วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

"พานทองแท้" FB ถาม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง?


"พานทองแท้" FB ถาม ส.ส.ประชาธิปัตย์ ทำประโยชน์อะไรให้ประเทศบ้าง?

          7 กันยายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวhttps://www.facebook.com/oakpanthongtae โดยมีข้อความดังนี้


ในอดีตพรรคประชาธิปัตย์ เคยโด่งดังจากกรณี สปก.4-01 มาแล้ว

          ปัจจุบันภูมิใจเสนอ สปก.4-02 ซึ่งย่อมาจาก "สภา-ปา-เก้าอี้" ครับ  สปก.4-01ในครั้งนั้น "อภิสิทธิ์ชน" สามารถเล่นกล โดยนำป่าเขาลำเนาไพร มาออกเอกสารสิทธิ์ จนกลายเป็นสมบัติของตนเองและพวกพ้อง สร้างชื่อเสียงและความโด่งดังสไตล์ "ประชาธิปัตย์" ให้พี่น้องประชาชนไทย ได้ประทับใจกันมาแล้ว

         ครั้งนี้ สปก.4-02 ประชุมสภาฯไม่ได้ดั่งใจ ส.ส.ประชาธิปัตย์ระบายอารมณ์ด้วยการทำลายของหลวง โยนเก้าอี้2ตัว ที่จัดซื้อมาด้วยภาษีอากรของคนไทยทุกคน โครม..!! ลงไปกระแทกกับโต๊ะประชุมสภาซึ่งก็จัดซื้อมาจากภาษีอากรของพวกเราอีกเช่นกัน

          ภาพแบบนี้ในปัจจุบัน ในสภาของชาติต่างๆหาดูได้ยากครับ แต่สำหรับสภาไทย มีปรากฏให้เห็นถี่ขึ้นแทบจะทุกวัน เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาบีบคอส.ส.พรรคฯอื่น โยนแฟ้มการประชุม ขว้างปาสิ่งของ ต่อย-บีบคอตำรวจสภา แย่งเก้าอี้ประธานฯ ล่าสุดก็ขว้างเก้าอี้ และทั้งหมดที่ผมพูดถึงนั้น ภูมิใจเสนอจาก ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ล้วนๆ ไม่มี ส.ส.จากพรรคฯอื่นมาเจือปน ให้เสียอรรถรสเลยแม้แต่คนเดียว


         วันก่อนนี้พรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสำคัญกับรัฐธรรมนูญมาตรา5 ว่าด้วยที่มาของวุฒิสมาชิกเหลือเกินครับ กลัวจะเป็นสภาผัวเมีย // สภาญาติพี่น้อง //และสภาตระกูล จึงได้คัดค้านกันสภาแทบแตกเช่นเดียวกับทุกครั้ง และอย่างที่เราทราบกันดี แกนนำพรรคฯ ที่ลุกขึ้นอภิปรายคนแรกได้แก่ ส.ส.สุเทพ เทือกสุบรรณ ถึงกับด่ากรรมาธิการว่า"ไร้ยางอาย"เลยทีเดียว

        มาวันนี้ ตระกูลเทือกสุบรรณ เป็นเสียเองครับ ประชุมสภาฯเมื่อหลายเดือนก่อน แถวๆช่วงที่มีการแย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ ส.ส.ปชป.ชื่อ ธานี เทือกสุบรรณ ซึ่งไม่รู้ว่าไปกินดีหมีมาจากไหน ได้ตรงเข้าไปบีบคอ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย มีรูปลงหน้า1 นสพ.หลายฉบับ

           และล่าสุด ส.ป.ก. สภา-ปา-เก้าอี้ พระเอกของเรื่องที่ได้ปาเก้าอี้ถึง2ตัวซ้อน มีชื่อว่า ส.ส.เชน เทือกสุบรรณ ในขณะที่ ส.ส.ที่ออกมาด่าสภาผัวเมีย ชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ ครับ


        ผมคิดว่าเราไม่ควรไปเหมาว่าทั้งหมดไม่ดีครับ จะเป็น สภาผัวเมีย // สภาญาติพี่น้อง // และสภาตระกูล อะไรก็แล้วแต่ ถ้าตระกูลนั้นทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และได้พัฒนาท้องถิ่นตนเองมาโดยตลอด พี่น้องประชาชนจะให้ความไว้วางใจ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ตระกูลศิลปอาชา จะชนะเลือกตั้งทุกประเภทในจังหวัดสุพรรณบุรี ตระกูลคุณปลื้มจะชนะในชลบุรี ก็ไม่เห็นจะเสียหายและจะแปลกตรงไหนเลย ขอให้พวกเขานั้น มีความมุ่งมั่นที่จะทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติก็พอ

        ว่าแต่ว่าคนนามสกุล"เทือกสุบรรณ" ที่ด่าคนอื่นว่าเป็นสภาผัวเมียไร้ยางอายนั้น นอกจากจะบีบคอ ส.ส.พรรคฯอื่น และปาเก้าอี้ในสภาฯ แล้ว มีอะไรที่ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ช่วยบอกออกสื่อให้ทราบโดยทั่วกันหน่อยครับ

ม็อบยางประจวบฯ เครียด! ร้องปล่อยแกนนำ ด้าน ปชป.ตั้งกระทู้ แฉรัฐฯ ปลุกม็อบสวนยาง

          ม็อบยางประจวบฯ เครียด! ร้องปล่อยแกนนำ ด้าน ปชป.ตั้งกระทู้ แฉรัฐฯ ปลุกม็อบสวนยาง

        นำ 12 แกนนำม็อบประจวบฯ คุมตัวที่ค่ายพระมงกุฎเกล้า ด้านสถานการณ์ม็อบตึงเครียด หลังปะทะช่วงเย็นเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ม็อบยางท่าศาลายอมสลาย ให้เวลา 10 วัน ขู่พร้อมยกระดับการชุมนุม ส่วนม็อบยางชะอวด ขีดเส้น 7 วัน ไร้ผลขู่บุกสนามบิน
 
 
ประจวบฯ เดือดอีก! กลุ่มโจ๋ปาระเบิดเพลิง เผารถนักข่าววอด
 
            ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า 01.20 น. วันที่ 6 ก.ย. นายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ จส.100 ถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรสวนยางและปาล์มน้ำมัน ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 200 คน บริเวณ บ้านธรรมรัชต์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงเย็นได้สลายตัวไปแล้ว เหลือเพียงกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20 คน ซึ่งล่าสุด กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ก่อเหตุ ใช้ระเบิดขวดปาใส่รถนักข่าวเดลินิวส์ ส่งผลให้รถฮอนด้าแจ๊ส ของนักข่าวถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน นอกจากนี้ ยังมีรถตำรวจ และ รถนักข่าวไทยพีบีเอส รวม 2 คัน ถูกทุบตีเสียหาย หลังลงมือเสร็จได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุทันที เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสกัดจับอยู่ แต่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
 
        ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า เบื้องต้น ทราบว่ากลุ่มดังกล่าว ไม่น่าจะใช่ผู้ชุมนุมที่เป็นชาวบ้าน แต่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เข้ามาก่อกวน มีการปาระเบิดปิงปอง และ ประทัดยักษ์ และคาดว่าอาจจะมีการดื่มสุรา ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ยังต้องเร่งเก็บกู้ตะปูเรือใบตามถนนด้วย
 
 
นำ 12 แกนนำม็อบประจวบฯ มาคุมตัวที่ค่ายพระมงกุฎเกล้า
 
          มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 21.45 น. วันที่ 5 ก.ย.56 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลได้นำตัวแกนนำในการชุมนุมม็อบสวนยางที่ ต.ทองมงคล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 12 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 4 คน มาควบคุมตัวที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า (กก.ตชด.ที่14) ห้วยทราย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งห่างจากจุดที่มีการชุมนุมประท้วงประมาณ 100 กิโลเมตร
 
         ขณะที่สถานการณ์การชุมนุมยังคงมีการปิดถนนเพชรเกษมอย่างต่อเนื่อง โดยมีชาวบ้านจากหลายพื้นที่เดินทางมาสมทบในการชุมนุม แม้ว่าจะมีการตั้งจุดตรวจจุดกัดใน อ.ทับสะแก และ อ.บางสะพานน้อย
 
 
สถานการณ์ม็อบประจวบฯ ยังตึงเครียด - จนท.เจ็บ
 
        ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของชาวสวนยางประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. ว่า เป็นไปอย่างตึงเครียด เนื่องจากมีเสียงประทัดยักษ์ดังมาจากฝ่ายผู้ชุมนุมตลอดเวลา พร้อมกับวัยรุ่นบางส่วนได้ใช้ระเบิดปิงปองปาใส่เจ้าหน้าที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นระยะ พร้อมกับใช้หนังสติ๊กใส่ก้อนหินระดมยิงใส่ตำรวจชุดปราบปรามจลาจล ทำให้ตำรวจได้บาดเจ็บหลายราย โดยทั้ง 2 ฝ่ายมีการตรึงกำลังอย่างเหนียวแน่น
 
         ส่วนรถทุกชนิดได้หลีกเลี่ยงเส้นทางบนถนนเพชรเกษม โดยใช้ทางเบี่ยงถนนสายเลียบชายทะเลบางสะพาน- หนองหัดไท ระหว่าง อ.บางสะพานกับ อ.บางสะพานน้อย ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ทั้งขาขึ้นและขาล่องโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน อปพร.และ อส. อำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง พร้อมจัดกำลังรถสายตรวจวิ่งตรวจเส้นทางเพื่อดูแลความปลอดภัยหลังจากมีข่าวว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาปิดเส้นทาง และใช้ตะปูเรือใบโปรยเพื่อดักรถที่ใช้เส้นทางเบี่ยงดังกล่าว 
 
        เมื่อเวลา 20.45 น. มีการเจรจาระหว่างแกนนำกับตำรวจและฝ่ายปกครองบนถนนเพชรเกษม โดยขอให้ตำรวจปล่อยแกนนำที่ถูกจับกุมทั้งหมดก่อน จากนั้นจะสั่งให้ชาวบ้านสลายการชุมนุมปิดถนนเพชรเกษมทั้งขาขึ้นและขาล่องใต้ ซึ่งผลการเจรจายังไม่มีข้อยุติแต่อย่างใด
 
 ผบก.ประจวบฯ เจ็บ เจอม็อบสวนยางประเคน'อิฐ-ถุงน้ำกรด' ใส่
 
      ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 5 ก.ย.56 จนท.ตำรวจได้ส่งกำลังเข้าพยายามผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางพารา จ.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวนประมาณ 350 คน ซึ่งชุมนุมปิดถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น บริเวณ ตรงข้ามสถานีบริการประชาชนตำรวจภูธรบ้านธรรมรัตน์ กม. 411 อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่ออกมารวมตัวประท้วง กรณีราคายางพาราตกต่ำ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกไปจากบริเวณผิวการจราจร
 
        ทั้งนี้ มีรายงานว่า กลุ่มม็อบได้มีการปะทะ และเข้าดันกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งมีการขว้างปาขวดน้ำและสิ่งของต่างๆ เพราะไม่ยอมออกไปจากพื้นผิวการจราจร ประกอบกับเกิดกระแสข่าวลือว่า เจ้าหน้าที่ ตำรวจเตรียมใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ทำให้ประชาชนรู้สึกเกรงกลัว ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ภายหลังการเข้าปะทะกัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายคน
 
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากโดนทั้งถุงใส่น้ำกรดกัดยางฯ คาดว่ามาจากทางกลุ่มผู้ชุมนุมปาใส่เข้าที่ขา และยังโดนก้อนอิฐเข้าที่บริเวณปาก ขณะนำกำลังตำรวจเข้าเคลียร์พื้นผิวการจราจร จากเดิมที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้ปิดการจราจรบนถนนเพชรเกษมไป 1ช่องทาง ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ สามารถเปิดการจราจรได้
 
       อย่างไรก็ตาม ข่าวสดรายงานว่า เวลา 20.00 น. ชาวบ้านได้เคลื่อนขบวนไปปิดถนนเพชรเกษมห่างจากจุดเดิมประมาณ 500 เมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนปิดหัวปิดท้าย ทำให้นายวีระ ศรีวัฒนะตระกูล ผวจ.ประจวบฯ พล.ต.ต.ฐเนตร สุนทรสุข และนายตำรวจหลายนาย รวมทั้งกลุ่มผู้สื่อข่าว บางส่วนต้องติดอยู่ในวงล้อมยังออกมาไม่ได้ ที่สำคัญทั้งหมดยังไม่ได้รับอาหารและน้ำ และยังทำให้การจราจรติดขัดทั้งขาขึ้นและขาล่อง รถทุกชนิดไม่สามารถใช้เส้นทางได้ตามปกติ
 
         ขณะที่ตำรวจและฝ่ายปกครองได้ประชุมเครียดเพื่อหาทางเจรจาและอาจจะต้องสนธิกำลังเข้าสลายการชุมนุมอีกครั้ง หลังจากมีการสลายการชุมนุมรอบแรกเมื่อเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน
 
         เวลา 21.05 น.กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 3,000 คนได้ตรึงกำลังล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มสื่อมวลชนที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ พร้อมปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม และจะไม่สลายชุมนุมจนกว่าจะมีตัวแทนรัฐบาลเข้ามาเจรจา รวมทั้งปล่อยตัวแกนนำ หลังจากมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ส่วนตำรวจบาดเจ็บ 12 นาย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลบางสะพาน
 
 
 
ม็อบยางท่าศาลายอมสลายการชุมนุม ให้เวลารัฐฯ 10 วัน ขู่พร้อมยกระดับการชุมนุม
 
         เดลินิวส์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ย.56 นายอำนวย ยุติธรรม แกนนำเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช กล่าวแสดงความเห็นต่อมติของคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กยน.) เมื่อเช้านี้ ซึ่งที่ประชุมมีมติเพิ่มการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตจาก 10 ไร่ เป็น 25 ไร่ และจะนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เร็วที่สุดว่า เป็นการแก้ไขปัญหาที่ไม่ตรงจุด เพราะในทางปฏิบัติ เงินจากการกรีดยางมักจะไม่ถึงมือผู้กรีดยางพาราโดยตรง จะได้รับเฉพาะเจ้าของสวนยาง แต่หากรัฐบาลช่วยในเรื่องการประกันราคาหรือช่วยเติมเงินส่วนที่ต่างนั้น เจ้าของสวนยางพาราและผู้กรีดยางพาราจะสามารถตกลงราคากันได้ และเงินส่วนนี้ก็จะเพียงพอต่อการเลี้ยงครอบครัวของเกษตรกรฯ และผู้กรีดยาง
 
        เมื่อถามว่ารัฐบาลยังยึดมาตรการเดิมในการช่วยเหลือจะทำอย่างไรต่อไป นายอำนวย กล่าวว่า จะให้เวลารัฐบาลตัดสินใจเรื่องนี้อีกครั้งเป็นระยะเวลา 10 วัน ซึ่งหากรัฐบาลยังยึดมาตรการเดิมเกษตรกรสวนยางพารา อ.ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช จะยกระดับการชุมนุมโดยปิดที่ว่าการอำเภอของจังหวัดในวันที่ 14 ก.ย. อย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้จะนำผลการประชุมดังกล่าวไปแจ้งให้กับผู้ชุมนุมทราบในเย็นวันนี้ เพื่อให้สลายการชุมนุมก่อน และรอฟังคำตอบของรัฐบาลอีกครั้งในวันที่ 14 ก.ย.ว่าจะดำเนินการอย่างไร
 
        ส่วนการชุมนุมที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จะสลายการชุมนุมด้วยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มผู้ชุมนุมในอำเภอนั้นๆ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มผู้ชุมนุมทางภาคใต้ยังยืนมติเสียงเดียวกันว่า ต้องการให้มีการประกันราคาหรือช่วยเติมเงินส่วนต่างดังเดิม
 
 ม็อบยางชะอวด ขีดเส้น 7 วัน ไร้ผลขู่บุกสนามบิน
 
        ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 16.50 น.วันที่ 5 ก.ย.56 ที่เวทีปราศรัย จุดปิดทางรถไฟสายใต้ของชาวสวนยาง ถนนบ่อล้อ–ควนหนองหงส์ ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

       จากนั้น นายเอียด เส้งเอียด ได้ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย จุดปิดทางรถไฟสายใต้ ถนนบ่อล้อ–ควนหนองหงส์ ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช และประกาศว่า หลังจากตนลงจากเวที จะมีการเปิดทางรถไฟสายใต้ เพื่อให้รถไฟสามารถวิ่งได้ตามปกติ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องคนจน ที่ต้องอาศัยรถไฟในการเดินทาง ตนและชาวสวนยางต้องขอโทษที่ทำให้พี่น้องลำบาก อย่างไรก็ตาม จะยังคงเวทีปราศรัยที่นี่เอาไว้ โดยขอให้พี่น้องชาวสวนยางจากที่นี่ ย้ายไปชุมนุมกันต่อที่สี่แยกควนหนองหงส์ ถนนเอเชียสาย 41 ต.ควนหนองหงส์ อ.ชะอวด เพื่อเตรียมยกระดับการชุมนุม

        นายเอียด กล่าวอีกว่า ทางผู้ชุมนุมจะให้เวลารัฐบาลเป็นเวลา 7 วัน ในเรื่องราคายาง หากไม่มีคำตอบที่ชัดเจน จะยกระดับการชุมนุม ด้วยการปิดสนามบินนครศรีธรรมราช และปิดศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช
 
 
ออกหมายเรียก 4 แกนนำม็อบยางปิด 'สี่แยกอันดามัน'


 
        ส่วนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพาราใน จ.ตรัง ยังคงชุมนุมเพื่อให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาราคาตกต่ำ โดยมีการการกางเต็นท์ตั้งเวทีปราศรัยบนถนนกลางสี่แยกอันดามัน ถนนเพชรเกษม ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด ต่อเนื่อง นับจากเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ย.56
 
         ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า วันที่ 5 ก.ย.56 พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผกก.สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ออกหมายเรียกเชิญแกนนำกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางและปาล์มใน จ.ตรัง ประกอบด้วย นายชิต ชูช่วย นายสุชาติ ชาตรีกูล นายปรีชา ส่งเสริม และนายศักดิ์สฤษดิ์ ศรีประสาท โดยได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันชุมนุม หรือมั่วสุมใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่เรียบร้อย

      ด้าน มติชนออนไลน์ รายงานว่าเมื่อเวลา 16.00 น. ที่ สภ.ห้วยยอด 2 แกนนำ ได้แก่ นายชิต ชูช่วย และ นายปรีชา ส่งเสริม เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าว จาก พ.ต.อ.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง และ พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญ หมอ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด โดยมีนายสอและ กูมุดา ทนายความ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เดินทางเข้าร่วมรับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาของฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะให้ความช่วยเหลือดูแลในด้านการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อ 2 แกนนำ จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
 
      ส่วนนายสุชาติ ชาตรีกูล ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาก่อนหน้านี้แล้ว ยังเหลือนายศักร์สฤษดิ์ ศรีประศาสตร์ ที่จะเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวเป็นคนต่อไป
 
ที่มา: รักตรัง ปกป้องตรัง
 
ปชป.ตั้งกระทู้ แฉรัฐฯ ปลุกม็อบสวนยาง สกัดคนร่วมม็อบต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
 
        ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า วันที่ 5 ก.ย.56 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดปัญหาการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์ม น้ำมันของนายอภิชาต การิกาญจน์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถามว่า มีชาวบ้านให้ปากคำ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชน ที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบและให้ข้อมูลว่า ม็อบที่ปิดถนนเป็นม็อบของรัฐบาล อยากทราบว่ารัฐบาลจะมีมาตรการเช่นใด หากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้ระดมคนมาปิดถนน เพื่อสกัดไม่ให้คนมาร่วมชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวันที่ 5-7 ส.ค. คนที่อยู่เบื้องหลังคือ คณะที่ปรึกษาของ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และรัฐบาลจะเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการชุมนุมอย่างไร
 
         พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ถ้าหากย้อนดูข่าวจากทางโทรทัศน์และหน้งสือพิมพ์ จะเห็น ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) บางคน ไปขึ้นเวที ส่วนสิ่งที่ นพ.นิรันดร์ พูดมานั้นตนไม่ทราบ แต่ปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้อยู่เบื้องหลังแน่นอน

 
         รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การสลายการชุมนุมวันที่ 23 ส.ค.56 เจ้าหน้าที่ไม่ประสงค์ให้เกิดขึ้น ซึ่งตำรวจก็บาดเจ็บ 50 กว่าคน ขณะที่ผู้ชุมนุมบาดเจ็บ 3 คน แต่การปิดถนนถือว่าผิดกฎหมาย จึงต้องดำเนินการเปิดเส้นทางจราจร ส่วนการเยียวยาคนเสียชีวิตนั้น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ให้เงินชดเชยศพละ 1 แสนบาท โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เกิดจากการทะเลาะ ยิงกันเอง ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว
 
        หลังจากนั้น นายอภิชาต ถามต่อว่า รมว.เกษตรฯ จะทำอย่างไร เพื่อให้เกษตรกรได้ตรงตามกับสิ่งที่เรียกร้อง ทำให้ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า การให้รัฐบาลตั้งราคานำตลาดจะเกิดผลกระทบต่อกลไกราคายาง เราไม่ใช่ผู้กำหนดราคายาง ทิศทางราคายางขึ้นอยู่กับตลาดโลก ขณะนี้มียางล้นตลาดโลกอยู่ 5 แสนตัน จึงต้องแก้ปัญหาโดยการลดต้นทุนการผลิต จ่ายเป็นการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรตามมติ ครม.แต่จะไม่แทรกแซงให้เกิดการกระทบต่อกลไกตลาด
 
 
"ยิ่งลักษณ์"ตั้ง กก.เจรจาแก้ปัญหายางพารา เตรียมลงใต้เจรจาพรุ่งนี้
 
          มติชนออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 5 ก.ย.ว่า นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงทำให้เข้าใจประเด็นข้อเรียกร้องของเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งยังไม่ตรงกับประเด็นที่ คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เสนอ ถึงแม้ว่าล่าสุดเมื่อ กนย.มีมติแล้ว ก็ยังไม่ตรงกับประเด็นที่เกษตรกรชาวสวนยางเรียกร้อง
 
        ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันอย่างเป็นระบบ นายกรัฐมนตรีก็มีความคิดที่จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเจรจา เพื่อแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา และเพื่อให้ทุกกลุ่มเข้ามาเจรจาในเวลาพร้อมกัน ทั้งกลุ่มที่ต้องการให้แทรกแซงราคา และกลุ่มที่ยอมรับการสนับสนุนของรัฐบาลตามมติของ กนย.
 
         ผู้สื่อข่าวถามว่า รายชื่อคณะเจรจามีใครบ้าง นายวราเทพกล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นระดับรองนายกรัฐมนตรีที่จะเข้าไปเจรจา อย่างไรก็ตาม ขอให้รายชื่อออกมาก่อน ทั้งนี้ ล่าสุดตั้งแต่มีตัวแทนมาเจรจาเมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา จนกระทั้ง กนย.มีมติในวันนี้ 5 ก.ย. เรายังไม่ทราบท่าทีของการตอบสนองเกี่ยวกับมติ กนย.ว่าจะยอมรับหรือไม่ ดังนั้นจึงต้องมีการตั้งคณะเจรจาที่จะตั้งขึ้น เพราะมีการรายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า อยากจะให้คณะเจรจาไม่ได้มีเฉพาะฝ่ายของรัฐบาล คือ กนย.แต่ฝ่ายเดียว ทั้งนี้รูปแบบจะมีการหารือกันอีกครั้ง
 
           เมื่อถามว่า ถ้าม็อบยืนยันว่าต้องการให้ราคายาพารา 100 บาทต่อกิโลกรัม รัฐบาลจะสามารถรับข้อเสนอนี้ได้หรือไม่ นายวราเทพกล่าวว่า ต้องรอคณะเจรจาที่ตั้งขึ้นไปเจรจาก่อนเพื่อนำมาหารือกันอีกครั้ง
 
         เมื่อถามว่า หากมีการปิดถนนในช่วงนี้ นายกรัฐมนตรีให้นโยบายอย่างไรบ้าง นายวราเทพกล่าวว่า มีการหารือกันว่า ในช่วงที่มีการปิดถนนก็ทำให้เกิดผลกระทบต่อการคมนาคม ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วง หากจะทำให้เกิดความเดือดร้อน จึงอยากให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เปิดเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการใช้มาตรการบังคับขั้นเด็ดขาด เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุม เพราะจะทำให้เป็นข้ออ้างในการยกระดับการชุมนุมได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คงต้องรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย
 
          เมื่อถามว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินอย่างไรบ้าง หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมรับการตั้งคณะเจรจา นายวราเทพกล่าวว่า ยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง เพราะมีการประเมินในส่วนของความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลักก่อน ทั้งนี้ ยังไม่มีความเป็นห่วงว่าจะต้องถึงขั้นที่ต้องการประกาศกฎหมายความมั่นคง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นห่วงเรื่องความไม่สะดวกของประชาชนและเศรษฐกิจโดยภาพรวมที่ได้รับผลกระทบและการสร้างสถานการณ์
 
         เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจมองว่าการตั้งคณะเจรจาเป็นการซื้อเวลา นายวราเทพกล่าวว่า รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหามาโดยตลอด แต่เรื่องระบบยางพาราก็มีคณะกรรมการที่ต้องพิจารณาเป็นขั้นเป็นตอน จึงไม่ได้เป็นการซื้อเวลาแต่อย่างใด
 
         เมื่อถามว่า แต่มติ กนย.ที่ออกมาก็ไม่ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุม นายวราเทพกล่าวว่า เมื่อมีมติไปแล้วและมีการนำมติไปเจรจาใหม่ หรือว่าเมื่อฝ่ายผู้ชุมนุมได้รับทราบถึงการมีมติแล้ว จะเสนอการตอบรับหรือไม่อย่างไร ก็ต้องรอฟังผลก่อน
 
      "ถึงแม้ว่าการหารือเมื่อวานนี้จะค่อนข้างตึงเครียด แต่ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะอาจจะมีการใช้อารมณ์กันบ้าง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วก็ต้องคุยกันด้วยเหตุด้วยผล" นายวราเทพกล่าว
 
        ต่อจากนั้น พล.ต.อ.ประชา นายกิตติรัตน์ นายยุคล นายวราเทพ และนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงข่าวคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 246/2556 เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา โดย พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เนื่องจากผู้เรียกร้องยังชุมนุมกันอยู่โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงในภาพรวมราคายางทั่วประเทศไม่เฉพาะแต่พื้นที่จังหวัดภาคใต้ ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพาราขึ้น
 
         พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการมีดังนี้ 1.พิจารณาสภาพปัญหาเกี่ยวกับราคายางพาราและความเดือดร้อนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการยางพารา และหารือร่วมกันกับตัวแทนผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับกิจการยางพาราทุกภาคส่วน เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายและสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนโดยให้กิจการยางพารามีเสถียรภาพ แล้วเสนอแนะข้อคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาต่อคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) และคณะรัฐมนตรีต่อไป
 
        พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ข้อ 2.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของคณะกรรมการได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ข้อ 3.เชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็น หรือจัดส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ ข้อ 4.ปฏิบัติตามหน้าที่อื่นตามที่คณะรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
 
         พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะลงไปเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกันกับกลุ่มที่ชุมนุมที่เป็นผู้แทนของ จ.นครศรีธรรมราชในวันพรุ่งนี้ (6 ก.ย.56) ในเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมทวิน โลตัส จ.นครศรีธรรมราช ทั้งนี้ในภาคอื่นๆ อาทิ ภาคเหนือ หรือว่าอีสาน ก็จะมีการพิจารณาต่อไปอีกส่วนหนึ่ง โดยการประชุมดังกล่าวจะมีการหารือเรื่องข้อยุติเกี่ยวกับการยางพาราและเรื่องการเปิดเส้นทางจราจรในลำดับต่อไป
 
         นายวราเทพกล่าวว่า ข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลไม่ใส่ใจการแก้ไขปัญหายาพาราเนื่องจากเป็นพืชที่อยู่ในภูมิภาคที่ไม่ใช่ฐานเสียงของรัฐบาล แม้กระทั่งการอภิปรายในรัฐสภาในขณะนี้ ว่าไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลพยายามที่จะแก้ไขปัญหามาโดยตลอด ผ่านคณะกรรมการ กนย. และมีการปรับหลักเกณฑ์บางส่วนตามข้อเรียกร้อง และถึงแม้ว่านายกรัฐมนตรีจะไม่เข้าร่วมประชุม กนย.ด้วยก็ตาม
 
        ดังนั้น ในการเจรจาวันพรุ่งนี้เชื่อว่าจะสามารถทำให้เกิดความคืบหน้าใน 2 เรื่อง คือ 1.จากมติของ กนย.ที่เพิ่มจำนวนพื้นที่การเยียวยาจาก 10 ไร่ เป็น 25 ไร่ ส่วนที่ 2.รองนายกรัฐมนตรีที่ร่วมในคณะเจรจาที่จะไปประชุมในวันพรุ่งเป็น ไปในนามของรัฐบาล ไม่ใช่ในนาม กนย.ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ คณะกรรมการดังกล่าวจะมีการพิจารณาแก้ไขปัญหายางพาราในระยะยาวด้วย
 
          พล.ต.ต.ธวัชกล่าวว่า จากการลงพื้นที่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา แกนนำที่ส่งรายชื่อให้ตนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย แกนนำใน 14 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 12 คน และในส่วน จ.นครศรีธรรมราชที่มีรายชื่ออยู่ประมาณ 30 คน ซึ่งจะประสานไปว่าใครที่พร้อมที่จะมาดำเนินการ และต้องเป็นคนที่เป็นเจ้าของสวน ลูกจ้างกรีดยาง เจ้าของกิจการจริงๆ เท่านั้น เพื่อเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการแก้ปัญหายางพารา
 
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา มีคณะกรรมการประกอบด้วย พล.ต.อ.ประชา เป็นประธานกรรมการ นายกิตติรัตน์ รองประธานกรรมการ นายยุคล รองประธานกรรมการ นายวราเทพ กรรมการ นายวิบูลย์ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน กรรมการ อธิบดีกรมป่าไม้ กรรมการ พล.ต.ต.ธวัช กรรมการและเลขานุการ นายสุภรณ์ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการดังกล่าวคัดเลือกตัวแทนผู้เกี่ยวข้องกับกิจการยางพาราทุกภาคส่วน ได้แก่ เกษตรกรชาวสวนยางและผู้กรีดยาง ผู้ประกอบธุรกิจยางพารา ผู้ส่งออก และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเชิญมาร่วมดำเนินการกับกรรมการ
 
 

สมาคมนักข่าวร่อนจดหมายกรณีรถนักข่าวถูกเผา

สมาคมนักข่าวร่อนจดหมายกรณีรถนักข่าวถูกเผา

 
            6 ก.ย. 56 - สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ออกจดหมายเปิดผนึกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ความรุนแรงในการชุมนุมเรียกร้องให้มีการ ประกันราคายางพารา กรณีกลุ่มบุคคลได้เผาและทำลายรถนักข่าวที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
จดหมายเปิดผนึกถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสถานการณ์ความรุนแรงในการชุมนุมเรียกร้องให้มีการประกันราคายางพารา
 
เรื่อง กรณีกลุ่มบุคคลได้เผาและทำลายรถนักข่าว
ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
 
            จากกรณี เมื่อเวลา 01.30 น. ของวันนี้ (วันที่ 6 กันยายน 2556) เกิดเหตุการณ์ที่มีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่ายก่อเหตุใช้ระเบิดเพลิงปาใส่รถนักข่าวท้องถิ่นของสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 และของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ รวมทั้งมีการทุบตีรถนักข่าวท้องถิ่นของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องแก้ไขราคายางตกต่ำของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ บ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 5 กันยายน 2556 จนได้รับความเสียหาย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เห็นว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นผู้กระทำก็ตาม เป็นการกระทำที่อุกอาจ ใช้ความรุนแรงเป็นการข่มขู่ คุกคามสิทธิเสรีภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนโดยรวมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มุ่งข่มขู่คุกคามโดยตรงต่อทีมข่าวช่อง 3 ,หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวในพื้นที่บ้านธรรมรัตน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำข้อมูล ข้อเท็จจริงและความจริงเสนอต่อสาธารณชน
 
           ดังนั้นสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอให้กำลังใจกับเพื่อนสื่อมวลชนที่ได้ถูกกระทำและรถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้และมีข้อเรียกต่อทุกฝ่ายดังต่อไปนี้
 
  1. เหตุการณ์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความสูญเสียแก่ทุกฝ่ายทั้งประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน สมาคมทั้งสองขอเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายใช้สิทธิตามกรอบของกฎหมาย เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน มีความอดทนไม่ใช้ความรุนแรงและควรแก้ปัญหาด้วยการเจรจาตามแนวทางสันติวิธี
  2. เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังมีข้อมูลและข้อเท็จจริงที่หลากหลายจากฝ่ายๆ ต่าง สมาคมทั้งสองขอเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางและเป็นอิสระขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงโดยเฉพาะคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องทำหน้าที่นี้
  3. ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตระหนักว่าสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าว ช่างภาพ ทำหน้าที่รายงานข่าวและข้อเท็จจริงตามหน้าที่ของตนไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับ ใคร เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรตกเป็นเป้าหมายของการข่มขู่ คุกคามและแทรกแซงไม่ว่าจากฝ่ายใด ซึ่งหากสื่อถูกข่มขู่และคุกคามจนไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารข้อมูลและข้อเท็จจริงได้ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
  4. ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนง ทำหน้าที่รายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมา สมดุลเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ระมัดระวังการรายงานที่อาจสร้างความโกรธแค้นชิงชังมากขึ้นและพึงตระหนักว่าการลงไปทำข่าวในสถานการณ์ความขัดแย้งซึ่งข่าวที่นำเสนออาจทำให้บางฝ่ายไม่พอใจการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและเกิดความรุนแรงเกิดขึ้นได้
  5. หากผู้ใดที่ได้รับผลกระทบจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กรณีเห็นว่าสื่อมวลชนใช้สิทธิเสรีภาพเกินขอบเขต สามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมายหรือใช้กลไกควบคุมจริยธรรมขององค์กรวิชาชีพสื่อผ่านสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หรือสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงคุกคามการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน
         สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ขอให้สื่อมวลชนทุกแขนงทำหน้าที่นำเสนอข่าวสารโดยยึดมั่นในกรอบจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รอบด้าน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซื่อสัตย์ในวิชาชีพ เพื่อประโยชน์และสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
 
6 กันยายน 2556
สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย 
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

เชน เทือกสุบรรณ ขอโทษประชาชนต่อเหตุการณ์โยนเก้าอี้ในสภา

'เชน เทือกสุบรรณ' ส.ส.ปชป. ทุ่มเก้าอี้กลางสภา เคือง พท.เสนอปิดอภิปราย

             (5 ก.ย.56)  เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่า  หลังจากที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อภิปรายกันอย่างกว้างขวางต่อญัตติการเเก้ปัญหายางพารา  จนเวลา 18.50 น.โดยนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นแจ้งว่า มีประชาชนชาว จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งเข้ามาว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายการชุมนุม  ขอให้รัฐมนตรีชี้แจงด้วย  แต่นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอญัตติให้ปิดการอภิปราย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างกรูกันเข้าห้องประชุม ทำให้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอให้นายพายัพ ถอนญัตติการปิดอภิปรายออกไปก่อน เพราะมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อีก 3 คนที่จะอภิปราย

           ทั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ต่างลุกขึ้นขอร้องให้นายพายัพถอนการปิดการอภิปรายเพราะสมาชิกยังพูดถึงพืชที่ราคาตกต่ำยังไม่หมด  นายพายัพ อภิปรายว่า เนื่องจากเป็นญัตติด่วน และสมาชิกอภิปรายอย่างรอบด้านแล้ว เห็นว่าสภาฯ ควรรีบดำเนินการเพราะเกษตรกรรออยู่ ดังนั้นขอยืนญัตติการปิดอภิปราย โดยนายวิสุทธิ์ ได้อนุญาตให้ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและรมว.เกษตรและสหกรณ์ชี้แจงเรื่องแก๊สน้ำตา
            อย่างไรก็ตาม การอภิปรายของนายพายัพทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไม่พอใจ โดยนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอย่างโมโหว่า "อย่างนี้เดี๋ยวก็ปิดสภา เอะอะ อะไรก็จะปิด เดี๋ยวรัฐมนตรีตอบเสร็จแล้วก็ปิด ทั้งที่ยังมีเรื่องปัญหาของชาวบ้านที่ต้องให้รัฐบาลรับรู้อีกเยอะ"
            จากนั้นนายเชนได้ยกเก้าอี้ทุ่มไปข้างหน้าข้ามโต๊ะที่นั่งไป 1แถว  และทุ่มเก้าอี้อีก 1 ตัวไปโต๊ะที่นั่งไป 2 แถว ทำให้ที่พักแขนหักไป 1 ตัว จากนั้น ได้เดินไปชี้หน้าพร้อมโวยวายใส่ประธานที่ประชุม ทำให้นายวิสุทธิ์ พยายามไกล่เกลี่ยให้ใจเย็นๆ พร้อมระบุว่า ยังไม่ได้ให้ปิดการอภิปราย เพียงแต่ให้รัฐมนตรีตอบเรื่องแก๊สน้ำตาเท่านั้น ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ต่างพากันเข้าห้ามนายเชน และเก็บเก้าอี้เข้าที่นั่งเดิม จนนายเชน ยอมนั่งลง
            ต่อมา นายยุคล ชี้แจงว่า ได้สอบถาม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯแล้ว ทราบว่ามีประชาชนประมาณ 400 คนพยายามจะปิดถนน แต่หน่วยปราบจราจลได้ขอร้องว่าอย่าปิดถนน เพราะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ยืนยันว่าไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา
            จากนั้น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทั้งนายธนิตพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก, น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคาม ได้ขอให้เปิดการอภิปรายต่อ เพราะยังมีพืชอีกหลายชนิตที่สมาชิกยังไม่ได้พูด  แต่นายมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นอภิปรายว่า ที่ประชุมอภิปรายเรื่องนี้กันมาพอสมควรแล้ว และควรเคารพญัตติของนายพายัพ ทำให้นายวิสุทธิ์ ไกล่เกลี่ยว่าจะให้วิปทั้ง 2 ฝ่ายหารือกันอีกครั้ง
          ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า หากจะให้ไปอภิปรายในสัปดาห์หน้าต่อ ก็อาจจะไม่ทันรัฐบาล เพราะรัฐบาลจะลงพื้นที้ในวันที่ 6 ก.ย.แล้ว การเสนอข้อปิดการอภิปรายไม่ได้เป็นการจำกัดสิทธิ์ ดังนั้นขอให้ประธานใช้อำนาจและวิจารณญาณในการพิจารณาญัตติดังกล่าว ซึ่งควรจะรีบสรุปเพื่อจะส่งเรื่องทั้งหมดไปให้รัฐบาล

เชน เทือกสุบรรณ ขอโทษประชาชนต่อเหตุการณ์โยนเก้าอี้ในสภา

ระบุเหตุเกิดขึ้นเป็นเพราะถูกตัดสิทธิ์อภิปรายเป็นปากเสียงให้ประชาชนที่เดือดร้อนเรื่องยางพารา จึงเกิดความกดดันและปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง ด้านรองประธานสภาได้รับการขอโทษจากนายเชนแล้ว พร้อมขอให้ใจเย็นๆ ขณะที่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ขอให้ประชาชนพิจารณาว่าสาเหตุความขัดแย้งคืออะไร และทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาธิปไตยเดินหน้า
นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี (แฟ้มภาพ/รัฐสภา)
        ตามที่เกิดเหตุ นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ โยนเก้าอี้ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานสภา เมื่อคืนวานนี้ (5 ก.ย.) นั้น ล่าสุดนายเชนได้กล่าวขอโทษแล้ว
       โดยในวันนี้ (6 ก.ย.) นายเชนระบุว่าต้องขอโทษพี่น้องประชาชน เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง แต่ต้องเรียนว่าเป็นความกดดัน โดยการทำงานในสภาเราคิดว่าสภาเป็นที่ๆ เอาเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาพูดในเรื่องปัญหายางพารา โดยตัวเขาคิดว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้แทนจะต้องได้รับโอกาสเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชน แต่การถูกตัดสิทธิในการทำหน้าที่แทนพี่น้องประชาชน ก็ไม่ทราบว่าจะไปพูดกับพี่น้องประชาชนที่เลือกตั้งมาอย่างไร ก็เกิดเป็นความกดดันขึ้นมาและปฏิบัติตัวไม่ถูกต้อง
        ทั้งนี้มีรายงานข่าวด้วยว่า หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้นั้น นายเชนได้มารอพบนายวิสุทธิ์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และได้กล่าวขอโทษที่ได้กระทำการดังกล่าว โดยนายวิสุทธิ์ได้ขอให้นายเชนใจเย็นๆ ในการประชุมครั้งต่อไป และกล่าวว่าเข้าใจความเป็นห่วงประชาชนของนายเชน
        สำหรับช่วงที่เกิดเหตุดังกล่าว นายวิสุทธิ์ ได้กล่าวห้ามนายเชนว่า "ท่านเชน ใจเย็นๆ ท่านเชน ใจเย็นๆ ท่าน" "ท่านเชนไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ท่านใจเย็นๆ" พร้อมขอให้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.พรรคเดียวกับนายเชนให้ใจเย็นๆ ด้วย
           อภิสิทธิ์ขอให้ประชาชนพิจารณาสาเหตุความขัดแย้ง และทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาธิปไตยเดินหน้า
         ขณะที่ ประชาชาติธุรกิจ รายงานคำกล่าวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งกล่าววันนี้ (6 ก.ย.) ในระหว่างการปาฐกถาพิเศษ “ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชน” ตอนหนึ่งกล่าวว่า สังคมจะปรองดองได้คือการยอมรับความหลากหลายและเปิดให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ฝ่ายค้านเป็นตัวแทนประชาชนสะท้อนความคิดเห็น เราไม่ได้ค้านทุกเรื่อง จะค้านแค่บางเรื่อง แต่การถกเถียงด้วยเหตุผลอาจถูกมองว่าเป็นการทะเลาะกัน ยืนยันว่าจะขับเคลื่อนทั้งในและนอกสภาโดยไม่ละเมิดสิทธิใคร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในสภาเพราะไม่มีการปฏิบัติตามข้อบังคับ
         “รู้สึกตกใจที่เห็นนายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ปชป. ทุ่มเก้าอี้ในสภา เพราะอึดอัดถูกปิดปากไม่ให้พูดถึงปัญหายางพารา จึงมีอารมณ์ ขอประชาชนอย่าเบื่อหน่ายการเมือง ขอให้ดูว่าสาเหตุความขัดแย้งคืออะไรและทำความเข้าใจเพื่อให้ประชาธิปไตยเติบโตและเดินไปข้างหน้า นายเชนก็รู้สึกเสียใจ และได้กล่าวคำขอโทษ แต่หากสภาเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายจริงๆ ก็คงจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมก็ได้เตือนสมาชิกอยู่ตลอดว่า แม้จะหงุดหงิดอย่างไรก็แล้วแต่ก็ต้องระมัดระวังพฤติกรรมทั้งหลาย"
ที่มาของภาพประกอบ: เว็บไซต์รัฐสภา

"ปูเค็มกินแรงเพื่อน" เป็นแกนนำพามวลชนปะทะตำรวจปราบจราจล แต่ตัวเองยืนถ่ายภาพอัพขึ้นเฟสบุ๊คเฉยเลย!


         "ปูเค็มกินแรงเพื่อน" เป็นแกนนำพามวลชนปะทะตำรวจปราบจราจล แต่ตัวเองยืนถ่ายภาพอัพขึ้นเฟสบุ๊คเฉยเลย!



         วันที่ 5 กันยายน 2556 (go6TV) ล่าสุดนายทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม กองทัพนิรนามได้พาชาวบ้านประมาณ 300 คนเข้าปะทะกับตำรวจปราบจราจลที่ถนนเพชรเกษม ช่วงบ้านธรรมรัตน์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเวลาประมาณ 18.20 น.

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม็อบสวนยางจำนวนประมาณ 300 คนนำโดยผู้กองปูเค็ม หรือนายทรงกลด ชื่นชูผล ได้พากันไปปิดถนนเพชรเกษม ช่วงบ้านธรรมรัตน์ขาล่องลงใต้ จากนั้น ตำรวจได้ใช้โล่ ยืนเรียงหน้ากระดานจากฝั่งขาขึ้น เดินผ่านจุดกลับรถเพื่อเข้าควบคุมพื้นที่ฝั่งขาล่อง

          ระหว่างเกิดเหตุ มีภาพหลักฐานชัดเจนว่า ม็อบสวนยางนี้นำโดยนายผู้กองปูเค็ม แต่พอถึงจังหวะที่ตำรวจปราบจราจลเดินหน้าด้วยโล่ เพื่อเข้าเปิดพื้นที่ถนน ผู้กองปูเค็ม ก็ถอยออกมาถ่ายภาพการปะทะ และอัพโหลดภาพขึ้นเฟสบุ๊คกองทัพนิรนามอย่างสนุกสนาน โดยไม่ได้ไปนำอยู่ด่านหน้า หรือออกแรงต่อสู้กับม็อบสวนยางเลย

           ล่าสุด ตำรวจได้ควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว และจับแกนนำชาวบ้านขึ้นรถตำรวจโดยที่นายทรงกลด ชื่นชูผล ก็ยังยืนถ่ายภาพอยู่อย่างสนุกสนานต่อไป






ปืนหาย! ทุบรถตำรวจ-เผารถนักข่าววอด "หาญพล" รุดตรวจซากความเสียหาย "ม็อบสวนยาง" ถล่มเละ!


         ม็อบยางถ่อยคุกคามสื่อฯ! เผารถยนต์ผู้สือข่าวช่อง 3 และ เดลินิวส์ 2 คันวอดกลางดึก



         วันที่ 6 กันยายน 2556 (go6TV) รายงานข่าวเบื้องต้นแจ้งว่าเมื่อเวลาประมาณหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา ม็อบสวนยางประจวบคีรีขันธ์คุกคามสื่อฯ เผารถยนต์ของผู้สื่อข่าว 2 คันรวด เป็นรถของผู้สื่อข่าวช่อง 3 และ ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ วอดทั้งสองคัน อีกหนึ่งคันขยับหนีได้ทัน

รายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบต่อไป


ปืนหาย! ทุบรถตำรวจ-เผารถนักข่าววอด "หาญพล" รุดตรวจซากความเสียหาย "ม็อบสวนยาง" ถล่มเละ!

          6 กันยายน 2556 go6TV - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุม "ม็อบสวนยาง" ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีผู้ก่อเหตุเผารถนักข่าว รถควบคุมตัวผู้ต้องหาตำรวจ และยิงปืนก่อกวน เบื้องต้น มีตำรวจบาดเจ็บ 25 นาย สาหัส 1 นาย เพราะถูกก้อนหิน และมีอาการเลือดคลั่งในสมอง รักษาตัวอยู่ในห้อง ไอซียู มี อส.บาดเจ็บ 4 นาย ส่วนผู้ชุมนุมไม่ได้รับบาดเจ็บ ล่าสุด เช้าวันนี้ พล.ต.ท. หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7. ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว

        ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่ก่อนหน้านี้ได้ก่อเหตุขว้างประทัดยักษ์ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการปาระเบิดขวดใส่รถที่จอดอยู่บริเวณดังกล่าวเสียหาย เป็นรถยนต์ของผู้สื่อข่าว เดลินิวส์ ถูกเผาไหม้วอดทั้งคัน , รถยนต์ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ถูกปากระจกแตก เเละรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับความเสียหาย กระจกถูกทุบรวมทั้งปืนของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในรถหายไปอีกด้วย















































        "ม็อบสวนยาง" เถื่อน! สาดน้ำฆ่ายาง(กรดเข้มข้นสูง) เข้าใส่ตำรวจปราบจราจลบาดเจ็บสาหัสหลายราย





          วันที่ 5 กันยายน 2556 (go6TV) มีรายงานข่าวว่า ตำรวจปราบจราจลที่เข้าควบคุมม็อบสวนยาง ที่ปิดถนนเพชรเกษม ช่วงตลาดธรรมรัตน์ ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้ "น้ำยาฆ่ายาง" หรือน้ำกรดเข้มข้นที่ใช้ในสวนยาง ระดมสาดเข้าตำรวจปราบจราจล จนตำรวจได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน

        น้ำยาฆ่ายาง คือน้ำกรดชนิดเข้มข้น ที่ใช้ผสมในเนื้อยางเพื่อให้ยางเซ็ทตัวเป็นแผ่นหรือเป็นก้อน มีคุณสมบัติเป็นกรด หากโดนผิวหนังจะทำให้ผิวไหม้ หากโดนดวงตาอาจทำให้ตาบอดได้

รายละเอียดคืบหน้าจะนำมาเรียนให้ทราบต่อไป