วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คำสั่ง 29-31 เรียกรายงานตัวเพิ่ม ‘หมอเชิดชัย’โดนด้วย - 'วีรพัฒน์'แจงไม่พร้อมรายงานตัว



            29 พ.ค. 2557 เวลา 11.40 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.  ได้ออกประกาศ เรียกบุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม ฉบับที่ 30 ณ ห้อง จามจุรี สโมสรทหารบก ในวันที่ 30 พ.ค.นี้ เวลา 10.00-12.00 น.

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ 31/2557
เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่ม
          เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00-11.00 น. ดังนี้
  • 1. นายสุวิชา พานิชผล
  • 2. นางสาวสายลม กาบบัวแดง
  • 3. นายโยธิน ศรีจันทร์เทพ
  • 4. นายแพทย์สง่า คุณยศยิ่ง
  • 5. ร้อยเอกทองทศ มากสาคร
  • 6. นางมณีรัตน์ โกทันต์
  • 7. นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์
  • 8. นายปิยะบุตร พรหมลักขโณ
สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


ต่อมา คสช. เรียกบุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม ฉบับที่ 31 ณ ห้อง จามจุรี สโมสรทหารบก ในวันที่ 30 พ.ค. 2557 เวลา 10.00-11.00 น.

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ที่ 30/2557

เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม

           เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 12.00 น. ดังนี้
  • 1. นางสาวอภิรดี สุพรรณ
  • 2. นายประเสริฐ ทองนุ่น
  • 3. นายสุนทร ลิ้มภิกุล
  • 4. นายประวิทย์ ใจห้าว
  • 5. นายอาน่า วิภูสมิทธ์
  • 6. นายณรงค์ แก้วพรพงศ์
  • 7. พันตำรวจเอก (พิเศษ) พินิจ ไชยเสนีย์
  • 8. นายชัยมงคล เสน่หา
  • 9. นายอนุศักดิ์ อนุการ

สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ



           ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2557 คสช. ได้ประกาศคำสั่งที่ 29 ให้นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ ห้องจามจุรี มโมสรทหารบก เทเวศร์ วันที่ 29 พ.ค. 10.00-10.30 น.

          มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายวีรพัฒน์ ได้แถลงข่าวผ่านทางเฟซบุ๊กมาจากประเทศอังกฤษ เนื้อหาโดยสรุปว่า ก่อนเดินทางมาประเทศอังกฤษ ได้มีบุคคลไปยิงปืนใส่บ้านพักของตนเองที่ประเทศไทย เมื่อประกอบกับต้องมีภารกิจเดินทางมาบรรยายตามมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ ตนจึงไม่พร้อมจะเดินทางกลับไปยังประเทศไทยในขณะนี้ จนกว่าจะมีการจับกุมคนร้ายที่ยิงบ้านพัก เพื่อรับประกันความปลอดภัยของตนและครอบครัวให้ได้เสียก่อน

         อย่างไรก็ตาม นายวีรพัฒน์ระบุว่า พร้อมจะพูดคุยกับตัวแทนของ คสช. โดยทาง คสช. สามารถนัดแนะเวลามาได้เลย และยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทางโทรศัพท์

            ทั้งนี้ นอกจากเผยแพร่คลิปยูทูบแถลงข่าวแล้ว นักกฎหมายอิสระผู้นี้ยังเผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายที่ยิงบ้านพักของตนเองเอาไว้ได้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทางเมืองไทย ได้สืบหาเบาะแสคนร้ายกลุ่มดังกล่าวต่อไป

            ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกา นายวีรพัฒน์ ได้โพสต์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพิ่มเติมว่า
"เช้านี้ ตามเวลาประเทศไทย ผมได้โทรศัพท์ติดต่อเข้าไปยัง คสช. เพื่อแจ้งว่า ผมได้ออกเดินทางมาต่างประเทศมาตั้งแต่หลายวันก่อน และขณะนี้มีคนร้ายไม่ทราบฝ่ายได้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนคุกคามชีวิต หากเดินทางกลับประเทศไทยย่อมไม่ปลอดภัยต่อผมและครอบครัว แต่ผมมีความยินดีที่จะติดต่อสื่อสารทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายในประเด็นที่เป็นไปเพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งดำเนินการได้หลายวิธี"

          "เจ้าหน้าที่ระดับนายพลที่ดูแลรับผิดชอบ ได้แจ้งให้ทำหนังสืออธิบาย และจะนำหนังสือเรียนผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป ขณะนี้ผมอยู่ระหว่างรอนายพลท่านนั้นแจ้งช่องทางการส่งหนังสือกลับมา เพื่อผมสามารถส่งหนังสือกลับไปตามคำแนะนำ"

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ที่ 29/2557

เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม

            เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ นาย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ มารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศน์ ในวันที่ 29 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 10.30 น.

สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอกประยุทธิ์ จันทรโอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

บทวิเคราะห์: รัฐประหารแนวไซเบอร์ของไทย


BANGKOK, THAILAND - MAY 23: Thai police and army soldiers stand guard outside a military compound before former Prime Minister Yingluck Shinawatra arrives to report to Thailand's ruling military on May 23, 2014 in Bangkok, Thailand.The military summoned the entire former government and members of the politically influential Shinawatra family a day after it seized control in a bloodless coup. Thailand has seen months of unrest which has claimed at least 28 lives in political related violence. (Photo by Rufus Cox/Getty Images)


นับเป็นรัฐประหารที่มีการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์มากที่สุดในไทย สำหรับประเทศที่มีการรัฐประหารมากสุดแห่งหนึ่งในโลก กล่าวคือ 19 ครั้งนับแต่ปี 2475 รัฐประหารครั้งนี้ต้องใช้ความสามารถมากเหมือนกัน บรรดาชายในชุดเครื่องแบบพยายามปรับตัวให้ทันสมัย อาจเป็นเพราะพวกเขาได้บทเรียนจากนายเออโดกานของตุรกีที่บล็อกสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์และยูทิวส์ แต่ยังคงชนะเลือกตั้งได้ หรืออาจเป็นเพราะทหารไทยคาดการณ์ต่ำเกินไป เนื่องจากการสั่งปิดทวิตเตอร์โดยนายเบนอาลีของตูนีเซียกลับส่งผลสะท้อนในด้านลบ และยิ่งจุดชนวนให้มีการประท้วงมากขึ้น จะอย่างไรก็ดี ทหารไทยมีความคิดที่จะทำการรัฐประหารอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งบนพื้นดินและในโลกไซเบอร์
แต่ประการแรกสุด เหตุใดทหารจึงต้องยึดอำนาจ?
ทหารเห็นว่า หลังจากผ่านเหตุการณ์วุ่นวาย 7 เดือนในไทย ระหว่างกลุ่มสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล และดูท่าทางจะไม่สามารถ “ประนีประนอม” ระหว่างแกนนำทั้งสองฝ่ายได้ เป็นเหตุให้ทหารต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พวกเขาเริ่มจากประกาศกฎอัยการศึกในวันที่ 20 พฤษภาคม ตามด้วยการยึดอำนาจวันที่ 22 พฤษภาคม ปัจจุบันพลเอกประยุทธ์ทำหน้าที่ราวกับเป็นนายกฯ ชั่วคราว และได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ไป
นับเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของรัฐประหารในไทยที่ทหารใช้ประโยชน์จากสื่ออย่างมากมาย เป็นครั้งแรกที่มีการประกาศการใช้กฎอัยการศึกผ่านทวิตเตอร์ (@ArmyPR_News) และ Facebook (NCPO คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.) ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของรัฐบาลทหาร ซึ่งก็สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจาก 96% ของคนไทยที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ตต่างเล่น Facebook เมื่อ คสช.ประกาศรัฐประหาร สื่อสังคมออนไลน์จึงเป็นช่องทางเผยแพร่ที่สำคัญ
แม้จะมีข่าวลือว่าจะมีการปิดกั้นอินเตอร์เน็ตทั้งหมด แต่ทหารก็ไม่ได้ทำอย่างนั้นจริง อย่างไรก็ดี รัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม ยังคงเน้นการต่อสู้ในเชิงการควบคุมข้อมูลข่าวสาร เมื่อเปรียบเทียบกับการยึดอำนาจในปี 2549 และ 2534 ระบอบทหารในครั้งนี้ได้ใช้มาตรการรุนแรงกว่าเพื่อปิดกั้นเสรีภาพสื่อ ทำให้รัฐประหารไม่ใช่เป็นเรื่องแค่ว่า ใครควบคุมการบริหารประเทศ แต่ยังเป็นเรื่องที่ว่าใครมีอำนาจควบคุมสื่อ
แล้วการควบคุมข้อมูลข่าวสารยังทำได้ในยุคดิจิตัลหรือไม่?
สำหรับผู้นำทหาร การควบคุมสื่อแบบดั้งเดิมอย่างโทรทัศน์ วิทยุ ดาวเทียม หนังสือพิมพ์ เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่า ไม่ต้องใช้ความฉลาดมากมาย ทหารเพียงแต่ประกาศกฎอัยการศึก สื่อไทยก็รู้แล้วว่าควรทำตัวอย่างไร อย่างไรก็ดี ประเทศไทยก็ไม่ได้มีชื่อเสียงในด้านเสรีภาพของสื่อมากมายนัก ตามข้อมูลการจัดอันดับเสรีภาพสื่อขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders) ประเทศไทยอยู่ในอันดับประมาณ 130 จาก 175 ประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ใกล้เคียงกับรัฐเผด็จการอย่างซิมบับเว สื่อมวลชนของไทยคุ้นเคยกับการเซ็นเซอร์ตัวเอง และเมื่อทหารเข้ามายึดอำนาจ พวกเขารู้ตัวดีว่า ควรหลีกห่างจากการรายงานประเด็น “การเมือง”  
แต่ คสช.ไม่ต้องการให้มีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย หลังประกาศกฎอัยการศึก (ก่อนหน้าจะทำรัฐประหาร) พวกเขาได้ออกคำสั่ง 19 ฉบับ โดยมี 6 ฉบับที่มุ่งควบคุมข้อมูลข่าวสารเป็นการเฉพาะ ทหารได้สั่งปิดรายการที่ออกอากาศทางวิทยุ เคเบิ้ลทีวี สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม และสั่งให้สื่อมวลชนเผยแพร่ซ้ำรายการที่ทหารอนุญาตเท่านั้น ส่วนคนไทยถูกสั่งให้อยู่กับบ้าน แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ดูละครน้ำเน่าที่นิยมชมชอบในตอนกลางคืน เมื่อ 2-3 วันนี้เองที่มีการอนุญาตให้โทรทัศน์ 6 ช่องหลัก กลับมาเผยแพร่รายการตามปรกติได้ แต่ก็อยู่ใต้การควบคุมสอดส่องของรัฐบาลทหาร นอกจากสั่งห้ามไม่ให้รายการทีวีเผยแพร่ทัศนคติที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดในประเทศ ยังห้ามไม่ให้นำเสนอความเห็นของผู้ชม เป็นเหตุให้ผู้ชมไม่สามารถส่งข้อความสั้นหรือโทรศัพท์เข้ามาร่วมรายการได้
บทความในหนังสือพิมพ์ The Nation ตั้งคำถามกับทหารว่า จะให้ผู้อ่านคลิกไลค์ตัวอิโมติคอลได้หรือไม่ อย่างน้อยเพื่อให้ผู้อ่านสามารถแสดงอารมณ์ได้ในทางอินเตอร์เน็ต แต่ไม่มีใครรู้ว่า เส้นแบ่งที่ทำได้อยู่ที่ไหน
สื่อต่างประเทศได้รับผลกระทบเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น CNN, Fox, CCTV, CNBC และ Bloomberg              ที่ถูกระบอบทหารสั่งห้ามไม่ให้รายงานข่าว CNN ยังคงส่งข่าวผ่านทวิตเตอร์ที่ @cnni ดูเหมือนพวกเขาจะสามารถเริ่มทำงานได้ตั้งแต่ 25 พ.ค. แต่ต้องไม่รายงานข้อมูลใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความแตกแยกในไทย ทั้งไม่ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์นักวิชาการเพื่อขอความเห็นใดๆ
แต่คนไทยบางคนยืดอกยอมรับการควบคุมเซ็นเซอร์มากขึ้นได้
บริษัท True Corporation ซึ่งเป็นบริษัทเคเบิ้ลทีวียักษ์ใหญ่ของไทย จัดทำบัญชีช่องรายการที่ไม่ได้ออกอากาศสำหรับลูกค้าที่กำลังกลัดกลุ้ม เพราะพวกเขาไม่เคยมีชีวิตที่ขาดโทรทัศน์มาก่อน มีรายงานข่าวว่า คนไทยบางคนที่เริ่มเบื่อกับการฟังเพลงทหารซ้ำๆ ซากๆ ได้ร้องเรียนไปยังเว็บบอร์ดที่มีชื่อเสียงอย่าง drama-addict ขอให้ทหารเปิดเพลงป็อบสมัยใหม่บ้าง คุณ Chawada lovelove โพสต์ข้อความว่า
“เราจ่ายภาษีเป็นเงินเดือนให้ทหารมาปกป้องเราไม่ให้ได้รับอันตราย แต่พวกคุณกลับเอาสื่อของพวกเราไป เราก็ยังพอทนได้!!! แต่นี่คุณเล่นออกอากาศแต่เพลงโบราณซ้ำๆ ซากๆ เป็นเพลงที่เราไม่ได้ชอบเลย ได้โปรดเถิดท่าน กรุณาเปิดเพลงอย่างอื่นบ้างได้ไหม เราเบื่อแล้ว”
แต่การควบคุมสื่อสังคมออนไลน์ดูเหมือนจะยากกว่าที่คิด ถึงอย่างนั้นทหารยังคงพยายามและพยายามมากขึ้น ทาง คสช.ได้เรียกตัวผู้บริหารบริษัทอินเตอร์เน็ต 51 แห่งในไทยมาประชุม และ “ขอ” ความร่วมมือให้พวกเขาติดตามสอดส่องและรายงานพฤติการณ์ที่ผิดปกติทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งหมายรวมถึงการกระทำใด ๆ ที่ทำลายความสามัคคี และทำให้เกิดความไม่สงบในสังคม เป็นคำนิยามอย่างกว้างๆ มีการกำหนดให้บริษัทอินเตอร์เน็ตต้องส่งรายชื่อ URL ที่ต้องทำการบล็อกภายในหนึ่งชั่วโมงไปยังกระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ หน่วยงานตำรวจด้านอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีรายงานว่ามีการปิดกั้นเว็บไซต์กว่า 100 แห่งตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมเป็นต้นมา
การสั่งห้ามออกอากาศของสื่อระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค. ทำให้คนหันมาใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น การที่โทรทัศน์ไม่นำเสนอ “ข่าวสาร” และข้อมูลในช่วงเวลาวิกฤตหลังจากประกาศใช้กฎอัยการศึก เป็นเหตุให้ทั้งคนทั่วไปและผู้สื่อข่าวต้องหันไปหาข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์แทน
จากการวิเคราะห์โดย Google Analytics คำที่มีการเสิร์ชกันมากสุดในไทยผ่านเว็บไซต์ google.co.th (ซึ่งเป็นเว็บไซต์อันดับหนึ่งของไทย) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ 1) “Facebook” 2) “movie” 3) “music” 4) “news” และ 5) “YouTube” โดยมีคำค้นที่แพร่หลายไม่ว่าจะเป็น  “กฎอัยการศึก” “ปฏิวัติ” และ “รัฐประหาร”

ข้อมูลจาก Google Trends
คนไทยยังส่งทวิตกันมากมายโดยใช้ hashtag #รัฐประหาร (#coup) มากถึง 10,724 ครั้ง คิดเป็นจำนวนผู้ติดตามทางทวิตเตอร์เกือบ 8.9 ล้านคนระหว่างวันที่ 21-24 พฤษภาคมหลังจากมีการประกาศใช้กฎอัยการศึก

ข้อมูลจาก Keyhole
ความหวาดกลัวดูจะเพิ่มมากขึ้นทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ เนื่องจากมีการจัดทำบัญชีรายชื่อมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้สื่อข่าว นักเขียน และนักวิชาการที่จะถูกเรียกตัวให้ไปรายงานตัวกับทหาร แต่หน่วยงานสื่อเริ่มมีปฏิกิริยาเช่นกัน สมาคมสื่อ 4 แห่งได้ทำจดหมายเปิดผนึกเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม เรียกร้องให้ คสช. “ทบทวน” การเซ็นเซอร์สื่อ ในขณะที่เว็บไซต์ข่าว “ประชาไท” ซึ่งมีผู้เข้าดูจำนวนมากได้เปลี่ยนภาพพื้นของหน้าแรกเป็นสีดำ พร้อมกับข้อความว่า “วารสารศาสตร์ไม่ใช่อาชญากรรม” (ตามภาพด้านล่าง) Bangkok Post ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษหลักของไทยได้ตีพิมพ์บทความในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ต่อรัฐประหาร โดยให้ความเห็นว่า รัฐประหารครั้งนี้ “ไม่ได้เป็นทางออก” สำหรับความขัดแย้งของประเทศ

ที่มาของภาพ prachatai.com
การชักเย่อเพื่อควบคุมข้อมูลข่าวสารคงเป็นภารกิจที่ท้าทายมากสุดสำหรับรัฐบาลทหารชุดใหม่ของไทย โดยเฉพาะในแง่การควบคุมสื่อสังคมออนไลน์ ที่น่าประหลาดใจก็คือ หน้า Facebook ของ คสช.เอง เต็มไปด้วยความเห็นในเชิงลบที่บรรดาผู้ใช้ Facebook ของไทยเข้าไปเขียน


คสช.ปล่อยตัวเพิ่มเติม 31 คน รวม 'นิวัฒน์ธำรง-สุรนันทน์-สุรพงษ์-สนธิ'


            คสช.ทยอยปล่อยตัว "นิวัฒน์ธำรง - สุรนันทน์ - สุรพงษ์ - สนธิ" และอดีต ส.ส.พท.-ปชป. ออกจากสโมสร ทบ. เทเวศร์ แล้ว หลังใช้กฎอัยการศึกควบคุมตัว ขณะมีเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวการเมือง 
 
           29 พ.ค. 2557 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ปล่อยตัวบุคคลที่ถูกควบคุมตัวตามประกาศของ คสช. จำนวน 31 คน อาทิ
 
  • นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี 
  • นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
  • นายแทนคุณ จิตต์อิสระ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
  • นายโภคิน พลกุล อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
  • นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
  • นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย
  • นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
  • นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช
  • นายสันติ พร้อมพัฒน์
  • น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล
  • น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ
  • นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย
  • นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
  • นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์
  • นายอดิศร เพียงเกษ
  • นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น
  • นายชูชาติ หาญสวัสดิ์
  • นายวรชัย เหมะ
  • นายประชา ประสพดี
  • นายวรวัจน์ เอื้อภิญญกุล
  • นายปลอดประสพ สุรัสวดี
  • นายจิรายุ ห่วงทรัพย์
 
          ซึ่งก่อนที่จะปล่อยตัว เจ้าหน้าที่ได้ทำประวัติ ลงนาม บันทึกที่อยู่ และสร้างความเข้าใจร่วมกัน รวมถึงขอให้ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง
 
          ขณะที่เมื่อเวลา 15.20 น. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ "อี้" อดีต ส.ส.เขตดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางออกจากหอประชุมกองทัพบกด้วยรถตู้ โดยเปิดประตูรถทักทายผู้สื่อข่าว ขณะที่ผู้สื่อข่าวสอบถามนายแทนคุณว่า "คสช. ปล่อยตัวแล้วขึ้นศาลที่ไหนรึเปล่าคะ" นายแทนคุณตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มว่า "กลับบ้านเลยครับ"
 

คสช.เรียกทูตประจำอังกฤษกลับมารายงานตัวด่วน



คสช. มีคำสั่งให้ ปสันน์ เทพรักษ์ เอกอัครราชทูตประจำกรุงลอนดอน กลับมารายงานตัวต่อ คสช. ที่กระทรวงการต่างประเทศ
นายปสันน์ เทพรักษ์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน (ที่มา: thaiembassyuk)
29 พ.ค. 2557 - เมื่อเวลา 15.30 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้นายปสันน์ เทพรักษ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กลับมารายงานตัวด่วนต่อ คสช. ที่กระทรวงการต่างประเทศ

บก.ลายจุด โวย! มีทหารไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียน



  
29 พ.ค.57 สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย ทวิตผ่านทวิตเตอร์ @nuling ระบุว่า มีทหารไปรอรับลูกสาวที่โรงเรียนในจังหวัดเชียงราย โดยในทวิตดังกล่าวยังได้เรียกร้องไปทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ โดยระบุว่า "ชายชาติทหารไม่ควรทำแบบนี้" 
 

ฝากขัง 'จ่าประสิทธิ์′ คดีหมิ่นเบื้องสูง ค้านประกัน



ตำรวจนครบาลโชคชัยคุมตัว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ฝากขังผัดแรก ต่อศาลอาญาพร้อมคัดค้านการประกันตัวในคดีความผิด มาตรา 112 คดีเกิดก่อน คสช.คุมอำนาจการบริหารราชการ ไม่ต้องขึ้นศาลทหาร
29 พ.ค.2557 มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อช่วงเช้า พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ควบคุมตัว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ฝากขังผัดแรก ต่อศาลอาญาพร้อมคัดค้านการประกันตัวในคดีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
จากกรณีที่จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ได้พูดใน รายการหยุดล้มล้างประชาธิปไตย ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว และมีถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ซึ่งพันโทสัญชัย บูรณะสัมฤทธิ์ หัวหน้าแผนกปฏิบัติการและคุ้มครองพยาน กองกฤษฎีกา สำนักงานพระธรรมนูญทหารบก ได้แจ้งความไว้
ขณะที่ทางทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทต่อศาลเพื่อขอประกันตัว โดยอยู่ระหว่างการพิจารณา
บรรยากาศก่อนที่จ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ จะเข้าไปยังห้องพิจารณานัดชี้ ได้ล่ำลากับทางภรรยาและลูกสาวรวมถึงญาติๆ ที่เดินทางมาด้วย ซึ่งจ่าสิบตำรวจประสิทธิ์ได้โอบกอดภรรยาโดยมีสีหน้าปกติ ขณะที่ทางภรรยาและญาติได้ร่ำไห้
ด้านผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวตามหนังสือที่ ร.23 พัน 3 ได้รับมอบอำนาจในการเชิญตัวบุคคลซึ่งมีพฤติกรรมอันอาจจะก่อความไม่สงบในพื้นที่ ให้เดินทางมารายงานตัว เพื่อสร้างความเข้าใจ และทำการรับรองสถานภาพกับบุคคลดังกล่าว เพื่อผลในการรักษาความสงบเรียบร้อย โดย จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ได้เข้ามารายงานตัวที่ จทบ.ส.ร./กกล.รส.ประจำพื้นที่ จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมส่งตัวให้พ.ต.อ.ธนวัตร วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย เเละพ.ต.อ.น้ำเพชร ทรัพย์อุดม พงส.ผทค.(หน.) เพื่อดำเนินคดี

ตามหมายจับ สน.โชคชัย ที่ 912/2557 ลงวันที่ 26 พ.ค.2557 หลังจากที่มีผู้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ในความผิดฐานหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 กรณีมีการปราศรัย ในรายการ หยุดล้มล้างประชาธิปไตย ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ผ่านมา
     
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีรายชื่อจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้เข้ารายงานตัว ตนจึงตัดสินใจเข้ารายงานตัวกับทหารที่ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาจึงถูกส่งตัวมาควบคุมที่ค่ายทหารใน จ.นครราชสีมา เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะถูกส่งตัวไปควบคุมต่อที่ จ.สุรินทร์ จากนั้นถูกควบคุมตัวเพื่อมาส่งให้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดี ตามที่มีหมายจับอยู่
จ.ส.ต.ประสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่า ส่วนตัวไม่มีความคิดหมิ่นสถาบันฯ แต่อย่างใด เนื่องจากตนรับราชการตำรวจมากว่า 20 ปี และอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร สำหรับเรื่องการประกันตัวขอสู้คดีนั้น ตนได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินและเงินสด รวมกว่า 1 ล้านบาท เพื่อยื่นต่อศาลแล้ว ซึ่งตนอยากขอความเมตตาจากศาล เพื่อให้พิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวในการต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางครอบครัวของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ที่สน.โชคชัย ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ จ.ส.ต.ประสิทธิ์พิมพ์ลายนิ้วมือ รวบทั้งรวบรวมเอกสารส่งตัว ก่อนนำตัว จ.ส.ต.ประสิทธิ์ขึ้นรถตู้ เพื่อส่งฝากขังต่อไป
ทั้งนี้ คดีของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ เกิดก่อนที่ คสช.จะเข้าควบคุมอำนาจการบริหารราชการ เป็นเหตุให้คดีของ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไม่ต้องขึ้นศาลทหารและสามารถฝากขังยังศาลอาญารัชดาได้ตามปกติ

จนท.วางกำลังเข้มอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ชาวต่างชาติถูกคุมตัวเพราะซื้อเสื้อยืด



ทหาร-ตำรวจ 8 กองร้อยวางกำลังรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปิดการจราจรทั้ง 4 ช่องทาง-ผู้ชุมนุมต้านรัฐประหารไม่มา-ขณะเดียวกันทหารควบคุมตัวชาวต่างชาติ 1 รายและคนไทย 2 ราย หลังซื้อเสื้อยืดบริเวณทางเท้าเขียนข้อความ "Peace Please"
29 พ.ค. 2557 - ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร จำนวน 8 กองร้อย วางกำลังและเดินตรวจตรารอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ รวมทั้งปิดการจราจรทั้ง 4 ช่องทาง ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่นั่งรอรถประจำทางบริเวณป้ายรถโดยสารต่างๆ ให้ออกจากพื้นที่ ทั้งนี้ในช่วงเย็นวันนี้ไม่ปรากฎผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร
อย่างไรก็ตาม ในเวลา 18.05 น. หลังจากชาวต่างชาติรายหนึ่งซื้อเสื้อที่ระบุข้อความ "Peace Please" บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไป พร้อมกับสุภาพสตรีอีก 2 ราย จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่านำตัวไปสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต
ล่าสุดในเวลา 18.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารเปิดการจราจรที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้ว
ตำรวจหารือศูนย์การทหารม้ารับมือผู้ชุมนุมต่อต้านที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
อนึ่ง ไทยพีบีเอส รายงานว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ประชุมร่วมกับ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน รองเสนาธิการศูนย์การทหารม้า เพื่อหารือถึงสถานการณ์การชุมนุมต่อต้านการควบคุมอำนาจการปกครอง ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าเจ้าหน้าที่จะมีความเข้มงวดเด็ดขาดในการบังคับใช้กฎหมาย หากมีการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความรุนแรง
ในข่าวระบุว่า การข่าวของทหารอ้างว่าการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีผู้อยู่เบื้องหลัง ในรายงานของไทยพีบีเอสยังระบุว่าหากมีทหารและตำรวจได้รับบาดเจ็บจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ พร้อมกับเตือนไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมชุมนุมเพื่อความปลอดภัย โดยตำรวจและทหารจะใช้กำลังประมาณ 8 กองร้อย เพื่อดูแลสถานการณ์การชุมนุม

"วีรพัฒน์" นักกฎหมายอิสระ เผยมือปืนบุกยิงบ้าน - พร้อมพูดคุยกับ "คสช." แต่ขอเดินสายตปท.ก่อน










           คสช.มีคำสั่งเรียก "วีรพัฒน์ ปริยวงศ์" นักกฎหมายอิสระ  เข้ารายงานตัว


            วันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะคสช. มีคำสั่งที่ 29/2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม เรียกตัวนายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ เข้ารายงานตัวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่ล่าสุดนายวีรพัฒน์อยู่ที่อังกฤษ

           ล่าสุด หลังประกาศดังกล่าวนายวีรพัฒน์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า ทุกท่านโปรดอย่าตกใจ และอย่าโทรมา จะเปลืองค่าโทรศัพท์ครับ.

           ก่อนหน้านี้ นายวีรพัฒน์ ระบุว่า -ในวันที่ 29 พ.ค. มีกำหนดการไปบรรยาย เรื่อง "เมืองไทย กับการปกครองที่ไร้กติกา" ณ มหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ , วันที่ 30 พ.ค. บรรยายที่ มหาวิทยาลัย Cambridge , วันที่ 3 มิ.ย. บรรยายที่ SOAS

          นอกจากนั้น นายวีรพัฒน์ ยังโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า "ใครกันแน่ ที่กำลังทำร้ายประเทศไทย ?" เนื้อหาระบุว่า

         มีพลเมืองดี แจ้งผมว่า คุณต่อตระกูล ยมนาค ได้เขียนข้อความหมิ่นประมาทผมทำนองว่า ผมกำลังจะไปพูดที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ในลักษณะทำร้ายประเทศไทย และมีผู้ส่งต่อข้อความจำนวนมากจนเกิดความเข้าใจผิด

          ผมขอเรียนไปยังคุณต่อตระกูล ยมนาค ว่า ผมไม่เคยและจะไม่มีวันทำร้ายประเทศไทย สิ่งที่ผมทำมาตลอด และจะทำต่อตลอดไป ก็คือ การไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาบ้านเมือง และพยายามช่วยคิดหาทางออกให้ประเทศอันเป็นที่รักของเรา ซึ่งต้องเริ่มจากการตั้งสติและทบทวนว่าปัญหาคืออะไร และเราจะแก้ปัญหานั้นได้อย่างไร

          ผมเองได้วิเคราะห์สภาพปัญหาร้ายแรงของบ้านเมืองเรามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอรัปชั่น การไร้เสถียรภาพทางการเมือง การรัฐประหารล้มรัฐธรรมนูญ ฯลฯ ว่าปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นผลจากวัฒนธรรมการเมืองการปกครองที่ไร้ความเคารพต่อกติกาทั้งสิ้น และนั่นก็คือหน้าที่ของนักกฎหมายเช่นผม ที่จะช่วยคิด วิเคราะห์ ออกแบบว่า เราจะทำให้บ้านเมืองเรามีกติกาที่ศักดิ์สิทธิ์ และเข้มแข็ง เพื่อขจัดปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น การรัฐประหารล้มรัฐธรรมนูญ และปัญหาร้ายแรงอื่น ๆ อย่างไร

          ดังนั้น เมื่อผมได้รับเชิญให้ไปแสดงความคิดเห็นที่มหาวิทยาลัยชั้นนำ เช่น Oxford Cambridge และ SOAS (รายละเอียดงานโปรดติดตามได้ที่หน้า facebook.com/verapat) ผมก็ย่อมต้องใช้โอกาสเหล่านี้ ช่วยเหลือประเทศของเราให้เต็มความสามารถเท่าที่ผมจะทำได้

           ผมเชื่อว่าคุณต่อตระกูล ยมนาค ก็คงมีความหวังดีต่อประเทศดีไม่ต่างไปจากผม เพียงแต่คุณต่อตระกูล ยมนาค อาจเข้าใจผมผิดไป หรือมีมุมมองต่างกัน และด้วยความห่วงใยประเทศประกอบกับอารมณ์ จึงได้เขียนข้อความหมิ่นประมาทผมโดยไม่ได้ให้โอกาสที่จะพูดคุยทำความเข้าใจกันเสียก่อน ทั้งที่ความจริง ผมเองก็เด็กกว่าคุณต่อตระกูลมาก หากจะวิจารณ์ชี้แนะผมย่อมยินดี แต่น่าจะรอได้รับฟังกันก่อน แล้วค่อยวิจารณ์อย่างสร้างสรรค์และมีวุฒิภาวะครับ

            แม้การกระทำของคุณต่อตระกูล ยมนาค จะเป็นความผิดอาญา แต่ในชั้นนี้ ผมยังไม่อยากใช้วิธีดำเนินคดีอาญาอะไร แต่ผมขอให้คุณต่อตระกูล ยมนาค โปรดลองเปิดใจรับฟังสิ่งที่ผมอยากช่วยคิดช่วยทำเพื่อบ้านเมืองของเรา และลบข้อความหมิ่นประมาทออกเสีย ก่อนที่ความเสียหายและความเข้าใจผิด รวมทั้งการกระทำผิดอาญาของทั้งคุณต่อตระกูล ยมนาค และผู้ที่เข้าไปเขียนข้อความเพิ่มเติมจะกระจายและยิ่งมีความผิดรุนแรงไปมากกว่านี้

           ทั้งนี้ ผมเองไม่สามารถเข้าไปอ่านและชี้แจงต่อคุณต่อตระกูล ยมนาคได้โดยตรง โดยอาจเป็นเพราะคุณต่อตระกูล ยมนาค ได้บล็อกผม ดังนั้น ผมจึงขอฝากให้พลเมืองดีทั้งหลายที่เห็นข้อความนี้ ได้โปรดช่วยไปแจ้งข้อความข้างต้นนี้ไปให้คุณต่อตระกูล ยมนาคได้ทำความเข้าใจด้วย ที่
http://www.facebook.com/Dr.Tortrakul/

          ทั้งนี้ โปรดแจ้งและทำความเข้าใจอย่างสุภาพ สร้างสรรค์ ไม่หยาบคาย และพยายามเปิดใจและให้โอกาสกันและกันด้วยครับ


วีรพัฒน์ ปริยวงศ์
รุ่งเช้า ณ ลอนดอน
28 พ.ค. 2557

เหรอ...แต่...สถานทูตสหรัฐเขาออกมาปฏิเสธแล้วนี่...




            รองโฆษกกองทัพบกเผย เผย ผบ.ทบ. สหรัฐฯโทรให้กำลังใจ "พล.อ.ประยุทธ์" แสดงความเข้าใจการทำรัฐประหาร พร้อม ยก 3 เหตุผลแจงต่างประเทศ

ที่มาโพสต์ทูเด
แต่ Pantip แจ้งว่า...

             สถานทูตสหรัฐออกมาปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องผู้บัญชาการทหารสหรัฐต่อสายหา พลเอกประยุทธ์ ที่รายงานข่าวโดยเนชั่น จริงๆ จะโทษเนชั่นก็คงไม่ได้ เพราะในเนื้อหา ระบุว่า .. Winthai claims แสดงว่าโฆษก กองทัพเองที่ ...




เมนต์กันมัน...

  • ฮาฮา ข่าวนี้ทำผมต้องหัวเราะหึหึอยู่นาน
  • สิ้นคิดจริงๆ ต้องเต้าข่าวสู้
  • เหรอ... ขรรมมาก

  • สหรัฐอาหรับเอมิเรทส์ รึเปล่า? คงโทรมาเป็นภาษาอาหรับ ท่านประยุทธ์อาจจะฟังภาษาอาหรับไม่แตกฉานก็ได้

  • กล้าเนอะ
  • อยากฟังประยุทธพูดภาษาอังกฤษ

  • What did he say? Google translate?

  • ดูคลิปที่มีคนถ่ายตอนแกคุยกับทูต ตปท อยู่ ภาษาอังกฤษแกก็โอเคน่ะ ไม่เข้าใจว่าจะใช้ล่ามทำไมให้มันขาดความต่อเนื่อง
  • อืม เหรอ
  • คนโทรนี่ชื่อแรมโบ้รึเปล่าครับท่าน พวกรักสงบสันติเหมือนกัลลลล

  • ละเมอ..ป่าว
  • ใส่กระโปรงเถอะท่านโฆษก
  • อาย หมา แมว บ้างเหอะ

  • ไอ้กันเค้าปฎิเสธแล้วว่าไม่จริง

  • พูดได้แค่แนะนำตัวเอง นอกนั้นใช้ล่ามดูจากคลิบAndrewMcgrager Mashall ในไทอีนิวส์ 27พ.ค.

  • จะไม่ให้โอเคได้ไงละครับ ภริยาท่านผู้นำเป็นถึงอาจารย์ด้านภาษาศาสตร์ อักษรศาสตร์ จุฬา เชียวนะ
  • จะพยายามเชื่อย่ะ แต่คงยากส์

  • พาดหัวข่าวแบบนี้ กระดาษทรายเบอร 0 เรียกพี่เลยนะคะ หลักๆคือเขาแสดงความห่วงใย และให้ใช้เวลาช่วงนี้ (รปห) ให้สั้นที่สุด แปลความว่ารีบๆคืนอำนาจให้ประชาชนเลยยยยยย

  • ยากเชื่อวะ...

  • ผมก็ให้กำลังใจท่านครับ อยากให้ท่านไปเกิดใหม่เร็วๆ

สถานทูตสหรัฐpantip.com

            สถานทูตสหรัฐออกมาปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องผู้บัญชาการทหารสหรัฐต่อสายหา พลเอกประยุทธ์ ที่รายงานข่าวโดยเนชั่น

            ข่าวที่ออกมาจากคณะรัฐประหารสันนิษฐานไปเลยว่าเท็จครับ เขากำลังสร้างความชอบธรรมให้แก่ตัวเอง เหมือนปี53 ที่ สรรเสิญ แก้วกำเหนิดพูดครับ
ดิฉันอยู่ที่อเมริกาไม่เห็นได้ยินข่าวที่ว่าเลย ถ้าจะติดโรคสลิ่มนะคะท่านทหารทั้งหลายอย่ามโนให้มากนะคะ

          เชื่อ ก้ โง่ คงเพราะแถลงแบบนี้ ถึงได้อยากจะปิดเฟสบุ๊ค กลัวคนเค้าจะรู้ว่าพูดไม่จริง

          เสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลาทำอะไรก็ด้าย......ที่มันใช้ปัญญามั่งสิคับ

         ท่านทหาร ท่านไม่อายเค้าเหรอ นี่มันยุค 3G/4G แล้วนะไม่ใช้ยุค 486 หรือยุค Z80 ที่ท่านเคยใช้

         ...โธ่เอ๊ย อย่างนี้นี่เล่าเค้าถึงไม่อยากให้ทหารมาปกครองปท.ไง แค่ปกป้องปท.ก็โอเคแล้ว

จากหม่อมเต่านา ถึง ประยุทธ จันโอชา



             จากหม่อมเต่านา ราชนิกุลผู้รักประชาธิปไตย ปลื้มใจจริงๆ ที่มีราชนิกุลแบบนี้ อ่านแล้วแชร์ให้เยอะๆ

               สวัสดีค่ะ พล เอก ประยุทธ จันทรโอชา...เนื่องจากเราไม่ทราบจริงๆ ว่าใครกำลังช่วยท่านคิด วิธีจัดการกับเรื่องต่างๆ ด้วยอำนาจอันมหาศาล แต่ดันไม่มีภาพการเข้าเฝ้า และลายพระปรมาภิไธยฯ รับรองในสิ่งที่ท่านประยุทธกระทำไป และยิ่งกระทำหนักข้อขึ้นทุกวันอย่างหนักหน่วง...

              ...โอเค เราสรุปของเราได้ว่าอย่างนี้นะค่ะ... ที่ท่านจับตัวนาย พานทองแท้ ไป ก็เพราะมีข่าว พ ต ท ทักษิณ และ นายกปู ประกาศจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น หรือเปล่าค่ะ??? ก็เลยจับลูกเขามาขู่แม่งเลย

              ..ต่อมา ตำรวจก็เสือกปล่อยหรือทำ นาย พานทอง...แท้ หลุดมือหายไป ท่านก็เลยโกรธ ปลด ตำรวจซะเลย...

              ต่อมา ท่านเข้าใจในแบบทหารเดิมๆ เหมือนที่นายสุเทพและผู้เฒ่ารัฐบุคคล เข้าใจและเชื่อมั่นว่า การใช้กำลังเข้าจับกุมตัวผู้ที่มาแสดงออกต่อต้านรัฐประหารไปบ้าง จะทำให้พวกเขากลัวแล้วไม่มาอีกในวันรุ่งขึ้น แต่ท่านประยุทธค่ะ ตอนนี้ทุกคนมีกล้องที่มือถือ และวิ่งถ่ายตามทุกย่างก้าวของการกระทำของทหารอยู่นะค่ะ แล้วถ้าเขากลัวทำไมยิ่งท่านจับเขาเขายิ่งออกมาเพิ่มค่ะ

          ท่านจะต้องเอาให้เขาตายไปเป็นตัวอย่างบ้าง
          เพื่อให้คนกลัวไม่ออกมาไหมค่ะ???
         เอาจริง ๆ นะค่ะ มันจะคุ้มกันไหมค่ะ???


         ... ส่วนพวกนักวิชาการ นั้น ที่เรียกตัวเขาแบบ น่ากลัว น่ากลัว จุง เบย และบางคนก็โดนจับไปเพราะเดี๋ยวเขาเอาข้อกฎหมายมาเขียนยันหน้าท่าน ที่ตัวท่านเองก็ยังผิดกฏหมายอยู่ เพราะ ยังไม่มีโปรดเกล้าฯ ไม่มีเข้าเฝ้าฯ

         ... แต่ท่าน ประยุทธ ค่ะ นักวิชาการ ที่เขาเขียนอะไรได้อีกเยอะแยะ เขาก็อยู่ต่างประเทศกัน และ นักข่าวนักเขียนต่างประเทศ และทุกคนในโลกเขาก็ยิ่งมองท่านด้วยความไม่พอใจ เรียกได้ว่าท่านดูไม่ดีมากๆ ขึ้นเรื่อยๆ และช่วยสร้างข่าวเพิ่มให้เขาเขียนได้ ทุกวัน ทุกววันนะค่ะ ก็ฝากขอบคุณท่านแทนพวกเขาด้วยค่ะ.

           ..อืมม ยิ่งเราเขียน เรายิ่งเครียดแทนท่านนะค่ะ แต่ก็นั่นแหละ ท่านก็เชื่อของท่าน ท่องของท่านให้พวกเราฟังแล้วว่า
  • "...รบกับทหารไม่มีวันชนะหรอก.." ก็ไม่รู้จะยังไงนะค่ะ ...แต่ก็อยากฝากไว้ด้วยว่า "..รบกันชะตากรรม ยังไงก็ไม่ชนะเหมือนกันค่ะ.."

         .. ยิ่งคนที่บุญไม่ถึงขั้นอำนาจที่ตัวเองใช้อำนาจทหารเอามานี่ ยังไงเขาก็รบไม่ชนะค่ะ

             ขอให้โชคดีค่ะ
            Taona Sonakul