วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.เปรม เข้าเฝ้ารับสนองพระราชบัณฑูรสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ


สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงโปรดให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้า โดย พล.อ.ประยุทธ์เผยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชห่วงใยประชาชนชาวไทย ในยามที่บ้านเมืองทุกข์โศก และมีผู้ประสบอุทกภัย เผยมีพระราชปรารภอย่าให้ประชาชนสับสน กังวลใจใดๆ ในเรื่องบริหารราชการแผ่นดิน หรือแม้แต่การสืบราชสันตติวงศ์ เพราะมีรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาล จารีตประเพณี กำหนดไว้แล้ว
 
 
เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2559 เวลา 23.30 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยและสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ความว่า
 
“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ
 
เมื่อเวลาประมาณ 19 นาฬิกา ค่ำวันนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พร้อมด้วยนายกรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายรายงานข้อราชการ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่ทรงห่วงใยประชาชนชาวไทยในยามที่บ้านเมือง กำลังอยู่ระหว่างช่วงเวลาทุกข์โศก พร้อมกันนั้น ประชาชนหลายคนยังกำลังประสบปัญหาอุทกภัย ได้รับความเดือดร้อน พระราชปรารภสำคัญเรื่องหนึ่งคือ ขออย่าให้ประชาชน เกิดความสับสน หรือกังวลใจใด ๆ เกี่ยวกับราชการแผ่นดิน หรือแม้แต่การสืบราชสันตติวงศ์ เพราะเรื่องนี้มีรัฐธรรมนูญ กฎมณเฑียรบาลและจารีตประเพณีกำหนดไว้แล้ว แต่การจะดำเนินการเมื่อใด อย่างไรนั้น มีพระราชบัณฑูรว่า ช่วงเวลานี้ทุกคนทุกฝ่าย แม้แต่พระองค์ท่านเอง อยู่ระหว่างความเศร้าโศก โทมนัสอาลัย จึงควรให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้รู้สึกว่าเราผ่านพ้น หรือบรรเทาความวิปโยคอาดูรนี้ไปได้บ้างก่อนเถิด อย่าให้ความรู้สึกว่ามีความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ภายใต้ร่ม พระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกิดขึ้นกะทันหันเกินไป ทุกคนควรใช้เวลานี้ รักษาความทรงจำ อันงดงามของเหตุการณ์ 70 ปีที่ผ่านมา เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศล และพระราชพิธีพระบรมศพผ่านพ้นไปแล้วระยะหนึ่ง ก็น่าจะถึงเวลาสมควรดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้ ก็ไม่น่าจะกระทบต่อแผนงาน หรือขั้นตอนใด ๆ
 
รัฐบาลได้ปรึกษาประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้ว ขอรับสนองพระราชบัณฑูรใส่เกล้าใส่กระหม่อม จึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายทราบโดยทั่วกัน ท่านจะได้คลายความกังวลใจ และใช้เวลาในช่วงนี้ถวายสักการะ แสดงความอาลัยให้สมกับที่ท่านรู้สึก อย่างที่หลายคนให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชนว่า ชีวิตนี้เกิดมาก็อยู่ในสมัยรัชกาลที่ 9 เติบโตมาก็ในรัชกาลที่ 9 จึงยากจะทำใจว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แต่เราก็ต้องช่วยกันทำใจ พร้อมกันนี้รัฐบาลต้องขอขอบคุณ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พลเรือน ทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเข้มแข็ง อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเข้าร่วมงานพระราชพิธีสำคัญนี้ ภาพการเชิญพระบรมศพ สู่พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม เป็นที่ประทับใจไปทั่วโลก คลื่นมหาชนสองข้างถนน ตลอดระยะทางหลายกิโลเมตรเป็นพยานถึงความจงรักภักดี และเจตนารมณ์ที่จะรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างชัดเจน และเมื่อสำนักพระราชวังมีประกาศให้ประชาชนเข้าถวายสักการะได้ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม ก็ขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกเช่นนี้ต่อไป ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันดูแลความปลอดภัย สุขอนามัย และอาหารการกิน ของประชาชนที่มาถวายสักการะ
 
ผมขอขอบคุณพี่น้องบรรดาวินมอเตอร์ไซด์ที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนโดยไม่คิดค่าโดยสาร เพื่อไปถวายสักการะในการเชิญพระบรมศพ คำพูดของท่านที่ว่า "ขอทำดีเพื่อพ่อ" นั้น ผมฟังแล้วซาบซึ้งใจมาก ขอขอบคุณทุกฝ่าย ที่ช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยทั่วประเทศ ตลอดเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา และขอให้ท่านรักษาบรรยากาศเช่นนี้ตลอดไปในส่วนของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ขอให้สัญญาต่อพี่น้องทั้งหลายว่า เห็นน้ำใจของประชาชนเช่นนี้แล้ว จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ด้วยความจงรักและภักดียิ่งๆขึ้น เพื่อสืบสานพระบรมราชปณิธานตลอดไป สวัสดีครับ”

ผบ.ทบ.สั่งจนท.ชี้แจง-ระงับเหตุหลังพบสื่อโซเชียลปล่อยข้อมูลเท็จ


คสช. ตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อดูแลพื้นที่สนามหลวง พระบรมมหาราชวัง และพื้นที่โดยรอบเป็นการเฉพาะ  นสั่งจนท.ชี้แจงปชช. หลังพบสื่อโซเชียลปล่อยข้อมูลเท็จ  พร้อมกับให้เข้าดำเนินการต่อผู้ไม่หวังดีและนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนต่อไป
17 ต.ค. 2559 รายงานข่าวจาก ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก ระบุว่า ที่กองบัญชาการกองทัพบก ในการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.และ เลขาธิการ คสช. ได้ให้ความสำคัญต่อภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับงานพระราชพิธีพระบรมศพ โดยเฉพาะงานรักษาความปลอดภัยดูแลความสงบเรียบร้อย และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในทุกๆ ด้าน ซึ่ง คสช. ได้ให้การสนับสนุนงานดังกล่าวผ่านศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ของรัฐบาล และในช่วงเวลาที่ผ่านมา แม้จะอยู่ในภาวะของความโศกเศร้าเสียใจ แต่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันประคับประคองสถานการณ์ ดูแลให้ประเทศดำเนินไปอย่างสงบ  โดยไม่ปรากฏเหตุการณ์ใดๆ ที่ไม่เหมาะสม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะยังคงดำรงการดูแลความสงบเรียบร้อย เข้มงวดในมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าร่วมถวายความอาลัยตามสถานที่และตามวาระที่ทางราชการประกาศแจ้ง

รายงานข่าวระบุด้วยว่า โดยตั้งแต่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการปรับโครงสร้างของศูนย์ติดตามสถานการณ์ ในขณะที่ คสช. ได้ตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อดูแลพื้นที่สนามหลวง พระบรมมหาราชวัง และพื้นที่โดยรอบเป็นการเฉพาะ โดยมอบให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบหลัก บูรณาการและประสานกับทุกภาคส่วน เพื่อการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนอย่างเต็มที่ ซึ่ง เลขาธิการ คสช. ได้แสดงความห่วงใยในการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนจำนวนมหาศาล ที่เดินทางมาถวายความอาลัย ณ พระบรมมหาราชวัง 
ในพื้นที่สนามหลวงและพื้นที่โดยรอบ กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1 ยังคงรักษาระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ดำเนินการจัดตั้งกองอำนวยการประสานงานและบริหารจัดการพื้นที่ เข้าช่วยบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการบริหารจัดการในทุกกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังและพื้นที่สนามหลวง เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประชาชนสามารถเข้ามาร่วมถวายความอาลัยได้โดยสะดวก และผู้มีจิตอาสารวมถึงหน่วยงานต่างๆ สามารถเข้ามาจัดการให้บริการในด้านต่างๆ ตามประสงค์ ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องการจัดระเบียบการจราจรและยานพาหนะ การเปิดพื้นที่ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน การดูแลด้านสุขภาพอนามัย การจัดระบบและอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่จะนำสิ่งของมาแจกจ่ายหรือบริจาค การป้องกันการแอบอ้างหรือหลอกลวงประชาชนในเรื่องการรับบริจาค รวมถึงการเข้าไปร่วมคลี่คลายแก้ไขทุกปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้ยุติลงด้วยดี ทั้งนี้การช่วยบูรณาการในภาพรวมหวังให้เกิดความเป็นระบบ ระเบียบ มีความชัดเจนในช่องทางและการปฏิบัติของประชาชนที่จะเข้ามาร่วมถวายความอาลัยในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ในเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในช่วงที่คนไทยกำลังอยู่ในภาวะสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ยังคงมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีได้สร้างสถานการณ์และปล่อยข้อมูลอันเป็นเท็จ หวังให้ประเทศเกิดความไม่สงบเรียบร้อย เลขาธิการคสช. ได้สั่งการให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว เร่งดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบโดยทันทีในทุกช่องทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อ พร้อมกับให้เข้าดำเนินการต่อผู้ไม่หวังดีเพื่อให้ยุติการส่งข้อมูลเท็จ และนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนต่อไป

อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาเดียวกันนี้หลายพื้นที่ของประเทศยังคงประสบปัญหาอุทกภัยและประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง อาทิพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ซึ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สูงขึ้น โดยเลขาธิการคสช. ได้กำชับให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ดำรงความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง