เด้ง 'อธิบดีกรมการจัดหางาน-ผอ.สำนักบริหารแรงงานต่างด้าว' เข้ากรุ! เซ่นจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว

Thu, 2014-06-19 14:35               19 มิ.ย. 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งที่  70/2557 เรื่องการแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยโยกย้ายบุคคลในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางานและผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว  รายละเอียดคำสั่งดังกล่าว มีดังนี้ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 70/2557 เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่                เพื่อให้การแก้ไขปัญหาและการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้ 1.ให้ นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน มาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน 2.ให้ นายสุเมธ มโหสถ รองปลัดกระทรวงแรงงาน มาปฏิบัติหน้าที่ อธิบดีกรมการจัดหางานอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน 3.ให้ นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวมาปฏิบัติราชการที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน 4.ให้ นายพิชิต นิลทองคำ จัดหางานจังหวัดชลบุรี มาปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักบริหารแรงงานต่างด้าวอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 19 มิถุนายน พุทธศักราช 2557 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ฮิวแมนไรท์ วอทช์ ร้องกองทัพไทยต้องเปิดเผยที่คุมขัง กริชสุดา นักกิจกรรมที่หายตัวไป

Thu, 2014-06-19 18:29 ในขณะที่คณะกรรมการสิทธิฯ แห่งเอเชีย ร้องคสช. ยกเลิกข้อกล่าวหาต่อวรเจตน์ และพลเมืองอื่นๆ ในศาลทหาร รวมทั้งปล่อยตัวคนที่ถูกคุมขังโดยพลการทันที เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2557 องค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์ วอทช์ ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อกริชสุดา คุณะเสน นักกิจกรรมเสื้อแดงวัย 27 ปีที่หายตัวไปราว 3 อาทิตย์ โดยมีหลักฐานว่าเธอถูกจับกุมไปโดยทหารเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมาที่จ.ชลบุรี    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกหมายเรียกให้เธอไปรายงานตัวพร้อมกับคนอื่นๆ ในรายชื่ออีก 17 คน หลังจากนั้นกองทัพก็ไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ รวมถึงสถานที่ควบคุมตัวของเธออีกเลย ทั้งๆ ที่การควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกสามารถทำตามกฎหมายได้เพียงแค่ 7 วันเท่าน้ัน    ทั้งนี้ กริชสุดา เป็นนักกิจกรรมที่คอยให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองและผู้ที่ได้รับผลกระทบทางการเมืองจากเหตุการณ์ความรุนแรงปี 2553    แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า กองทัพไทยต้องเปิดเผยสถานที่ควบคุมตัวของกฤษสุดา รวมถึงให้สิทธิในการเข้าถึงทนายความและแพทย์ทันที   "รัฐบาลที่กังวลควรต้องเรียกร้องให้ทางการทหารไทยชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอเพื่อสร้างหลักประกันความปลอดภัย" เขากล่าว   ในขณะที่ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเอเชีย ได้แสดงความกังวลต่อการที่ศาลทหารตั้งข้อหาต่อรศ.ดร. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยข้อหาละเมิดคำสั่งคสช. ซึ่งต่อมาเขาได้ประกันตัว   คณะกรรมการสิทธิฯ แห่งเอเชียระบุว่า การตั้งข้อหาดังกล่าวเป็นการจงใจกระทำต่อวรเจตน์ในฐานะนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจากความคิดและการกระทำของเขา และนอกจากวรเจตน์แล้ว ยังมีจิตรา คชเดช นักกิจกรรมด้านสิทธิแรงงาน ที่ถูกตั้งข้อหาโดยศาลทหารจากการไม่รายงานตัวต่อคสช. ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนได้แสดงเจตจำนงค์จะไปรายงานตัวต่อคสช.ก่อนหน้านั้นแล้ว    คณะกรรมการสิทธิฯ แห่งเอเชียย้ำว่า การใช้ศาลทหาร เป็นการละเมิดอนุสัญญาด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี และยังเป็นกระบวนการที่เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอีกด้วย   "คณะกรรมการสิทธิฯ แห่งเอเชีย เรียกร้องคสช.ให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังอยู่โดยไมีการตั้งข้อกล่าวหาทั้งหมดทันที และยุติการสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวด้วยการออกหมายเรียกให้ไปรายงานตัวต่อทหาร" แถลงการณ์ระบุ   "กระบวนการทางกฎหมายต่อรศ.ดร.วรเจตน์ และพลเมืองคนอื่นๆ ในศาลทหารเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบธรรม และข้อกล่าวหาทั้งหมดต้องถูกยกเลิกทันที รวมถึงต้องปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังอยู่ทั้งหมด คณะกรรมการสิทธิฯ แห่งเอเชีย เรียกร้องให้คสช.ยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างในฐานะพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนและหลักนิติธรรม การคิดต่างไปจากคณะรัฐประหารไม่ใช่อาชญากรรม"

'องค์กรเก็บขยะแผ่นดิน' แจ้งความ 5 บุคคล ข้อหา 112, 116

Thu, 2014-06-19 19:58 19 มิ.ย. 2557  พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน เดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อบุคคล 5 ราย "ด้วยขณะนี้มีบุคคลและกลุ่มบุคคลที่ได้แสดงตนอย่างชัดแจ้งได้กระทำการจาบจ้วงล่วงละเมิด หมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี และองค์รัชทายาท ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะและเทิดทูนของประชาชนชาวไทยทั้งปวง โดยการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ เป็นเครื่องมือกระทำการอันเป็นเท็จโดยไม่รู้สึกถึงความผิดชอบชั่วดีและปราศจากความยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง" พล.ต.นพ.เหรียญทอง ชี้แจง  โดยบุคคลดังกล่าว ประกอบด้วย นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส 2 คดี นายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน 2 คดี นายเสน่ย์ ถิ่นแสน หรือเพียงดิน รักไทย 2 คดี นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน หรือชูพงษ์ เปลี่ยนระบอบ 2 คดี นางฉัตรวดี อมรพัฒน์, นายมนูญ ชัยชนะ, นายเสน่ย์ ถิ่นแสน และ นายอำนวย แก้วชมพู (ร่วมกันกระทำผิด) 1 คดี รวมทั้งสิ้น 9 คดี ในข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 ซึ่งการกระทำความผิดตามมาตรา 112 เป็นการดำเนินการเบื้องต้นเพื่อนำไปสู่มาตรา 116 ที่เป็นการยั่วยุปลุกปั่นและยุยง

พรรคกรีนเยอรมันร่อนจดหมายถึงอียู ร้องทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีกับไทย

Thu, 2014-06-19 19:39 18 มิ.ย. 2557 เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา ประธานพรรคกรีน ประเทศเยอรมนี และพันธมิตรเสรียุโรป รีเบ็คกา ฮาร์มส์ และฟิลิป แลมแบตรซ์ ร่วมกับสกา เคลเลอร์ รองประธานพรรค ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงประธานสภาแห่งยุโรป เรียกร้องให้ทบทวนข้อตกลงการค้าเสรีกับไทย เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างกว้างขวาง   ทางตัวแทนพรรคกรีน ระบุว่า ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ ในการเจรจาข้อตกลง ทำให้การมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมเป็นไปได้ยาก เนื่องจากการจำกัดเสรีภาพการแสดงออกและสิทธิการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ต่างจากกระบวนการก่อนหน้านี้ที่ภาคประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้ในกระบวนการปรึกษาหารือภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย    "ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ เราเชื่อว่าสถานะการเจรจาข้อตกลงไทย-สหภาพยุโรปจำเป็นต้องได้รับการขยายความเพื่อความชัดเจนก่อนที่การเจรจาใหม่ในรอบเดือนกรกฎาคมที่จะมาถึง" จดหมายดังกล่าวระบุ   "การเจรจาใดๆ ควรจะถูกเลื่อนออกไปก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของสหภาพยุโรปต่อการเจรจากับประเทศใดๆ ที่เกิดการรัฐประหารและอยู่ใต้คณะทหาร และนโยบายสิทธิมนุษยชน"   พรรคกรีนยังได้เรียกร้องให้สภายุโรปยุติการเจรจาการค้าเสรีใดๆ จนกว่าประเทศไทยจะกลับสู่สภาวะประชาธิปไตย

หนุน ปชช.ตรวจ ‘เอชไอวี’-ปลัด สธ.เผย มีผู้ติดเชื้อราว 2.5 แสน ยังไม่รู้ผลเลือด

Thu, 2014-06-19 18:58 กรมควบคุมโรคจับมือองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ตรวจเอชไอวีฟรีเนื่องในวันรณรงค์ตรวจเอชไอวีแห่งชาติ 1 ก.ค. ด้าน ปลัด สธ.เผยยังมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีราว 250,000 รายที่ยังไม่รู้ผลเลือด ย้ำรู้ผลเลือดเร็ว รักษาเร็ว ช่วยลดปัญหาได้   19 มิ.ย. 2557 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับ ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย องค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ และ1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์ จัดงานแถลงข่าว ““ประโยชน์ 6 ข้อที่ควรตรวจเอชไอวี” ขึ้น ที่ห้องประชุมชั้น 1 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึง ข้อดีในการรู้ผลเลือดเอชไอวีของตัวเองในโอกาสที่วันตรวจเอชไอวีแห่งชาติ 1 กรกฎาคมที่กำลังจะมาถึง   นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผยถึงตัวเลขผู้ติดเชื้อเอชไอวีว่า ปัจจุบันไทยมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีราว 500,000 คน อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนี้มีเพียงครึ่งหนึ่งหรือ 250,000 รายเท่านั้นที่ทราบผลเลือดและเข้าสู่ระบบการรักษาแล้ว ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมากสำหรับผู้ที่ยังไม่ตรวจเลือดและไม่ได้เข้าสู่ระบบการรักษา เนื่องจาก กระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบและบริการด้านเอชไอวี/เอดส์ไว้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ระบบการให้คำปรึกษา การให้บริการด้านแลป การจ่ายยาต้านไวรัส รวมถึงการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่องหลังจากรับยาต้านไวรัสแล้ว   “ยุทธศาสตร์ของกระทรวงสาธารณสุขต่อเรื่องเอดส์คือ Getting to zero คือ การทำงานเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้เป็นศูนย์ ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากเอดส์ให้เหลือศูนย์ และลดการรังเกียจตีตราในเรื่องเอดส์ให้เป็นศูนย์ โดยเชื่อมั่นว่าทั้ง 3 zero จะเกิดขึ้นได้เนื่องจากได้วางระบบการให้บริการเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างดี เพียงแต่ต้องรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักและเห็นว่าการรู้ผลเลือดเอชไอวีของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาเอดส์ได้ทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคม กล่าวคือ หากเรารู้ผลเลือดแล้วเราก็จะป้องกัน ไม่ส่งต่อเชื้อ ในขณะเดียวกันก็จะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วลดอัตราการป่วยและชีวิต ซึ่งส่งผลให้ประเทศประหยัดงบประมาณในการรักษาด้วย”   นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ตัวเองได้ผ่านประสบการณ์เรื่องการตัดสินใจตรวจ/ไม่ตรวจ มาแล้วบอกได้ว่า มีความสับสนและกังวลมากเพียงใด อย่างไรก็ตามคิดว่าสมัยนี้ ปัญหาเอดส์คลี่คลายกว่าเมื่อสิบปีก่อน โดยเฉพาะเรื่องการรักษาที่มียาต้านไวรัสโดยที่ทุกสิทธิการรักษาก็ครอบคลุมเรื่องเอชไอวี/เอดส์   “สมัยก่อน ไม่อยากตรวจเพราะรู้ผลเลือดแล้ว รู้สึกว่าชีวิตไม่มีทางไปต่อ ทำให้ไม่รู้จะดีกว่า แต่สมัยนี้ต้องบอกว่า รู้ดีกว่าไม่รู้ เพราะถ้ารู้แล้วเราจัดการชีวิตเราได้ โดยเฉพาะเรื่องการประเมินภาวะสุขภาพและการรับยาต้านไวรัสก่อนที่เราจะป่วย เมื่อเราไม่ป่วยก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ”   นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการและเลขานุการ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียดายหากระบบสาธารณสุขของประเทศมีความพร้อมในการให้บริการตรวจรักษาเอชไอวี/เอดส์ แต่ยังมีผู้มาใช้บริการเพียงครึ่งหนึ่งของตัวเลขประมาณการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ จึงอยากให้ทุกคนรู้สึกว่าการตรวจเลือดหาการติดเชื้อ  เอชไอวีเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกับการตรวจสุขภาพทั่วๆ ไป อย่ากลัวหรืออย่าอายที่จะมารับบริการ ทั้งนี้ ในโอกาสที่วันรณรงค์ตรวจเอชไอวีแห่งชาติ 1 กรกฎาคม กำลังจะมาถึง ทางเครือข่ายคนทำงานด้านเอดส์จึงร่วมกันออกหน่วยบริการปรึกษาและตรวจเอชไอวีให้กับประชาชนทั่วไปฟรีในวันที่ 1 กรกฎาคมและตลอดเดือน   ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือมีความกังวลเรื่องเอชไอวี/เอดส์ สามารถโทรศัพท์เข้ามาขอรับบริการปรึกษาได้ที่ 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์ ทุกวัน 09.00-21.00 น.

ย้ายท่ารถตู้ไปมักกะสัน 1 ก.ค. นี้ - ประภัสร์แนะระยะยาวให้ย้ายไปอโศกเชื่อม BTS-MRT

Thu, 2014-06-19 19:52 ผบ.กรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้า ให้ย้ายท่ารถตู้ไปแอร์พอร์ตลิ้งค์ มักกะสัน-ทางด่วนดินแดง 1 ก.ค. นี้ ด้านคนขับรถตู้กังวลไม่มีผู้ใช้บริการ-ขับรถไม่สะดวก ส่วน จยย.รับจ้าง ให้หาที่ตั้งวินให้เรียบร้อย ด้านผู้ว่า รฟท. ชี้ระยะยาวใช้ที่ดินมักกะสันไม่ได้เพราะจะให้กรมธนารักษ์เช่า 90 ปีล้างหนี้ เสนอย้ายไปอโศกแทนเพื่อเชื่อม BTS-MRT 19 มิ.ย. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้า ศูนย์การทหารม้า ในฐานะ ผู้รับผิดชอบในการจัดระเบียบรถโดยสารรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชี้แจงมาตรการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้รับทราบ รวมทั้ง การย้ายจุดจอดรถไปยังสถานที่อื่น โดยเตรียมไว้ 2 แห่ง คือ บริเวณใต้ทางด่วนดินแดง ที่มีโครงการก่อสร้างลานจอดรถ 2 ชั้น ในเวลาไม่เกิน 1 ปี และ บริเวณใต้สถานนีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน ซึ่งจะมีการจัดเส้นทางให้สะดวกต่อผู้ใช้บริการด้วย โดยจุดนี้ คาดว่า จะรองรับรถได้ประมาณ 2,000 คัน แต่จะใช้เป็นการชั่วคราว ก่อนจัดหาสถานที่อื่นที่เหมาะสมต่อไป เริ่มดำเนินการในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ ด้านผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะ ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นด้วยกับการย้ายจุดจอดรถ เนื่องจาก กังวลว่า ผู้โดยสารอาจจะไม่มาใช้บริการ หรือ ติดปัญหาการจราจร รวมถึง การขับรถมารับผู้โดยสารจะไม่สะดวก นอกจากนี้ ยังมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง เข้ามารับฟังคำชี้แจงการจัดระเบียบ โดยเน้นให้วินรถจักรยานยนต์รับจ้างมีการจัดตั้งสถานที่ให้เรียบร้อย ติดราคาค่าโดยสารให้ชัดเจน แต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย และให้ร่วมกันแจ้งเบาะแสมิจฉาชีพที่เข้ามาแฝงในวินรถจักรยานยนต์รับจ้างแล้วเรียกเก็บค่าโดยสารที่แพงเกินจริง พร้อมทั้งยืนยันว่า ทหารจะเข้ามาจัดการระบบการขนส่งสาธารณะให้มีระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ประภัสร์เห็นด้วยจัดระเบียบรถตู้ แต่ระยะยาวควรย้ายไปอโศก เพราะที่ดินมักกะสันจะให้กรมธนารักษ์เช่าล้างหนี้ ด้านนายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ ว่าด้วยกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในการจัดระเบียบวินรถตู้รอบพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อแก้ปัญหาการจราจร โดยในวันที่ 23 มิ.ย. จะเริ่มย้ายวินรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปยังสถานีแอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน ทัั้งนี้ ในระยะยาวเห็นว่า คงไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย จะนำพื้นที่ดังกล่าวไปให้กรมธนารักษ์เช่าระยะยาวเป็นเวลา 90 ปี เพื่อนำรายได้ไปใช้หนี้กระทรวงการคลัง ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท ดังนั้น หาก คสช. ต้องการพื้นที่ทำจุดจอดรถตู้ถาวร จึงอยากเสนอให้ไปใช้พื้นที่บริเวณอโศก ซึ่งเป็นพื้นที่อีกแห่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพราะนอกจากจะมีพื้นที่ขนาดใหญ่พอที่จะรองรับรถตู้ได้ทั้งหมดแล้ว ประกอบกับยังเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT จึงน่าจะสะดวกต่อการเดินทางของผู้โดยสาร