วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

ปลาแผ่นดินไหวโผล่อีก เตือนลางร้ายแผ่นดินไหวใหญ่

http://www.go6tv.com/2011/04/blog-post_6480.html



สื่อจีน สำนักข่าวกลางแห่งจีน หรือ จงซินหวั่ง รายงาน ชาวประมงแซ่เซี่ยจับปลาหวงไต้อี๋ว์ได้ที่บริเวณชายฝั่งจู๋หนัน ไต้หวัน ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือชื่อสากล คือ “ราชาแห่งปลาเฮอริง (皇带鱼/King of herrings)” ยังมีชื่อตามความเชื่อโบราณว่าเป็น “ปลาแผ่นดินไหว” 

นายเซี่ย จับปลาหวงไต้อี๋ว์ตัวนี้ได้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ความยาวตัวปลา 3.5 เมตร น้ำหนักราว 15 กิโลกรัม เมื่อจับปลาได้ นายเซี่ยก็นำปลาไปประมูลขายที่ตลาดท่าเรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ ตำบลจู๋หนัน

เจ้าของภัตตาคารแห่งหนึ่ง นายเซี่ย เซิงเฟิง เล่าตำนานว่า ปลาหวงไต้อี๋ว ซึ่งโดยธรรมชาติเป็นปลาอาศัยในน้ำลึกใต้ท้องมหาสมุทร เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดความเคลื่อนไหวผิดปกติทางธรณี มันจะตกใจและว่ายลี้ภัยมายังบริเวณน้ำตื้น ดังนั้นชาวท้องถิ่นจึงเรียกปลาหวงไต้อี๋ว์ว่า “ปลาแผ่นดินไหว”

การจับได้ปลาหวงไต้อี๋ว์บริเวณชายฝั่งที่น้ำตื้นเช่นนี้ จึงทำให้ชาวบ้านโจษจันกันไปต่างนานาว่าปลาหวงไต้อี๋ว์ตกใจแผ่นดินไหวญี่ปุ่น หรือจะเป็นการลางร้ายแผ่นดินไหวกันแน่?

อย่างไรก็ตาม นายเซี่ยเซิงเฟิงบอกว่า “เจ้าปลาตัวนี้เอามาแล่แจกเนื้อกินกันได้อย่างน้อย 100 คน”

พบเสาหินเตือนภัยซือนามิ อายุ 600 ปี
http://www.go6tv.com/2011/04/600.html

ตะลึงเสาหิน 600 ปี ระบุ 

"ห้ามสร้างบ้านเรือนบริเวณนี้ มีสึนามิ"



เอพีรายงานว่า เมื่อ 7 เม.ย.ชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย สึนามิของญี่ปุ่นเพิ่งหวนกลับมาอ่านข้อความในแผ่นจารึกโบราณอายุร้อยปีของบรรพบุรุษ ซึ่งเตือนเอาไว้ว่าห้ามสร้างบ้านเรือนในบริเวณดังกล่าว

แผ่นจารึกมีอายุหลายร้อยปีตั้งอยู่ในหมู่บ้านอาเนโยชิ เมืองมิยาโกะ จังหวัดอิวาเตะ เป็นเหมือนเครื่องหมายกำหนดแนวชายฝั่ง บางอันอายุกว่า 600 ปี สลักข้อความว่า "บ้านเรือนในที่สูงเป็นที่พำนักสงบสุขของลูกหลานเรา จงจดจำมหันตภัยร้ายคลื่นยักษ์สึนามิ อย่าสร้างบ้านต่ำกว่าจุดนี้" บางอันเขียนว่า "ถ้าเกิดแผ่นดินไหวให้ระวังสึนามิ" มีอันหนึ่งที่เตือนภัยในเมืองเคเซนนูมะว่า "จงเตรียมพร้อมรับสึ
นามิที่คาดไม่ถึง"

เหยื่อสึนามิ- สุนัขและแมวที่มีผู้ช่วยเหลือจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อ 11 มี.ค. พักอยู่ในคลินิกสัตว์อาเบะ เมืองอิชิโนมากิ ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยงที่ประสบภัย เมื่อ 7 เม.ย.


ข้อความดังกล่าวทำให้ชาวบ้านบางส่วนรอดพ้นจากสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มี.ค. เพราะสร้างบ้านสูงขึ้นไปจากแผ่นจารึกจึงรอดพ้นจากคลื่นยักษ์ แต่ชุมชนที่อยู่ต่ำกว่าถูกกวาดกลืน ราบคาบ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ไม่ทันสังเกตและไม่ได้สนใจข้อความดังกล่าว โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากภัยพิบัติอยู่ที่ 12,000 ราย แต่คาดว่าจะมากถึง 25,000 ราย มีคนได้รับความเดือดร้อนต้องไปอยู่ที่พักชั่วคราวกว่า 100,000 คน

ศ.ฟูมิฮิโกะ อิมามูระ ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนรับมือภัยธรรมชาติ มหาวิทยาลัยโทโฮกุ เมืองเซนได กล่าวว่า ชาวบ้านรุ่นก่อนทำป้ายเตือนไว้ เรียกบางแห่งว่าถิ่นปลาหมึก เพราะเคยถูกสึนามิซัดขึ้นมาและตั้งชื่อวัดตามชื่อสึนามิ แต่ผ่านไป 3 ชั่วอายุคนชาวบ้านก็ลืมหมด

เปิดใบชันสูตร 11 ศพ ผู้ก่อการร้าย ?


เปิดใบชันสูตร 11 ศพเสื้อแดง !! ทวงความยุติธรรมให้ทุกชีวิต









ทีมงาน go6tv.com ได้รับภาพดังกล่าวมาเมื่อปลายเดือนเมษายน ปีที่แล้วก่อนสลายการชุมนุม จนถึงวันนี้เกือบครบ 1 ปีแล้ว แต่รัฐบาลยังไม่สามารถตอบคำถามได้ว่า "กระสุนความเร็วสูง" ในศพแต่ละศพ เป็นฝีมือใคร นอกจากได้ยินแค่วาทกรรม "คนเสื้อแดงยิงกันเอง"

ทีมงานตั้งใจให้ภาพใบชันสูตรนี้ เป็นหลักฐานต่อไปในประวัติศาสตร์ แม้ร่างเขาเหล่านั้นจะเริ่มทยอยฌาปนกิจตามประเพณีไปแล้ว แต่ความจริงจักดำรงอยู่ตราบนิรันดร์



พันธมิตรแฉ อัญชลี เปิดบ่อนกับฮุนเซน
http://www.go6tv.com/2011/04/blog-post_2394.html

คลิป "ประพันธ์-สนธิ" แฉ 

"อัญชลีเปิดบ่อนกับฮุนเซน" และ 

"ท่านจันทร์-ยันตระ2"



ประพันธ์ คูณมี : “มีบางคนเคยขึ้นเวทีพันธมิตร แต่วันนี้ไม่มาขึ้น แล้วก็มาแหลว่าเพราะอยากเป็นสื่อมวลชน สู้ไปก็ไม่ชนะ อย่ามาแหล เพราะความจริงแล้วมีญาติหนีคดีไปหลบอยู่ที่กัมพูชาและเปิดบ่อนที่นั่น ไม่อยากจะพูด ทุเรศ กลัวญาติตัวเองถูกถีบออกจากกัมพูชาก็บอกมาสิ มาปล่อยให้พวกปากหอยปอยปากปูแขวะพันธมิตรอยู่ได้
บางคนก็มาทำเป็นนักธรรมะ สอนคนอื่นให้มีธรรมะ มีสติ แต่ตัวเองพอถูกวิจารณ์หน่อยไปอยู่ช่องอื่นแล้วด่าพันธมิตรฯ วันนี้ใครไม่ยืนอยู่บนจุดยืนปกป้องแผ่นดินไทยต้องเป็นศัตรูกับพี่น้อง ประชาชนทั้งประเทศ ขีดเส้นถูกผิดได้เลย”
สนธิ ลิ้มทองกุล : “พี่น้องครับ นี่จริงๆ แล้ว วันนี้ปวดขา แต่คิดถึงพี่น้อง ขอมาสั้นๆ ก็ยังดี ใช่ไม่ใช่ เมื่อกี้นี้มาทันน้าประพันธ์ เขาพูด อาละวาดแหลกเลย ก็เอ่ยชื่อคนนู้นคนนี้ แต่ไม่กล้าเอ่ย ผมก็ไขปริศนาให้ละกัน
ผู้หญิงคนนั้นชื่อ อัญชลี ไพรีรักษ์ ส่วนพระอีกรูปหนึ่งคือ จันทร์ มีฉายาว่า ยันตระ 2…..!”

พระราชินี ตรัสเสียดาย ทหารดี พ.อ.ร่มเกล้า ทหารเสือราชินี
http://www.go6tv.com/2011/04/blog-post_09.html

"พระราชินี" เสด็จพร้อม "พระบรมฯ" พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ "พ.อ.ร่มเกล้า" ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติ 10 เม.ย.ที่วัดเทพศิรินทร์



วันที่ 12 เม.ย. 2553 เวลา 17.45 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มายังศาลา 3 สุวรรณวนิชกิจ วัดเทพศิรินทราวาส ในการวางพวงมาลาและพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ "พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม" รองเสนาธิการ พล.ร 2 รอ. ที่เสียชีวิตจากปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วม ประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา และทรงวางพวงมาลาด้วยพระองค์เอง

หลังจากนั้นทรงมีรับสั่งกับนางนิชา หิรัญบูรณะ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง กระทรวงวิทยาศาสตร์ ภรรยา รวมทั้งบิดาและมารดาของพ.อ.ร่มเกล้าว่า"เสียใจ เสียดาย นายทหารที่ดี และที่เสด็จพระราชดำเนินมา เพราะพ.อ.ร่มเกล้า เคยถวายงานในฐานะทหารเสือพระราชินีมาเป็นระยะเวลานาน นับว่าเป็นการสูญเสียทหารที่ทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมือง และขอขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกมาเป็นอย่างดี มีความภักดีต่อราชวงศ์" จากนั้นได้เสด็จพระราชดำเนินกลับในเวลา 18.12 น.

นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพวงมาลาหน้าศพพ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และมีพวงมาลาพระราชทานจากพระราชวงศ์ทุกพระองค์ ทั้งนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 7 วัน และทรงรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์โดยตลอด

สำหรับบรรยากาศในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันนี้ ได้มีข้าราชการ ตำรวจ ทหาร พร้อมด้วยประชาชน เดินทางมาร่วมพิธี ทั้งนี้เพื่อร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของพ.อ.ร่มเกล้า กันอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. นายพีรพล สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม

รอยเตอร์มึน!! "ธาริต" โบ้ยให้หาพยานให้หน่อย

http://www.go6tv.com/2011/04/blog-post_12.html



บ.ก.สำนักข่าวรอยเตอร์รุดพบ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดีดีเอสไอจี้คดีการตาย "ฮิโรยูกิ มูราโมโตะ" ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม 10 เม.ย. 53 ข้องใจการสอบ สวนที่ระบุว่านายฮิโรยูกิ อาจไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ดีเอสไอโบ้ยรอย เตอร์ช่วยหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม บางทีพยานอาจอยากให้การกับรอยเตอร์มากกว่าดีเอสไอก็ได้ จะทำให้การทำคดีเร็วขึ้น ด้านบ.ก.รอยเตอร์รับข้อเสนอ ลั่นจะติดตามการทำคดีอย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นางจีน ยูน บ.ก.ข่าวภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำนักข่าวรอยเตอร์ และนายเจสัน เซบ หัวหน้าข่าวรอยเตอร์ สำนักงานกรุงเทพฯ เดินทางเข้าพบนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เพื่อสอบถามความคืบหน้าการสอบสวนคดีเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น สำนักข่าวรอยเตอร์ หลังพบว่าการสอบสวนก่อนหน้านี้ระบุว่านายฮิโรยูกิอาจไม่ได้เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐตามที่มีการเปิดเผยไว้

นายธาริต กล่าวว่า ดีเอสไอได้ชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของนายฮิโรยูกิ ส่วนกองบ.ก.สำนักข่าวรอย เตอร์ จะพอใจกับการชี้แจงหรือไม่ตนเองไม่ทราบ เพียงแต่แสดงความห่วงใย ต้องการให้ข้อเท็จจริงปรากฏ อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการมอบเอกสารเพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนได้เสนอขอให้สำนักข่าวรอยเตอร์ ช่วงแสวงหาข้อเท็จจริงหลักฐานเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะทำให้พยานที่รู้เห็นเห็นเหตุการณ์ กล้าเข้ามาให้ปากคำกับสำนักข่าวรอยเตอร์มากกว่าที่ดีเอสไอสอบสวนได้ จากนั้นรอยเตอร์สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาถ่ายทอดเพื่อทำให้คดีเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ทางตัวแทนรอยเตอร์รับว่าจะนำข้อเสนอของดีเอสไอไปหารือก่อนแจ้งความเห็นกลับมา พร้อมรับว่าจะติดตามสอบถามความคืบหน้าของคดีกับดีเอสไอเป็นระยะ

พญานาค พญานาคา


http://www.atnnonline.com/index.php?option=com_content&vie
w=article&id=28791:2011-04-08-10-52-11&catid=83:variety
&Itemid=77



จงซินหวั่ง สำนักข่าวแห้งชาติจีนรายงานว่า ชาวประมงแซ่เซี่ย จับปลา
 "หวงไต้อี๋ว์" ได้ที่บริเวณชายฝั่งจู๋หนัน ไต้หวัน หรือชื่อสากล คือ “ราชาแห่งปลาเฮอริง (King of herrings) ยังมีชื่อตามความเชื่อโบราณว่าเป็น “ปลาแผ่นดินไหว” โดย "พญานาค" หรือ พญานาคา มีชื่อภาษาอังกฤษตามสายพันธุ์ เรียกว่า Oarfish แต่ตามประเพณีที่มีการค้นพบในหลายประเทศทั่วโลกจะเรียกเหมือนกันว่า Queen of  Naga หมายถึง ราชินีงู


นายเซี่ย จับปลาหวงไต้อี๋ว์ตัวนี้ได้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ความยาวตัวปลา 3.5 เมตร น้ำหนักราว 15 กิโลกรัม เมื่อจับปลาได้ นายเซี่ย ก็นำปลาไปประมูลขายที่ตลาดท่าเรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ ตำบลจู๋หนัน

เจ้าของภัตตาคารแห่งหนึ่ง นายเซี่ย เซิงเฟิง เล่าตำนานว่า ปลาหวงไต้อี๋ว ซึ่งโดยธรรมชาติเป็นปลาอาศัยในน้ำลึกใต้ท้องมหาสมุทร เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดความเคลื่อนไหวผิดปกติทางธรณี มันจะตกใจและว่ายลี้ภัยมายังบริเวณน้ำตื้น ดังนั้นชาวท้องถิ่นจึงเรียกปลาหวงไต้อี๋ว์ว่า “ปลาแผ่นดินไหว”
การจับได้ปลาหวงไต้อี๋ว์บริเวณชายฝั่งที่น้ำตื้นเช่นนี้ จึงทำให้ชาวบ้านโจษจันกันไปต่างนานาว่าปลาหวงไต้อี๋ว์ตกใจแผ่นดินไหวญี่ปุ่น หรือจะเป็นการลางร้ายแผ่นดินไหวกันแน่?



อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ paisalvision นำเสนอรายงานเรื่อง "พญานาค" หรือ พญานาคา มีชื่อภาษาอังกฤษตามสายพันธุ์ เรียกว่า Oarfish แต่ตามประเพณีที่มีการค้นพบในหลายประเทศทั่วโลกจะเรียกเหมือนกันว่า Queen of  Naga หมายถึง ราชินีงู ชื่อตามภาษาลาตินมีว่า Regalecus Glesne Ascanius โดยกินเนสบุ๊ค ได้มีการบันทึกปลาชนิดนี้ว่า King of Herrings เป็นปลาที่มีกระดูกสันหลังที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวทั้งหมด 17 เมตร น้ำหนัก 300 กีโลกรัม ชาวประมงในต่างชาติมักจะเรียกว่า Dragons of the deep หรือมังกรแห่งความลึก

ในภาษาไทย คำว่า พญานาค เป็นคำผสมระหว่าง “พญา” กับ “นาคา”  คำว่า นาคา มาจากภาษาฮินดี ของอินเดียบราณ หมายถึง งู และมักจะใช้กับสัตว์ทุกประเภทที่มีลักษณะคล้ายกับงูบนบกและในน้ำ
ในอินเดียมีสถานที่บูชาเกี่ยวกับงูซื่งเป็นสถานที่ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกถึง 700 แห่ง รวมไปถึงประเภทที่มีลักษณะคล้ายกับพญานาค

ชาวฮินดูถือว่าพญานาค เป็นเทพเจ้าแห่งน้ำ เช่น อนันตนาคราช คือบัลลังก์ของพระนารายณ์ ตรงกับความเชื่อของลัทธิพราหมณ์ ที่เชื่อว่านาคเป็นเทพแห่งน้ำ น้ำจะน้อยหรือมาก ขึ้นอยู่ที่นาค เหตุที่น้ำน้อยเพราะนาคได้กลืนน้ำไว้

พญานาคเป็นเจ้าแห่งงู แต่ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา

นาคแบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ ตระกูลวิรูปักษ์ สีทอง ตระกูลเอราปถ สีเขียว ตระกูลฉัพพยาปุตตะ สีรุ้ง ตระกูลกัณหาโคตมะ สีดำ พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ เกิดแล้วโตทันที เกิดจากเหงื่อไคล เกิดจากครรภ์ และเกิดจากฟองไข่

ตามความเชื่อของชาวฮินดู พญานาคอาศัยอยู่ใต้ดินหรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพอาศัยอยู่  ลึกลงไปใต้พื้นโลกก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ นาคสามารถขึ้น-ลงตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลกจนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขึ้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาลกับเมืองสวรรค์

พญานาคมีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ และมีชีวิตคล้ายกับคน สามารถแปลงเป็นคนได้ แต่ถึงแม้จะแปลงกายเป็นอะไร จะต้องปรากฏรูปลักษณ์เป็นนาคเช่นเดิม คือ ขณะเกิด, ขณะลอกคราบ, ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับโดยไม่มีสติ และตอนตาย ก็กลับกลายร่างเป็นงูใหญ่เช่นเดิม

พญานาคมีพิษร้าย สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ด้วยพิษถึง 64 ชนิด ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า สัตว์จำพวกงู,  แมงป่อง, ตะขาบ, คางคก, มด ฯลฯ มีพิษได้ ซึ่งก็ด้วยเหตุที่นาคคายพิษทิ้งไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็ได้พิษไปมาก พวกที่มาทีหลัง เช่น แมงป่อง จึงได้พิษน้อย เพราะแค่เอาหางไปป้ายเศษพิษ จำพวกนี้จึงมีพิษน้อย โดยพญานาคจะต้องคายพิษทุก 15 วัน

ประเทศไทยจึงน่าจะเป็นประเทศที่มีประติมากรรมเกี่ยวกับพญานาคมากที่สุด โดยมักจะเห็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับพญานาคได้เสมอ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะตามอาคารหรือวัดต่าง ๆ มีที่มาจากวัฒนธรรมอินเดียโบราณนั่นเอง ความเชื่อในพญานาคได้แพร่ขยายมากมายในเอเซีย เนื่องจากมีการพบเห็นในหลายพื้นที่มาตั้งแต่โบราณ  ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ได้มีการพบเจอมากที่สุด และเป็นที่เชื่อกันว่าเป็นฑูตจากอาณาจักรใต้ดิน การพบเห็นพญานาค หมายถึงจะเกิดภัยจากแผ่นดินไหวในเร็ว ๆ นั้น



หากดูกันเป็นทางการแล้ว ปลามหัศจรรย์ชนิดนี้จะมีถิ่นฐานอยู่ในทะเลลึก ซึ่งมนุษย์ยังลงไปไม่ถึง หากว่ามีการเปลี่ยนแปลงทางชั้นผิวของโลก หรือที่เรียกกันว่าแผ่นดินไหว พญานาคจะสัมผัสและได้รับผลกระทบก่อนมนุษย์ อันเป็นที่มาของการที่มนุษย์จะพบเห็นพญานาคก็ต่อเมื่อที่ตายแล้วหรือใกล้จะ ตาย

มีทฤษฎีอยู่ว่าพญานาคจะขื้นมาขอความช่วยเหลือตอน ป่วยหรือใกล้ตาย เนื่องจากว่าเคยมีคนพบเจอ ในอ่าวเม็กซิโก ในลักษณะที่พญานาคพยายามว่ายน้ำพุ่งเข้าหาคน แต่คนคนนั้นด้วยความกลัวได้ทุบหัวพญานาคจนตาย บุคคลนั้นได้แสดงความเสียใจภายหลัง เพราะเพิ่งจะทราบภายหลังว่าปลาชนิดนี้ไม่มีฟัน หรือเขี้ยว หรืออาวุธ ป้องกันตัวแม้แต่น้อย  เพราะฉะนั้นการที่ พญานาคเข้าหาตัวเขาน่าจะมีเหตุผลอื่น

ชาวประมงเคยพบสัตว์ประหลาดชนิดนี้ขณะที่แล่นเรือหาปลาอยู่ในทะเลมามากมาย หลายสถานที่ แต่ส่วนใหญ่จะตายไปแล้ว และมีเพียงไม่กี่ครั้งที่ได้มีการถ่ายภาพได้ตอนอยู่ในน้ำ

ได้มีการค้นพบปลามหัศจรรย์ชนิดนี้ในทะเลดำ หรือ Black Sea ติดกับประเทศยูเครน ทะเลนี้จะมีลักษณะเหมือนทะเลสาบขนาดใหญ่ แต่ไม่ลึกพอที่จะเป็นถิ่นฐานของพญานาคได้ มีอยู่ว่าช่องทางเชื่อมระหว่างทะเลดำกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนมีช่องแคบพอ ๆ กับแม่น้ำสายหนึ่ง จึงเป็นหลักฐานที่แน่ชัดเพียงอย่างเดียวที่สามารถจะบ่งบอกได้ว่าพญานาค สามารถที่จะว่ายตามแม่น้ำได้ด้วย

มีคนรุ่นใหม่อยู่ บ้างที่รู้ว่าแท้จริงพญานาคเป็นแค่ปลาตัวหนึ่ง แต่การที่เป็นหนึ่งในปลาที่หาดูได้ยากที่สุดในโลก และเป็นปลาที่มหัศจรรย์ ทั้งขนาด ความสวยงาม จึงสมควรแก่การเคารพบูชาแล้ว ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือความภูมิใจที่คนไทยสามารถจะนับถือในบางอย่างที่มี ตัวตนจริง ต่างจากเทพ หรืออสูรทั่วไปที่ไม่สามารถจะพิสูจน์ได้

ประชาชนถูกฆ่าตาย ประชาชนถูกยิงในเขตอภัยทาน



"..ประชาชนถูกฆ่าตาย ประชาชนถูกยิงในเขตอภัยทาน..."



ทีนี้ละ เสียดินแดนของจริง 
http://www.go6tv.com/2011/04/tor.html?spref=tw

เปิด TOR จากอินโดนีเซียฉบับล่าสุดที่มาร์คจะทำ "เสียดินแดน"ของจริง



MINISER FOR FOREIGN AFFAIRS
REPUBLIC OF INDONESIA
Jakarta, February 2011

Excellencies,
I would like to once again thank Your Excellencies for making possible the positive results of the informal ASEAN Foreign Ministers’ Meeting in Jakarta, 22 February 2011.
As a follow up to the said meeting, and in accordance with the “Statement by Chairman of the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) following the Informal Meeting of the Foreign Ministers of ASEAN, Jakarta, 22 February 2011”, I have the honour to submit herewith:
  1. Draft Letter presenting the Terms of Reference on the Deployment of the Indonesian Observers Team(IOT) in the Affected Areas of the Cambodia-Thailand Border;
  2. Annex to the Draft letter, namely the Terms of Reference on the Deployment of the Indonesian Observers Team(IOT) in the Affected Areas of the Cambodia-Thailand Border.
It is my sincere hope, in view of the importance of the subject matter, that I can receive the views of Cambodia and Thailand on the said drafts at the earliest opportunity to be reflected in a subsequent draft. I shall only initiate the process of exchange of letters once agreement has been reached between all three countries, namely: Cambodia, Indonesia and Thailand.
Meanwhile, I should like to inform Your Excellencies that Indonesia has initiated the national preparation for the assignment of the aforementioned observers.

Please accept, Excellencies, the assurances of my highest consideration.

Dr. R.M. Marty M. Natalegawa

His Excellency
Mr.Kasit Piromya
Minister o Foreign Affairs
Kingdom of Thailand
BANGKOK

His Excellency
Mr. Hor Namhong
Deputy Prime Minister,
Minister for Foreign Affairs and International Cooperation
Kingdom of Cambodia
PHNOM PENH


Jakarta, February 2011

I have the honor to refer to the Statement by the Chairman of the Association o Southeast Asian Nations (ASEAN) following the Informal Meeting of the Foreign Minister of ASEAN, Jakarta, 22 February 2011, which inter alia,
Welcome in this regard, the invitation by both Cambodia and Thailand for observers from Indonesia. Current Chair of ASEAN, to respective side of the affected areas of the Cambodia-Thailand border. To observe the commitment by both sides to avoid further armed clashes between them, with the following basic mandate:

“to assist and support the parties in respecting their commitment to avoid further armed clashes between them, by observing and reporting accurately, as well as impartially on complaints of violations and submitting its findings to each party through Indonesia, current Chair of ASEAN”

In this connection, I have the further honor to propose Terms of Reference on the Deployment of the Indonesia Observer Team (IOT) in the affected areas of the Cambodia-Thailand Borderas annexed.

I wish also to inform you that I am simultaneously submitting an identical letter attaching the afore-mentioned Terms of Reference to the Deputy Prime Minister and Foreign Minister of the Kingdom of Cambodia, H.E. Mr.Hor Namhong.
I would be grateful should you confirm, on behalf of the Government of the Kingdom of Thailand, your acceptance of the provisions of The Terms of Reference and also confirm your understanding hat this letter and its annex, together with your reply, shall constitute a legally binding instrument among the Government of the Kingdom of Cambodia.
The Terms of Reference shall come into effect on the date upon which Indonesia receives communication from the latest party confirming its agreement to the Term of Reference. which I shall subsequently notify both parties on the entry into force of the Term of Reference.
Please accept, Excellency, The assurance of my highest consideration.

“ASEAN Community in a Global Community of Nations”
ANNEX
TERMS OF REFERENCE
ON THE DEPLOYMENT OF THE INDONESISN OBSEVERS TEAM( IOT) IN THE
AFFECTED AREAS OF THE CAMBODIA-THAILAND BORDER

OBJECTIVE

In accordance with the Statement by the Chairman of the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) following the Informal Meeting of the Foreign Ministers of ASEAN, Jakarta, 22 February 2011 :

“To assist and support the parties in respecting their commitment to avoid further armed clashes between them, by observing and reporting accurately, as well as impartially on complaints of violations and submitting its finding to each party through Indonesia, current Chair of ASEAN”;

COMPOSITION
The Indonesian Observers Team (IOT) shall consist of thirty military personnel and civilian officers of the Government of The Republic of Indonesia.
The thirty-member IOT shall be composed and deployed in the following manner;
  • Fifteen observer (Indonesian Observers Team-Cambodia (IOT-C) shall be deployed on the Cambodian side of the affected areas of the Cambodia-Thai border;
  • Fifteen observer (Indonesian Observers Team-Thailand (IOT-T) shall be deployed on the Thai side of the affected areas of the Thai-Cambodia border.

STATUS
The IOT personnel shall have privileges duly accorded to Resident Diplomatic Representatives.
Page 1 of 3

AREA OF COVERGE
The area of coverage of the IOT-C shall be the Cambodian side of the affected areas of the Cambodia-Thai border, namely :[TO BE INSERTED]
The area of coverage of the IOT-T shall be the Thai side of the affected areas of the Thai-Cambodia border, namely :[TO BE INSERTED]

ROLE AND RESPONSIBILITY
The IOT personnel shall:
  1. Observe and monitor the ceasefire as agreed by the parties;
  2. Conduct field verification to validate any report of violations of ceasefire as agreed by the parties;
  3. Coordinate closely with the parties in the conduct of field verification and validation of reported any violations to the ceasefire as agreed by the parties;
  4. Maintain strict impartiality, objectivity, and independence in the conduct of their mandate and tasks, and shall respect the national laws and regulations of the Kingdom of Cambodia(for IOT-C personnel) and the Kingdom of Thailand (for IOT-T personnel);
  5. In carrying out their mission, refrain from any activities not compatible with its nature and purpose;
  6. Hold regular consultations and meeting with the parties in order to resolve any problems in the performance of its function;
  7. Not to carry arms and be in uniform with identifying insignia.
The parties shall:
  1. Assume full responsibility for the security of the IOT personnel deployed in the mission;
  2. Take all necessary measures for the protection, safety and security of the IOT personnel;
  3. Ensure free movement throughout the area of coverage in the performance of the IOT’s function;
  4. Promptly provide safe passage in the event of evacuation of mission from the area of coverage.
REPORTING
  1. The IOT shall render daily report to Indonesia, current Chair of ASEAN;
Page 2 of 3
  1. The IOT shall verify and render immediate report of violations of the ceasefire, as agreed by the parties and other matters requiring urgent attention by Indonesia, current Chair of ASEAN.

ADMINISTRATIVE AND SUPPORT ARRANGMENTS
The parties shall provide:
  1. Adequate quarters, communication support and facilities;
  2. Appropriate air and land transportation with pilot/driver;
  3. Liaison officers and mobile teams to facilitate coordination.
The Indonesian Government shall bear responsibility for:
  1. Salaries and allowances;
  2. Transportation cost to the capital of the parties while transportation to the border areas shall be shouldered by the respective parties.
DURATION
The Terms of mandate shall be [TO BE INSERTED] months from the date of the coming into effect of the present Terms of Reference and may be amended with the agreement of all three parties concerned.
The implementation of the IOT Terms of Reference shall be reviewed on a [TO BE INSERTED] monthly basis.

TERMINATION AND/OR SUPENSION
The Indonesian Government may cease or suspend the performance of the functions with due notice to the parties in the event of;
  1. The field situation mounts to endangering and threatening the life to the Indonesia observers;
  2. The parties fail to fulfill their commitments and responsibilities to the ceasefire process as stipulated in the Terms of Reference ; or
  3. The parties deliberately ignore to take action on any of its recommendation on violations of ceasefire
_______________
DR.R.M. Marty M.Natalegawa
H.E. Mr.Kasit Piromya
Minister for Foreign Affairs
The Kingdom of Thailand

จากการจัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) ระหว่างวันที่ 7-8 เม.ย. 2554 ที่เมืองโบกอร์ ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรัฐบาลไทยได้ส่งนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปเป็นตัวแทนเพื่อหารือกับ นายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมต.ต่างประเทศกัมพูชา รวมถึงนายมาร์ตี นาตาเลกาวา ประธานอาเซียนและ รมต.ต่างประเทศอินโดนีเซีย โดยมีปัญหาอยู่ที่ว่าทางอินโดนีเซียขอส่งกำลังทหารเข้ามาเป็นผู้สังเกตการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา

ล่าสุด ได้มีผู้นำร่างเอกสารเงื่อนไขข้อตกลง หรือทีโออาร์ (Term of Reference) ที่นายมาร์ตี นาตาเลกาวา ประธานอาเซียน เสนอต่อนายกษิต รมต.ต่างประเทศไทย เพื่อส่งทหารอินโดนีเซียเข้ามาสังเกตการณ์ในบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจำนวน 3 หน้ามาเปิดเผย โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าร่างทีโออาร์ดังกล่าวถูกจัดทำขึ้นหลังการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 54 มีจำนวนทั้งสิ้น 3 หน้า โดยร่างทีโออาร์ดังกล่าวระบุชัดว่า ทางอินโดนีเซียประสงค์จะส่งทีมสังเกตการณ์ หรือไอโอที (The Indonesian Observers Team) อันประกอบไปด้วยทหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาจำนวน 30 นาย

“สมาชิก 30 คนของทีมไอโอทีจะถูกจัดสรรเพื่อเข้าปฏิบัติงานดังนี้ คือ ทีมสังเกตการณ์อินโดนีเซีย-กัมพูชา (IOT-C) จำนวน 15 คน จะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบชายแดนกัมพูชา-ไทย ในฝั่งกัมพูชา และ ทีมสังเกตการณ์อินโดนีเซีย-ไทย (IOT-T) จำนวน 15 คน จะเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา ในฝั่งไทย” ตอนหนึ่งของร่างทีโออาร์ดังกล่าวระบุ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ภาคประชาชน กองทัพและรัฐบาลไทยเป็นกังวลก็คือ พื้นที่ที่ทีมสังเกตการณ์อินโดนีเซีย-กัมพูชา (IOT-C) จะเข้าไปประจำการจะเป็นจุดใด โดยหากเข้าประจำการในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ทางฝ่ายไทยก็คงมิอาจยอมรับได้
นายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ บรรณาธิการข่าวการเมืองและความมั่นคง สถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ให้ความเห็นว่า “ประเด็นของทีโออาร์อยู่ที่ว่า จะให้ทีมสังเกตการณ์ของอินโดนีเซียไปอยู่ตรงไหนของฝั่งกัมพูชา เพราะฝ่ายไทยน่าจะให้ไปอยู่ที่ผามออีแดง แต่ฝ่ายเขมรเขาจะต้องเอาเข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ซึ่งเป็นพื้นที่ของไทยแน่นอน”

เมื่อถามต่อว่าการที่กระทรวงต่างประเทศเดินทางไปเจรจากับกัมพูชาที่อินโดนีเซียโดยไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพจะทำให้มีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันก่อนทางกองทัพโดย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ระบุว่าจะไม่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) บก.ข่าวความมั่นคงทีวีไทยให้ความเห็นว่า เรื่องการเมืองระหว่างประเทศเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศที่ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่ก่อนเดินทางไปทางกระทรวงต่างประเทศน่าจะตกลงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเรียบร้อยแล้ว

ถามต่อว่าการที่อินโดนีเซียเข้ามายุ่งเกี่ยวในการทำทีโออาร์และส่งทีมสังเกตการณ์ซึ่งเป็นทหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอินโดนีเซียเข้ามาในพื้นที่จะทำให้การเจรจาเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ลุกลามจากการเจรจาระดับทวิภาคีไปเป็นพหุภาคีหรือไม่ นายเสริมสุขให้ความเห็นว่า ประเด็นเรื่องทวิภาคีหรือพหุภาคีนี้อยู่ที่ว่ามองในบริบทของอะไร

“ถ้าเป็นการเจรจาเจบีซี หรือจีบีซี ก็แน่นอนว่ายังอยู่ในบริบทของทวิภาคี แต่ถ้ามีผู้สังเกตการณ์ก็ต้องเป็นพหุภาคี ซึ่งตรงจุดนี้เป็นเรื่องที่ทางประธานอาเซียนได้รับโจทย์จากทางยูเอ็นให้เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งถ้ามีอาเซียนเข้ามาก็ต้องกลายเป็นสามฝ่าย อย่างไรก็ตาม ตราบใดก็ตามที่ทางฝั่งไทยไม่ยอมการส่งผู้สังเกตการณ์เข้ามาก็ทำไม่ได้” นายเสริมสุขระบุ

ทั้งนี้ทั้งนั้น บก.ทีวีไทย วิเคราะห์ว่า ในการเดินทางประชุมเจบีซีครั้งนี้ของนายกษิตและคณะผู้แทนไทย ไม่น่ามีข้อสรุปอะไร นอกจากการยืนยันผลการประชุมครั้งที่ผ่านมา เพราะประเด็นสำคัญคือ ข้อตกลงเจบีซียังไม่สามารถผ่านการประชุมของรัฐสภาไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในร่างทีโออาร์ฉบับดังกล่าวที่ทางประธานอาเซียนเสนอให้นายกษิตพิจารณา มีการระบุถึงภารกิจของทีมสังเกตการณ์อินโดนีเซียว่าจะไม่พกพาอาวุธ ต้องเป็นผู้สังเกตการณ์เรื่องการหยุดยิงที่ทางฝ่ายไทยและกัมพูชาได้ตกลงกันไว้ รวมถึงทำรายงานประจำวันส่งให้แก่ประธานอาเซียที่อินโดนีเซีย เป็นต้น

ส่วนรายละเอียดในหน้าที่ 3 ของทีโออาร์ ระบุว่า หากมีการยินยอมให้ผู้สังเกตการณ์เข้าไป ฝ่ายไทยและกัมพูชาจะต้องเป็นผู้จัดสรรที่พัก การสื่อสาร สิ่งอำนวยความสะดวก พาหนะในการเดินทางทางบก และอากาศรวมถึงคนขับ ผู้ประสานงานและทีมงานให้กับทางเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย โดยทางอินโดนีเซียจะจ่ายค่าตอบแทนและค่าเครื่องบินไปถึงเมืองหลวงของประเทศทั้งสองเอง