วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กลอนเตือนใจ




พอบุญมา กาไก่ กลายเป็นหงส์
พอบุญลง หงส์เป็นกา น่าฉงน
พอบุญสูง หมูหมา กลายเป็นคน
พออับจน คนเป็นหมา น่าอัศจรรย์

คือคำกลอน คนเก่า สอนเราไว้
อย่าปล่อยใจ พ่ายแพ้ ความแปรผัน
โลกมีขึ้น มีลง ไม่คงกระพัน
มีกฎเกณท์ สามัญ เสมอมา

อย่าหลงเหลิง บุญบันดาล ขนานใหญ่
แม้กาไก่ กลายเป็นหงส์ สูงส่งค่า
บุญบันดาล แห่งชีวิต อนิจจา
แม้หมูหมา กลายเป็นคน มิทนทาน


เมื่อยังมี อำนาจ ไม่ขาดมิตร
คนใกล้ชิด สอพลอ พะนอหวาน
เมื่ออำนาจ ดับดิ้น ลงดินดาน
มีแต่หมา เฝ้าบ้าน อยู่ทานทน

มีอำนาจ อย่ามีไว้ ใช้อำนาจ
มีเชิงฉลาด อย่ามีไว้ ใช้ฉ้อฉล
มีทรัพย์สิน อย่ามีไว้ ใช้เปรอปรน
มีตัวตน อย่ามีไว้ ใช้อัตตา

มีอำนาจ ไม่อิ่มหนำ ในอำนาจ
จะพาพลาด ผิดพลั้ง ระวังหนา
ขี่หลังเสือ เพลิดเพลิน เกินเวลา
ไม่นานช้า ก็เป็นเหยื่อ ให้เสือกิน

กสทช. อนุมัติเงิน กทปส. 427 ล้าน จ่ายดูบอลโลกผ่านฟรีทีวี ตามแนวทางคืนความสุขฯ คสช.


ที่ประชุม กสทช. อนุมัติเงินจ่าย RS ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ทั้ง 64 นัด ผ่านฟรีทีวี กรอบวงเงินงบประมาณไม่เกิน 492.481 ล้าน ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากกองทุน กทปส. ให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึง
 
12 มิ.ย. 2557 นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. วันนี้ (12 มิ.ย. 2557) ได้พิจารณากรณีการดำเนินการเพื่อให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ทั้ง 64 นัด ผ่านฟรีทีวี โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการดำเนินการเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อย่างทั่วถึง ตามมาตรา 52 (1) แห่ง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 และเป็นการดำเนินการเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการและคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป ตามมาตรา 36 และมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551
 
และสอดคล้องกับคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่ อ.413/2557 และคดีหมายเลขแดงที่ อ.215/2557 เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2557 ซึ่ง กสทช. สามารถดำเนินการได้ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ตามพ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553
 
ทั้งนี้ วงเงินที่บริษัท อาร์ เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด เจ้าของลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลโลก 2014 นำเสนอค่าเสียโอกาสในการนำการถ่ายทอดฟุตบอลโลกมาเผยแพร่เป็นการทั่วไปบนฟรีทีวีทุกแพลทฟอร์ม อันประกอบด้วย ค่าเสียโอกาสในการจำหน่าย Set Top Box ค่าลิขสิทธิ์ True Vision  และรายได้ของตัวแทนจำหน่าย เป็นวงเงินรวม 766.515 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานฯ ได้นำมาประเมินความเหมาะสมในทุกด้านเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา
 
นายฐากร ให้ข้อมูลว่า ที่ประชุม กทปส. ได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณจำนวนไม่เกิน 492.481 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้โดยเป็นไปตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2553 มาตรา 53 (5) เงินค่าปรับทางปกครองที่ปรับตามพ.ร.บ.องค์กรฯ 53 และตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการโทรคมนาคม และ (7) เงินทรัพย์สินที่ได้รับโอนมาตามมาตรา 91 คือเงินและทรัพย์สินจากกองทุนพัฒนากิจกรโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะเดิม และให้ตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน เพื่อศึกษาและเจรจาจำนวนเงินที่เหมาะสมในการสนับสนุนดังกล่าว โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัฐ
 
ส่วนที่ประชุม กสทช. ได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการบริหารกองทุน กทปส. เสนอ แต่มีความเห็นให้ปรับลดกรอบวงเงินลงเหลือจำนวนไม่เกิน 427.015 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นวงเงินในการเจรจากับบริษัท อาร์ เอส อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคาสติ้ง แอนด์ สปอร์ต แมเนจเมนท์ จำกัด เพื่อส่งเสริมให้มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2014 ทั้ง 64 นัด ผ่านฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม ทั้งระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดินหรือฟรีทีวีปกติ ระบบเคเบิ้ล และผ่านดาวเทียม เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม อย่างทั่วถึง เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการ ผู้มีรายได้น้อย และคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป ให้ได้รับชมฟุตบอลโลกผ่านฟรีทีวีทั้ง 64 นัด
 
และคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานศึกษาและเจรจาจำนวนเงินที่เหมาะสมในการสนับสนุนดังกล่าวให้มีบุคคลภายนอกร่วมด้วย อาทิ ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนสำนักงบประมาณ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้มีความเหมาะสมกับต้นทุนที่แท้จริงและเหมาะสมเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ

ศาลทหารไม่ให้ประกัน บก.ลายจุด เกรงไปสร้างความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน



12 มิ.ย.2557 เวลาประมาณ 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตุลาการพระธรรมนูญมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยื่นคำร้องขอฝากขังผลัดแรก 12 วัน และเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แล้ว
ตุลาการพระธรรมนูญระบุเหตุผลในคำสั่งว่า “พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง เมื่อพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ในระหว่างประกาศใช้กฎอัยการศึก หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจไปกระทำการใดๆ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนหรืออาจไปก่อเหตุอันรายประการอื่น จึงไม่อนุญาต สำเนาคำสั่งให้ผู้ร้องและผู้ต้องหาทราบโดยเร็ว”
ทั้งนี้ นายสมบัติ ถูกควบคุมตัวมายังศาลทหารในเวลาประมาณ 12.10 น. หลังจากถูกจับกุมและควบคุมตัวตั้งแต่กลางดึกวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยสมบัติถูกแจ้ง 3 ข้อหาคือ ไม่รายงานตัวตามประกาศคสช., มาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา, มาตรา 14(3)   ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550  (เอกสารคำร้องขอฝากขัง อ่านที่นี่)
สมบัติให้สัมภาษณ์ก่อนทราบผลการประกันตัวว่าหากเขาไม่ได้รับการประกันตัวก็ยังจะใส่เสื้อแดงในทุกวันอาทิตย์  
“ผมอยากบอกว่า ขอบคุณทุกคน และเพื่อระลึกถึงทุกท่านที่ร่วมกันต่อสู้ เป็นกำลังใจให้โดยตลอด เมื่อปฏิทินเดินทางมาถึงวันอาทิตย์ ในทุกๆ วันอาทิตย์ ผมจะใส่เสื้อสีแดง เพื่อระลึกถึงทุกท่านและยืนยันว่ายังยืนหยัดต่อสู้” สมบัติกล่าว

ชมโบราณสถาน ฟรีครับ นโยบายยิ่งใหญ่ อา ลัง กาน


            นายเอนก สีหามาตย์ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีนโยบายกำหนดแผนเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ และคืนความสุขให้แก่คนไทยทั้งชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นการเสริมความเชื่อมั่น สร้างภาพลักษณ์ให้กับการท่องเที่ยว
           ดังนั้น เพื่อเป็นการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว กรมศิลปากร จึงได้ออกประกาศงดเก็บค่าเข้าชมสำหรับคนไทยในส่วนโบราณสถานที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน และงดค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทุกแห่งทั่วประเทศ มีผลตั้งแต่วันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนการเก็บค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติยังคงเหมือนเดิม  เบื้องต้นตามแผนงานจะงดเก็บค่าเข้าประมาณ 3 เดือน หลังจากนั้นจะมีการประเมินผล หากมีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมเพิ่มมากขึ้น ก็จะมีการขยายออกวันและเวลาออกไปอีก

ลุ้นประกันตัว ‘บก.ลายจุด’ หลังแจ้ง 3 ข้อหา ยันขอใส่เสื้อแดงวันอาทิตย์



 เวลาประมาณ 14.00 น.   ผู้สื่อข่ายรายงานว่า สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ถูกส่งตัวจากหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ เดินทางมายังศาลทหารตั้งแต่เวลาประมาณ 12.10 น. จากนั้นจนถึงเวลาประมาณ 14.00 น.บก.ลายจุด และทนายยังคงรอผลการยื่นประกันตัว ซึ่งถูกตั้งข้อหา 3 ข้อหา และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว
นายสมบัติ กล่าวว่า เขาถูกแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาแรก 2 กรรม คือ ขัดประกาศหรือคำสั่งคสช. ซึ่งประกาศเรียก 2 ครั้งแล้วไม่รายงานตัว, ข้อหาที่สอง คือ มาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา, ข้อหาที่สามคือ มาตรา 14   ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ว่าด้วยการนำเข้าข้อมูลความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง
นายสมบัติกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้เขาถูกควบคุมตัวไว้ที่จังหวัดชลบุรีแต่ไม่ทราบว่าที่ใด เนื่องจากถูกปิดตาระหว่างเดินทาง นอกจากนี้ยังไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารใดๆ จากข้างนอกเนื่องจากไม่มีทีวี ไม่มีหนังสือพิมพ์ แต่ก็สามารถกินอิ่มนอนหลับและไม่ถูกทำร้ายแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกอะไรกับสาธารณะหากไม่ได้ประกันตัว สมบัติกล่าวว่า “ผมอยากบอกว่า ขอบคุณทุกคน และเพื่อระลึกถึงทุกท่านที่ร่วมกันต่อสู้ เป็นกำลังใจให้โดยตลอด เมื่อปฏิทินเดินทางมาถึงวันอาทิตย์ ในทุกๆ วันอาทิตย์ ผมจะใส่เสื้อสีแดง เพื่อระลึกถึงทุกท่านและยืนยันว่ายังยืนหยัดต่อสู้”
เมื่อถามถึงกรณีจดหมายที่ลูกสาวเขียนถึง สมบัติกล่าวว่า ได้อ่านแล้วและเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อว่า “ก็เข้าใจความรู้สึกของเขา มันเป็นการแสดงออก อ่านแล้วผมก็อึ้งและรู้สึกเศร้า สงสารลูก”
ด้านอานนท์ นำภา ทนายความโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “ศาลอนุญาตให้ฝากขัง บก.12 วัน แต่พนักงานสอบสวนตอบคำถามค้านทนายว่า ขั้นตอนที่เหลือเป็นขั้นตอนภายใน ไม่เกี่ยวกับ บก.แล้ว และของกลางก็ได้ยึดไปตรวจหมดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ ไต่สวนขอประกัน ญาติวางเงินสด 400,000 บาท และขอแถลงเงื่อนไขและคำมั่นในการปฏิบัติตัว ผู้ต้องหาพร้อมปฏิบัติคำสั่งศาลทุกประการ ลุ้นว่าศาลจะให้ประกันหรือไม่”
ทั้งนี้ สมบัติ ถูกจับกลางดึกวันที่ 5 มิ.ย.57 ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยการสนธิกำลังของ ผบก.ปอท.ร่วมกับ ร.21รอ. และการตรวจไอพี โดย สขช. (สำนักข่าวกรองแห่งชาติ) จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว บก.ลายจุด ไปสอบสวนต่อที่ค่ายทหารแห่งหนึ่ง
สำหรับเอกสารฝากขังศาลทหารนั้น ระบุผู้ร้องคือ พนักงานสอบสวน กองกำกับการ2 กองบังคับการปราบปราม กับ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ โดยแจ้งข้อหาว่า “กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยประการใดๆ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร จับกุมได้เมื่อวันที่ 12   มิ.ย.57 เวลา 10.00 น. ตามหมายจับของศาลทหารกรุงเทพ ที่ 26/57 ลงวันที่ 9   มิ.ย.2557”
เอกสารยังระบุถึงพฤติการณ์แห่งคดีว่า “ผู้ต้อหาโพสต์ข้อความทางเว็บไซต์เฟสบุ๊ก และทวิตเตอร์ในลักษณะยุยงให้ประชานออกมาต่อต้านการควบคุมอำนาจการปกครองประเทศของ คสช. และท้าทายให้ทำการจับกุมมาโดยตลอด เป็นการก่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชานให้กระทำความผิดต่อกฎหมายแผ่นดิน เหตุเกิดระหว่างวันที่ 30 พ.ค.2557 ถึง 5 มิ.ย.2557 ต่อเนื่องกัน พนักงานสอบสวนรับตัวผู้ต้องหาวันที่ 12 มิ.ย.เวลา 10.30 น.”
พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว โดยระบุเหตุผลในเอกสารว่า “เนื่องจากผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีที่กองบังคับการปรามปราม ในความผิดเกี่ยวกับฝ่าฝืนไม่รายงานตัวตามคำสั่ง คสช. โดยมีร้อยเอก เมธาสิทธิ์ พิมพ์อภิกฤติยา ตำแหน่งนายทหารการยิงสนับสนุน กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 12 รักษาพระองค์ เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษอีกคดีหนึ่ง
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และพ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(3)”

=====================
มาตรา 116 ของประมวลกฎหมายอาญา ระบุว่า
ผู้ใด กระทำให้ปรากฏ แก่ประชาชน ด้วยวาจา หนังสือ หรือ วิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำ ภายในความมุ่งหมาย แห่ง รัฐธรรมนูญ หรือมิใช่ เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือ ติชม โดยสุจริต
                (1) เพื่อให้ เกิดการเปลี่ยนแปลง ในกฎหมายแผ่นดิน หรือ รัฐบาล โดย ใช้กำลัง ข่มขืนใจ หรือ ใช้กำลังประทุษร้าย
                (2) เพื่อให้ เกิดความปั่นป่วน หรือ กระด้างกระเดื่อง ในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะ ก่อความไม่สงบขึ้น ใน ราชอาณาจักร หรือ
                (3) เพื่อให้ ประชาชน ล่วงละเมิด กฎหมายแผ่นดิน
            ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน เจ็ดปี

มาตรา 14 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ระบุว่า
 ผู้ใดกระทำความผิที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุก
ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(3) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับ
ความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา