วันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไล่เรียงคำสั่งศาล ตายด้วยฝีมือเจ้าหน้าที่ อีกมากมายคดีข้างหน้า


ภาพจากมติชน

        ศาลอาญากรุงเทพใต้อ่านคำสั่งในคดีไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตของผู้อยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 เป็นคดีที่ 3 ว่า

        "ศาลจึงมีคำสั่งว่าผู้ตายคือนายชาติชาย ชาเหลา ถึงแก่ความตายที่ รพ.จุฬาฯ ถ.พระราม 4 เขตปทุมวัน กทม. เมื่อวันที่ 13 พ.ค.2553 เวลา 23.37 น.

         "โดยเหตุและพฤติการณ์การตายสืบเนื่องมาจากการถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) เป็นเหตุให้สมองฉีกขาดร่วมกับกะโหลกศีรษะแตกอย่างมาก

         "วิถีกระสุนปืนมาจากแนวด่านตรวจแข็งแรงของเจ้าพนักงาน ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ถ.พระราม 4 โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ"

ย้อนกลับไปถึงคดีแรกในกรณีคล้ายคลึงกัน

         17 ก.ย.2555 ศาลอาญาอ่านคำสั่งในคดีไต่สวนสาเหตุการเสียชีวิตของผู้อยู่ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ว่า

          "จึงมีคำสั่งว่าผู้ตายชื่อนายพัน คำกอง ตายที่หน้าสำนักงานขายคอนโดมีเนียมชื่อไอดีโอคอนโด ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง

         "เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย เกิดจากการถูกลูกกระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) จากอาวุธปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ที่เจ้าพนักงานทหารร่วมกันยิงไปที่รถยนต์ตู้หมายเลขทะเบียน ฮค 8561 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายสมร ไหมทอง เป็นผู้ขับ แล้วลูกกระสุนปืนไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย

          "ในขณะเจ้าพนักงานทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบปิดล้อมพื้นที่ควบคุมตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)"

ก่อนจะมาถึงคดีที่ 2

26 พ.ย.2555 ศาลอาญาอ่านคำสั่งว่า

          "อาศัยเหตุผลดังที่ได้วินิจฉัยมาดังกล่าวขั้นต้น จึงมีคำสั่งว่าผู้ตายคือนายชาญณรงค์ พลศรีลา ตายที่ รพ.พญาไท 1 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 เวลาประมาณ 14.00 น.

          "เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือถูกทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของ ศอฉ. ในการดำเนินการตามมาตรการปิดล้อม และสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อขอคืนพื้นที่และผิวการจราจรบริเวณถนนราชปรารภ ยิงด้วยอาวุธปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มม.

          "หัวกระสุนปืนลูกโดดถูกที่บริเวณหน้าท้องและแขนขวา เป็นเหตุให้ลำไส้เล็กฉีกขาดหลายตำแหน่ง"

19 ธ.ค.2555

            คณะพนักงานสอบสวนในส่วนของตำรวจกับดีเอสไอนัดประชุมตรวจสอบสำนวนคดีที่มีประชาชนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง 2553 ประมาณ 1,500 ราย ซึ่งมีการสอบปากคำไว้หมดแล้ว

           แต่จะไม่มีการลงมติแจ้งข้อกล่าวหาคดีพยายามฆ่าแก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีตผู้อำนวยการ ศอฉ.

           เนื่องจากยังต้องรอการหารือร่วมกับพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ที่ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนในคดี

           โดยคดีพยายามฆ่าที่จะนำขึ้นมาพิจารณาเป็นสำนวนแรก คือคดีนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่ยิงบาดเจ็บสาหัสในเหตุการณ์เดียวกันที่นายพัน คำกอง เสียชีวิต

20 ธ.ค.2555

เวลา 09.00 น.

            ศาลอาญานัดฟังคำสั่งผลไต่สวนชันสูตรศพ ด.ช.คุณากร หรืออีซา ศรีสุวรรณ อายุ 14 ปี ซึ่งถูกยิงที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ หน้าโรงภาพยนตร์โอเอ ถนนราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2553 ในเหตุการณ์เดียวกับนายพัน คำกอง

           เป็นคดีที่ 4 ซึ่งศาลจะมีคำสั่งต่อจากคดีนายพัน นายชาญณรงค์ และนายชาติชาย

           ที่ศาลมีคำสั่งแล้วว่าเสียชีวิตจากกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง ศอฉ.

           ในจำนวนคดีผู้เสียชีวิตที่พนักงานสอบสวนระบุในเบื้องต้นว่าอาจจะเสียชีวิตจากกระสุนของเจ้าหน้าที่

            รวมกันแล้วทั้งสิ้น 36 คดี

            และคดีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เข้าข่ายพยายามฆ่าอีก 1,500 คดี

           ต้องมีผู้รับผิดชอบ

          ต้องมีคำตอบกับสังคม 

---------------------------------------------------------
Source : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1355973971&grpid&catid=01&subcatid=0100

ไม่มีชายชุดดำฆ่า มีแต่ชายชุดพราง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานพรปีใหม่ 2556 แก่ประชาชนชาวไทย


 เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556  ความว่า

ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี มาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คน ให้มีความสุข ความเจริญ และความสำเร็จสมประสงค์ ในสิ่งที่ปรารถนา

ข้าพเจ้าขอขอบใจท่านเป็นอย่างมาก ที่พรั่งพร้อมกันมา ให้กำลังใจแก่ข้าพเจ้าในคราววันเกิด ด้วยความหวังดีจากใจจริง น้ำใจไมตรีที่ทุกคนทุกฝ่ายแสดงออกในวันนั้น ยังประทับอยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าไม่รู้ลืม

ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่ง ที่จะเห็นคนไทยเราได้ตั้งจิตตั้งใจ ให้มั่นอยู่ในความเมตตาและหวังดีต่อกัน ดูแลเอาใจใส่กัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ให้กำลังใจแก่กันและกัน ผูกพันกันไว้ฉันญาติและฉันมิตร ทุกคนทุกฝ่ายจะได้ร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคง ให้แก่ตนชาติได้ ดังที่ตั้งใจปรารถนา

ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรคภัย ให้มีความสุขกายสุขใจ ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน

ปฏิทิน นายิการัฐมนตรี 2556

ปฏิทิน นายิการัฐมนตรี  2556 


























"ในหลวง" พระราชทาน ส.ค.ส. แก่ประชาชนชาวไทยโอกาสปีใหม่ 2556


 
         ส.ค.ส.พระราชทาน ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประจำปีพุทธศักราช 2556 นี้ เป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์เชิ้ตลำลองสีฟ้า มีลายเส้นสีชมพูและสีฟ้าเข้มพาดตัดกัน พระสนับเพลาสีดำ และฉลองพระบาทสีดำ ประทับบนพระเก้าอี้ ด้านขวาของพระเก้าอี้ที่ประทับ มีโต๊ะกลม วางพระบรมฉายาลักษณ์ครอบครัว และเชิงเทียนแก้ว ทรงฉายกับสุนัขทรงเลี้ยง คือ คุณทองแดงที่ทรงเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2541 สวมเสื้อสีทอง หมอบอยู่แทบพระบาทด้านขวา และคุณมะลิ แม่เลี้ยงคุณทองแดง สวมเสื้อสีทอง หมอบอยู่แทบพระบาทด้านซ้าย
         ด้านหลังพระเก้าอี้ที่ประทับ ตกแต่งด้วยดอกกล้วยไม้หลากสี ด้านขวาบน มีตราพระมหาพิชัยมงกุฎประดับ ส่วนด้านซ้ายมีผอบทอง(ผะ-อบ-ทอง) ประดับ ด้านล่างของผอบทอง(ผะ-อบ-ทอง) มีตัวอักษรสีทอง ข้อความว่า ส.ค.ส. พ.ศ. ๒๕๕๖ สวัสดีปีใหม่ และ ตัวอักษรสีขาวเส้นฟ้า ข้อความว่า ขอจงมีความสุขความเจริญ  HAPPY  NEW  YEAR
         ด้านขวา ใต้ตราพระมหาพิชัยมงกุฎ มีข้อความพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีขาวเส้นเขียว ข้อความว่า “ความเมตตาเป็นคุณธรรมนำความสุข ช่วยปลอบปลุกปรุงใจให้หรรษา ความกตัญญูรู้คุณผู้เมตตา ทวีค่าของน้ำใจไมตรีเอย”
        ด้านล่างของ ส.ค.ส. มีแถบสีม่วงเข้ม มุมล่างขวา มีข้อความ  ก.ส. 9 ปรุง 181122 ธค.55 พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด  ท.พรหมบุตร, ผู้พิมพ์โฆษณา Printed at the Suvarnnachad , D Bramaputra , Publisher 
 
        กรอบของ ส.ค.ส. พระราชทานฉบับนี้ เป็นภาพใบหน้าคนเล็กๆ เรียงกัน ด้านซ้ายและด้านขวาเรียงกันด้านละ 3 แถว ส่วนด้านบนและด้านล่า งเรียงกันด้านละ 2 แถว ทุกหน้า มีแต่รอยยิ้ม

นายกรัฐมนตรี อวยพรปีใหม่ ขอให้คนไทยคิดบวก-ปรองดองก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งปวง

;

        วันที่ 31 ธันวาคม 2555 (go6TV)  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวคำปราศรัยเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556  ดังนี้ พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทั้งหลาย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556 นี้ ดิฉันในนามของคณะรัฐมนตรี ขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องประชาชนทุกท่าน และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่าพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานพรให้พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญร่มเกล้าเหล่าพสกนิกรตราบกาลนิรันดร์เทอญ
         วันปีใหม่จะเป็นเพียงวันหนึ่งวัน หากเราไม่ให้ความสำคัญ และไม่สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ดังนั้น ปีใหม่จะเป็นปีใหม่ได้ก็ต่อเมื่อเราเริ่มต้นและลงมือทำสิ่งใหม่ๆ และสิ่งใหม่ที่จะทำ ต้องเป็นสิ่งที่ทำให้ปีใหม่เป็นปีที่ดีขึ้น

 

          หนึ่งปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้แก้ปัญหาเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และรับมือกับปัญหาที่ประเทศไทยได้เผชิญทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศ ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทำให้รัฐบาลสามารถประคับประคองประเทศให้ผ่านพ้นเวลาแห่งความยากลำบาก โดยเฉพาะวิกฤตมหาอุทกภัยมาได้
          จึงขอถือโอกาสนี้ ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจและให้การสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในปีที่ผ่านมา และขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มกำลังความสามารถ จนสามารถนำพาประเทศของเราให้ก้าวเดินได้อย่างมั่นคงต่อมา
          ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ รัฐบาลมีแผนที่จะวางรากฐานพัฒนาประเทศให้ยั่งยืน เพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศในอนาคต และปีข้างหน้าจะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นของโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น เพื่อให้ลูกหลานของเรามีชีวิตที่ดี และได้อยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยโอกาสอย่างเท่าเทียมกันในทุกพื้นที่ของประเทศ  เรามาร่วมกันเตรียมความพร้อมเพื่อรับโอกาสที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งนำความคิดบวกมาเป็นพลัง ร่วมกันลงมือทำสิ่งใหม่ เพื่อให้ความหมายกับปีใหม่ ช่วยกันทำให้ปีนี้เป็นปีที่ดีกว่าปีที่ผ่านๆ มา สำหรับคนไทยทุกคน
          รัฐบาลจะทำงานอย่างหนักเพื่อตอบแทนความไว้วางใจที่ได้รับจากท่าน และทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งโอกาสสำหรับคนไทยทุกคน รวมทั้งยกระดับการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ เหมือนเมื่อครั้งที่ประเทศไทยเคยมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศชั้นนำในเอเชีย แต่เพราะความขัดแย้งทางการเมือง 5-6 ปีที่ผ่านมา ขีดความสามารถในการแข่งขันกลับชะลอหรือถดถอยลงในหลายด้าน
         “ดิฉันอยากเห็นคนไทยยึดมั่นในแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2555 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2555 ที่ทรงเห็นว่าความเมตตาและความปรารถนาดีต่อกันของคนไทย  เป็นปัจจัยอย่างสำคัญที่จะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีขึ้นทั้งในหมู่คณะและชาติบ้านเมือง ถ้าคนไทยเรายังมีคุณธรรมข้อนี้ประจำอยู่ในจิตใจ ก็มีความหวังได้ว่า บ้านเมืองไทยจะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่างแน่นอน
         ดังนั้น ดิฉันขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ เป็นปีแห่งการคิดบวก เป็นปีที่คนไทยจะเข้าใจกันมากขึ้นด้วยความรัก ความปรารถนาดีที่มีให้แก่กัน เพราะเชื่อว่าทุกคนต่างก็ต้องการที่จะมีความสุขในชีวิต ต้องการให้ความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมไทย และอยากเห็นประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า
       เพื่ออนาคตของประเทศไทยและคนไทยทุกคน ขอให้ทุกท่านหยุดที่จะหยุดประเทศไทยด้วยความขัดแย้งทางความคิด แต่ขอให้ก้าวข้ามความขัดแย้ง และแสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ รับฟังและพยายามที่จะทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน โดยยึดวิถีทางประชาธิปไตยบนพื้นฐานของความเมตตาและความปรารถนาดีต่อกัน
       ในวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2556 นี้ ดิฉันขออัญเชิญคุณพระรัตนตรัยและอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพนับถือ  อีกทั้งพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลประทานพรให้พี่น้องชาวไทยทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และเป็นพลังสำคัญในการสร้างสรรค์พัฒนาชาติบ้านเมืองให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป

กร่อยได้อีก! "สุขุมพันธุ์" เรตติ้งตกหนัก หลังดิ้นจัดงานปีใหม่กทม.ทิ้งทวน


"สุขุมพันธุ์" จัดงานคอนเสิร์ตฉลองปีใหม่ หน้าศาลาว่าการกทม. คึกคักแบบนับหัวได้















      30 ธันวาคม 2555 go6TV - เมื่อเวลา 15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระพุทธนวราชบพิตร จากบริเวณหอพระพุทธนวราชบพิตร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อนำมาประดิษฐาน ณ ลานคนเมือง เพื่อให้ประชาชนสักการะบูชา เนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่ 2556 

สำหรับกิจกรรมความบันเทิง ที่ลานคนเมือง จะมีตั้งแต่วันนี้ถึงคืนวันที่ 31 ธันวาคม ประกอบไปด้วยการแสดงของนักร้องชื่อดังมากมาย อาทิ วงชูการ์อาย กลุ่มศิลปินเดอะสตาร์ และใบเตย อาร์สยาม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการแสดงวงดนตรีสุวรรณหงส์ วงซับไฟล์ การแสดงลิเก โปงลาง ลำตัด จำอวดหน้าม่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตรและคณะผู้บริหารกรุงเทพฯมหานคร ว่าการจัดงานดังกล่าวเป็นการผลาญภาษีประชาชนหรือไม่? และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ควรสำรวจตนเองว่าเหตุใดประชาชนจึงแสดงออกด้วยการงดร่วมงานปีใหม่ของกรุงเทพมหานคร



ขอบคุณภาพถ่ายจาก คำเกิ่ง
https://www.facebook.com/kamkerngpage

ประชาธิปัตย์ซวยข้ามปี! ชาวเน็ตแฉนโยบาย สุดกลวง-ลอกเขามา

ประชาธิปัตย์ซวยข้ามปี! ชาวเน็ตแฉนโยบาย สุดกลวง-ลอกเขามา

31 ธันวาคม 2555 go6TV - กระแสการทำกิจกรรมข้ามปียังคงมีอย่างเนื่อง ล่าสุด
ประชาธิปัตย์เกาะกระแส ซวยข้ามปี โดนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต นามว่า 
RED News UP2Date ปอกเปลือกเว็บไซท์พรรคประชาธิปัตย์แฉนโยบายสไตล์ดุเดือด 
ผ่านรูปแบบกราฟิกอย่างง่ายๆเพียงหน้าเดียว แม้กราฟิกดังกล่าวไม่ได้ออกแบบมาหรูหรา 
แต่กลับถูกส่งต่อและแชร์กันมากที่สุดในอินเตอร์เน็ตขณะนี้ เป็นอย่างไรไปชมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่มีการ
แสดงท่าทีแก้ตัวต่อเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใดเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ
 
ที่มา
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=323625547743281&set=a.274839689288534.51706.267049860067517
&type=1&theater

ประชาธิปัตย์สะดุ้งทั้งพรรค หลัง "พานทองแท้" โพสต์อวยพรปีใหม่

ประชาธิปัตย์สะดุ้งทั้งพรรค หลัง "พานทองแท้" โพสต์อวยพรปีใหม่

31 ธันวาคม 2555 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra สวัสดีปีใหม่แก่พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกับยกตัวอย่างเปรียบเทียบข้อความที่พรรคประชาธิปัตย์โจมตีนางสาวยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตลอดปีที่ผ่านมาว่า พรรคประชาธิปัตย์กลับเป็นฝ่ายมีพฤติกรรมดังกล่าวเสียเอง โดยผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตต่างแสดงความเห็นด้วยกับนายพานทองแท้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายพานทองแท้ โพสต์ข้อความดังนี้

"องอาจ" แถลงข่าวขอ "ยิ่่งลักษณ์" ปรับ 5 พฤติกรรม ลอยตัวเหนือปัญหา,ไม่กล้าตัดสินใจ,ไม่ใส่ใจรากหญ้า,ดื้อตาใสและเมินงานสภา

ก็คงจะเป็นไปตามข่าวลือที่ได้ยินกันมานะครับ ว่าทีมโฆษกพรรคฯปัจจุบันไม่สามารถจะเปิดประเด็นโจมตีรัฐบาลได้ ตามสไตล์ถนัดของพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้กระแสของนายกฯปูพุ่งแรงทิ้งห่างผู้นำฝ่ายค้าน ตามที่โพลหลายสำนักได้ไปสำรวจกันมา การแก้เกมทางการเมืองก็ต้องมีกันบ้างครับ อดีตโฆษกพรรคฯ จำต้องระลึกถึงความหลังส่งท้ายปีเก่า ด้วยการแย่งไมค์ทีมโฆษกฯปัจจุบันมาแถลงข่าวเสียเองอย่างที่เห็น

ตอนแรกก็นึกว่าจะมีอะไรหวือหวา ประมาณที่ "องครักษ์พิทักษ์อาปู" จะต้องออกมาเคลียร์นะครับ แต่พออ่านดูคำแถลงแล้วก็ต้องถอนหายใจกับมุกเดิมๆ ที่คาดว่าน่าจะใช้มากว่า60ปีโดยไม่เคยเปลี่ยนแปลง และคงให้ราคาได้แค่เพียงสีสันวันหยุดเท่านั้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องออกมาเคลียร์อะไรเลย เพราะ 5พฤติกรรมที่ว่านี้เนี่ย ผมถามคอการเมืองกี่คน เขาก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันทั้งนั้นครับ ว่า

"เฮ้ย!!..นี่มันพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ชัดๆนี่หว่า"

ใครเห็นต่างจะลองทบทวนประเด็นกันดูก็ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็น 1.ลอยตัวเหนือปัญหา, 2.ไม่กล้าตัดสินใจ, 3.ไม่ใส่ใจรากหญ้า, 4.ดื้อตาใส และ 5.เมินงานสภา ผมว่า 4พฤติกรรมแรกที่ว่านี้ คำตอบส่วนใหญ่น่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าครับ ใครไม่เชื่อลองทำโพลดูก็ได้ว่าน่าจะเป็นพฤติกรรมของใคร ส่วนข้อ 5.เมินงานสภานั้น ต้องยอมรับว่าไม่ใช่พฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์เเน่นอน เพราะไม่ใช่เเค่เพียงพูดเก่งกันทั้งพรรคนะครับ ไม่ว่าจะเป็นรูป"ลับเฉพาะ"หรือต้องการจะระบายอารมณ์ด้วยการขว้างปาสิ่งของ ยังนำไปบรรเลงกันในสภาฯได้อย่างไม่อายใคร แบบนี้ ยังไงๆก็ต้องชอบงานสภาฯครับ

2พรรคฯเก่งกันคนละด้านแบบนี้ ถึงเกิดวลี 2ประโยค ในสังคมการเมือง ให้ประชาชนเลือกไงครับ ว่าชอบแบบไหน? ระหว่าง "ทำแต่งาน" กับ "ดีแต่พูด" และก็เพราะคำว่า "ทำแต่งาน" นี่แหละ จึงทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจนายกฯปู และให้อภัยเสมอ เมื่อมีใครมาจับผิดเล็กๆน้อยๆเรื่องคำพูด เพราะเขาชอบพฤติกรรมแบบ "ทำแต่งาน" กันมากกว่า

ก็ถือซะว่าเป็นพรปีใหม่จาก"
พรรคประชาธิปัตย์" ฝากมาให้"อาปู" แล้วกันครับ แต่พอดีคุณอาไม่ว่างคุณหลานเลยรับไว้แทน โดยทั่วไปก็ต้องมีอวยพรกลับไปนิดหน่อย เอาสัก 10พฤติกรรม พอเป็นมารยาท เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้พิจารณา ตามนี้แล้วกันครับ

"ลอยตัวเหนือปัญหา, ไม่กล้าตัดสินใจ, ไม่ใส่ใจรากหญ้า, เสพยาบ้าโชว์สื่อ, ดื้อตาใส, ใส่ถุงยางบนหัว, มั่วภาพโป๊กลางสภา, ขว้างปาสิ่งของ, ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร, รอขึ้นศาล99ศพ"

ดูแล้วคล้ายกับพฤติกรรม ของพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านเอือมระอา หรือเปล่าครับ?

สุขสันต์วันปีใหม่ 2013 นะฮ๊าฟ... พี่โย่ง, พี่มาร์ค และพลพรรคฯ!!