วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ธเนตร มอบตัวกองปราบฯ คดีนั่งรถไฟส่องโกงราชภักดิ์ ประกัน 1 หมื่น


26 ก.ค.2559 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้ เวลา 11.00 น. ธเนตร อนันตวงษ์ หรือตูน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม ถนนพหลโยธิน เนื่องจากตกเป็นผู้ต้องหาในคดีโพสต์ภาพแผนผังทุจริตก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ และสถานะคดีของธเนตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอส่งตัวให้อัยการศาลทหารเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง ภายหลังการรายงานตัวเสร็จสิ้นพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวธเนตรกลับและนัดส่งตัวให้อัยการศาลทหารในวันที่ 28 ก.ค. นี้ ที่ศาลทหาร
ธเนตร ถูกดำเนินคดีในฐานความผิดในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบที่จะเกิดขึ้นในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (3)
โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ธเนตร ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี จากคดีร่วมกิจกรรม “นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง” เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2558 ในฐานความผิดฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. 3/2558 ข้อ 12 พนักงานสอบสวนได้ให้ธเนตรประกันตัวด้วยเงินสด 10,000 บาท โดยสถานะคดีของธเนตรขณะนี้อยู่ระหว่างการรอส่งตัวให้อัยการศาลทหารเพื่อพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องอีกเช่นกัน
 คลิป ธเนตร ให้สัมภาษณ์ขณะเข้ามอบตัวที่ สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี (ที่มาFahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว)
ทั้งนี้ก่อนที่ธเนตรจะเดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานสอบสวนทั้งสองคดี ธเนตรได้หายตัวไปและไม่ไปตามนัดรายงานตัวระหว่างฝากขังครั้งที่ 2 ของศาลทหาร
"ไม่อยากหลบหนี อยากให้คดีสิ้นสุด ก็อยากให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และอยากบวชให้พ่อ จึงกลับมาสู้ในกระบวนการยุติธรรม" ธเนตร กล่าว พร้อมระบุว่าที่ผ่านมาเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัยจึงหลบหนีไป รวมทั้งกลัวถูกอุ้ม พร้อมยืนยันต่อสู้ให้ถึงที่สุดและยืนยันเจตจำนงค์ว่าตนเองไม่ผิด 

ประยุทธ์ งัด ม.44 แช่แข็ง นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ ระหว่างสอบสงสัยเอี่ยว จม.แย้งร่างรธน.


26 ก.ค.2559 เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 44/2559 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างการถูกตรวจสอบเพิ่มเติม ครั้งที่ 5 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ลงนาม
คำสั่งระบุว่า ตามที่จะมีการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค. 2559 และเจ้าหน้าที่ ได้เข้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยตามกฎหมายนั้น เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานและตรวจค้นพบว่าผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของรัฐในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบางแห่งมีการกระทําซึ่งอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จําเป็นต้องดําเนินการโดยด่วนเพื่อป้องกันหรือระงับ มิให้เป็นการทําลายความสงบเรียบร้อยหรือเกิดความเสียหายต่อราชการแผ่นดิน
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคําสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ระงับการปฏิบัติ ราชการหรือหน้าที่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงคําสั่ง โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน
ข้อ 2 ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอํานาจหน้าที่ตามกฎหมายดําเนินการตรวจสอบ หรือดําเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ในกรณีพบว่ามีผู้บริหารหรือข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้อื่นเกี่ยวข้องกับการกระทําความผิด หรือไม่พบว่าบุคคลตามข้อ 1 มีความผิด ให้หน่วยงานดังกล่าว รายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาหรือเปลี่ยนแปลงคําสั่งต่อไป
ข้อ 3 คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป สั่ง ณ วนที่ 26 ก.ค. 2559

ตระกูล 'บูรณุปกรณ์' แจงไม่เกี่ยว จม.

ขณะที่เมื่อ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าจากกรณีเจ้าหน้าที่ค้นบริษัท เชียงใหม่ทัศนาภรณ์ จำกัด ถ.เชียงใหม่-สันกำแพง ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกันกับบ้านของ วิศรุต คุณะนิติสาร อายุ 35 ปี ถูกดำเนินคดีแจกจ่ายจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญตามตู้ไปรษณีย์ในเขตพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งในบริษัทพบของกลางจำนานมากที่เกี่ยวข้องกับการบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นซองจดหมาย เครื่องปริ๊นเตอร์ คอมพิวเตอร์ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการบิดเบือนเนื้อร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น 
 
ทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนพอจะทราบเรื่องดังกล่าวอยู่บ้างจากข่าวที่ออกมา แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องขึ้นอยู่กับกฎหมายบ้านเมืองและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงผู้กระผิด ทำผิดอะไรไว้ก็รับโทษกันไปตามกฏหมาย 
 
ส่วนเรื่องการเกี่ยวข้องกับตระกูลบูรณุปกรณ์นั้น ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะต่างฝ่ายต่างทำงาน ขณะที่ทางด้านของนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ไปต่างประเทศจริง เพื่อเยี่ยมลูกสาวในต่างประเทศ ซึ่งได้แจ้งลาล่วงหน้าแล้ว ไม่ได้หลบหนีตามเสียงลือเสียงเล่าอ้าง พร้อมยืนยันความบริสุทธ์เมื่อเดินทางกลับจากต่างประเทศ

ตร.คุมตัวหลานสาว ‘พลทหารวิเชียร’ เหตุโพสต์หมิ่นประมาท น้าชายถูกซ้อมตายในค่ายทหาร

นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ (ที่มาภาพ profile ใน LINE)
จับตัวตามหมายจับหลานสาวที่เปิดโปงเรื่องการตายของน้าชาย 'พลทหารวิเชียร เผือกสม' ในค่ายนราธิวาส คาดข้อหาหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เตรียมส่งตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาที่นราธิวาส เจ้าตัวยันปฏิเสธทุกกรณี พร้อมต่อสู้คดี 
ตำรวจ สน.มักกะสัน ส่งหลานพลทหารวิเชียรฟ้องศาลนราธิวาส หลังร้องเรียนน้าเสียชีวิตในค่ายทหาร ยืนยันขอต่อสู้คดีที่ผ่านมาโพสต์ในข้อเท็จจริง และร้องเรียนผ่านช่องทางกระบวนการยุติธรรม


ภาพสกู๊ป Voice TV อ่านได้ที่นี่ 

ให้สัมภาษณ์ภายหลังทำบันทึกการจับกุมและลงบันทึกประจำวัน ที่สน.มักกะสัน
26 ก.ค. 2559 เวลา 12.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นริศราวัลถ์ แก้วนพรัตน์ อายุ 25 ปีหลานสาวของพลทหารวิเชียร เผือกสม ซึ่งถูกทำโทษจนเสียชีวิตในค่ายทหารจังหวัดนราธิวาสเมื่อปี 2554 ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน 3 นายเข้าควบคุมตัวในที่ทำงาน โดยแสดงหมายจับข้อหาหมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ทหารและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
การจับกุมเป็นไปตามหมายจับที่ 104/2559 ออกโดยศาลจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 กล่าวหาว่า "หมิ่นประมาทโดยการโฆษณาด้วยเอกสาร และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน" ทั้งนี้ ตำรวจสถานีตำรวจมักกะสันแจ้งว่า แม้หมายจับออกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่ที่เพิ่งมีการจับกุมในวันนี้เพราะตำรวจจากนราธิวาสเพิ่งติดต่อมาวันนี้
15.30 น. ขณะนี้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนริศราวัลถ์เพื่อทำบันทึกการจับกุม และเตรียมส่งตัวไปยังสภ.เมืองนราธิวาส  เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีต่อไป
นริศราวัลถ์ ซึ่งทำงานที่กรมสวัสดิการเด็กให้ข้อมูลกับทนายความว่า การเข้าควบคุมตัวครั้งนี้เป็นการเข้าจับกุมตามหมายจับ คาดว่าเกิดเหตุที่กรณีการตายของน้าชายเป็นประเด็นขึ้นมาเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2558 หลังสปริงนิวส์มาทำสกู๊ปเรื่องนี้และมีการนำเรื่องนี้ไปโพสต์ในพันทิปจนมีผู้มาวิพากษ์วิจารณ์มากมาย อย่างไรก็ตาม เธอจะปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดและสู้คดีในชั้นศาล เพราะต้องการพิสูจน์ว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง และเวลาโพสต์ไม่ได้โพสต์พาดพิงหรือเอ่ยชื่อใครเป็นการเฉพาะเจาะจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางจะเดินทางโดยรถตู้ไปกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนราธิวาส และตำรวจหญิง รวมทั้งจะมีเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรมร่วมเดินทางไปด้วย 2 คน  
พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความของนริศราวัลถ์จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้สัมภาษณ์ระหว่างลูกความทำบันทึกการจับกุมว่า ในเบื้องต้นยังไม่ทราบพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหาและยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กล่าวหาหรือกล่าวโทษ ก่อนหน้านี้นริศราวัลถ์ไม่เคยได้หมายเรียกให้ไปรายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาก่อนแต่อย่างใด ซึ่งตามกฎหมายข้อหาที่มีโทษสูงไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกก็ได้ แต่ในฐานะทนายเห็นว่ากรณีนี้ลูกความมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและพฤติการณ์ความผิดไม่ได้ร้ายแรง ควรออกหมายเรียกก่อน
พูนสุขกล่าวอีกว่า นริศราวัลถ์เรียกร้องความยุติธรรมให้น้าชายมาตลอดแต่กลับถูกกระทำหลายอย่างทั้งถูกข่มขู่ และกระทั่งถูกดำเนินคดี สิ่งที่สังคมควรต้องตอบคือ ทำไมไม่มีใครถูกฟ้องอาญาในคดีที่น้าชายของเขาเสียชีวิต นอกจากนี้วันนี้ก็ยังมีนักกิจกรรมที่ทำเรื่องการละเมิดสิทธิ 3 คนที่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่นประมาท รัฐควรตรวจสอบการละเมิดมากกว่ามาฟ้องคนตรวจสอบ
“ที่ผ่านมามีการฟ้องร้องคนที่ปกป้องสิทธิมาโดยตลอด แม้จะพิสูจน์ได้ในภายหลังว่าไม่ผิด แต่ก็เป็นภาระอย่างมากสำหรับคนทำงาน” พูนสุขกล่าว
17.20 น.นริศราวัลถ์  ออกมาจากห้องในสน.มักกะสัน หลังทำบันทึกการจับกุม ลงบันทึกประจำวันเสร็จสิ้น และให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสั้นๆ ก่อนถูกนำตัวส่ง สภ.เมืองนราธิวาส ตามหมายจับ เธอให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จะถูกแจ้งข้อหา หมิ่นประมาท และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2554 พลทหารวิเชียร วัย 26 ปีจบการศึกษาปริญญาโท คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้สมัครเข้ารับการเกณฑ์ทหารและเข้าฝึกที่หน่วยฝึกทหารใหม่ ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย.2554 เจ้าหน้าที่ทหาร 10 นาย ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายพลทหารวิเชียรโดยทรมานและกระทำทารุณโหดร้าย โดยอ้างว่าพลทหารวิเชียร เผือกสม หลบหนีการฝึก ทำให้พลทหารวิเชียร ได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้เสียชีวิตในวันที่ 5 มิถุนายน 2554 โดยสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันเดียวกันนี้ ( 26 ก.ค.) เอ็นจีโอซึ่งจัดทำและออกรายงานเรื่องการซ้อมทรมานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ต้องเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาฐานหมิ่นประมาทกับ พนักงานสอบสวน สภ.ปัตตานี ด้วยเช่นเดียวกัน โดยเหตุดังกล่าวสืบเนื่องจาก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาโดยเอกสารและความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กับ สมชาย หอมลออ, พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ และ อัญชนา หีมมิหน๊ะ จากการเผยแพร่ “รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือย่ำยีศักดิ์ศรีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ปี 2557-2558” เมื่อเดือน ก.พ. 2559