สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน จี้ ป.ป.ช. สอบการจัดทำสติกเกอร์ไลน์ค่านิยม 12 ประการ ระบุมีราคาแพงเกินกว่าเหตุ และไม่เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีการตามกฎหมาย
หลังจากเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา สติกเกอร์ Line ค่านิยมหลัก 12 ประการ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ซึ่งจัดทำโดยกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อเป็นของขวัญให้กับประชาชนที่นิยมส่งสติกเกอร์ไลน์ได้แสดงความรู้สึกในโอกาสต่างๆ โดยราคารวมของการจัดทำสติกเกอร์ค่านิยมหลัก 12 ประการอยู่ที่ 7.1 ล้านบาท
ล่าสุด วันนี้(5 ม.ค.) เวลา 11.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี ตัวแทนจากองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นำโดย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ได้ยื่นหนังสือถึงประธานและกรรมการ ป.ป.ช. ผ่าน พ.ต.อ.อิทธิพล กิจสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบการกำหนดราคากลางในการจัดทำหรือจัดซื้อจัดจ้างการดำเนินการโครงการจัดทำสติกเกอร์ไลน์ เพื่อเผยแพร่ค่านิยมหลักคนไทย 12 ประการที่กระทรวง ไอซีทีเป็นผู้จัดทำนั้น มีราคาแพงเกินกว่าเหตุ และไม่เป็นไปตามขั้นตอนและวิธีการตามกฎหมาย
ศรีสุวรรณ กล่าวว่า ขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่า การตั้งราคากลางในการจัดทำโครงการดังกล่าวแพงเกินความเป็นจริงหรือเกินมาตรฐานการค้าทั่วไปหรือไม่ เพราะมีราคาในการดำเนินการอยู่ที่ 7.1 ล้านบาท โดยเป็นราคากลางจากบริษัท Line Company (Thailand) limited ซึ่งมี อาทิตยา สุธาธรรม, พฤฒิพงศ์ พัวศิริ, พิศิษฐ์เดช สายแสง, ชุติพันธุ์ พิมทอง และธีรยุทธ พูลรอด นักวิชาการคอมพิวเตอร์ที่เป็นผู้กำหนดราคากลาง แต่กลับไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด เหตุและผลการตั้งราคากลางดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบราคาจากบริษัทไลน์คอเปอร์เรชั่น (ประเทศไทย)จำกัด กลับมีราคาในการดำเนินการเพียง 2-3 ล้านบาทเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ และขัดกับนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงของรัฐบาล และขอให้ตรวจสอบว่ากระบวนการใช้จ่ายงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าวแพงเกินกว่าเหตุและไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่นอกจากนั้นก็ขอให้ตรวจสอบว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยจริยธรรมและการมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่เพราะในการดำเนินการมีบริษัทที่ยื่นข้อเสนอเพียงบริษัทเดียว คือบริษัททีวีพูล ที่ พันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย อดีตภรรยาของ พล.อ.นพดล อินทปัญญา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นเจ้าของ จึงมีข้อสังเกตว่าบริษัทผู้รับดำเนินการอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบุคคลในรัฐบาล
“หากตรวจสอบพบว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องหรือเข้าข่ายความผิด ขอให้ ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายของ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้ที่ดาวโหลดสติกเกอร์ไลน์ดังกล่าวด้วย เพราะถือว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา” ศรีสุวรรณ กล่าว
ข้อสังเกต/ความผิด
- 1)การจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม
- 2)การประกาศราคากลางไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่ถูกต้องเหมาะสม ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 103/7 และมาตราอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 3)มีการกำหนดราคากลางที่สูงเกินจริง โดยไม่มีเหตุผลรองรับ
- 4)มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในราคาที่สูงเกินความเป็นจริง เกินไปกว่าเอกชนทั่วไป
- 5)การจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ไม่เข้าเงื่อนไขวิธีพิเศษ ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 และแก้ไขเพิ่มเติม ไม่มีเหตุเร่งด่วน โดยเฉพาะไม่เข้าเงื่อนไขตามข้อ 24 และหรือข้อ 107 และข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- 6)บริษัทผู้รับจ้างผลิตหรือดำเนินการอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบุคคลในรัฐบาลอันเข้าข่ายความผิดตามระเบียบสำนักนายรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 ข้อ 6 (4) และข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้าน พ.ต.อ.อิทธิพล กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดได้ไม่ยาก เพราะมีราคากลางของบริษัทอยู่แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ ป.ป.ช.ก็จะขอข้อมูลการดำเนินการจากกระทรวงไอซีทีเพื่อมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้เกิดความรอบคอบ นอกจากนั้นก็จะต้องตรวจสอบต่อไปว่า นางพันธุ์ทิพามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร