ฮิวแมนไรท์วอช์ ออกแถลงการณ์ เรียกร้องทางการไทยเลิกปกปปิดความจริงกรณีสลายการชุมนุมปี 53 เผยภายใต้รัฐบาลทหาร ความยุติธรรมดูสิ้นหวัง เพราะหัวหน้า คสช. ระบุหลายครั้งว่าทหารไม่ควรถูกประณาม
6 ส.ค. 2558
BBC Thai รายงานว่า ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยเลิกปกปิดการกระทำความผิด ของทหารในช่วงที่เกิดเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 และนำตัวผู้กระทำความผิดทุกฝ่ายมาลงโทษ
ฮิวแมนไรท์วอทช์ ระบุว่าตามรายงานของสื่อไทย ทหารได้กล่าวอ้างไว้ในรายงานการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอว่า ได้ใช้กระสุนยางปราบปรามผู้ประท้วง และเคยมีการเผยแพร่คำกล่าวอ้างที่ว่ามาครั้งหนึ่งแล้วในคราวที่ดีเอสไอสอบ สวนมือปืนซุ่มยิงของทหารเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2555
แต่จากหลักฐานแน่นหนาที่มีอยู่ รวมทั้งจากการชันสูตรศพได้ข้อสรุปว่าพลเรือนเสียชีวิตจากกระสุนจริง ทั้งนี้ คาดว่าดีเอสไอจะนำเสนอผลการสอบสวนต่อสำนักงานอัยการสูงสุดในปลายเดือน ส.ค.นี้
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่าทหารใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับผู้ประท้วงและคนอื่น ๆ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีทหารคนใดได้รับผิดจากการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ของผู้ประท้วง
ฮิวแมนไรท์วอทช์ระบุว่า นับตั้งแต่เดือน มี.ค. ถึง พ.ค ปี 2553 การเผชิญหน้าทางการเมืองระหว่างแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และรัฐบาลภายใต้การนำของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขยายวงกลายเป็นความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด ตามตัวเลขของดีเอสไอ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 99 คน และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน ดีเอสไอเผยแพร่รายงานการสอบสวนเมื่อเดือน ก.ย. 2555 ชี้ว่าผู้เสียชีวิต 36 ราย เกิดจากการกระทำของฝ่ายทหาร
ทั้งนี้ ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ทหารแจ้งต่อดีเอสไอ ไม่ตรงกับข้อมูลที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ตรวจสอบพบว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตและได้ รับบาดเจ็บจำนวนมากซึ่งรวมถึงผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธ แพทย์อาสา เจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉิน นักข่าว ช่างภาพ และคนทั่วไป นั้น เป็นผลมาจากการกำหนด “เขตใช้กระสุนจริง” โดยรอบพื้นที่ประท้วงในกรุงเทพฯ ที่ทหารวางกำลังนักแม่นปืนและมือปืนซุ่มยิงเอาไว้ นอกจากนี้ คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ยังตรวจสอบพบในทำนองเดียวกันมาแล้วด้วย และได้เสนอให้ทางการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม
ฮิวแมนไรท์วอทช์ยังมีข้อมูลด้วยว่าผู้เข้าร่วมกับ นปช.บางส่วน ซึ่งรวมถึง “นักรบชุดดำ” เป็นผู้ทำร้ายทหาร ตำรวจ และพลเรือนจนเสียชีวิตเช่นกัน และแกนนำ นปช.บางคนได้ใช้ถ้อยคำยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เรียกร้องให้ผู้ชุมนุมประท้วงก่อจลาจล วางเพลิงและปล้น
แม้จะมีหลักฐาน แต่ในช่วงห้าปีที่ผ่านมารัฐบาลไทยเพิกเฉยต่อการกระทำของทหาร ในขณะที่แกนนำ นปช.และผู้สนับสนุนถูกตั้งข้อหากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรง ขณะที่ดีเอสไอเองไม่ได้ใช้ความพยายามเพียงพอที่จะตรวจสอบว่าทหารและผู้ บังคับบัญชาคนใดเป็นผู้รับผิดชอบให้เกิดการยิงขึ้น และรัฐบาลทั้งของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งถูกกดดันจากฝ่ายทหาร ต่างประกาศว่าทหารไม่ควรมีส่วนรับผิดชอบใดๆ เพราะได้กระทำการภายใต้คำสั่งของรัฐบาล
ขณะเดียวกันศาลอาญากรุงเทพใต้ ยังสั่งโอนคดีสลายการชุมนุม ที่ อภิสิทธิ์ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกยื่นฟ้อง ไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) อีก
ฮิวแมนไรท์วอทช์เห็นว่าโอกาสที่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น จะได้รับความเป็นธรรมยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นภายใต้รัฐบาลทหาร และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ได้ระบุหลายครั้งว่าทหารไม่ควรถูกประณามจากการที่มีผู้เสียชีวิตในการชุมนุมทางการเมืองปี 2553