พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. (แฟ้มภาพ/ศูนย์สื่อทำเนียบรัฐบาล)
นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เผยเตรียมหามาตรการดูแลไม่ให้ราคาผลผลิตตกต่ำ และจะหาทางระบายข้าวตามสัญญาเดิม เพราะข้าวเก็บไว้นานจะเสื่อมราคา ด้าน นบข. จะจ่ายเงินสินเชื่อชะลอการขายบวกจ่ายค่าเก็บรักษาข้าว โดยรวมข้าวหอมมะลิจะได้ตันละ 15,400 บาท ข้าวเหนียวตันละ 12,700 บาท
24 ต.ค. 2557 - เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า เมื่อเวลา 16.15 น. ณ บริเวณทางเชื่อมตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่ารัฐบาลมีความห่วงใยเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา และชาวไร่ ชาวสวน วันนี้เป็นการหารือว่าจะมีมาตรการในการดูแลเกษตรกรชาวนาอย่างไร เพื่อไม่ให้ผลผลิตราคาตกต่ำ ซึ่งในปีงบประมาณ 2558 มีหลายมาตรการด้วยกัน และกระทรวงพาณิชย์จะชี้แจงจำนวนดังกล่าว ต่อไปจะดูแลเรื่องของข้าวหอมมะลิ และให้ความสำคัญทั้งข้าวเจ้า ข้าวเหนียว เพราะเป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ทั้งนี้ ราคาตลาดทุกวันนี้ปรับเปลี่ยนไปหมด จึงต้องติดตามสถานการณ์โลกด้วย จึงจะได้เปรียบเทียบกันได้
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการระบายข้าวว่า ตอนนี้เป็นการระบายตามสัญญาเดิมที่มีอยู่ ส่วนการระบายข้าวสัญญาใหม่นั้น จะไม่มีอย่างแน่นอนจนกว่าจะมีการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือจากการรับจำนำข้าวเสร็จสิ้น ซึ่งขณะนี้ยังมีการตรวจสอบหลายอย่างที่ยังไม่เรียบร้อย เช่น การตรวจสอบดีเอ็นเอข้าว ไม่ใช่ตรวจสอบทางกายภาพอย่างเดียว ขณะนี้จำนวนข้าวแบบไม่เป็นทางการออกมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่อยากพูดตอนนี้ ขอพูดทีเดียว โดยคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อการระบายข้าวจะสรุปขึ้นมา แล้ว นบข.จะส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายดูอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับข้าวจำนวนเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในทางกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามปัญหาสำคัญที่สุดคือต้องระมัดระวังเรื่องการเสื่อมราคา เพราะข้าวเก็บไว้นานก็เป็นปัญหา ทั้งนี้ก็ต้องรอให้ฝ่ายกฎหมายยืนยันมาก่อน
ข้อมูลจากไทยรัฐออนไลน์ นางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/58 ในส่วนของข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียวของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จากเดิม ธ.ก.ส.จะจ่ายเงินสินเชื่อชะลอการขายให้ชาวนาคิดเป็น 80% ของราคาตลาด ขยับขึ้นเป็น 90% ของราคาเป้าหมาย ส่งผลให้ในส่วนของข้าวเปลือกหอมมะลิที่ราคาเป้าหมายอยู่ที่ตันละ 16,000 บาท ชาวนาจะได้รับเงินสินเชื่อเพื่อชะลอการขายตันละ 14,400 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียวราคาเป้าหมายอยู่ที่ตันละ 13,000 บาท ชาวนาจะได้รับสินเชื่อเพื่อชะลอการขายที่ตันละ 11,700 บาท รายละไม่เกินวงเงิน 300,000 บาท โดยมีเป้าหมาย 2 ล้านตัน
ขณะเดียวกันที่ประชุม นบข.ยังได้อนุมัติให้จ่ายค่าเช่าและเก็บรักษาข้าวเปลือกกับชาวนาหรือสหกรณ์ในราคาตันละ 1,000 บาท โดยมีเงื่อนไขให้เก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางไม่น้อยกว่า 30 วัน และเก็บรักษาโดยวิธีบรรจุกระสอบป่าน ดังนั้นจะส่งผลให้ชาวนาได้รับเงินค่าข้าวเพิ่มอีกตันละ 1,000 บาท รวมเป็นข้าวหอมมะลิตันละ 15,400 บาทและข้าวเหนียวตันละ 12,700 บาท ระยะเวลาเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.2557-28 ก.พ.2558
อย่างไรก็ตาม พบว่าในการเก็บเกี่ยวของเกษตรกรส่วนใหญ่จะใช้รถเกี่ยวข้าวซึ่งมีต้นทุนประมาณ 700-800 บาท แต่กรณีใช้แรงงานเกี่ยวต้นทุนไร่ละ 1,800-2,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เก็บเกี่ยวข้าวเพื่อมาเก็บในยุ้งฉางโดยใช้แรงงานที่ประชุม นบข.จึงเห็นชอบให้เกษตรกรกู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส.เพื่อใช้เป็นเงินทุนค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท เป้าหมาย 6.787 ล้านไร่ เป็นระยะเวลา 2 เดือน วงเงินสินเชื่อเฉพาะส่วนนี้รวม 13,574 ล้านบาท