ฉายคลิปวิดีโอรายการเปิดปม ตอน เปิดแผลปิโตรเลียมอีสาน ออกอากาศทางช่องไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2558 มีเนื้อหาเกี่ยวกับผลกระทบจากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้ข้อมูลกับชาวบ้านหนองไม้ตาย ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 20 คน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบประมาณ 8-9 นาย จาก สภ.หนองกุงศรี และ สภ.ห้วยเม็ก อ้างว่า มีผู้แจ้งว่ามีการฉายคลิปผลกระทบจากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ขอให้ตำรวจเข้ามาดำเนินการ
ตำรวจนายหนึ่งกล่าวว่า คลิปข่าวที่เอามาเปิดนั้นผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ ก่อนถามว่าที่ชาวบ้านเอาคลิปข่าวมาเปิดนั้น ได้รับอนุญาตการฉายมาจากไหน ต้องไปขออนุญาตจากอำเภอก่อนเอามาฉาย เพราะไม่รู้ว่าข้อมูลที่อยู่ในคลิปข่าวจะจริงหรือเท็จ และได้ขอให้หยุดฉายคลิปดังกล่าว ซึ่งกลุ่มรักษ์สิ่งแวล้อม ต.หนองใหญ่ ก็ไม่ได้ฉายคลิปรายการเปิดปมต่อ
ต่อมา เช้าวันที่ 24 ส.ค. 2558 กลุ่มรักษ์สิ่งแวล้อม ต.หนองใหญ่ เดินทางไปยื่นหนังสือ ณ ที่ว่าอำเภอหนองกุงศรี เพื่อขออนุญาตฉายคลิปรายการเปิดปม ตอน เปิดแผลปิโตรเลียมอีสาน แต่ทางอำเภอแจ้งกับชาวบ้านด้วยวาจา ให้ชาวบ้านไปขออนุญาตจากทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสก่อนแล้วค่อยมายื่นกับอำเภอ
ด้านประชาชนกลุ่มรักษ์สิ่งแวล้อม ต.หนองใหญ่ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการฉายคลิปรายการของช่องไทยพีบีเอส ที่ดาวน์โหลดมาจาก YouTube ว่าสิ่งที่ดาวน์โหลดมา คือข่าวที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ให้ข้อมูลด้านผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมจากการขุดเจาะก๊าซธรรมชาติ ทางกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมจึงดาวน์โหลดมา เพื่อเดินสายเปิดฉาย ให้ความรู้และข้อมูลอีกด้านหนึ่งกับชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณใกล้กับหลุมขุด เจาะ ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงต้องให้ไปขออนุญาตฉายจากอำเภอ ทั้งที่เป็นข้อมูลข่าวสาร และสงสัยว่าการเอาคลิปรายการที่ดาวน์โหลดมาเพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนจาก YouTube จะกระทบลิขสิทธิ์ของคลิปหรือไม่
ขณะที่ก่อนหน้า ในค่ำวันที่ 19 ส.ค. 2558 มีเจ้าหน้าที่ 3 คน เดินทางมาถามหาแกนนำของกลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อม ต.หนองใหญ่ ที่บ้านพักแต่ไม่พบเจ้าของบ้าน มีแค่ภรรยากับลูก และไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านไปไหน เจ้าหน้าที่จึงขอชื่อ บ้านเลขที่ รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของบ้านและภรรยาไว้ด้วย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ มาตรา 32 ระบุว่า การกระทําแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ของบุคคลอื่นตามพระราชบัญญัตินี้ หากไม่ขัดต่อการแสวงหา ประโยชน์จากงานอันมีลิขสิทธิ์ตามปกติของเจ้าของลิขสิทธิ์และไม่กระทบ กระเทือนถึงสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายของเจ้าของลิขสิทธิ์เกินสมควร มิให้ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
ภายใต้บังคับบทบัญญัติในวรรคหนึ่ง การกระทําอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามวรรคหนึ่ง มิให้ถือว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ถ้าได้กระทําดังต่อไปนี้
(1) วิจัยหรือศึกษางานนั้น อันมิใช่การกระทําเพื่อหากําไร
(2) ใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง หรือเพื่อประโยชน์ของตนเองและบุคคลอื่นในครอบครัวหรือญาติสนิท
(3) ติชม วิจารณ์ หรือแนะนําผลงานโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(4) เสนอรายงานข่าวทางสื่อสารมวลชนโดยมีการรับรู้ถึงความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในงานนั้น
(5) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏ เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาของศาลหรือเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย หรือในการรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว
(6) ทำซ้ำ ดัดแปลง นำออกแสดง หรือทำให้ปรากฏโดยผู้สอน เพื่อประโยชน์ในการสอนของตน อันมิใช่การกระทำเพื่อหากำไร
(7) ทำซ้ำ ดัดแปลงบางส่วนของงาน หรือตัดทอนหรือทำบทสรุปโดยผู้สอนหรือสถาบันศึกษา เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายแก่ผู้เรียนในชั้นเรียนหรือในสถาบันศึกษา ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร
(8) นำงานนั้นมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการถามและตอบในการสอบ
(9) ทำซ้ำ หรือดัดแปลง เพื่อประโยชน์ของคนพิการที่ไม่สามารถเข้าถึงงานอันมีลิขสิทธิ์อันเนื่องมา จากความบกพร่องทางการเห็น การได้ยิน สติปัญญา หรือการเรียนรู้ หรือความบกพร่องอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง โดยต้องไม่เป็นการกระทำเพื่อหากำไร ทั้งนี้ รูปแบบของการทำซ้ำหรือดัดแปลงตามความจำเป็นของคนพิการ และองค์กรผู้จัดทำ รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการเพื่อทำซ้ำหรือดัดแปลงให้เป็นไปตามที่ รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา