วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ใครมีข้อมูลช่วยกันแชร์หน่อย



[​IMG]

[​IMG]

[​IMG]

[​IMG]





ชายชุดดำหลักสี่

ถ้ายังไม่ลืม ลองดูชายชุดดำบ่อนไก่ ประกอบนะครับ




 



 

นายกวอนอย่าโยงจำนำข้าวเป็นประเด็นการเมือง ยันรัฐพยายามช่วยเต็มที่

นายกวอนอย่าโยงจำนำข้าวเป็นประเด็นการเมือง ยันรัฐพยายามช่วยเต็มที่
นายกขอความเห็นใจจากชาวนา อย่าโยงจำนำข้าวเป็นประเด็นการเมือง รัฐบาลจะพยายามหาทุกวิถีทางในการบรรเทาความเดือดร้อน ก.คลังเผยมีหลายแนวทางหาเงินใช้จำนำข้าว ด้านชาวนาสุพรรณบุรีบุกศาลากลางทวงเงินจำนำข้าว เรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงทางการเมือง ย้ำไม่ปิดถนน วอน กปปส.หยุดขัดขวางรัฐบาล
7 ก.พ. 2557 มติชนออนไลน์ที่สำนักงานปลัดกลาโหม ถนนแจ้งวัฒนะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่รัฐบาลจ่ายเงินล่าช้าว่า ขอชี้แจงว่าในส่วนของชาวนาที่มีใบประทวน ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไม่ว่าเป็นรัฐบาลชุดไหน ก็ต้องมีหน้าที่ชำระและจ่ายเงินให้กับชาวนาอยู่แล้ว แต่เนื่องจากขั้นตอนต่างๆ มีข้อจำกัดหลายอย่าง หลายกระบวนการ ต้องยอมรับว่ารัฐบาลทำงานยากลำบากจริงๆ เรื่องนี้ต้องขอความเห็นใจ ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะละทิ้งประชาชน ไม่มีรัฐบาลไหนหรอกที่จะทิ้งความเดือดร้อนและละทิ้งประชาชน โดยไม่สนใจเหลียวแล แต่หลายอย่างต้องยอมรับว่ามีข้อจำกัดจริงๆ ซึ่งรัฐบาลเองก็พยายาม จึงอยากขอความเห็นใจจากประชาชน ยืนยันว่าได้เน้นย้ำให้กระทรวงต่างๆ เร่งทำงาน โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องเร่งทำงานให้เร็วที่สุด ทั้งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็หวังว่าจะสามารถเร่งหาทางออกให้กับประชาชนได้
  
"ขอความเห็นใจจากชาวนาทุกคน ไม่ว่าจะอย่างไร รัฐบาลจะพยายามหาทุกวิถีทางในการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
  
เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามได้หยิบเอาความล่าช้าในการจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวไปเป็นประเด็นการเมืองจะแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ใช่ ตนเองไม่อยากให้นำเอาประเด็นความเดือดร้อนของประชาชนมาใช้เป็นประเด็นทางการเมือง จะทำให้กระบวนการแก้ปัญหารวนกันไปหมด เพราะถ้ามองเป็นประเด็นทางการเมืองก็จะมองไปต่างๆ นานา กลไกในการแก้ปัญหาก็จะเกิดความกังวลเพราะทุกกระบวนการในการแก้ปัญหาไม่ใช่ว่าจะต้องทำเพียงคนเดียว ต้องมีการขอความร่วมมือ ถ้าติดประเด็นการเมืองก็จะทำให้เกิดความยากลำบาก สุดท้ายชาวนาก็จะได้รับความเดือดร้อน แทนที่จะได้รับเงินเร็วก็จะเกิดความล่าช้า
  
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่ารัฐบาลจ่ายเงินชาวนาล่าช้ามากว่า 6 เดือนแล้ว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงไปแล้วบางส่วนอาจจะมีรายละเอียดของกฎ กติกา กระทรวงพาณิชย์ก็กำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ทราบปัญหาดังกล่าวแล้ว และมีจำนวนไม่มาก ก็จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว
  
เมื่อถามว่า ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.)รอการชี้แจงจากนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าวมีความกังวลหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขออนุญาตยังไม่ตอบในเรื่องนี้ เพราะยังมีขั้นตอนและระยะเวลาในการทำงาน
  
เมื่อถามถึงความชัดเจนว่า รัฐบาลจะสามารถจ่ายเงินในโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนาได้เมื่อใดนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องขอให้หน่วยงานที่กำลังดำเนินการได้ทำหน้าที่ก่อนเพราะแต่ละพื้นที่ก็จะมีการจ่ายที่แตกต่างกัน ผู้ที่เข้ามาก่อนก็จะได้รับเงินเร็ว "เมื่อมีใบประทวน และข้าวก็อยู่ในคลังของรัฐแล้ว ทุกรัฐบาลก็ต้องมาจ่าย เหมือนเช่นรัฐบาลชุดนี้ เมื่อเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ นโยบาย สัญญาต่างๆ หรืองานของรัฐบาลชุดก่อนที่มีต่อประชาชนก็เป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องจ่ายไม่ว่าจะอย่างไร ประชาชนก็ต้องได้รับเงินอย่างแน่นอน"
  
เมื่อถามว่า หมายความว่าถ้ายังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารงานก็ไม่สามารถจ่ายเงินให้ชาวนาได้ ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ขณะนี้มีกลไกและขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำงานกันอยู่ ซึ่งอาจจะไม่คล่องตัวเหมือนเมื่อครั้งเป็นรัฐบาลก่อนการยุบสภา เพราะขณะนั้นสามารถปฏิบัติงานได้ ยืนยันว่าทุกฝ่ายได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้วจริงๆ จึงอยากขอความกรุณา เพราะการดูแลชาวนามีขั้นตอนในการทำงาน อย่ามองเป็นประเด็นการเมือง อย่าใช้ประเด็นการเมืองมาทำให้ชาวนาเดือดร้อนและทำให้กระบวนการในการทำงานช้าลง เมื่อถามว่า หมายความว่าขณะนี้มีขั้นตอนในการทยอยจ่ายเงินให้กับชาวนาแล้วใช่หรือไม่ นายรัฐมนตรีไม่ตอบคำถามดังกล่าว ก่อนที่จะกลับขึ้นไปยังห้องทำงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมอีกครั้ง

คลังเผยมีหลายแนวทางหาเงินใช้จำนำข้าว

หนังสือพิมพ์บ้านเมืองรายงานว่านายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการหาเงินมาใช้จ่ายในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลว่า ทางปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งให้ทราบว่า กระทรวงพาณิชย์จะเร่งระบายข้าวให้ได้โดยเร็ว เพื่อนำเงินที่ได้มาจ่ายให้กับชาวนา ขณะที่กระทรวงการคลังเองก็พยายามที่จะหาแหล่งเงินกู้ เพื่อเร่งนำเงินมาใช้ในโครงการดังกล่าวเช่นกัน

ทั้งนี้ แนวทางการหาเงินกู้นั้น กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างหาแนวทางที่เหมาะสมและไม่ขัดต่อกฎหมาย และจะเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงินภายในประเทศเท่านั้น ไม่มีแผนจะกู้เงินจากต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เปิดประมูลเงินกู้ไปจำนวน 2 หมื่นล้านบาท แต่ได้ยกเลิกการประมูลไป เนื่องจาก มีสถาบันการเงินเสนออัตราดอกเบี้ยในระดับสูง แต่ก็ไม่ได้ถึงเลขสองหลักอย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจ อย่างไรก็ตาม แนวทางการประมูลเงินกู้ก็ยังเป็นหนึ่งในช่องทาง แต่ระยะเวลาการประมูลนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เป็นหลัก

“ทางรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังก็กำลังพยายามทำอย่างรวดเร็ว แต่เราไม่สามารถเปิดเผยได้ว่า เราจะกู้ด้วยช่องทางใด เนื่องจากถ้าบอกไป กลุ่มผู้คัดค้านก็จะออกมาบล็อก เราก็ไม่อยากเปิดเผย แต่เท่าที่ได้หารือกับสถาบันการเงิน เราก็พบว่า ทุกสถาบันการเงินก็เห็นใจชาวนา แต่วิธีการช่วยเหลือก็จะต้องดูว่า จะต้องไม่ทำให้สถาบันการเงินเดือดร้อนด้วย โดยวิธีการช่วยเหลือจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย” นายรังสรรค์ กล่าว

'วราเทพ' โยน กปปส.กดดันธนาคารไม่ให้รัฐกู้เงิน

ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่านายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการชุมนุมของชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวที่มีหลายจังหวัดได้ปิดถนนเพื่อประท้วงรัฐบาลว่าขณะนี้รัฐบาลได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญาหาแล้วโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ไปหาแหล่งเงินกู้ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้

ส่วนจะได้แหล่งเงินกู้แล้วหรือไม่นั้นไม่ขอตอบเพราะไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พร้อมกันนี้ยอมรับว่าสาเหตุที่ทำให้โครงการรับจำนำข้าวมีปัญหามาจากการประกาศยุบสภาที่ทำให้ขั้นตอนดำเนินการทุกอย่างต้องหยุดชะงักไปเพราะรัฐบาลไม่มีอำนาจที่จะเซ็นอนุมัติต่างๆ แม้ กกต.จะแนะนำว่าสามารถจะทำได้ก็ตาม ขณะเดียวกันยังเห็นว่าการกดดันของ กปปส.ต่อธนาคารที่รัฐบาลจะทำสัญญากู้เงินนั้นก็มีส่วนทำให้เป็นอุปสรรคเพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะเดินเรื่องเพื่อขอกู้เงินจากแหล่งเงินทุนต่างๆ ได้เลย

ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์เปิดให้โรงสีต่างๆ เข้ามาซื้อใบประทวนและจะเป็นการซื้อลมขายลมหรือไม่นั้นไม่ขอแสดงความเห็นเพราะการซื้อขายข้าวกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้รับผิดชอบ

ชาวนาท้านายกฯ ดีเบตแก้ปัญหาจำนำข้าว

สำนักข่าวไทยรายงานว่านายประสิทธิ์ บุญเฉย นายกสมาคมชาวนาข้าวไทย กล่าวภายหลังกลับจากนำมวลชนไปสอบถามความคืบหน้าการตรวจสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ชาวนามาชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์เพื่อทวงถามเงินโครงการรับจำนำข้าว แต่ไม่มีนักการเมืองหรือรัฐมนตรีคนใดจากรัฐบาลนี้เข้ามาเจรจากับชาวนาเลย ดังนั้นจึงขอท้าให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวให้มาดีเบตถึงปัญหาโครงการรับจำนำข้าวและแนวทางช่วยเหลือชาวนาออกทางสถานีโทรทัศน์ เพราะที่ผ่านมาโครงการนี้ถูกหลายฝ่ายท้วงติงแต่แรกแล้วว่าจะมีปัญหาตามมา แต่รัฐบาลก็ยังเพิกเฉยและเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวแบบเหมาหมดจนเกิดปัญหาในปัจจุบัน

และในวันเสาร์นี้จะมีชาวนาจากภาคอีสานเข้ามาสมทบอีก จากนั้นชาวนาจะหารือร่วมกันเพื่อยกระดับการเรียกร้องเพื่อกดดันรัฐบาลต่อไป เบื้องต้นในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ จะเดินทางไปยังสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเพื่อขอคำตอบในการช่วยเหลือชาวนาที่ขณะนี้เดือดร้อนกันอย่างแสนสาหัส

ชาวนาสุพรรณบุรีบุกศาลากลาง ทวงเงินจำนำข้าว

ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.พ. 57 นายพรม บุญมาช่วย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วยชาวนาหลายร้อยคน ถือป้ายเรียกร้องทวงเงินค่าจำนำข้าว ไปรวมตัวที่บริเวณศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมเปิดเวทีปราศรัย ทวงเงินค่าจำนำข้าวที่ยังไม่ได้รับ โดยผู้นำชาวนาที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวที ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงทางการเมืองลง เพื่อที่จะได้มาดำเนินการช่วยเหลือชาวนา เกษตรกร และประชาชน

ทั้งนี้ โดยเฉพาะที่ผ่านมา ชาวนาต้องทนทุกข์กับภัยธรรมชาติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ยังมาโดนปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเข้าอีก พร้อมกันนี้ ชาวนายังได้เรียกร้อง ขอให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และแกนนำ กปปส. หยุดการขัดขวางรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ โดยพวกตนจะไม่มีการปิดถนน หรือสร้างความเดือดร้อนให้กับใครทั้งสิ้น

หลังจากนั้นผู้นำชาวนาได้มอบหนังสือร้องเรียนขอความช่วยเหลือให้กับ นายสมชาย เลิศพงศ์ภากรณ์ รองผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ที่ได้รับมอบหมายจาก ว่าที่ ร.ต.สุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี ให้มารับหนังสือเพื่อส่งต่อไปให้รัฐบาล และ กปปส. พิจารณาต่อไป.

เลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค. นี้ รับสมัคร 4 - 8 มี.ค. เลือกตั้งล่วงหน้า 23 มี.ค.

เลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค. นี้ รับสมัคร 4 - 8 มี.ค. เลือกตั้งล่วงหน้า 23 มี.ค.
7 ก.พ. 2557 เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานว่าที่อาคารโดมบริหาร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ตามที่สมาชิกวุฒิภา(ส.ว.) ชุดเดิมจะครบวาระในวันที่ 2 มี.ค.นั้น ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้มีการจัดการเลือกตั้งภายใน 30 วัน โดยขณะนี้กกต.ได้มีมติให้กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ในวันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค.นี้ และกำหนดให้มีการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันอาทิตย์ที่ 23 มี.ค.

กำหนดเปิดการรับสมัครระหว่างวันที่ 4 - 8 มี.ค. ซึ่งกระบวนการอยู่ระหว่างที่สำนักบริหารงานเลือกตั้งยกร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพื่อให้กกต.เห็นชอบ ซึ่งคาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมกกต.ได้ในวันอังคารที่ 11 ก.พ.นี้
ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ส่งศาล รธน.วินิจฉัยเลือกตั้ง 2 ก.พ.โมฆะ
ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินไม่อาจเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ขอให้พิจารณาการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ ชี้เกินอำนาจ

7 ก.พ. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แถลงผลการวินิจฉัยกรณีนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องขอให้พิจารณาการเลือกตั้งที่ผ่านมาเป็นโมฆะ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่าเรื่องนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่อาจเสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เนื่องจากไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนที่ต้องกระทำการโดยบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 244 และ 245

หลังพนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี ได้ยื่นสำนวนเสนอศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 12 คน กระทำผิดร่วมกันกระทำการใดๆ โดยไม่มีอำนาจชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมิให้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้ หลังผู้ต้องหาทั้งหมดร่วมกับบุคคลอื่นที่ยังไม่ทราบชื่อ และที่อยู่จำนวนหนึ่งปิดล้อมสถานที่เก็บอุปกรณ์การเลือกตั้งภายในโรงเรียนหนองหญ้าปล้อง จนเป็นเหตุให้ กกต.ต้องประกาศงดการลงคะแนน โดยศาลได้อนุมัติให้ออกหมายจับแล้ว
 

ศรส.สั่งห้าม 19 แกนนำ กปปส.ออกนอกประเทศ

ศรส.สั่งห้าม 19 แกนนำ กปปส.ออกนอกประเทศ
7 ก.พ. 2557 ประชาชาติธุรกิจรายงานว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงผลการประชุมศรส.ว่า ศรส.เห็นสมควรแจ้งด่านตรวจคนเข้าเมืองทุกแห่งเพื่อห้ามการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรกับแกนนำ กปปส. ที่ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับไว้ 19 คน และอีก 39 คน ที่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่ง ศรส.จะได้ขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม โดยหากปรากฏตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองให้กักตัวไว้แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ของ ศรส. ในทันที โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

นอกจากนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และตำรวจภูธร ได้รายงานผลการดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. ซึ่งศาลได้ออกหมายจับเพิ่มเติมอีก 5 คน ได้แก่ พระพุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ นายนวการ ขอนศรี นายประเสริฐ ด้วงทิพย์ นายทินกร ปลอดภัย และนายปรีติ เชาวลิต และในต่างจังหวัดที่มีการกระทำผิด ศาลได้ออกหมายจับผู้กระทำผิดให้เพิ่มอีก 12 คน โดย ศรส.ได้เร่งรัดให้ดำเนินการจับกุมโดยเร็ว รวมถึงการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำผิดรายอื่น ๆ ให้ครบถ้วนด้วย

นายธาริต กล่าวว่า ศรส. ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ได้ดำเนินการเปิดสถานที่ราชการให้สามารถกลับมาให้บริการแก่ประชาชนได้ตามปกติแล้ว รวม 38 แห่ง และจะได้ทยอยเปิดสถานที่ราชการทุกแห่งให้ครบในที่สุด

ส่วนการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศ นายสาธิต เซกัล นั้น ยืนยันว่า ตามกฎหมายนายสาธิตจะต้องงดเว้นไม่กระทำความผิดใด ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคง แต่นายสาธิตได้เข้าร่วมเป็นแกนนำหลักของ กปปส. ขึ้นเวทีอภิปราย ปลุกระดม ยุยงให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายบ้านเมือง นำมวลชนไปปิดล้อมบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง แม้เมื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯแล้ว ก็ยังนำมวลชนไปปิดล้อมกรมการบินพลเรือน นายสาธิตจึงเป็นบุคคลที่กระทำการกระทบต่อความมั่นคงของบ้านเมือง

ทั้งนี้ กระบวนการพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมายได้ดำเนินการตามขั้นตอนโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เห็นสมควรต้องสั่งเนรเทศ นายสาธิต ออกจากราชอาณาจักร ซึ่งจะได้มีการดำเนินการเพื่อออกคำสั่งเนรเทศต่อไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

กลุ่มจับตาองค์กร(ไม่)อิสระ ยื่น จม.ค้านคำร้องให้การเลือกตั้งทั่วไปเป็นโมฆะ

กลุ่มจับตาองค์กร(ไม่)อิสระ ยื่น จม.ค้านคำร้องให้การเลือกตั้งทั่วไปเป็นโมฆะ
7 กุมภาพันธ์ 2557 ช่วงบ่าย ตัวแทนกลุ่มจับตาองค์กร(ไม่)อิสระ ในฐานะตัวแทนประชาชนผู้ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 20 ล้านเสียง นำโดย นส.อรุษา ปัญญากลดแก้ว อ่านจดหมายเปิดผนึก พร้อมนำรายชื่อหลายพันคน เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงศาลรัฐธรรมนูญ คัดค้านคำร้องขอให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ บ่ายวันนี้ โดยมีผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารทั่วไปของศาลรัฐธรรมนูญ นางอรรถพร เลาหสุรโยธิน เป็นผู้รับเรื่อง
กลุ่มจับตาองค์กร(ไม่)อิสระ เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นโดยตัวแทนของประชาชนจากหลากหลายอาชีพ ที่ต้องการทำหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานขององค์กรอิสระทั้งหลาย ซึงที่ผ่านมาไม่ค่อยทำหน้าที่ที่เป็นกลาง ละเลยไม่ปฏิับัติหน้าที่ ซึ่งได้กลายเป็นตัวปัญหาทางการเมืองเสียเอง โดยกลุ่มจะเป็นสื่อกลางให้กับประชาชนที่ต้องการร่วมกันเป็นพลังในการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อองค์กรเหล่านี้ อันได้แก่ กกต. กสม และปปช. ไปยังสาธารณะ
กลุ่มจับตาองค์กร(ไม่)อิสระ เป็นเครือข่ายของประชาชนที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด ไม่แสวงหากำไร หรือผลประโยชน์ทางการเมือง และเห็นว่าหากจะมีการปฏิรูปประเทศไทย หน่วยงานที่ควรแก่การถูกปฎิรูปมากที่สุดคือองค์กร (ไม่) อิสระทั้งหลาย

กกต. มีมติเสนอรัฐบาลตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ 28 เขต จ.ภาคใต้


กกต. มีมติเสนอรัฐบาลตรา พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ 28 เขต จ.ภาคใต้




         วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 go6TV - คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. มีมติภายหลังการประชุมให้ทำจดหมายเสนอรัฐบาลออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ 28 เขต ในภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัคร ส.ส. ด้วยเหตุผลว่ากกต.ไม่มีอำนาจออกประกาศเปิดรับสมัครใหม่


          พร้อมกับมีมติให้จัดการเลือกตั้งทดแทนใน 7 จังหวัด ที่ไม่สามารถเปิดลงคะแนนได้ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังประเมินว่าสามารถจัดการเลือกตั้งได้ก่อน ประกอบด้วย จังหวัดระยอง 27 หน่วย ยะลา 46 หน่วย ปัตตานี 1หน่วย นราธิวาส 1 หน่วย เพชรบุรี 74 หน่วย ประจวบคีรีขันธ์ 222 หน่วย และจังหวัดสตูล 300 หน่วย รวมทั้งหมด671 หน่วย โดยวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ จะเชิญ กกต.จังหวัดมาหารือเพื่อเตรียมการจัดเลือกตั้ง


            ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด เมื่อวัน 26 มกราคม ที่เสียไป 83 เขต กกต.มีมติให้จัดการเลือกตั้งใหม่ โดยเชิญ กกต.จังหวัดมาหารือกับ กกต.กลางในวันที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อพิจารณาว่าพื้นที่ใดมีความพร้อมจัดการเลือกตั้งได้บ้าง นอกจากนี้ กกต.มีมติให้ผู้ที่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง วันที่ 26 มกราคม และวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะเกิดปัญหาจนต้องปิดลงคะแนนจากนั้น ให้ถือว่าคะแนนที่ได้ใช้สิทธิ์ไป มีความสมบูรณ์แล้ว

              สำหรับกรณีที่ 16 เขต ที่มีผู้สมัครเพียงรายเดียวนั้น จำเป็นต้องรอผลการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 26 มกราคม ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ ซึ่งการจัดการเลือกตั้งใหม่ที่จะเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่จะเชิญศูนย์รักษาความสงบ มาร่วมประชุมหาแนวทางดูแลการเลือกตั้ง

ศาลอนุมัติออกหมายจับกุม กปปส.เพชรบุรี ปิดล้อมขัดขวางการเลือกตั้ง 12 ราย


ศาลอนุมัติออกหมายจับกุม กปปส.เพชรบุรี ปิดล้อมขัดขวางการเลือกตั้ง 12 ราย



ศาลอนุมัติออกหมายจับกุม กลุ่ม กปปส.ปิดล้อมขัดขวาง การเลือกตั้ง จำนวน 12 ราย

              ด้วยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.3557 เวลาประมาณ 07.00 น. ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. ได้ทำการปิดล้อม รร.หนองหญ้าปล้องวิทยา ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 3 ซึ่งเป็นสถานที่เก็บบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำไปใช้ในการเลือกตั้ง โดยทำการปิดล้อมตั้งแต่วันดังกล่าวจนถึงวันที่ 2 ก.พ.2557 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้คณะกรรมการการเลือกตั้งไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2557 พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วได้ยื่นขอให้ศาลจังหวัดเพชรบุรีอนุมัติออกหมายจับตามกฎหมาย ภายหลังศาลได้อนุมัติออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนยื่นขอ จำนวน 12 ราย ดังรายชื่อดังต่อไปนี้

  • 1. นายจิรศักดิ์ เทศเกิด อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 หมู่ที่ 2 ต.ห้วยไผ่ อ.เมืองราชบุรี จว.ราชบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 50/2557)
  • 2. นายนัท สุขศิรินันทกุล อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 3 ต.ยางน้ำกลัดใต้ อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 51/2557)
  • 3. นายสมพล กล้าหาญ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 5 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 52/2557)
  • 4. นางกาญจนา โกมลวานิช อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 310/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 53/2557)
  • 5. นางสาวอนงค์นาถ อ่อนน้อม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 292 หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 54/2557) 
  • 6. นายสุรินทร์ พวงไม้ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/2 หมู่ที่ 3 ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 55/2557)
  • 7. นายสมบูรณ์ สูงดัง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่ที่ 2 ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 56/2557)
  • 8. นายชวนชม ผู้งาม อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 4 ต.ยางน้ำกลัดใต้ อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 57/2557)
  • 9. นางลำพัศ มาดศรี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 343/2 หมู่ที่ 9 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 58/2557)
  • 10. นายบัญชา วรรณกนก อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 59/2557)
  • 11. นายสงคราม เสนะโลหิต อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 60/2557)
  • 12. นางพะยอม พลอยงาม อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/2 หมู่ที่ 4 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.หนองหญ้าปล้อง จว.เพชรบุรี (หมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีที่ 61/2557)

ผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย กระทำความผิดฐาน

                 “ร่วมกันกระทำการใดๆ โดยไม่มีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อมิให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิได้, ร่วมกันทำให้เสื่อมเสียเสีรีภาพโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป และร่วมกันเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุขในเวลากลางคืน”

หลาด ฉะ นา วี ชาด ไท ขวัญใจชาวม๊อป













fWrRFK.jpg [585x720px] ฝากรูป















รูปภาพของ นางฟ้าซาตาน มะนาวหวาน ชินวัตร







ม๊อปชาวนามาแล้วจ๊า