วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554


19พฤษภาโลกจารึกเสียงสาปแช่งเหี้ยสั่งฆ่ากระหึ่ม
แดงอินเตอร์เอกฉันท์เลิก112ร้องเพื่อไทยชูนโยบาย
http://thaienews.blogspot.com/2011/05/19-112.html

RED USAจัดทำคลิปนี้ขึ้นเพื่อสาปแช่งไอ้เหี้ยสั่งฆ่ากับอีห่าสั่งยิง ซึ่งจนบัดนี้ยังคงเป็นปริศนาว่าหมายถึงใคร..

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 พฤษภาคม 2554

คนไทยในต่างประเทศทุกมุมโลก จากญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน เยอรมนี ยุโรป และอเมริกาพากันจัดกิจกรรมร่วมรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 1 ปีการสลายการชุมนุม โดยหลายประเทศจัดขึ้นในวันนี้พร้อมกับคนเสื้อแดงในประเทศไทย ขณะที่อีกบางประเทศได้จัดขึ้นก่อน และหลังวันที่ 19 พฤษภาคม 2554 (ดูรายละเอียดข่าว)


































โปสเตอร์เชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรมรำลึกวีรชนครบรอบ 1ปีที่ออสเตรเลีย และที่หอไอเฟล ฝรั่งเศส

นอกจากจัดกิจกรรมรำลึกแล้ว คนไทยในต่างประเทศ ยังได้ได้ตื่นตัวร่วมรณรงค์ให้ยกเลิกมาตรา 112 ปลดปล่อยนักโทษคดีทางความคิดที่ตกเป็นเหยื่อกฎหมายนี้ รวมถึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษการเมือง และให้ต่างประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้

แดงEUยื่นหนังสือประธานสภายุโรปสังเกตโกงเลือกตั้งไทย เพิ่มแรงบีบกดดันปล่อยนักโทษการเมือง



คณะผู้แทน UDD THAI OF EUROPE (เสื้อแดงสหภาพยุโรป) เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายเฮอร์มัน ฟาน รอมปุย ( Monsieur le President Herman Van Rompuy )ประธานสภายุโรป ( President du CONSEIL EUROPEEN ) ณ กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม เรียกร้องให้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือแกนนำนปช. และแนวร่วมที่ถูกคุมขังละเมิดสิทธิมนุษยชน และเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในไทยที่กำลังจะมีขึ้น โดยระบุข้อเรียกร้องว่า

1.ให้ปล่อยตัวคุณจตุพร พรหมพันธ์ุ แกนนำนปช.แดงทั้งแผ่นดิน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส พรรคเพื่อไทย กับคุณนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนและแกนนำ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน พร้อมทั้งนักโทษทางการเมืองที่ถูกจองจำจากการออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยทุกท่านให้ออกมาต่อสู้ทางคดี โดยเข้าสู่ขบวนการยุติธรรมที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับฝ่ายของผู้มีอำนาจ ไม่ใช่สองมาตรฐานอย่างที่เป็นอยู่

2.ให้ทางสภายุโรปเข้ามามีส่วนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่3กรกฎาคมนี้ เนื่องจากพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่เกิดความวิตกกังวลเรื่องการโกงคะแนนเลือกตั้ง และใช้วิชามารทุกวิถีทางรวมทั้งข่มขู่ สร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชนผู้รักประชาธิปไตยที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยที่จะไม่ให้พรรคเพื่อไทยที่ได้รับเสียงข้างมาก ที่มีฝ่ายประชาธิปไตยสนับสนุนเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งได้เคยเกิดขึ้นมาเมื่อครั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้รับเสียงข้างน้อยร่วมมือกับฝ่ายผู้มีอำนาจในประเทศไทยกระทำมาแล้ว จึงทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งและความไม่สงบในประเทศไทย จนเป็นสาเหตุให้เกิดการออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ยุบสภา และนำพาไปสู่การสังหารโหดประชาชนผู้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยกว่า 90 ชีวิต และบาดเจ็บอีกว่า2,000ราย ซึ่งล่วงเลยมาครบ1ปี ยังไม่สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้

หลังจากได้เข้ายื่นหนังสือผ่านเลขาประธานฯสภายุโรปแล้ว ท่านได้รับปากว่าจะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสร้างความปิติยินดีกับคณะแดงอียูและผู้ที่ช่วยประสานงานทุกคน

แถลงการณ์คนเสื้อแดงในอังกฤษ (คนไทย UK)เนื่องในหนึ่งปีครบรอบการสังหารประชาชนที่ราชประสงค์ 

1. การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ ในบรรยากาศที่มีการขังหรือตั้งข้อกล่าวหากับแกนนำคนเสื้อแดงหรือปัญญาชนที่คิดต่างจากอำมาตย์ และเกิดขึ้นไม่ได้ในเมื่อกติกาการเลือกตั้งไม่เป็นธรรมและ กกต. เป็นคนของผู้ที่เคยทำรัฐประหาร

ดังนั้น เราจึงเรียกร้องให้:

– ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคนรวมถึง จตุพร พรหมพันธุ์ สมยศ พฤกษาเกษมสุข สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ดาตอร์ปิโด และ นักโทษการเมืองเสื้อแดงอื่นๆทุกคน

– ยกเลิกกฎหมายหมิ่นกระษัตริย์ 112, กฎหมายพรบ.คอมพิวเตอร์ และ กฎหมายเผด็จการว่าด้วยความมั่นคง พร้อมทั้งยกฟ้องผู้ที่ถูกกล่าวหาทั้งหมดอันเนื่องมาจากกฏหมายเผด็จการเหล่านี้

– ยกเลิกการควบคุมสื่อโดยฝ่ายอำมาตย์ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือทหาร ยกเลิกการปราบปรามวิทยุชุมชนและยกเลิกการเซ็นเซอร์อินเตอร์เนต

2. ประชาธิปไตยเสรีในประเทศไทย สร้างไม่ได้ถ้าไม่มีการ:

– ลงโทษผู้ฆ่าประชาชนที่ผ่านฟ้า และราชประสงค์ ในปี พ.ศ.2553

– ปฏิรูปกองทัพ และระบบยุติธรรม อย่างถอนรากถอนโคน

– เดินหน้าสู่การสร้างรัฐสวัสดิการ ผ่านการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวย และ การสร้างความมั่นคงในการทำงานสำหรับประชาชน

ในส่วนนี้เราอยากให้พรรคเพื่อไทย รับข้อเรียกร้องดังกล่าวของเรา รวมถึงความสำคัญที่จะยกเลิกกฏหมาย 112

3. เราเรียกร้องให้ประชาชนไทย ลงคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยในวันเลือกตั้ง และเราเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยฟังเสียงของคนเสื้อแดงเพื่อนำมาพัฒนาเป็นนโยบาย ทั้งนี้เพื่อสร้างความสามัคคีในขบวนการประชาธิปไตย

4. ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แต่อำมาตย์สร้างอุปสรรคกับการตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย หรือเสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติแทน คนเสื้อแดงต้องออกมาชุมนุมใหญ่เพื่อปกป้องประชาธิปไตย

(จากมติที่ประชุมคนไทย U.K. ที่ Oxford ๑๕ พ.ค. ๒๕๕๔http://www.konthaiuk.info/ )


ฝรั่งเศสชูป้ายต้าน112ในนครปารีส
คนเสื้อแดงในปารีส ประเทศฝรั่งเศส ใช้โอกาสในการเข้าร่วมเดินขบวนในวันกรรมกรสากล จาก Republic to Nation.เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมาเรียกร้องประชาธิปไตย และเสนอให้ยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 ในการจับกุมคุมขังปรปักษ์ทางการเมืองอย่างไร้ความยุติธรรม

นอกจากนั้นได้กำหนดนัดหมายเสื้อแดงทั่วสหภาพยุโรป จัดกิจกรรม"รำลึก1ปีที่ราชประสงค์" ร่วมกับUDD THAI OF EUROPE (แดงอียู) ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ที่ หอไอเฟล กลางกรุงปารีส




ญี่ปุ่นจัดงานตาสว่างให้ยกเลิก112 ชูพงษ์โฟนอิน
RED IN JAPAN กลุ่มคนเสื้อแดงในประเทศญี่ปุ่น ได้จัดกิจกรรมขึ้นเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ผ่านมาต้องเลื่อนจัดงาน เนื่องจากเกิดซึนามิ และพิบัติภัยขึ้นในญี่ปุ่นกลุ่ม















โดยกิจกรรมหนนี้ชื่องาน"ตาสว่างกลางญี่ปุ่น" เมื่อเร็วๆนี้ ประเด็นหลักคือการเรียกร้องให้ห้ยกเลิกกฎหมายม .112 ปลดปล่อยนักโทษการเมือง โดยอาจารย์ชูพงษ์ ถี่ถ้วน ได้ให้เกียรติโฟนอินร่วมงาน เพื่อสร้างความรู้ความกระจ่างแก่ชาวไทยในต่างแดน

กิจกรรมครั้งนี้ มีพี่น้องแดงญี่ปุ่นเดินทางมาร่วมงานจากหลายจังหวัด ทั่วประเทศ
ภาพบรรยากาศในงาน

สมาชิกใหม่ตาสว่างร่วมแสดงความคิดเห็น

เจ้าภาพงานกับ คนญี่ปุ่นที่มาร่วมให้กำลังใจ

Thai Red Sweden: กิจกรรมต่อต้านกฎหมายระบอบ "ราชาธิปไตย"112
เมื่อเร็วๆนี้ Thai Red Sweden: ได้จัดกิจกรรมต่อต้านระบอบกฎหมายที่เป็นไปในทางสนับสนุน "ราชาธิปไตย" อย่างมาตรา112 โดยมีอาจารย์ใจ อึ๊งภากรณ์ เดินทางจากอังกฤษไปเป็นวิทยากรในงาน (ชมภาพชุด)


Thai Red Australia เรียกร้องประชาธิปไตยไทย ชูป้ายไม่เอา112ในซิดนีย์
ห้ามคิด ห้ามพูด ห้ามเขียน กฎหมายเผด็จการ มาตรา 112
โดย Thai Red Australia
1 พฤษภาคม 2554

พลังประชาธิปไตยไทยออสเตรเลีย หรือ THAI RED AUSTRALIA ได้เข้าร่วมเดินขบวนเนื่องในวันแรงงานสากล ที่จัดขึ้นโดยการร่วมมือขององค์กรต่างๆ โดยมีSocialist Alliance เป็นองค์กรกลาง และได้จัดกิจกรรมรำลึก 1 ปีราชประสงค์ขึ้นในวันที่ 19 พฤษภาคม พร้อมกับเสื้อแดงในประเทศไทยด้วย
โดยในขบวนมีทั้งกลุ่มแรงงาน และกลุ่มผู้เรียกร้อง สิทธิเสรีภาพ รวมถึงชาติต่างๆที่ต่อสู้เพื่ออิสระภาพในประเทศต่างๆ อย่างเช่นลิเบีย ตูนีเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศซีเรีย ซึ่งกำลังมีข่าวการกวาดล้างประชาชนผู้เรียกร้องให้เปลี่ยนผู้นำ
โดยทางพลังประชาธิปไตยไทยออสเตรเลีย ก็ได้ร่วมเดินขบวนเพื่อเรียกร้องให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย และเรียกร้องสิทธิต่างๆ อย่างเช่น NO MORE DICTATORSHIP IN THAILAND, MAKE PEACE NOT WAR(กรณี เขมรและไทย) STOP DOUBLE STANDARD, THAILAND NEEDS DEMOCRACY, BRING 91 THAI PP MURDERER TO JUSTICE NOW, FREE SPEECH IS A CRIME IN THAILAND และสุดท้ายคือป้ายการรณรงค์ การยกเลิกม.112ในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นกฏหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนว่าด้วยเสรีทางการแสดงออกทางการ พูด


ปฏิญญาสมัชชาประชาชนเสื้อแดงในอเมริกา:เจตนารมณ์และข้อเรียกร้องประชาธิปไตยแท้จริง เร่งยกเลิก#112

RED USAจัดทำคลิปนี้ขึ้นเพื่อสาปแช่งไอ้เหี้ยสั่งฆ่ากับอีห่าสั่งยิง ซึ่งจนบัดนี้ยังคงเป็นปริศนาว่าหมายถึงใคร..

สมัชชาประชาชนเสื้อแดงไทยในอเมริกา แถลงว่า คนเสื้อแดงในอเมริกาทุกกลุ่มผนึกพลังร่วมประชุมในลักษณะสมัชชาประชาชนเมื่อเร็วๆนี้ ณ โรงแรม Double Tree Hotel เมือง Commerce ในนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ประชุมมีมติให้ประกาศเจตนารมณ์ 7 ประการ และข้อเรียกร้อง 5 ข้อ

การประชุมมีคนเสื้แปแดงจากหลายรัฐส่งตัวแทนเข้าร่วม ส่วนรัฐที่เดินทางมาไม่ได้ด้วยตัวเอง ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านอินเตอร์เนตด้วยการ skype
บรรยากาศที่ประชุมสมัชชาฯ

เสรีภาพในการแสดงออก

บรรยากาศการอภิปราย

การประชุมเริ่มต้นด้วยตัวแทนสมาชิกในที่ประชุมกว่า 150 ท่านร่วมกันเปล่งเสียงอย่างกึกก้องส่งกำลังใจข้ามขอบฟ้ามายัง อาจารย์ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ว่า "อาจารย์สมศักดิ์ สู้ สู้ - อาจารย์สมศักดิ์ สู้ สู้ - อาจารย์สมศักดิ์ สู้ สู้"

จากนั้นประธานในที่ประชุมได้แจ้งให้ที่ประชุมได้ทราบว่า การผนึกพลังของคนเสื้อแดงในสหรัฐอเมริกาทุกกลุ่มที่เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมในขณะที่ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ สัมผัสได้จากสัญญาณต่างๆ ที่ส่งออกมาข่มขู่คุกคาม ประชาชนและคนเสื้อแดงในหลายรูปแบบ

การประชุมใช้เวลา 6 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 14.00 น.ถึง 20.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในมหานครลอสแองเจลีส จึงมีมติร่วมกันดังที่บันทึกไว้ ณ ที่นี้คือ

ก.เจตนารมณ์พลังมวลชนคนเสื้อแดงทุกกลุ่มในสหรัฐอเมริกา

1. ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน นั่นคือการปกครองเป็นของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน

2. ประชาชนคือเจ้าของประเทศและเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยในการขับเคลื่อนประเทศผ่านฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ

ประชาชนเป็นผู้คัดเลือกตัวแทนไปเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ ด้วยขบวนการและวิธีการของการเลือกตั้ง

ผู้ที่ประชาชนคัดเลือกเป็นตัวแทนไปเป็นผู้รับผิดชอบในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือตุลาการจะต้องให้สัตย์ปฎิญาณต่อประชาชนก่อนเข้ารับตำแหน่งว่า จะทำงานรับใช้ประชาชนสุดความสามารถตามหน้าที่ ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยุติธรรมโดยปราศจากการทุจริตและคดโกงใดๆ

ประชาชนมีอำนาจในการปลด ถอดถอน ไล่ออก ตัวแทนที่เลือกเข้าไปทำงานขับเคลื่อนประเทศตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หากปฎิบัติตนไม่เป็นไปตามที่ให้สัตย์ปฎิญาณไว้กับประชาชน

3.รัฐธรรมนูญคือกฏหมายสูงสุดในการปกครองประเทศต้องร่างขึ้น และบัญญัติไว้เพื่อประโยชน์สุขของคนไทยทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียมกัน เมื่อเสียงข้างมากในสภา (หรือรัฐสภา) ผู้แทนราษฏรเห็นด้วยกับสาระและบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้น ให้ประกาศและนำมาใช้เป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศได้เลย

รัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้ต้องไม่มีบทบัญญัติที่ว่าด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามมาตรา 8 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550และมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา

หากต้องนำเอารัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่งที่มีอยู่แล้วมาปรับใช้ใหม่ บทบัญญัติที่ว่าด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ไม่ว่าจะอยู่ในมาตราใดต้องลบล้างและยกเลิกไปเช่นเดียวกัน

4. รัฐบาลคือตัวแทนเสียงข้างมากที่ประชาชนเลือกให้เป็นผู้บริหารประเทศ จึงได้รับมอบฉันทานุมัติในการนำอำนาจอธิปไตยของประชาชนไปบริหารขับเคลื่อนประเทศให้พัฒนา ทำให้ประชาชนเป็นสุข

นายกรัฐมนตรีคือผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ ทั้งนี้ผู้ที่สิทธิในการดำรงตำแหน่งสูงสุดในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยต้องเป็นคนไทยและมีสัญชาติไทยโดยกำเนิดเท่านั้น

การแต่งตั้งรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบ หรือรอการอนุมัติจากผู้อื่นใดอีก เนื่องจากไม่มีอำนาจใดที่สูงกว่าอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศ

ทั้งนี้รวมถึงการปรับเปลี่ยนโยกย้ายบุคคลในคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจสิทธ์ขาดของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น โดยไม่ต้องเสนอหรือรอความเห็นชอบจากผู้อิ่นใดเฉกเช่นเดียวกัน

ผู้ใดบังอาจล้มล้างรัฐบาลที่ประชาชนเลือก เท่ากับล้มล้างอำนาจอธิปไตยของปวงชน มีโทษสถานเดียวให้ประหารชีวิต

การสิ้นสุดวาระของรัฐบาลให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

5. สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (และสมาชิกวุฒิสภาหากจำเป็นต้องมี)ต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเท่านั้น

การเปิดประชุมสภา (รัฐสภา) ผู้แทนราษฏรเพื่อให้รัฐบาลแถลงนโยบายในการบริหารประเทศ ตลอดจนโครงการและแผนปฎิบัติงานของรัฐบาล ก่อนนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อความเจริญของประเทศ และความผาสุขของประชาชนไทย เป็นอำนาจของประธานสภา (รัฐสภา)ผู้แทนราษฏรตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนอื่นใดอีก

เช่นเดียวกันกับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏรทั้งสมัยสามัญ และสมัยวิสามัญ ให้อยู่ในอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฏร โดยไม่ต้องรอหรือผ่านขั้นตอนอื่นใด

6. ทหาร ทหารเป็นเพียงหน่วยงานหนึ่งในระบบการบริหารประเทศ มีหน้าที่ปกป้องประเทศและปฎิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล เฉกเช่นหน่วยงานอื่นๆ ทหารมิได้มีอำนาจเหนือรัฐบาลหรือหน่วยงานใด

การตัดสินว่าอะไรคือความมั่นคงของประเทศ หรืออะไรคือความไม่มั่นคง เป็นอำนาจและหน้าที่ของรัฐบาลเท่านั้น ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร หน้าที่ของทหารคือปฎิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล รัฐบาลมีอำนาจสิทธิ์ขาดในการแต่งตั้งโยกย้าย ปลด ถอดถอน หรือไล่ออกทหารทุกระดับชั้น ที่ไม่ปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง โดยไม่ต้องรอหรือขอความเห็นชอบจากผู้ใด

7. ลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือผู้ที่อาสาเข้าไปทำงานกับรัฐบาลของประชาชน การเรียก ลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐด้วยถ้อยคำอื่น คือการบ่งชี้ว่าประเทศไทยไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย

เพราะในระบอบประชาธิปไตยผู้ที่อาสาเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในองค์กรของรัฐ คือผู้อาสาเข้าไปรับใช้ประชาชน มิใช่รับใช้ผู้อื่น

ประชาชนไทยทุกคนต้องได้รับโอกาสและสิทธิอย่างเท่าเทียมกัน ในการเสนอตัวเข้าแข่งขันและคัดเลือกเพื่อทำงานเป็น
ลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐ

การโยกย้าย ถอดถอน ไล่ออก หรือปรับเปลี่ยนสถานะของเจ้าที่รัฐชั้นผู้ใหญ่ระดับปลัดกระทรวงลงมาถึงระดับอธิบดีเป็นอำนาจสิทธิขาดของฝ่ายบริหาร

ส่วนการปรับย้าย ถอดถอน ไล่ออก ปรับเปลี่ยนหรือเลื่อนตำแหน่งของลูกจ้าง พนักงาน หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าระดับอธิบดีลงมา ให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายลูก หรือตามข้อกำหนดของกฎกระทรวง แล้วแต่กรณี

ให้ยกเลิกกฎระเบียบว่าด้วยการปกครองส่วนภูมิภาค และให้กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยจัดให้มีการเลือกตั้ง
เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเลือกผู้มีความรู้ความสามารถด้วยตนเอง มาบริหารงานส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่นในทุกระดับชั้น

ข.เจตจำนงแห่งข้อเรียกร้อง

อนึ่งในขณะที่ประเทศไทยในปัจจุบันยังปกครองด้วยระบอบเผด็จการซ่อนรูป โดยใช้คำว่าประชาธิปไตยบังหน้า เราขอเรียกร้องผู้กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในประเทศไทย และขอป่าวประกาศให้นานาประเทศได้รับรู้ถึงข้อเรียกร้องของเราดังนี้คือ

1. ให้ยกเลิก

กฎหมายมาตรา 8 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ.2550 และมาตรา 112 ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา
ที่ทุกรัฐบาลนำมาใช้เป็นข้ออ้างเพื่อปิดปาก จับกุม คุมขังประชาชน และนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมในสังคมด้วยเจตนาบริสุทธิ์

2. ให้ปลดปล่อย นักโทษการเมืองทุกคน โดยปราศจากเงื่อนไข และยุติการไล่ล่า ยัดเยียดข้อหานานาประการกับประชาชนและนักการเมือง ผู้มีความคิดเห็นแตกต่างไปจากรัฐบาลและอำมาตย์

3. ให้ยุติ การกระทำอันเป็นสองมาตรฐานที่ฝ่ายรัฐบาลและอำมาตย์ ร่วมมือกันเป็นขบวนการโดยใช้ฝ่ายตุลาการและองค์กรอิสระเป็นเครื่องมือและกลไกในการปราบปราม เข่นฆ่า และทำลายล้างประชาชนและนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้ตนได้คงอยู่ในอำนาจ เพื่อกอบโกย พล่าผลาญทรัพยากรของประเทศต่อไป

4.ให้มีการเลือกตั้ง อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เพื่อให้ได้ตัวแทนที่แท้จริงของประชาชนมาบริหารประเทศ ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดและการพังพินาศของประเทศไทย เพราะความอดทนของประชาชนที่ถูกกลั่นแกล้งคดโกงมาโดยตลอดได้เดินทางมาถึงจุดแตกหักแล้ว สงครามประชาชนคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากอำนาจอธิปไตยของประชาชน
ในการเลือกตัวแทนของตนต้องถูกบดขยี่ คดโกงโดยฝ่ายปกครองและอำมาตย์อีกครั้ง

ในกรณีการเลือกตั้งล่วงหน้าต้องนับคะแนนทันที ณ หน่วยเลือกตั้ง หลังจากเวลาที่กำหนดให้ลงคะแนนได้สิ้นสุดลง

ในกรณีการเลือกตั้งนอกประเทศต้องนับคะแนนทันที ณ หน่วยเลือกตั้ง ณ สถานกงสุล ณ สถานฑูตหรือ ณ สถานเอกอัครราชฑูตแล้วแต่กรณี หลังจากได้รับบัตรลงคะแนนแล้ว และให้ประกาศผลการนับคะแนนให้คนไทยที่พำนักอยู่นอกประเทศ
ให้รับรู้โดยทั่วกันก่อนส่งผลการลงคะแนนเลือกตั้งนอกประเทศกลับสู่ประเทศไทย

5. ให้ลงโทษ ผู้บงการ ผู้สั่งการ ผู้ปฎิบัติการ ตลอดจน ผู้ร่วมขบวนการทุกระดับชั้น ในการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอย่างเหี้ยมโหด ระหว่างวันที่ 10 เมษายน 2553 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตกว่า 90 ศพและบาดเจ็บกว่า 2,000 คน

ผู้เกี่ยวข้องในการเข่นฆ่าปราบปรามประชาชนมือเปล่า ที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความเป็นธรรมต้องถูกนำตัวมาพิจารณาลงทัณฑ์ให้สาสมกับความผิด โดยไม่มีการยกเว้นไม่ว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องในการสังหารประชาชนจะยิ่งใหญ่เพียงใด

และขอเรียกร้องให้รื้อฟื้นเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชนในอดีต ตั้งแต่ 14 ตุลาคม 2516 จนถึงเหตุการณ์สงกรานต์เลือดในปี 2552 มาพิจารณาไต่สวน และลงโทษทัณฑ์ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดเฉกเช่นกัน

ทั้งนี้ความผิดที่รัฐเป็นต้นเหตุให้เกิดการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ ที่เรียกร้องความเป็นธรรม ไม่ว่าในกรณีใดๆ ให้ถือเป็นคดีที่ไม่มีอายุความ

จากอดีตจนถึงปัจจุบัน นักศึกษาและประชาชน ได้ถูกปราบปรามเข๋นฆ่า เสียชีวิต บาดเจ็บและสูญหายไปเป็นจำนวนมาก
แต่ผู้บงการและผู้ร่วมขบวนการในการพล่าผลาญชีวิตประชาชนยังคงลอยหน้าเสวยสุข เหยียบย่ำ ประชาชนตลอดมา


********
http://redusala.blogspot.com

รายชื่อวีรชนคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตเพราะใบอนุญาตฆ่า
โดยรัฐบาลอภิสิทธิ์ระหว่าง 10 เม.ย.-19 พ.ค. 2553
BBC เสนอรายงานข่าวครบ 1 ปี 19 พฤษภา 53 ในคลิปนี้จะเห็นผู้ชุมนุมถูกยิงร่วงต่อหน้าต่อตาสหายของเขา ส่วนคลิปด้านล่าง RED USAจัดทำเพื่อสาปแช่งไอ้เหี้ยสั่งฆ่ากับอีห่าสั่งยิง ซึ่งจนบัดนี้ยังคงเป็นปริศนาว่าหมายถึงใคร..

โดยทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 พฤษภาคม 2554



ทีมข่าวไทยอีนิวส์ พยายามรวมรวมรายชื่อของผู้เสียชีวิตในการปราบปรามประชาชนระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม 2553 มานำอีกครั้งหนึ่ง เพื่อร่วมเตือนความจำถึงการปราบปรามประชาชนกลางท้องถนนท่ามกลางสายตาสื่อนานาชาติและประชาชนชาวไทยจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์


พร้อมกับขอร่วมแสดงความเสียใจอีกครั้งหนึ่งกับครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน ที่ได้พยายามทวงถามความยุติธรรมและการชดเชยการสูญเสียครั้งนี้จากรัฐบาลมาตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา โดยที่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

รายชื่อผู้เสียชีวิตจากการปะทะที่สี่แยกคอกวัว ณ วันที่ 10 เมษายน 2553

พลเรือน
1. นาย สวาท วงงาม, 43 ถูกยิงศีรษะด้านบนข้างขวาทะลุขมับซ้าย
2. นาย ธวัฒนะชัย กลัดสุข, 36 ถูกยิงอกซ้าย ทะลุหลัง
3.นาย ทศชัย เมฆงามฟ้า อายุ 44 ปี ถูกยิงอกซ้าย ทะลุหลัง
4. นายจรูญ ฉายแม้น, 46 ถูกยิงอกขวากระสุนฝังใน
5. นายวสันต์ ภู่ทอง, 39 ถูกยิงศีรษะด้านหลัง ทะลุด้านหน้า
6. นายสยาม วัฒนนุกุล, 53 ถูกยิงอก ทะลุหลัง
7. นายมนต์ชัย แซ่จอง, 54 ระบบหายใจล้มเหลวจากโรคถุงลมโป่งพอง เสียชีวิตที่รพ.
8. นายอำพน ตติยรัตน์, 26 ถูกยิงศีรษะด้านหลัง ทะลุด้านหน้า
9.นาย ยุทธนา ทองเจริญพูลพร อายุ 23 ปี ถูกยิงศีรษะด้านหลัง ทะลุด้านหน้า
10. นายไพรศล ทิพย์ลม, 37 ถูกยิงศีรษะด้านหน้า ทะลุท้ายทอย เสียชีวิตที่ รพ.
11. นาย เกรียงไกร ทาน้อย, 24 ถูกยิงสะโพก กระสุนฝังในช่องท้อง เสียชีวิตที่รพ.
12. นาย คะนึง ฉัตรเท, 50 ถูกยิงอกขวา กระสุนฝังใน
13. นายนภพล เผ่าพนัส,30 ถูกยิงที่ท้อง เสียชีวิตที่ รพ.
14. นายสมิง แตงเพชร, 49 ถูกยิงศีรษะ เสียชีวิตที่รพ.
15. นาย สมศักดิ์ แก้วสาน, 34 ถูกยิงหลัง ทะลุอกซ้าย เสียชีวิตที่รพ.
16. นาย บุญธรรม ทองผุย, 40 ถูกยิงหน้าผากซ้ายทะลุศีรษะด้านหลังส่วนบน
17.นาย เทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์, 29 แผลที่หน้าอกซ้าย เสียชีวิตที่รพ.
18. ชายไม่ทราบชื่อ อายุ 40-50 บาดแผลเข้าสะโพกขวาตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ที่ขาหนีบ เสียชีวิตที่รพ.
19. นาย มานะ อาจราญ, 23 ถูกยิงศีรษะ ด้านหลังทะลุหน้า
20. นายอนันต์ สิริกุลวานณิชย์, 54 ถูกยิงเสียชีวิต

นักข่าวต่างชาติ 
21. Mr. Hiroyuki Muramoto อายุ 43 ปี ถูกยิงอกซ้าย เสียชีวิตก่อนถึง รพ. (ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์)

ทหาร 

22. พ.อ. ร่มเกล้า ธุวธรรม อายุ 43 ปี ท้ายทอยขวาฉีกขาดน่อง 2ข้างฉีกขาด เสียชีวิตที่รพ.
23. พลฯ สิงหา อ่อนทรง อกซ้ายและด้านหน้าต้นขาซ้ายฉีกขาด
24. พลฯอนุพงศ์ หอมมาลี อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ เสียชีวิตที่รพ.
25. พลฯ ภูริวัฒน์ ประพันธ์ อายุ 25 ปี แผลเปิดกะโหลกท้ายทอย
26. พลฯ อนุพงษ์ เมืองร าพัน อายุ 21 ปี ทรวงอกฟกช ้า น่อง 2 ข้างฉีกขาด รายชื่อผู้เสียชีวิตจากการปะทะที่ถนนสีลม ณ วันที่ 22 เมษายน 2553
27. นางธันยนันท์ แถบทอง อายุ 50 ปี ถูกสะเก็ดระเบิด เสียชีวิตถนนสีลม

* * * * * * * * * 

รายชื่อผู้เสียชีวิตที่แยกศาลาแดง วันที่ 13 พฤษภาคม2553 
28.พล.ต.ดร.ขัตติยะ สวัสดิผล อายุ 58 ปี ถูกยิงที่บริเวณศีรษะ เสียชีวิตที่รพ.
29. นายชาติชาย ชาเหลา อายุ 25 ปี มีแผลเปิดบริเวณท้ายทอย เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ

รายชื่อผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามตั้งแต่วันที่ 14 - 19 พฤษภาคม 2553 

30. นายปิยะพงษ์ กิติวงค์, 32 ถูกยิง เสียชีวิตที่สวนลุมพินี
31. นายประจวบ ศิลาพันธ์ ถูกยิง เสียชีวิตที่สวนลุมพินี
32. นายสมศักดิ์ ศิลารักษ์ ถูกยิง เสียชีวิตที่ศาลาแดง
33. นายอินทร์แปลง เทศวงศ์, 32 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
34. นายเสน่ห์ นิลเหลือง, 48 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
35. นายชัยยันต์ วรรณจักร, 20 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
36. นายบุญทิ้ง ปานศิลา, 25 ถูกยิงที่คอ เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ (อาสาสมัครวชิระฯ)
37. นายมนูญ ท่าลาด เสียชีวิตที่ซอยหมอเหล็ง
38. นายพัน คำกลอง, 43 ถูกยิงหน้าอกซ้าย เสียชีวิตที่ซอยหมอเหล็ง
39. นายกิติพันธ์ ขันทอง, 26 แผลที่ชายโครง เสียชีวิตที่รพ.
40. นายสรไกร ศรีเมืองปุน, 34 แผลที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึงรพ.
41. นายชาญณรงค์ พลอยศรีลา, 32 ถูกยิงหน้าท้องและแขน เสียชีวิตที่ราชปรารภ
42. นายทิพเนตร เจียมพล, 32 แผลที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
43. นายสุภชีพ จุลทัศน์, 36 แผลที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
44. นายวารินทร์ วงศ์สนิท, 28 แผลที่หน้าอกขวา เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
45. นายมานะ แสนประเสริฐศรี, 22 แผลถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึง รพ.(อาสาสมัครปอเต็กตึ๊ง)
46. นางสาวสันธนา สรรพศรี, 32 ถูกกระสุนเข้าท้องและแขน เสียชีวิตที่ซอยหมอเหล็ง
47. นายธันวา วงศ์ศิริ, 26 แผลที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึงรพ.
48. นายอำพล ชื่นสี, 25 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
49. นายสมพันธ์ ศรีเทพ, 17 ถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
50. นายอุทัย อรอินทร์, 35 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ 51. นายพรสวรรค์ นาคะไชย, 23 ถูกยิงหลายตำาแหน่ง เสียชีวิตที่รพ.
52. นายเกรียงไกร เลื่อนไธสง, 25 ถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตที่รพ.
53. นายประจวบ ประจวบสุข, 42 เสียชีวิตที่เจริญกรุงประชารักษ์
54. นายเกียรติคุณ ฉัตรวีระสกุล, 25 ถูกยิงที่หน้าอกซ้าย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
55. นายวงศกร แปลงศรี, 40 ถูกยิงที่หน้าอก เลือดออกในช่องอก เสียชีวิตที่รพ.
56. นายสมชาย พระสุวรรณ,43 ถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตที่รพ.
57. นายสุพรรณ ทุมทอง, 49 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
58. นายเฉลียว ดีรื่นรัมย์, 27 ถูกยิงใต้ราวนมขวา เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
59. นายสุพจน์ ยะทิมา, 37 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
60. นานธนากร ปิยะผลดิเรก , 50 เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
61. นายสมพาน หลวงชม, 35 ถูกยิงที่ท้อง เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
62. นายมูฮัมหมัด อารี(ออง ละวิน ชาวพม่า), 40 มีแผลที่หน้าอกทะลุหลัง เสียชีวิตจุดเกิดเหตุ
63. นายธนโชติ ชุ่มเย็น, 34 บาดแผลกระสุนปืนทะลุไตซ้ายและเส้นเลือดใหญ่ เสียชีวิตจุดเกิดเหตุ
64. นายถวิล คำมูล ,38 มีแผลที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
65. นายปรัชญา แซ่โค้ว , 21 ปี บาดแผลกระสุนปืนทำลายตับ เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
66. นายนรินทร์ ศรีชมภู บาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง เสียชีวิตที่รพ.
67. น.ส.วาสินี เทพปาน เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
68. นายเยื้อน โพธิ์ทองคำ, 60 แผลที่ก้น เสียชีวิต 21 พค.53
69. นายกิตติพงษ์ สมสุข, 20 ไฟใหม้ตึกเซ็นทรัลเวิร์ล พบศพวันที่ 21 พค.2553
70. นายสมัย ทัดแก้ว, 36 71. นายรพ สุขสถิตย์
72. ชายไม่ทราบชื่อ โดนยิงขาหนีบ เสียชีวิตที่ราชปรารภ
73. ชายไม่ทราบชื่อ อายุ 14 ปี ถูกกระสุนเข้าท้องและแขน เสียชีวิตที่ซอยหมอเหล็ง
74. ชายไม่ทราบชื่อ อายุ 26 ปี เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
75. หญิงไม่ทราบชื่อ ถูกยิง เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
76. ชายไม่ทราบชื่อ มีแผลที่ศีรษะ เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
77. ชายไม่ทราบชื่อ เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก สมองช ้า จากการถูกระแทก เสียชีวิตก่อนถึง รพ.
78. นายทรงศักดิ์ ศรีหนองบัว, 33 จ. ขอนแก่น แผลที่หน้าอก
79. นายเพลิน วงษ์มา, 40 จ. อุดรธานี เสียชีวิตที่รพ.20 พค.53

นักข่าวต่างประเทศ 
80. MR.Polenchi Fadio ( นักข่าวชาวอิตาลี ) อายุ 48 ปี ถูกยิงที่หน้าอก เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ

ทหาร 
81. พลทหารณรงค์ฤทธิ สาระ เสียชีวิต จุดเกิดเหตุ (เสียชีวิตจากการปะทะที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ วันที่ 28 เมษายน 2553)
82. สต.อ.กานต์ณุพัฒน์ เลิศจันเพ็ญ อายุ 38 ปี มีบาดแผลกระสุนปืน เสียชีวิตจุดเกิดเหตุ (คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงหน้าธนาคารกรุงไทย ถนนสีลม วันที่ 7 พฤษภาคม 2553)
83. จ.ส.ต.วิทยา พรมสารี อายุ 35 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณหน้าอกด้านขวา เสียชีวิตที่รพ. (จากการปะทะที่ประตู 4 สวนลุมพินี วันที่ 8 พฤษภาคม2553)
84. จ.ส.อ.พงศ์ชลิต ทิพยานนทกาญจน์ อายุ 31 ปี ถูกยิงที่ศีรษะ เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ
85. ส.อ. อนุสิทธิ์ จันทร์แสนตอ อายุ 44 ปี เสียชีวิตในที่จุดเกิดเหตุ

รายชื่อผู้เสียชีวิต 6 คนที่วัดปทุม วันที่ 19 พฤษภาคม 2553
86. นายวิชัย มั่นแพ อายุ 28 ปี
87. นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 61 ปี
88. นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี
89. นายสุกัน ศรีรักษา อายุ 31 ปี
90. นายอัครเดช ขันแก้ว อายุ 22 ปี
91. น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี

อนึ่ง ศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมกรณี เม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) เปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2554 ว่ามีผู้เสียชีวิต 93 คน โดยเป็นผู้เสียชีวิตที่ต่างจังหวัดเพิ่มมาอีก 2 คน (ดูเพิ่มเติมศปช.แถลง 1 ปีความรุนแรง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต้นเหตุ ยอดคนตายเพิ่มเป็น 93 ยังถูกขัง 133 คน)


* * * * * * * * *
ผู้เสียชีวิตที่วัดปทุมวนาราม 19 พฤษภาคม 2553 อ้างอิงต่อจากข่าวสดออนไลน์ 2 มิถุนายน 2553
ผลตรวจ 6 ศพวัดปทุมวนาราม ถูกระดมยิงด้วยกระสุนขนาด 5.56 ม.ม. ที่ใช้กับปืนเอ็ม 16 หรือทาโวร์ เผยน้องเกด (กมนเกต อักฮาด) โดนเข้าไป 10 นัด รายงานข่าวเปิดเผยว่า สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พ.ต.อ.น.พ.พรชัย สุธีรคุณ รอง.ผบก.นต. ได้ส่งรายงานผลการชันสูตรพลิกศพของผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนาราม จำนวน 6 ศพ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ให้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน โดย ระบุผลการชันสูตรว่า ศพที่ 1 ผู้ตายชื่อ นายวิชัย มั่นแพ อายุ 61 ปี โดยระบุผู้ตายมีบาดแผลบริเวณผิวหนังทะลุบริเวณต้นแขนขวาด้านนอก บาดแผลผิวหนังทะลุต้นแขนขวา และบาดแผลบริเวณทรวงอกด้านขวา สันนิษฐานว่ากระสุนทะลุปอดขวา กะบังลม ตับ ไตขวา ขั้วยึด ลำไส้ พบเศษทองแดง 2 ชิ้น บริเวณขั้นยึดลำไส้ ทิศทางจากขวาไปซ้าย หน้าไปหลัง และบนลงล่าง ความเห็นเพิ่มเติม ถูกยิง 1 นัด ระยะเกินมือเอื้อม สาเหตุการตาย กระสุนทำลายปอดตับ

ศพที่ 2 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี มีบาดแผลผิวหนังทะลุบริเวณหลังด้านซ้าย บาด แผลผิวหนังทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้ายส่วนบน กระสุนตัดกระดูกซี่โครงด้านซ้ายซี่ที่ 3 ทะลุปอดซ้าย ทิศทางจากหลังไปหน้าแนวตรง ความเห็นเพิ่มเติม ถูกยิง 1 นัด ระยะเกินมือเอื้อม สาเหตุการตาย กระสุนทำลายปอด

ศพที่ 3 นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี พบบาดแผลฉีกขาดตื้นๆ รูวงกลมบริเวณต้นแขนซ้าย 2 แห่ง พบบาดแผลผิวหนังทะลุบริเวณทรวงอกด้านซ้าย กระสุนตัดกระดูกซี่โครงด้านหน้าซี่ที่ 2-3 กระดูกกลางอก ทะลุปอดซ้าย หัว ใจ ปอดขวา กะบังลม ตับ พบเศษทองแดงในเสื้อ เศษตะกั่วเล็กๆ ในหัวใจและปอด ทิศทางจากซ้ายไปขวา หน้าไปหลัง และบนลงล่าง สาเหตุการตาย กระสุนทำลายหัวใจ ปอด ตับ

- ถูกยิงที่หัว-หน้าทะลุหัวใจ

ศพที่ 4 นายสุกัน ศรีรักษา อายุ 31 ปี มีบาด แผลทะลุผิวหนังถึง 9 แห่ง โดยบาดแผลที่ 1 กระสุนทะลุซี่โครงซี่ที่ 2 ด้านซ้าย ทะลุปอดซ้าย ทะลุเยื่อหุ้มหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด พบโลหะคล้ายหัวกระสุนปืนหุ้มทองแดง 1 ชิ้น ค้างอยู่ที่เนื้อชายโครงด้านขวา ไม่ทะลุออกทิศ ทางจากซ้ายไปขวา บนลงล่าง หลังไปหน้าเล็กน้อย สาเหตุการตาย ปอดคั่งเลือดทั่วไป กล้ามเนื้อหัวใจฉีกขาด ตับคั่งเลือด เสียโลหิตเป็นจำนวนมาก

ศพที่ 5 นายอัครเดช ขันแก้ว อายุ 22 ปี ตรวจพบบาดแผลทะลุผิวหนังจำนวน 7 แห่ง พบรอยช้ำใต้หนังศีรษะบริเวณท้ายทอยด้านซ้าย สมองพบเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก กระ สุนทะลุกระดูกกรามด้านขวาหัก กระดูกโหนกแก้มขวาแตก พบเศษตะกั่วในช่องปากและฐานกะโหลกศีรษะ และพบเศษตะกั่วบริเวณกระดูกก้นกบ สาเหตุการตายถูกยิง 2 นัด ระยะเกินมือเอื้อม เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นนอก เนื้อสมองช้ำ จากการถูกแรงกระแทก (กระสุนทะลุช่องปาก)

- "น้องเกด"ถูกรุมยิงโหด 10 นัด

ส่วน ศพที่ 6 เป็นหญิงชื่อ น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พบว่ามีบาดแผลถูกยิงทะลุผิวหนังมากถึง 10 แห่ง โดยบาดแผลที่ 1 กระ สุนถูกเข้าที่หลังผ่านขึ้นด้านบนผ่านแนวลำคอหลังทะลุผ่านกะโหลกศีรษะซีกซ้าย ทะลุสมองน้อยและสมองใหญ่ พบชิ้นส่วนโลหะคล้ายหัวกระสุนหุ้มทองแดง 1 ชิ้น ค้างที่กะโหลกด้านขวา ทิศทางจากล่างขึ้นบน หลังไปหน้า ขวาไปซ้ายเล็กน้อย ลักษณะหมอบลงกับพื้น หน้าหันลงพื้นดิน บาดแผลที่ 2-4 ถูกยิงเข้าบริเวณอก บาดแผลที่ 5-10 ถูกยิงบริเวณแขนและขา ลักษณะถูกระดมยิง สาเหตุการตายกระสุนทะลุหลังเข้าไปทำลายสมอง ซึ่งแพทย์ผู้ตรวจยังไม่สามารถระบุได้ว่าถูกยิงจากบนลงล่างหรือไม่ แต่จากการสันนิษฐานเชื่อว่า น.ส.กมนเกดหมอบหน้าแนบพื้น ถูกระดมยิง จากด้านหลัง ซึ่งการตรวจสอบที่แน่ชัดต้องมีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาประกอบด้วย เพราะการจำลองใช้เลเซอร์มาวางแนววิถีกระสุนก็ทำไม่ได้ในกรณีนี้ เนื่องจากหัวกระสุนไปถูกกระดูกและกระดอนไปมาทำให้ร่างกายเสียหายมากจนไม่ สามารถจำลองแนวการยิงได้อย่างแน่ชัด

ส่วนการตรวจที่เกิดเหตุ กลุ่มงานตรวจอาวุธ และเครื่องกระสุนกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้รับของกลางจากผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ศพ ภายในวัดปทุมวนาราม พบเศษของลูกกระสุนปืนเล็ก (ทองแดง) ขนาด 5.56 ม.ม. จำนวน 5 ชิ้น เศษรองลูกกระสุนปืน (ทองแดง) ไม่สามารถระบุขนาดได้จำนวน 3 ชิ้น พบเศษตะกั่วทรงกลมไม่สามารถระบุได้จำนวน 3 ชิ้น ความเห็นผู้เชี่ยว ชาญ ของกลางที่พบเป็นเครื่องกระสุนปืนเล็กกล ขนาด 5.56 ม.ม.และเป็นเครื่องกระสุนแบบที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้และ เป็นกระสุนปืนที่สามารถยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ 

สำหรับผลการชันสูตรทั้ง 6 ศพที่ถูกยิงในวัดปทุมวนาราม ลงชื่อ พ.ต.อ.พิภพ ไกรวัฒนพงศ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) กลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง

* * * * * * * * *
ที่มา
สถาบัน การแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)รายงานรายชื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม นปช.ตั้งแต่ 10 เม.ย.- 19 พ.ค.2553 รวม 89 ราย บาดเจ็บ 1,855 คนข่าวสดออนไลน์ 2 มิถุนายน 2553 
ดร.บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ และ กลุ่มมรสุมชายขอบ, ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ระหว่างวันที่ 13-20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
* * * * * * * * *
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กบัญชีมือฆ่าหมู่10เมษา-19พฤษภา ใครเป็นมือสไนเปอร์ ใครเหี้ย..มสังหารหมู่วัดปทุม ใครเผาCTW? 
ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ระหว่างวันที่ 13-20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ขอสดุดีวีรชน เทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์

แฉโฉม5สมุนเหี้ย..มทีมฆ่า6ศพวัดปทุมฯ เปิดตัวเอ้คุมสังหารหมู่10เมษา-19พฤษภา ใคร?แก๊งดับเสธ.แด
รปภ.ห้างเปิดปาก19พ.ค.เสื้อแดงบริสุทธิ์ แฉทหารยึดก่อนเผา-6ศพวัดปทุม5นายสิบจำนนสารภาพยิงบทความ: 6ศพในวัดปทุมฯ..ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิดกี่ใบถึงจะพอหือ
http://redusala.blogspot.com

เช็กบัญชีมือฆ่าหมู่10เมษา-19พฤษภา ใครเป็นมือสไนเปอร์
ใครเหี้ย..มสังหารหมู่วัดปทุม ใครเผาCTW?
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการแผนกเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า "เห็นชัดๆ ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลยิงผู้ชุมนุมประท้วง ..แกนนำ นปช. ถูกตั้งข้อหาว่าก่ออาชญากรรมร้ายแรงไปแล้ว แต่ถึงแม้รัฐบาลจะให้สัญญาว่าจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงด้วย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทหาร หรือตำรวจซักนายที่ถูกดำเนินคดี"..เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลอยู่เหนือกฎหมาย "สภาพเช่นนี้เน้นให้เกิดความเข้าใจในหมู่ประชาชนไทยว่า ตาชั่งของกระบวนการยุติธรรมนั้นไม่เป็นกลาง" (รายละเอียดข่าว)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
19 พฤษภาคม 2554

1 ปี 19 พฤษภาประชาภิวัฒน์รำลึก-ในโอกาสครบรอบเหตุการณ์ 1 ปี 19 พฤษภาคม 2553 ไทยอีนิวส์นำเสนอรายงานปริทรรศน์ชุด 1 ปี 19 พฤษภาประชาภิวัฒน์รำลึก เป็นตอนๆ รายงานชิ้นนี้เป็นตอนที่ 8


BBC เสนอรายงานข่าวครบ 1 ปี 19 พฤษภา 53 ในคลิปนี้จะเห็นผู้ชุมนุมถูกยิงร่วงต่อหน้าต่อตาสหายของเขา

คดีสังหารหมู่ในกรุงเทพฯระหว่างวันที่ 10 เมษายน -19 พฤษภาคม 2553 ใครเป็นผู้รับผิดชอบต่อการควบคุมการปฏิบัติการสังหารหมู่ทั้งหมดทุกเหตุการณ์ โดยเฉพาะกรณีที่อยู่ในความสนใจของสาธารณชน คือการยิงสังหารระยะไกลเสธ.แดง การสังหารนักข่าวญี่ปุ่น รายชื่อทีมโหดสังหารหมู่ 6 ศพวัดปทุมฯเขตอภัยทาน รวมไปถึงหลักฐานที่ว่าเสื้อแดงคือผู้บริสุทธิ์ในกรณีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ที่แม้แต่ผู้บริหารสูงสุดในตระกูลจิราธิวัฒน์ก็บอกว่า ห้างCTWตกเป็นแพะรับบาปเช่นเดียวกันกับเสื้อแดง

เผยนายทหารตัวเอ้คุมสังหาร10เมษา-19พฤษภา,แก๊งฆ่าเสธ.แดง,กระชากโฉม5สมุนเหี้ย..มสังหาร6ศพวัดปทุม

กระดานสนทนาบอร์ดInternet freedom เผยแพร่ครั้งแรก 30 มกราคม 2554 ได้เปิดเผยเอกสารรายชื่อทหาร-หน่วยงานที่ได้รับคำสั่งเข้าสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง พร้อมพื้นที่ปฏิบัติการ และเหยื่อสังหาร ซึ่งรวมทั้งเสธ.แดง พลตรีขัติยะ สวัสดิผล ดังต่อไปนี้

1.)พล.ม.2รอ.กับเหยื่อสังหารนักข่าวญี่ปุ่นและเหยื่อ10เมษาฯ

เอกสารแผ่นแรกเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต 19 รายรวมทั้งนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ในเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553
พล.ม.2รอ.มีชื่อเต็มๆว่า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
ปัจจุบันนี้มีพล.ต. สุรศักดิ์ บุญศิริ เป็น ผบ.พล.ม.2 รอ.

พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้รับผิดชอบเหตุการณ์แยกคอกวัว เคยไล่เสธ.แดงออกจากกองทัพมาแล้ว

พ.อ.ธรรมนูญ วิถี ผู้รับผิดชอบบริเวณถนนดินสอ ที่นักข่าวญี่ปุ่นเสียชีวิต และนายวสันต์ ภู่ทอง ถูกยิงกระโหลกเปิด แต่พ.อ.ธรรมนูญก็บาดเจ็บจากการนี้ ซึ่งได้รับพรระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จทรงเยี่ยมอาการบาดเจ็บด้วย(ภาพข่าว:เดลินิวส์)

2.)พล.ม.2รอ.,พล.1รอ.และพล.ร.9กับ10เมษาและกรณีสังหารพลทหารณรงค์ฤทธิ์


เอกสารแผ่นทื่2เปิดเผยถึงเหตุการณ์เหยื่อสังหาร10เมษาอีกรายบริเวณสะพานมัฆวานฯมีพล.1รอ.รับผิดชอบ,เหตุการณ์ระเบิดที่สีลม22เม.ย.และเหตุการณ์เสื้อแดงเคลื่อนไปตลาดไทย เป็นเหตุให้พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ เสียชีวิต เวลานั้นสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วยกันยิง

พล.1รอ.ย่อมาจาก กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ ส่วนพล ร.9 ย่อมาจาก กองพลทหารราบที่ 9 กาญจนบุรี

3.)พล.ม.2รอ.กับการตายของตำรวจและเหยื่อ


เอกสารแผ่นที่3กล่าวถึงการเสียชีวิตของตำรวจ 2 นาย ผู้ชุมนุม 1 ราย คือนายชาติชาย ซาเหลา

โดยมีพล.ม.2รอ.รับผิดชอบภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี

4.)สังหารเสธ.แดงและ6ศพวัดปทุม-พล.ม.2รอ.,พล.1รอ.,ร.31พัน2รอ.และกองพันรบพิเศษที่1 กรมทหารรบพิเศษที่3(ลพบุรี)


เอกสารแผ่นที่4กล่าวถึงการสังหารเหยื่อในวันที่ 15 พ.ค.บริเวณซอยงามดูพลี,แยกบ่อนไก่,ซอยสุวรรณสวัสดิ์ มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ

มีพล.ม.2รอ.ใต้บังคับบัญชาของ พ.อ.เพชรพรม โพธิ์ชัย รับผิดชอบ

เอกสารแผ่นนี้กล่าวถึงการสังหาร6ศพวัดปทุมฯรวมทั้ง"น้องเกด"เหตุเกิดวันที่ 19-20พ.ค.2553 มีพล.1รอ.ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.ท.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์

ทหารกล้าฆ่า6ศพในวัดปทุมฯ?-หลังจากนายจตุพร พรหมพันธ์ ได้เปิดเผยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วถึงรายชื่อทหารที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นทีมปฏิบัติการสังหารหมู่เหยื่อ 6 ศพที่ลี้ภัยในเขตอภัยทาน วัดปทุมวนาราม เมื่อ 19 พฤษภาคม 53 ล่าสุดมีการเปิดเผยโฉมหน้าและประวัติทีมงานที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวทางอินเตอร์เน็ต (คลิ้กที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)
นศล.ภายใต้บังคับบัญชาของ พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ คำภีระ 

และรบพิเศษที่3ลพบุรี มีพ.ต.นิมิต วีระพงศ์ กับจสอ.สมยศ ร่มจำปา(ในภาพ) เป็นผู้บังคับบัญชา

เอกสารแผ่นนี้ยังกล่าวถึงการยิงสังหารเสธ.แดงในระยะไกลด้วยว่ามีพล.ม.2รอ.ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.ต.สุรพงษ์ กาญจนโพธิ์ พ.ต.ณัฐพล บุญกระพือ ร.อ.จิรจำนง โกษาวัง(ในภาพ) และร.อ.ศันศนะ เพ็ชรสุข

5.)พล.ม.2รอ.กับเหตุการณ์สังหาร14-17เมษายน

เอกสารแผ่นนี้กล่าวถึงเหตุการณ์สังหารที่บริเวณถนนวิทยุ,สนามมวยลุมพินี,ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่,ซอยปลูกจิต,สวนลุมพินี,แยกศาลาแดงระหว่างวันที่ 14-17พ.ค.2553 นอกจากพ.อ.เพชรพนม โพธิ์ชัยแล้ว มีพ.ท.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ และพ.ท.วิฑูร โพธิ์ร่มรื่น เป็นผู้บังคับบัญชา

6.)พล.ม.2รอ.


เอกสารแผ่นนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ระหว่างวันที่15-19พฤษภาคม ซึ่งเป็นเหตุให้ช่างภาพชาวอิตาลีเสียชีวิต พร้อมผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเหยื่อสังหารอีก 7 ราย อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพล.ม.2

เหตุการณ์นี้มีผู้บังคับบัญชาคือพ.อ.ถนัดพล โกษยเสวี , พ.อ.ไตรเทพ ศรีพันธุ์วงศ์ ,พ.ท.ฉัตรชัย ดวงรัตน์,พ.อ.เพชรพนม โพธิ์ชัย

7.)พล.ม.2รอ.กับเหตุสลายม็อบราชประสงค์


เอกสารแผ่นสุดท้านนี้เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต1ราย โดยกองพลทหารม้าที่2รักษาพระองค์เป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากพ.อ.ไตรเทพแล้วมีพ.อ.ธัชพล เปี่ยมวุฒิ เป็นผู้บังคับบัญชา (บุคคลในภาพ)

เทือกทำหล่นเปิดโฉม2มือสไนเปอร์สังหารเสื้อแดง



เทือกทำหล่น-ภาพสไลด์ที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำไปประกอบการชี้แจงและกล่าวหาเสื้อแดงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเผอเรอทิ้งไว้ ระบุว่ามือสไนเปอร์ คือ ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และมือชี้เป้าคือ ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด กำลังสังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างมันมือ ต่อมา 1 ใน 2 คนนี้ยังไปเขียนข้อความในเว็บบอร์ดของนายสิบทหารบกประกาศว่าตนคือทีมสไนเปอร์ ราวกับเป็นวีรกรรม

กระดานสนทนาการเมือง Internet Freedomได้เปิดเผยภาพถ่ายสไลด์ที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นำไปประกอบการชี้แจงและกล่าวหาเสื้อแดงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและเผอเรอทิ้งไว้ ระบุว่า มือสไนเปอร์ คือ ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และมือชี้เป้าคือ ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด ขณะกำลังสังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างมันมือ



คลิปวิดิโอ-มือสไนเปอร์(ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ) และมือชี้เป้า (ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด)กำลังสังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างมันมือ




หลักฐาน-สไลด์ที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำไปประกอบการชี้แจงกล่าวหาเสื้อแดงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและเผอเรอทิ้งไว้ แต่ในภาพกลางนั้นระบุวันที่ 15 เมษายน ความจริงเป็น 15 พฤษภาคม


วีรกรรม?-ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด (โอ๊ต)ไปโพสต์ข้อความในเวบบอร์ดของนายสิบรุ่นเดียวกันยอมรับว่า ตัวเองคือบุคคลในคลิป ศอฉ.ที่ชุมชนบ่อนไก่ด้วยความภาคภูมิใจ


ข้อมูลจำเพาะมือสไนเปอร์-ข้อมูลจำเพาะของส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ มือสไนเปอร์ที่สังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างเลือดเย็น


กระดานสนทนาIFระบุว่า จากการสืบค้นพบว่า มือสไนเปอร์คือ ส.อ. ศฤงคาร ทวีชีพ สังกัด ม.พัน ๕ รอ. เลขที่บัตรประชาชน 3189900095166 วันเกิด 4 กันยายน 2524 โทรมือถือ             086-7643501 begin_of_the_skype_highlighting            086-7643501      end_of_the_skype_highlighting       ที่อยู่ 196 พหลโยธิน, ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี 18000

ส่วนส.อ. คชารัตน์ เนียมรอด (โอ๊ต)มีเบอร์อีเมล์ kacharat_746@hotmail.com เฟซบุ๊คhttp://www.facebook.com/profile.php?id=100001606870309

อย่างไรก็ตามการนำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อของไทยอีนิวส์ ไม่มีความประสงค์ให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพียงแต่ต้องการให้เป็นข้อมูลต่อDSI เนื่องจากหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปนาน 9 เดือน ยังไม่มีหลักฐานใดชี้ว่าDSIได้ดำเนินคดีต่อบุคคลทั้งสอง


ทะเหี้ย-มรับครึ่งเดียวสังหารหมู่วัดปทุม เปิดปากส่องจากรางBTSสู้ชุดดำ หมอพรทิพย์สวนเหยื่อมือเปล่า





*คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ(คอป.) ชุดนายสมชาย หอมละออ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้การ ทั้งญาติผู้ตาย ตัวแทนผู้สื่อข่าวภาคสนาม แพทย์ผู้ชันสูตรพลิกศพ และตัวแทนทหาร

นายอิสรนันท์ อิทธิสารนัย ผู้สื่อข่าวไทยรัฐภาคสนาม กล่าวให้ข้อมูลกับคอป.ว่า มีการยิงลงมาในแนวดิ่ง และเห็นเงาของคนอยู่บนรางรถไฟฟ้าหน้าวัดปทุมวนาราม และไม่พบว่าคนเสื้อแดงยิงตอบโต้แต่อย่างใด

แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนนันท์ ผู้ชันสตรพลิกศพ 6 ศพวัดปทุมฯกล่าวว่าจากการชันสูตรไม่พบเขม่าดินปืนในมือหรือตัวผู้ตาย จึงเป็นหลักฐานว่าผู้ตายไม่ได้ใช้อาวุธยิงต่อสู้กับทหาร

ขณะที่ญาติของนางสาวกมลเกด อัคฮาด ถามตัวแทนทหารว่าให้ตอบว่ามีทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้าBTSจริงหรือไม่ และการเปิดเผยสำนวนของDSIในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของนายจตุพร พรหมพันธุ์นั้นเป็นความจริงหรือไม่

ขณะที่ตัวแทนจากกองทัพ กล่าวว่า มีชายชุดดำยิงใส่ทหารบนภาคพื้น ทำให้ทหารบนรางรถไฟฟ้ายิงสวนเป็นการเตือน แต่ไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการยิงของทหารแต่อย่างใด

ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลล่าสุดกรณี 6 ศพวัดปทุมฯว่า เมื่อแกนนำเสื้อแดงประกาศยุติการชุมนุมแล้ว ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งได้ย้ายเข้าไปในเขตวัดปทุมวนาราม แต่เหตุที่เกิดขึ้นก็เนื่องจากว่ามีผู้ก่อการร้ายแฝงเข้าไปอยู่ในวัดด้วย พร้อมทั้งระบุว่าผู้ตายในวัดปทุมมีเพียง3 ศพ ไม่ใช่ 6 ศพ

*******
CTWย้ำแดงบริสุทธิ์ เป็นแพะรับบาปเหมือนเสื้อแดง แฉห้างถูกแก๊งอาวุธหนักเผา สอดรับปากคำรปภ.+หลักฐานภาพชุด อุบมีVDOทีเด็ด



สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล :ไม่รู้ว่าใครเผา ถ้ารู้ว่าใครเผาก็ไม่รู้อีกว่าใครสั่งเผาอีก ถามว่าเรากลัวเสื้อแดงไหม เราไม่กลัว มีความเสี่ยงเดียวกับเสื้อแดงคือหากรัฐบาลยังคุยไม่รู้เรื่อง เขาก็ถือโอกาสหา แพะรับบาป เราไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อแดงเลย เรากับเสื้อแดงก็รักกันดี

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ BizWeek 

หมายเหตุไทยอีนิวส์:เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ให้ข้อมูล ว่า การพยายามลอบเผาห้าง ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุม และตลอดเวลาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าว ผู้ชุมนุมก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีกับทางห้าง มีคนกลุ่มหนึ่งพยายามเผามาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยป้องกันเหตุจำนวนหลายร้อยคน

หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว พร้อมกับถืออาวุธครบมือเข้ามาภายในเซ็นทรัลเวิลด์ จนสามารถบีบให้หน่วยรักษาความปลอดภัยยอมจำนน และสามารถเผาได้สำเร็จ

เรื่องนี้สอดคล้องกับที่นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล ให้สัมภาษณ์ไว้หลังเหตุเผาห้างไม่ถึง 2 เดือน เราจึงนำมานำเสนอให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณาอีกครั้ง


นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดใจกับหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ BizWeek เมื่อ 12กรกฎาคม 2553 หรือเกือบ 2 เดือนให้หลังการเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (CTW) มีความน่าสนใจดังต่อไปนี้

เขาเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่า ยังไม่หนักที่สุดที่เคยเจอ เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ไฟไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม เมื่อปลายปี 2538 ซึ่งตอนนั้นต้องถือว่า "หนักที่สุด" แล้ว

ทว่า เหตุการณ์นี้ถือว่า “ตื่นเต้นที่สุด”

“ที่บอกว่าตื่นเต้นที่สุด เพราะไม่รู้ว่าพอเกิดขึ้นแล้วจะเกิดอะไรต่อไม่รู้ว่าใครเผา ถ้ารู้ว่าใครเผาก็ไม่รู้อีกว่าใครสั่งเผาอีก อย่างเซ็นทรัลชิดลมไฟไหม้เราก็รู้ว่าไหม้เพราะอะไร ไหม้หมดเลยต้องปิดร้านไปเป็นปีเสียหายมาก แต่โอเคก็ได้เงินประกันมาพอสมควรถึงแม้จะไม่คุ้ม กับธุรกิจที่ต้องหยุดชะงัก ต้องเริ่มใหม่”


“ถามว่าเรากลัวเสื้อแดงไหม เราไม่กลัว มีความเสี่ยงเดียวกับเสื้อแดงคือหากรัฐบาลยังคุยไม่รู้เรื่อง เขาก็ถือโอกาสหา แพะรับบาป เราไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อแดงเลย เรากับเสื้อแดงก็รักกันดี เรากับเสื้อเหลืองก็รักกันได้ เราไม่มีสีเสื้อ”
เขาว่าอย่างนั้น

เขายังเข้าใจเปรียบเปรยท่าทีของรัฐในการแก้ไขปัญหาเพลิงไหม้ที่เซ็นทรัลเวิลด์ช่วงที่ผ่านมาว่า

“เหมือนเราจ่ายภาษีให้รัฐบาลไปซื้อปืน แต่เขาไม่ซื้อปืนมาใช้กับเรา เรากลับถูกคนเอาปืนมายิง เพราะเราไม่มีไลเซ่นใช้ปืน ถ้ารัฐบาลไม่ทำ ต่อไปเราก็ต้องมีปืนแทนรัฐบาล” นั่นหมายถึง การเพิ่มดีกรีของระบบรักษาความปลอดภัย


@เบื้องหลังเหตุการณ์ที่ "ตื่นเต้นที่สุด"

สุทธิธรรมเล่าว่า วันแรกที่กลุ่มคนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนมาชุมนุมประท้วงที่สี่แยกราชประสงค์ เป็นวันแรกเช่นกัน ที่ผู้บริหารกลุ่มเซ็นทรัล ไหวตัวไปตั้งศูนย์บัญชาการ หรือ "วอร์รูม" นอกพื้นที่ที่เขาไม่ขอเปิดเผยสถานที่ แต่จากการสอบถามคนในวงการค้าปลีก ระบุว่า พื้นที่บริเวณเซ็นทรัล ลาดพร้าว น่าจะเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะตั้งเป็นศูนย์บัญชาการ เพราะอยู่ใจกลางเมือง และห่างจากจุดที่มีการชุมนุมพอสมควร

"เรามีวอร์รูมตั้งแต่เดินขบวน บอกไม่ได้เป็นความลับ วอร์รูมจะมีเจ้าหน้าที่ประจำ 24 ชั่วโมง มีผู้บริหารระดับหนึ่งประจำอยู่เพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนรายงานตรงถึงผู้บริหารระดับสูงได้ทุกเมื่อ เช่น เหตุการณ์แบบนี้จะเปิดหรือปิดห้างกี่โมง วอร์รูมเราจะมี Message ถึงเราตลอดทุกสิบนาที หรือทุกครึ่งชั่วโมง แล้วแต่ความเคลื่อนไหว" สุทธิธรรม เล่าและว่า ตอนที่เกิดเหตุการณ์บอร์ดชุดเล็ก ชุดใหญ่ เรียกประชุมด่วนกันหมด


เขายังบอกว่า รู้สึกตกใจเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมย้ายมาชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ยิ่งเมื่อการชุมนุมเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้ประกอบการศูนย์การค้าขนาดใหญ่ละแวกนั้นเริ่มนั่งไม่ติด ต้องนัดรวมตัวเพื่อพูดคุยกันเป็นระยะ อาทิ สยามเซ็นเตอร์ (ชฎาทิพ จูตระกูล) สยามพารากอน (ศุภลักษณ์ อัมพุช) และ เกสร (ชาย ศรีวิกรม์) เป็นต้น

"คุณแป๋ม (ชฎาทิพ) อยากให้ผมไปประชุมที่สยาม ผมก็บอกว่า ไม่มีใครอยากไป เสี่ยง ใกล้ไป ก็บอกว่าประชุมที่ลาดพร้าวดีที่สุด ก็ประชุมกันหลายครั้งหลายครา ประชุมว่าเราต้องทำอะไรเหมือนๆ กัน และพอเลิกชุมนุมแล้วจะเป็นอย่างไร ต้องช่วยพนักงาน ช่วยผู้ที่เกิดปัญหาอย่างไร

เราไม่เคยคิดว่าจะมีการเผา เพียงคิดกลัวว่าจะมีคนบุกเข้าไปขโมยของ บางคนก็คิดว่า เดี๋ยวจะเลิกๆ ชุมนุม แล้ว เราเตรียมตัวกวาดถนน กวาดบ้าน ก็ไม่เลิกอีกแล้ว"

สุทธิธรรม ยังเล่าถึง วินาทีที่เห็นห้างสรรพสินค้าเซนถูกเผาว่า..

"สะเทือนใจ ทุกคนยืนน้ำตาปริบ ร้องไห้ไปหลายคน ก็เห็นแล้วตกใจ จริงๆ เป็นเหตุสุดวิสัย ทำใจว่าเราต้องสู้ต่อไป เสียหายจุดนี้ไม่เท่ากับเสียหายทั้งกลุ่ม แต่ก็ไม่ใช่จิ๊บจ๊อย ก็พอสมควร แต่พอถอยหลังแล้วต้องกลับมาสู้ต่อ เราสูญเสียลูกค้าให้คนอื่นไป เราเรียกกลับมาอย่างไร"

เขาเห็นว่า วงเงินประกันที่ทำไว้ยังไงก็ “ไม่ครอบคลุม” ความเสียหายที่เกิดขึ้น

“ยังไงก็ไม่มีทาง Cover เพราะทำประกันไว้น้อยมาก คร่าวๆ เรารู้อยู่แล้วว่าไม่พอ”

*********


มติชนออนไลน์รายงานข่าวว่า นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ 1 ในข้อกล่าวหาถอดถอนนายกรัฐมนตรีของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ระบุเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ในการป้องกันและระงับเหตุวางเพลิงเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ว่า ได้เชิญตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ ได้รับทราบว่า มีกลุ่มคนหนึ่งพยายามเผาเซ็นทรัลเวิลด์มาแล้วหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยป้องกันเหตุจำนวนหลายร้อยคน

หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว ไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน ได้เพิ่มจำนวนคนมากขึ้น พร้อมกับถืออาวุธครบมือเข้ามาภายในเซ็นทรัลเวิลด์ จนสามารถบีบให้หน่วยรักษาความปลอดภัยยอมจำนน และสามารถเผาได้สำเร็จ

"ตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ ให้ข้อมูลกับเราว่า การพยายามลอบวางเพลิง ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุม แต่เกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเข้ามอบตัวแล้ว และตลอดเวลาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าว ผู้ชุมนุมก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีกับทางห้าง โดยทางห้างได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเข้าห้องน้ำด้วย นอกจากนี้ ตัวแทนของห้างยังระบุว่า มีคลิปวีดีโอที่บันทึกภาพของกลุ่มคนที่วางเพลิงไว้ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ทางห้างยังไม่ได้ส่งมาให้ทางคณะกรรมการ" นายจิตติพจน์กล่าว

นายจิตติพจน์ กล่าวต่อว่า การประชุมคณะกรรมการฯ วันที่ 10 มีนาคม ทางคณะกรรมการฯ เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เข้าชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงจะเชิญนางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำกลุ่มนปช. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ว่าต่อจากนี้จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับวันที่ 8 ธันวาคม 2553 ได้ไปทำข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างฯถึงเหตุการณ์ข้อเท็จจริงในวันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นแน่?..

- รปภ.เซ็นทรัลเวิลด์แฉวันเผา

ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ภายหลังจากมีภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ที่แยกราชประสงค์ ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แพร่ในเฟซบุ๊ก ช่วงที่มีศอฉ.เข้าเคลียร์พื้นที่ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนเกิดไฟไหม้ขึ้น ทั้งที่ศอฉ. เข้าไปในพื้นที่แล้ว เพื่อติดตามสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

นายเอ (นามสมมติ) กล่าวว่าตนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้า สังกัดบริษัท อาร์ทีเอสการ์ด จำกัด ซึ่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์จะจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยสองแห่ง ดูแลพื้นที่ โดยมีบริษัท อาร์ทีเอสการ์ด จำกัด ดูแลพื้นที่ด้านนอก ลานจอดรถ และรอบห้างทั้งหมด ส่วนบริษัท จีโฟร์เอส การ์ด จำกัด ดูแลเฉพาะส่วนภายในอาคารทั้งหมด

ในเวลาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านหลังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงเช้าก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร แต่หลังจากเวลา 13.00 น. ได้ทราบข่าวว่าได้มีเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่นำกำลังมาบริเวณถึงหน้าถนน บริเวณสยามพารากอน จากนั้นก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ตนจึงให้รปภ.รอบบริเวณห้างลงไปอยู่ด้านล่างเพื่อความปลอดภัย โดยปิดล็อกประตูทางเข้าออกห้างทั้งหมด จนกระทั่ง เวลา 16.30 น. ได้มีกลุ่มทหารพร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาเคลียร์ในพื้นที่ห้างสั่งให้นอนหมอบกับพื้นและสั่งให้รปภ.ทุกคนติดบัตร ก่อนปล่อยตัวออกไปจากพื้นที่ ซึ่งมีรปภ.บางคนไม่มีบัตรก็ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ถูกควบคุมตัวแยกไว้

- ถูกทหารคุมตัวออกจากห้าง

นายเวียน (นามสมมติ) กล่าวว่า อยู่สังกัดรปภ.บริษัท อาร์ทีเอสการ์ด ช่วงเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ตนอยู่ประตูทางเข้าออกห้างช่วงเช้าไม่มีเหตุการณ์อะไร จนมาช่วงบ่ายสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงได้วิ่งแตกฮือกระจัดกระจายหนี เนื่องจากช่วงนั้นเริ่มมีเสียงระเบิดและปืนดังขึ้น ตนได้รับแจ้งทางวิทยุจากหัวหน้าให้ปิดประตูทางเข้าออกห้าง และให้หลบลงมาอยู่ด้านล่าง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กล้าออกมาดูด้านบนว่ามีเหุตการณ์อะไรเกิดขึ้น

จนเวลา 17.00 น. จึงออกจากพื้นที่ได้ โดยมีทหารมาควบคุมพื้นที่ห้างและสั่งให้ทุกคนติดบัตร จึงออกจากพื้นที่ได้ ส่วนภายในห้างตอนนั้นไม่มีคนเสื้อแดงหรือประชาชนหลบอยู่ในห้างแต่อย่างใด และยังไม่มีไฟไหม้

ส่วนนายเทียน (นามสมมติ) รปภ.จีไฟร์เอส การ์ด กล่าวว่าช่วงเช้าตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ชั้น 6 ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมองออกทางกระจกหน้าห้างสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงวิ่งหนีกันอลหม่าน และมีเสียงปืน เสียงระบิดดัง และได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเช่นกันแจ้งให้ลงมาอยู่ข้างล่างจนเวลา 17.00 น. จึงออกจากพื้นที่ได้

และนายพง(นามสมมติ) รปภ.บริษัทจีไฟร์เอสการ์ด กล่าวเช่นกันว่าตนอยู่ชั้น 1 ก็ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าแจ้งให้ปิดประตูห้าง จากนั้นได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิดดังถี่ขึ้นตลอด และต้องหลบลงมาอยู่ชั้นใต้ดินจนเวลา 16.00 น.ถึงออกจากพื้นที่เช่นกัน
*******
ภาพชุดที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ค

รูปที่ 1 วันที่ 19 พ.ค. 53 หลังเสื้อแดงสลายการชุมนุมราชประสงค์ ทหารคุมพื้นที่ได้หมด ในเวลา 14.26 มีคนเดินเข้ามาในห้างฯ (เป็นเจ้าของร้านค้าในเวิร์ลเทรด มาดูร้าน)

รูปที่ 2 คนที่เดินเข้ามาโดนยิงสกัดที่ขา

รูปที่ 3 มีเพื่อนเข้ามาช่วยคนโดนยิงเจ็บออกไป

รูปที่4 ขณะที่คนที่ยืนดูอยู่ก็โดนยิงไล่


รูปที่5 อยู่ข้างในไม่ได้ โดนยิงไล่ ต้องรีบออกมา


รูปที่ 6 โดนยิงด้วยลูกซองเม็ดเล็ก ไม่เจตนาฆ่า แต่ไล่ให้ออกไปจากห้าง


รูปที่7-8 ส่วนข้างนอกก็มีการยิงสกัด เพื่อไม่ให้รปภ.เข้าไปรักษาความปลอดภัยในห้างได้


รูปที่ 8เอาทหาร ศอฉ.ตรึงกำลังรอบห้างฯ

รูปที่ 9-ในที่สุดรปภ.และพนักงานต้องเดินทางออกอย่างเดียว

จะสังเกตเห็นว่ามีทหารศอฉ.ปะปนอยู่กับพนักงานห้าง(เหน็บวิทยุสื่อสารสีแดง)


รูปที่10-มียิงออกมาข้างนอก


รูปที่11 -เห็นคนยิงบนสถานีรถไฟฟ้า ทหารกระหรี่แน่ๆ ที่ยิงประชาชนได้

รูป12 -เมื่อเคลียร์หมด คนในให้ออก คนนอกห้ามเข้าแล้วก็ เผา!


รูป13-ศอฉ.ควบคุมพื้นที่ได้หมด ในระหว่างนั้น


รูปที่ 14-16-หลังเหตุการณ์เพลิงไหม้ห้าง ทหารตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในวันที่ 21 พ.ค.(ข้อสังเกตคือพวกเหน็บวิทยุสื่อสารสีแดง แบบเดียวกับตอนไล่คนออกจากห้างก่อนเผา)







รูปที่17-พบศพสุดท้าย ตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

รูปที่ 18เป็นนักศึกษาจากราษีไศล ศรีสะเกษ


****

เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-เทเวศฯยึกยักไม่จ่ายค่าประกัน3หมื่นล้านCTW ท้าอยากได้ให้ฟ้องเอา อ้างห้างโดนผู้ก่อการร้ายเผา 


ถวายพระพร-นายอนันต์ เกษเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ พร้อมผู้บริหาร บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพานดอกไม้หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และ ลงนามถวายพระพรให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ณ อาคาร 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเร็วๆนี้ (ภาพข่าว:RYT9)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
26 พฤศจิกายน 2553

เซ็นทรัลเวิลด์ส่อแววแห้วเคลมประกัน 3 หมื่นล้าน "เทเวศประกันภัย"บริษัทที่รับทำประกันชี้ฝรั่งที่เป็นบริษัทรับประกันภัยต่ออ้างเข้าข่ายก่อการร้าย แนะหากอยากได้ให้ฟ้องร้องศาลตัดสิน กินเวลานาน5-7ปี แต่ยินดีจ่ายในส่วนประกันภัยก่อการร้าย3.3พันล้าน แต่เสียหายจริงอ้างไม่เกิน2พันล้านจะจ่ายปีหน้า 

มติชนออนไลน์ รายงานว่า กรณีการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk : IAR) ให้กับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทุนประกันเกือบ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นเวิลด์ทุนประกัน 1.3 หมื่นล้านบาท และรับประกันก่อการร้ายกับห้างสรรพสินค้าเซนมูลค่า 3.3 พันล้านบาท

ขณะที่บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) รับประกันภัยก่อการร้าย ทุนประกัน 3.5 พันล้านบาท

นาย อนันต์ เกษเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ เทเวศประกันภัย กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ (รีอินชัวเรอส์) มีจุดยืนว่า ความเสียหายของเซ็นทรัลเวิลด์ เกิดจากภัยก่อการร้าย ดังนั้น เซ็นทรัลอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน เนื่องจากกรมธรรม์ประเภทนี้จะคุ้มครองภัยที่เกิดจากการโจรกรรม หรือจลาจล และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินผู้เอาประกันภัย รวมถึงความสูญเสียจากการหยุดชะงักของธุรกิจ (Business Interruption) จนทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องสูญเสียรายได้ แต่ไม่รวมภัยจากการก่อการร้าย ซึ่งมีความรุนแรงในระดับที่สูงกว่า

"ที่ บริษัทคาดว่าจะไม่คุ้มครอง เพราะรีอินชัวเรอส์เข้ามาพิสูจน์หลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดแล้วพบว่าเข้าข่ายก่อการร้ายจริงๆ โดยดูจากบริบทรอบข้าง ไม่ได้ยึดคำประกาศของรัฐบาลเป็นหลัก นอกจากนี้ ตามเงื่อนไขของประกัน IAR จะมีหมายเหตุว่า ไม่คุ้มครองภัยที่เกิดจากการก่อการร้าย เพราะเป็นภัยเฉพาะเจาะจง โดยยึดจากตัวอย่างเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2544 หรือ 9/11 ในสหรัฐอเมริกา เป็นต้นมา และเหตุการณ์นี้เขาก็สรุปว่ารุนเเรงกว่าจลาจล"นายอนันต์กล่าว

นายอนันต์กล่าวว่า หากเซ็นทรัลพัฒนาเห็นว่า น่าจะมีข้อสรุปที่ดีกว่า และยังรู้สึกสงสัยกับจุดยืนของรีอินชัวเรอส์ ประกอบกับเห็นว่าค่าเสียหายที่จะได้รับจากการประกันก่อการร้ายต่ำกว่าค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 5-6 พันล้านบาท เซ็นทรัลก็อาจนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการศาลได้ โดยให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาคดีความ ซึ่งอาจใช้เวลา 5-7 ปี ทั้งนี้ เห็นว่าทางรีอินชัวเรอส์น่าจะพร้อมชี้แจงกับผลสรุปดังกล่าว

นายอนันต์กล่าวว่า ในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซนที่ทำประกันก่อการร้ายมูลค่า 3.3 พันล้านบาท ซึ่งผลจากการประเมินความเสียหายคืบหน้าไปกว่า 95% ในเบื้องต้นพบว่า มูลค่าความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่เกินทุนประกัน โดยบริษัทจะรอข้อสรุปที่เหลือก่อนจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้า

เวบไซต์ของเทเวศประกันภัยเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้น ของบริษัทประกอบด้วย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 27,600 หุ้น คิดเป็น 0.23%
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 11,787,261 หุ้น คิดเป็น 98.227%
ผู้ถือหุ้นอื่นๆ 185,139 หุ้น คิดเป็น 1.543%

รวม 12,000,000 หุ้น คิดเป็น 100.00%


เทเวศประกันภัยระบุไว้ในเวบไซต์ว่า เป็นบริษัทของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฯ

*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-รายงานพิเศษ 1 ปี 19 พฤษภาประชาภิวัฒน์รำลึก (ตอนที่1-7)

-ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ระหว่างวันที่ 13-20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
http://redusala.blogspot.com