กองทัพไทยแหลไม่ออก เมื่อ Joe มืออาชีพทางการทหาร.เข้ามาพิสูจน์หลักฐานการกระทำของกองทัพไทยและสรุปง่ายๆสั้นๆว่า ***

สืบเนื่องจากกระทู้
http://www.internetfreedom.us/thread-13473.html
และจาก
http://www.thaiaccountability.org/wp-con...eport1.pdf

Joe Ray Wittyได้รับการว่าจ้างจาก สนง.ของบ๊อบเพื่อประเมินว่า
ทหารได้ใช้มาตรการอะไรจัดการกับคนเสื้อแดง
โดย Joe ศึกษาอย่างกว้างขวางครอบคลุมและละเอียดถี่ถ้วน
ทั้งวีดีโอ คำให้การของพยาน และการสัมภาษณ์ด้วยตนเอง
ตลอดจนถึงการเดินทางมาสำรวจในสถานที่ชุมนุมใน กทม.
ซึ่งสามารถสรุปความเห็นซึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ 13-19 53 พ.ค.
ได้ดังนี้

กองทัพไทยได้ใช้มาตรการในการจัดการฝูงชนในลักษณะ(สู้รบ)แบบทหารซึ่ง
1. ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการฝูงชนซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน
2. ไม่เป็นไปตามกฎหรือระเบียบหรือคำสั่ง (ROE) ที่ทหารกล่าวอ้าง
(ซึ่งออกมาโฆษณาชวนเชื่อทางทีวีว่าจะใช้มาตรการอย่างละมุนละม่อม
ไม่มีการใช้อาวุธ ใช้กระสุนยาง ฯลฯ)
3. มีลักษณะเป็นการกระทำที่เป็นอาชญกรรม(ต่อเพื่อนร่วมชาติ)
โดยธรรมชาติ(อย่างแท้จริงซึ่งจะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธมิได้)
การกระทำของกองทัพไทย(ในครั้งนี้) สรุปได้ว่ามีการออกแบบ
(วางแผน) มาเพื่อฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์(ปราบปรามคนเสื้อแดง)ที่เข้าร่วมชุมนุม
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือ(เพราะ)ถูกยั่วยุ(แต่อย่างใด)

Joe ได้กล่าวต่อท้ายว่า “ ผมยินดีที่จะพิจารณาหลักฐาน(ใดๆ)ที่พิสูจน์ในสิ่งตรงข้ามกับที่
ผมพูดไว้นี้ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็นหลักฐานดังกล่าว ”

Dated: January 25, 2011
Joe Ray Witty
............

Note : ROE or rules of engagement. :
A directive issued by competent military authority that delineates
the limitations and circumstances under which forces will initiate
and prosecute combat engagement with other forces encountered.

...............
มีการนำคำศัพท์นี้มาทำเป็นภาพยนตร์
Rules of Engagement. : เรื่องย่อ
เหตุการณ์ประท้วงหน้าสถานทูตอเมริกาในเยเมนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 80 คนพันโทรเทอร์รี่
ซิลเตอร์.(แซลมวล แอล, แจ็คสัน).ผู้ รับผิดชอบในภารกิจถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร
เพื่อรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้ แต่เขากลับคิดว่าตัวเองกำลังกลายเป็นแพะรับบาปของรัฐบาล
เพื่อชื่อเสียงของประเทศ ..........
มีเพียง เฮย์ ฮอดเจล.(ทอมมี่ ลี โจนส์).เท่านั้นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา

thaiaccountability

มารู้จัก JOE RAY WITTY กันดีกว่า



JOE RAY WITTY เคยเป็นหน่วยสงครามพิเศษสหรัสอเมริกา SPECIAL FORCH (S.F.)

JOE RAY WITTY เข้าร่วมรบในสมรภูมิ เช่น อิรัก อัฟกานิสถาน ฯลฯ

JOE RAY WITTY เข้าร่วมเป็น "พยาน" ในคดี สีผิว รอลลี่คิง ใน LA

JOE RAY WITTY เข้ามาร่วมฝึก ครอปบ้าโกล ในช่วง ศตวรรษ ที่ 80 ที่ประเทศไทย
JOE RAY WITTY ร่วมฝึก อบรม ให้ทหารไทย ใช้ อาวุธ สไนเปอร์

JOE RAY WITTY หลังจากได้ลาออกจากกองทัพบก สหรัฐ ได้ถูกดึงตัวไปรวม ใน

"สำนักงานตำรวจ ลอจแองเจอริส" (LAPD) ในฐานะ

"หัวหน้าหน่วยสวาท (S.W.A.T.) " จนถึงปัจจุบันนี้

JOE RAY WITTY ร่วมแสดงภาพยนต์ S.W.A.T.



โดย "โจ" ได้เข้าร่วม เป็น "ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวัตถุระเบิด"

ในคดี ฟ้องนายอภิสิทธ์ ต่อ icc ในครั้งนี้ด้วย

ภาพโจตอนลงพื้นที่ค่ะ




Thanks: ฝากรูป





Thanks: 

thaiaccountability

 กองทัพไทยแหลไม่ออก เมื่อ Joe มืออาชีพทางการทหาร.เข้ามาพิสูจน์หลักฐานการกระทำของกองทัพไทยและสรุปง่ายๆสั้นๆว่า ***

สืบเนื่องจากกระทู้
http://www.internetfreedom.us/thread-13473.html
และจาก
http://www.thaiaccountability.org/wp-con...eport1.pdf

Joe Ray Wittyได้รับการว่าจ้างจาก สนง.ของบ๊อบเพื่อประเมินว่า
ทหารได้ใช้มาตรการอะไรจัดการกับคนเสื้อแดง
โดย Joe ศึกษาอย่างกว้างขวางครอบคลุมและละเอียดถี่ถ้วน
ทั้งวีดีโอ คำให้การของพยาน และการสัมภาษณ์ด้วยตนเอง
ตลอดจนถึงการเดินทางมาสำรวจในสถานที่ชุมนุมใน กทม.
ซึ่งสามารถสรุปความเห็นซึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อ 13-19 53 พ.ค.
ได้ดังนี้

กองทัพไทยได้ใช้มาตรการในการจัดการฝูงชนในลักษณะ(สู้รบ)แบบทหารซึ่ง
1. ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเกี่ยวกับการจัดการฝูงชนซึ่งเป็นที่ยอมรับกัน
2. ไม่เป็นไปตามกฎหรือระเบียบหรือคำสั่ง (ROE) ที่ทหารกล่าวอ้าง
(ซึ่งออกมาโฆษณาชวนเชื่อทางทีวีว่าจะใช้มาตรการอย่างละมุนละม่อม
ไม่มีการใช้อาวุธ ใช้กระสุนยาง ฯลฯ)
3. มีลักษณะเป็นการกระทำที่เป็นอาชญกรรม(ต่อเพื่อนร่วมชาติ)
โดยธรรมชาติ(อย่างแท้จริงซึ่งจะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธมิได้)
การกระทำของกองทัพไทย(ในครั้งนี้) สรุปได้ว่ามีการออกแบบ
(วางแผน) มาเพื่อฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์(ปราบปรามคนเสื้อแดง)ที่เข้าร่วมชุมนุม
โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรหรือ(เพราะ)ถูกยั่วยุ(แต่อย่างใด)

Joe ได้กล่าวต่อท้ายว่า “ ผมยินดีที่จะพิจารณาหลักฐาน(ใดๆ)ที่พิสูจน์ในสิ่งตรงข้ามกับที่
ผมพูดไว้นี้ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่เห็นหลักฐานดังกล่าว ”

Dated: January 25, 2011
Joe Ray Witty
............

Note : ROE or rules of engagement. :
A directive issued by competent military authority that delineates
the limitations and circumstances under which forces will initiate
and prosecute combat engagement with other forces encountered.

...............
มีการนำคำศัพท์นี้มาทำเป็นภาพยนตร์
Rules of Engagement. : เรื่องย่อ
เหตุการณ์ประท้วงหน้าสถานทูตอเมริกาในเยเมนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 80 คนพันโทรเทอร์รี่
ซิลเตอร์.(แซลมวล แอล, แจ็คสัน).ผู้ รับผิดชอบในภารกิจถูกนำตัวขึ้นศาลทหาร
เพื่อรับผิดชอบกับเหตุการณ์นี้ แต่เขากลับคิดว่าตัวเองกำลังกลายเป็นแพะรับบาปของรัฐบาล
เพื่อชื่อเสียงของประเทศ ..........
มีเพียง เฮย์ ฮอดเจล.(ทอมมี่ ลี โจนส์).เท่านั้นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขา

thaiaccountability
มารู้จัก JOE RAY WITTY กันดีกว่า



JOE RAY WITTY เคยเป็นหน่วยสงครามพิเศษสหรัสอเมริกา SPECIAL FORCH (S.F.)

JOE RAY WITTY เข้าร่วมรบในสมรภูมิ เช่น อิรัก อัฟกานิสถาน ฯลฯ

JOE RAY WITTY เข้าร่วมเป็น "พยาน" ในคดี สีผิว รอลลี่คิง ใน LA

JOE RAY WITTY เข้ามาร่วมฝึก ครอปบ้าโกล ในช่วง ศตวรรษ ที่ 80 ที่ประเทศไทย
JOE RAY WITTY ร่วมฝึก อบรม ให้ทหารไทย ใช้ อาวุธ สไนเปอร์

JOE RAY WITTY หลังจากได้ลาออกจากกองทัพบก สหรัฐ ได้ถูกดึงตัวไปรวม ใน

"สำนักงานตำรวจ ลอจแองเจอริส" (LAPD) ในฐานะ

"หัวหน้าหน่วยสวาท (S.W.A.T.) " จนถึงปัจจุบันนี้

JOE RAY WITTY ร่วมแสดงภาพยนต์ S.W.A.T.



โดย "โจ" ได้เข้าร่วม เป็น "ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวัตถุระเบิด"

ในคดี ฟ้องนายอภิสิทธ์ ต่อ icc ในครั้งนี้ด้วย

ภาพโจตอนลงพื้นที่ค่ะ




Thanks: ฝากรูป





Thanks: 

ตัวแทน"เอ็นบีที"แฉกลางวงประชุม คอป. รัฐบาลใช้สื่อจุดชนวนความรุนแรง "10เมษา"

ตัวแทน"เอ็นบีที"แฉกลางวงประชุม คอป. รัฐบาลใช้สื่อจุดชนวนความรุนแรง "10เมษา"

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554   เวลา  22:15:00 มติชนออนไลน์ ตัวแทน "เอ็นบีที" แฉกลางวงประชุม คอป. รัฐบาลใช้สื่อจุดชนวนความรุนแรงเหตุ 10 เมษาฯ ที่ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) มีการประชุมแสดงความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปและตรวจสอบหาความจริงจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม 2553 โดยยกกรณีเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 ในวันที่เจ้าหน้าที่ขอคืนพื้นที่ถนนราชดำเนิน จนเหตุการณ์รุนแรงลุกลามทำให้ทั้งสองฝ่าย คือ พลเรือนและทหาร เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก  ในการประชุมแสดงความคิดเห็นในครั้งนี้ ทาง คอป. ได้เชิญตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์ "เอ็บบีที" มาแสดงความคิดเห็นในฐานะสื่อที่ทำหน้าที่รายงานสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น มีรายการวิพากษ์วิจารณ์ มีการออกแถลงการณ์ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานกาณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)  และภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น นับว่าเป็นสื่อหลักที่ประชาชนคอยติดตามข่าวในช่วงเวลานั้น นายปริย นวมาลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที  ได้กล่าวในประชุมสะท้อนภาพการทำงานของสื่อเอ็นบีทีว่า รัฐบาลพยายามที่จะใช้ สื่อ คือ เอ็นบีที ไม่ว่าจะเป็นข้อความตัววิ่งหน้าจอหรือการจัดเวทีสนทนาจะต้องเชิญวิทยากรที่คิดเหมือนกับรัฐบาลมาแสดงความเห็นผ่านโทรทัศน์ โดยที่ผู้จัดไม่สามารถหาคนที่เป็นกลางหรือฝ่ายที่คิดเห็นแบบเดียวกับเสื้อแดงมาออกรายการได้ เพื่อที่จะโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมเหมือนเป็นการราดน้ำมันลงในกองไฟ ซึ่งเอ็นบีทีกลายเป็นสื่อที่จุดชนวนความรุนแรงให้เกิดขึ้น "รัฐบาลพยายามใช้องค์กรของผม ถ้าสังเกตจากตัววิ่งที่ขึ้นหน้าจอ จะเห็นว่ามีข้อความด่าคนไทยอีกกลุ่มหนึ่ง ที่คิดไม่เหมือนกับรัฐบาล ในรายการสนทนาทางผู้จัดทำรายการที่จะเชิญวิทยากรมาพูดถึงความรุนแรงในช่วงนั้น ไม่สามารถที่จะเชิญนักวิชาการที่มีความเป็นกลางหรือความคิดเห็นทางฝ่ายเสื้อแดงได้ คือ พูดง่ายๆ ระบุมาแล้วว่า จะต้องเอาคนที่คิดเหมือนรัฐบาลเท่านั้น เพื่อมาแสดงความคิดเห็นโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มประชาชนที่เห็นแตกต่างจากรัฐบาล ตรงนั้นเป็นส่วนที่เหมือนกับการราดน้ำมันลงไปในกองไฟ รัฐบาลเองก็ไม่ได้ใช้สมอง ในการเลือกหนทางที่จะแก้ปัญหาให้ถูกต้อง" นายปริย กล่าว   "ทำไมผมถึงพูดแบบนี้เพราะว่าองค์กรของผมได้รับความเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็น ระเบิดเอ็ม 79 ก็ยอมรับว่า บางรายการนำเสนอเนื้อหาที่ไม่สร้างสรรค์  เจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายยอมรับว่า บุคลากรและเจ้าหน้าที่ก็เป็นบุคคลที่น่าเห็นใจ ไม่ว่ารัฐบาลใดจะมาก็ต้องทำไปตามเนื้อหาที่รัฐบาลต้องการ เพราะว่าสื่อที่ผมทำงานอยู่ก็เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความรุนแรง มีมุมตรงนี้ในเบื้องต้น "  นายปริย กล่าว   นายปริย กล่าวว่า  ความรุนแรงมาจากตรงนี้ส่วนหนึ่งรัฐบาลหลีกเลี่ยงได้ แต่เลือกที่จะมองประชาชนกลุ่มหนึ่งเป็นศัตรูของตัวเอง  ทำให้นำพาเหตุการณ์ไปสู่ความรุนแรง ถ้า คอป.จะไปเจาะข้อมูลจากบุคลากรในสถานี เชื่อว่า  90  เปอร์เซนต์ไม่มีใครกล้าพูด เหตุผลก็น่าจะทราบว่าพวกตนรับเงินเดือนจากรัฐบาล

ว่าพวกตนรับเงินเดือนจากรัฐบาล แต่ส่วนตัวเห็นใจประชาชนจึงกล้าออกมาพูดเช่นนี้

http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1297781271