วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

น.ศ.หน้า สน.ปทุมวัน พร้อมให้จับ หลังตำรวจตรึงกำลังรอบเซฟเฮ้าส์เช้านี้



Thu, 2015-06-25 10:12


       25 มิ.ย.2558 มีรายงานจากผู้สื่อข่าวว่า เช้าวันนี้ เวลาประมาณ 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบราว 20 นาย ได้มาตรึงกำลังอยู่ที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าสถานที่ที่ 11 นักศึกษา และนักศึกษากลุ่มดาวดินพักเข้าพัก หลังเดินทางกลับจากการเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ที่ สน. ปทุมวันเมื่อวานนี้

        หลังการชุมนุมที่หน้า สน.ปทุมวันยุติลงในช่วงดึกของคืนวานนี้ 11 นักศึกษา ซึ่งมีทั้งนักศึกษาที่ถูกจับหลังการชุมนุมที่หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และนักศึกษากลุ่มดาวดินที่ถูกจับที่ขอนแก่น จากการประท้วงวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ยังคงรวมกลุ่มและประชุมสรุปบทเรียนกันที่สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร

        รังสิมันต์ โรม ตัวแทนของนักศึกษากล่าวกับประชาไทว่า พวกเขาคาดการณ์ว่า น่าจะถูกจับวันนี้ ซึ่งทั้ง 11 คนจะไม่ขัดขืนการจับกุม แต่ยังยืนยันว่า ไม่ยอมรับอำนาจรัฐประหาร แต่ขอให้ผู้สื่อข่าวไม่เปิดเผยสถานที่เนื่องจากไม่ต้องการให้ประชาชนมาปก ป้องพวกเขา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะและบาดเจ็บได้ พวกเขาเห็นว่า การต่อสู้ครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้ว ต่อจากนี้ไปจะเป็นการต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมาย และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจะยังดำเนินต่อไป



      12.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบไม่ต่ำกว่า 20 นาย ตรึงกำลังอยู่หน้าสวนเงินมีมา ระหว่างเจริญนคร 20-22 ขณะที่ภายในสวนเงินมีมา มีนักศึกษา 12 คน ประกอบด้วยกลุ่มดาวดิน 7 คน และกลุ่มที่ทำกิจกรรมหน้าหอศิลป์ฯ 5 คน ที่ถูกออกหมายจับ และเพื่อนรวมกว่า 20 คน ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่จาก OHCHR ยูเอ็น มาสังเกตการณ์ 2 คน ขณะที่บริเวณซอยเจริญกรุง 40-50 มีรถห้องขังของตำรวจจอดกระจายอยู่ 3 คัน และบริเวณโดยรอบถนนเจริญกรุงมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบกระจายกำลังตามจุดต่างๆ จุดละ1-2 นาย รวมไม่ต่ำกว่า 10 นาย



       ด้านนักศึกษาและประชาชนที่ถูกออกหมายจับ ตั้งโต๊ะแถลงจุดยืน ประกาศทำอารยะขัดขืน ไม่ยอมรับการใช้อำนาจและกฎหมายของคณะรัฐประหาร ยินยอมรับการจับกุมโดยไม่ขัดขืน หากไม่ถูกทำการจับกุม ประกาศนัดทำกิจกรรมการเมืองที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลา 17.00 น. วันนี้

‘ประยุทธ์’ ถามนักศึกษาที่ต้าน “ทำแล้วมันได้อะไรขึ้นมา” พ่อแม่เดือดร้อน-ประเทศชาติเสียหายไหม




Thu, 2015-06-25 15:27


วันที่ 25 มิ.ย.2558 ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึง กรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาที่หน้าสน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า

“ก็ช่างเขา ก็เคลื่อนไหวไป ถ้าผิดวันไหนก็วันนั้นนั่นแหละ อย่ายั่วกันไปกันมาเลย เพราะมันเป็นปัญหาโลกแตกอยู่แล้ว สื่อก็ถามผมทุกวัน ไอ้พวกนั้นก็สู้ทุกวัน ก็ซักวันหนึ่งละ ก็ขอร้องว่าที่อื่นอย่าไปร่วมมือ เพราะวันนี้ต้องรู้ว่าเรากำลังทำอะไรกันอยู่ ประเทศชาติอยู่ในห้วงเวลาอะไร วันนี้เรากำลังแก้ปัญหาอะไรกันบ้าง ไปดูซิว่าผมแก้อะไรอยู่ จะมาเรียกร้องเอาอะไรกันนักหนา ถามเขาซิ ทำเช่นนี้ ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนหรือไม่ ต้องมีคดีความ ต้องถูกถอดออกจากการเป็นนักศึกษา แล้วอนาคตจะว่าอย่างไร ทำแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ประเทศชาติเสียหายหรือเปล่า และที่มาบอกว่าผมควบคุมอำนาจ ผมไม่เคยบอกว่าผมทำถูก แต่ผมทำเพื่อให้เกิดความชัดเจนกับประเทศนี้ ทำเพื่อคนอื่น ทำเพื่อคนไทยที่เห็นด้วยและลำบากอีก 60 กว่าล้านคน แต่จะให้เห็นด้วยทุกคนมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว จะให้คิดเหมือนผมมันคงไม่ได้ แต่อะไรที่ดีและเกิดประโยชน์ ก็ช่วยกันอธิบายความถูกต้องให้ทุกคนได้รับทราบบ้าง ไม่ใช่เอาเรื่องทางนี้ไปบอกทางนั้น แล้วเอาเรื่องทางนั้นมาบอกทางนี้ มันก็ตีกันทุกวันอยู่แบบนี้”

ศาลชั้นต้นพิพากษา 'ธเนศ' คดี 112 จำคุก 3 ปี 4 เดือน



Thu, 2015-06-25 14:45


        25 มิ.ย. 2558 ที่ศาลอาญา ห้องพิจารณาคดี 713 ถนนรัชดา ศาลเบิกตัวนายธเนศ (สงวนนามสกุล) จำเลยในคดีมาตรา 112 ซึ่งมีอาการจิตเภทชนิดหวาดระแวงและอยู่ในเรือนจำมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2557 เพื่อฟังคำพิพากษา โดยศาลพิพากษาให้จำคุก 5 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน จากกรณีส่งอีเมล์ที่มีลิงค์ของเว็บไซต์ซึ่งมีข้อความหมิ่นประมาทกษัตริย์ให้แก่ผู้อื่น

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกเหนือจากญาติของจำเลยและผู้สื่อข่าวแล้ว ยังมีผู้สังเกตการณ์คดีจากองค์กรสิทธิมนุษยชนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากสหประชาชาติ และสถานทูตเดนมาร์กเข้าร่วมฟังคำพิพากษาด้วย

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลสั่งพิจารณาคดีลับ และในการอ่านคำพิพากษาวันนี้ศาลได้อ่านทวนคำฟ้องซึ่งระบุถึงข้อความในลิงค์ซึ่งแบ่งเป็น 12 ข้อความด้วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้คดีลักษณะเดียวกันนี้หลายคดีไม่มีการอ่านทวนคำฟ้อง ข้อความตามฟ้องเป็นไปในลักษณะวิพากษ์วิจารณ์สถาบันต่างๆ ทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ทหาร การรัฐประหาร โดยพยายามเชื่อมโยงกับบทบาทของสถานบันกษัตริย์ ซึ่งศาลวินิจฉัยว่า ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตและไม่เป็นไปตามความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หากแต่มีลักษณะกล่าวหาใส่ร้ายพระมหากษัตริย์และรัชทายาท อีกทั้งยังมุ่งหมายให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน แม้จำเลยจะเป็นเพียงผู้ใช้อีเมล์เพื่อชี้แหล่งข้อมูล แต่จำเลยย่อมรู้ว่าเนื้อหาในเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นการกล่าวหาพระมหากษัตริย์และรัชทายาท และหัวข้ออีเมล์ของจำเลยที่ส่งให้นาย เอลิมิโอ เอสเตบาน (Elimio Esteban) คือ “สวัสดี ช่วยเขาเหล่านั้นด้วย ช่วยโพสต์เว็บนี้บนเว็บไซต์คุณให้คนไทยได้อ่าน คนไทยจำเป็นต้องอ่าน” แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาให้มีการเผยแพร่ในเว็บของผู้รับอีเมล์

         ศาลวินิจฉัยในประเด็นที่สองว่า แม้จำเลยรับสารภาพว่าเป็นผู้ที่ส่งอีเมล์จริงแต่ได้ต่อสู้คดีว่าขณะกระทำการนั้นอยู่ในสภาพจิตบกพร่อง ศาลเห็นว่าแม้จำเลยจะมีอาการทางจิตชนิดหวาดระแวงและมีอาการซึมเศร้าร่วมด้วยตามที่จิตแพทย์เบิกความยืนยัน แต่จิตแพทย์ก็ระบุว่าจำเลยมีความสามารถทางเชาว์ปัญญาเป็นปกติ เนื้อหาความคิดอาจเบี่ยงเบนจากความจริงไปบ้างแต่ไม่รุนแรงนัก หากมีสถานกาณณ์กระตุ้นอาจปรับตัวลำบาก จำเลยมักใช้กลไกทางจิตแบบหลบหนี ไม่ไว้วางใจใคร มองโลกในแง่ร้าย อารมณ์ไม่มั่นคง นอกจากนี้พนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอต่างก็ให้การว่า จำเลยสามารถให้การได้ตามปกติ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่รู้จักกับจำเลยเป็นการส่วนตัว ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อนจึงไม่มีเหตุให้กลั่นแกล้งใส่ความจำเลย ประกอบกับจำเลยได้ให้การว่าจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อ่านเขียนภาษาอังกฤษได้ แม้แพทย์จะระบุอาการจำเลยเช่นนั้นแต่เมื่อพิจารณาจากคำเบิกความจำเลยโดยคำนึงถึงการใช้ชีวิตประจำวัน ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีจิตบกพร่องตามที่ได้ต่อสู้คดี

        ศาลจึงพิพากษาให้จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 , มาตรา 116 , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(3),(5) จำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษบทหนักที่สุดตามมาตรา 90 ของประมวลกฎหมายอาญา ให้จำคุก 5 ปี จำเลยให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดีมีเหตุให้ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน

      ทั้งนี้ ธเนศอายุ 46 ปี มีอาชีพขายผลิตภัณฑ์การเกษตรทางอินเทอร์เน็ต คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.53 นายธเนศได้ส่งอีเมล์ที่มี URL ของเว็บไซต์ที่ถูกกล่าวหาว่ามีข้อความหมิ่นให้แก่ผู้อื่น และเมื่อวันที่ 2 ก.ค.57 ธเนศถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ประมาณ 10 กว่านายเข้าจับกุมและถูกกักตัวตามกฎอัยการศึกในค่ายทหาร 7 วัน ต่อมาวันที่ 9 ก.ค.57 ธเนศถูกนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญา และถูก

ธเนศ กล่าวถึงความรู้สึกหลังได้รับฟังคำพิพากษาว่า คิดว่าโทษหนักเกินไปเพราะตอนแรกคาดหมายว่าโทษน่าจะประมาณ 2 ปี 6 เดือนเท่านั้น ส่วนการต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์นั้นเขาอาจจะไม่ยื่นเพราะไม่อยากยืดเยื้อไปมากกว่านี้และต้องการเป็นนักโทษเด็ดขาดให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้รับสิทธิลดวันต้องโทษตามโอกาสสำคัญ เขากล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาเขาได้ช่วยเหลืองานที่ห้องสมุดภายในแดน

ด้านพี่สาวของธเนศ กล่าวว่า จะไม่สู้คดีต่อเพราะไม่อยากยืดเยื้อและคาดหวังว่าในปีนี้น่าจะมีการอภัยโทษหลายครั้ง ไม่เกิน 1 ปีน้องชายอาจจะได้ออกจากคุก ส่วนการรักษาพยาบาลอาการจิตเภทของนายธเนศภายในเรือนจำนั้นจิตแพทย์ที่ทำการรักษาได้เปลี่ยนยาให้ธเนศ หลังจากยาตัวเก่ามีผลข้างเคียงมากเกินไป ทำให้ธเนศดูมีอาการดีขึ้นและมีกำลังใจที่ดีขึ้น สำหรับชีวิตในคุกนั้นธเนศมีเพื่อนหลายคน เพราะเขาชอบแบ่งปันของกินที่ญาตินำไปฝากให้กับเพื่อนร่วมเรือนจำ

เคลื่อนอีกครั้ง ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ นั่งรถเมล์ มุ่งหน้าสู่ อนุสาวรีย์ ปชต.




Thu, 2015-06-25 15:34


ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ จัดทัวร์ประวัติศาสตร์ 'ธรรมศาสตร์-อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม-อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา-อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย' พร้อมแจงเหตุที่เคลื่อนไหวต่อ เพราะยังไม่ถูกจับ




       25 มิ.ย. 2558 หลังจากที่ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งคือกลุ่มที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มนักศึกษาละประชาชน ที่ออกมาเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา เนื่องในวันครบรอบหนึ่งปีการทำรัฐประหาร ทั้งจากกลุ่มดาวดิน จากจังหวัดขอนแก่น และกลุ่มหน้าหอศิลป์ ที่กรุงเทพฯ ได้สลายตัวจากการ สน. ปทุมวัน เมื่อคืนที่ผ่านมา จากการประกาศเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ที่ใช้กำลังเกินกว่าในการสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2558 พร้อมประกาศจุดยืนไม่ยอมรับอำนาจจากคณะรัฐประหาร หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และประกาศอารยะขัดขืน ไม่ไปรายงานตัวตามหมายจับฐานฝ่าฝืนอำนาจ คสช.

      ภายหลังจากการสลายตัว ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ เข้าไปเก็บตัวที่ สวนเงินมีมา ตลอดทั้งคืน ขณะที่ด้านนอกมีเจ้าหน้าที่ทหารกระจายตัวปิดล้อมทางเข้าออก และกระจายตัวปิดล้อมตามจุดต่างๆ ในบริเวณใกล้เคียง

      ขณะที่ในช่วงเช้า ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ ตั้งโต๊ะแถลงถึงจุดยืนอีกครั้ง โดยประกาศว่าพร้อม และยินดีที่จะถูกจับกุม แต่จะไม่เข้ามอบตัวเอง เนื่องจากไม่ยอมรับอำนาจ คสช. ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ยังไม่ดำเนินการเข้าจับกุม ทางกลุ่มประกาศว่าจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยประกาศนัดพบกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 17.00 น. วันนี้


        ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.20 อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 พร้อมนายทหารนอกเครื่องแบบ เดินเข้ามาขอให้นักศึกษาคุยกันก่อน โดยขอว่า อย่าเพิ่งออกไปเคลื่อนไหว แต่ไม่เป็นผล พร้อมกันนั้นขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้รวมตัวร้องเพลง และเดินออกไปขึ้น ปอ.6 เพื่อไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถจักยานยนต์ตามไปด้วย

       ทั้งนี้ ปกรณ์ อารีกุล 1 ใน 16 คน ในขบวนการประชาธิปไตยใหม่ที่ถูกออกหมายจับ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะเป็นการทัวร์ทางประวัติศาสตร์ โดยจะเริ่มต้นกันที่ ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทลัยธรรศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จากนั้นจะไปต่อที่ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้เดินทางถึงสนามหลวงแล้ว พร้อมร้องเพลง “เธอได้ยินผู้คนร้องไหม” และเดินต่อไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



          ในเวลา 15.10 น. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริเวณลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ พร้อมวางพวงมาลัยที่ ประติมากรรม6 ตุลา โดย รังสิมันต์ โรม ระบุว่ามาที่นี่ เพื่อคารวะวีรชนหกตุลา สืบสานภารกิจของพวกเขาให้จบ และจะเริ่มภารกิจล้มเผด็จการต่อจากวีรชนหกตุลา พร้อมร้องเพลง แสงดาวแห่งศรัทธาา


      จากนั้นได้เดินทางออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มุ่งหน้าสู่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม ด้านรังสิมันต์ โรม ได้กล่าวว่า การเดินทางมาที่นี่ เพื่อที่จะรำลึกถึงเหตุการณ์พฤษภา 35 โดยตนเองไม่คิดว่าหลังจากปี 2535 ทหารจะทำการรัฐประหารตัดตอนประชาธิปไตยอีก แต่แล้วก็เกิดขึ้นอีกสองครั้งในปี 2549 และปี 2557 พร้อมประกาศการว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเป็นการทำให้การรัฐประหารล้มเหลว




         ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีเจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจ ในเครื่องแบบประมาณ 10 นาย กระจายตัวอยู่โดยรอบ



       ต่อมาในเวลา 15.40 น. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้เดินทางมาถึงที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา พร้อมประกาศเจตนารมณ์สานต่อภารกิจที่ยังไม่เสร็จสิ้น ภารกิจที่วีรชน 14 ตุลา ทำไว้จะไม่สูญเปล่า รังสิมันต์ โรม ระบุว่า ตอนนี้ขบวนการนักศึกษามีเอกภาพมากขึ้น และพร้อมที่จะต่อสู้ทำลายระบอบเผด็จการให้มอดมลายไปจากแผ่นดินไทย  ทั้งนี้ระหว่างเดินทางมาที่นี่ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้ตะโกนคำว่า "คสช. ออกไป" ตลอดทาง


       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า 16.30 น. ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เคลื่อนขบวนจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มุ่งหน้าสู่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมประกาศจะเคลื่อนขบวนออกไป เพื่อล้มล้างระบอบเผด็จการ โดยระหว่างได้ร่วมกันร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา เมื่อเดินทางมาถึงที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธปไตย ทางกลุ่มได้ประกาศจุดยืนอีกครั้ง โดยรังสิมันต์ โรม ประกาศว่า รัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 มาตรา44 นั้นไม่ถือเป็นกฎหมาย ประชาชนทุกคนจึงไม่ควรเคารพ กฏหมาย คำสั่งของ คสช. ทุกฉบับ ไม่ใช่กฎหมายที่พึ่งเคารพ รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากประชาชน ไม่อาจถือว่าเป็นรัฐบาลได้ เป็นได้แต่เพียงกบฎที่ยึดอำนาจเท่านั้น ฉะนั้นผู้ที่เป็นกบฎตามมาตรา 113 ไม่มีอำนาจมาออกคำสั่งให้ประชาชนปฏิบัติตาม หน้าที่ของประชาชนคือการต่อต้านเท่านั้น





       จากนั้นสมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้ออกมาเล่าถึงเหตุผลที่ออกมาต่อต้านการทำรัฐประหาร โดยให้เหตุผลว่า ในระบอบเผด็จการมีการใช้อำนาจเอื้อผลประโยชน์ให้กับนายทุน และประชาชนเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ไม่มีช่องทางที่จะออกมาเรียกร้องอะไรได้เลย เช่นกรณีการขุดเจาะปิโตรเลียมบ้านนามูล-ดูลสาด กรณีเหมื่องแร่เมืองเลย ฉะนั้นการต่อสู้ในประเด็นเรื่องสิทธิชุมชน และผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ จึงการเป็นเรื่องเดียวกันกับการคัดค้านรัฐประหาร


          เมื่อรัฐบาลทหาร ออกมาปกครองบ้านเมือง มีการออกกฎหมายโดยไม่มีการรับฟังเสียง หรือความคิดเห็นของประชาชน อย่างเช่นเรื่องการผลักดันกฎหมายมหาวิทยาลัยนอกระบบ

        อีกทั้งภายใต้ระบอบเผด็จการ กระบวนการยุติธรรมไม่มีความชอบธรรมอย่างแท้จริง รัฐบาลอ้างกฎหมายพิเศษ ในการจัดการกับผู้คนที่เห็นต่าง ผู้บริสุทธิ์ หลายคนต้องติดคุก เมื่อไม่มีประชาธิปไตย ความยุติธรรมจึงไม่เกิดขึ้น

       ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้ามาบอกว่า สิ่งที่ ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ กระทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย


         ขณะเดียวกัน อดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้เดินทางมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า จะเข้ามาขอเป็นตัวกลาง เพื่อที่จะตกลงเจรจากับขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และบอกว่าตนเองได้คุยกับรัฐบาลแล้วว่าจะไม่มีการจับกุมในวันนี้ พร้อมเชิญชวนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หาทางออกร่วมกัน




       ในเวลา 18.00 น. บรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 7 คนจากดาวดินเริ่มเล่นดนตรี ร้องเพลง สลับกับการปราศัย ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในเครื่องแบบ อยู่ในพื้นที่




         ต่อมา 18.55 น. รังสิมันต์ โรมแจงหลักการของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 5 ข้อ ทวนถามประชาชนที่มา ยังสัญญาเคียงบ่าเคียงไหล่กันใช่หรือไม่ ชี้จะออกมาอีก ชวนเพื่อนที่อยู่ที่บ้านออกมา ระบุถึงเวลาประชาชนเรียกร้องประชาธิปไตยแล้ว




       ทางกลุ่มฯได้ชวนไลค์เพจ "ขบวนการประชาธิปไตยใหม่" และขอให้ช่วยกันเก็บขยะในบริเวณดังกล่าว ยกเว้นสติ๊กเกอร์ต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ปชต. ย้ำเลือกตั้งเมื่อไหร่จะมาแกะเอง พร้อมชวนร้อง แสงดาวแห่งศรัทธา ก่อนยุติการรวมตัว 19.06 น.