วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ผมถามท่านสั้น ๆ

ตอนผมเรียนหนังสือที่ประเทศอังกฤษ หากผมอยากได้ประโยชน์จากการเป็นคนอังกฤษ ผมไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน แต่ผมก็แสดงตนตั้งแต่ตอนนั้นว่าผมเป็นนักเรียนต่างชาติ คุณแพ่คุณม่อ คุณพ่อคุณแม่ผมก็เป็นออกค่าใช้จ่าย
อภิสิทธิ์บอกว่าจำไม่ได้ว่าเคยมีชื่อในทะเบียนบ้านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อังกฤษ ส่วนศิริโชคแถว่าแค่เคยลงสมัครประธานนักเรียน งั้นไปดูกันเอกสาร 3 ฉบับด้านล่างนี้ เผื่อจะหายความจำเสื่อม แล้วเลิกแถซะที
เอกสารระบุชื่อนายมาร์ค เวชชาชีวะ กับนายกรณ์ จาติกวณิช เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในอังกฤษปี  2527-2528 (สะกดชื่อถูก คือ VEJJAJIVA,MARK A. หรือ อภิสิทธิ์ มาร์ค เวชชาชีวะ)


เอกสารระบุชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในปี2529 ระบุชื่อนายมาร์ค วาชชาชีวะ(สะกดเพี้ยนเป็นVAJJAJIVA , MARK A. )


เอกสารระบุชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในปี2529 ระบุชื่อนายมาร์ค เวย์ชาชีวะ(สะกดเพี้ยน เป็น VEYYAYIVA, MARK A.)


...........


          วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันเอพริลฟูลส์ (อังกฤษApril Fool's Day) หรือเรียกในชื่ออื่นว่า วันโกหกเดือนเมษายน, วันเทศกาลคนโง่ เป็นเทศกาลในวันที่ 1 เมษายน วันนี้เป็นวันที่จะอนุญาตให้โกหกต่อกันได้ โดยไม่ถือโกรธ ในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้ อาจมีเหตุการณ์น่าตกใจ ตื่นเต้นเป็นหัวข้อข่าว แต่แล้วในวันรุ่งขึ้นต่อมาจึงได้เฉลยว่าข่าวที่ลงไปนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เทศกาลนี้เริ่มขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสและเป็นที่นิยมกันไปทั่วโลก ในประเทศไทยเริ่มเป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา

สื่อนอก! ตีภาพชุดใหญ่ "นายกฯเปิดตัว Chefs' Thai Select" กระหึ่มกรุงปารีส

สื่อนอก! ตีภาพชุดใหญ่ "นายกฯเปิดตัว Chefs' Thai Select" กระหึ่มกรุงปารีส









Thailand's Prime Minister Yingluck Shinawatra (R) takes part 
in the Chefs' Thai Select meeting on July 20, 2012 
at the Westin Hotel in Paris, as part of her visit to France, 
to promote and label Thai gastronomy. 



source: http://www.daylife.com/photo/041odJl5nzbyt?__site=daylife&q=Paris

ลำดับมหากาพย์ "อภิสิทธิ์ หนีทหาร" กับ "สด.9 ปลอม"


ลำดับมหากาพย์ "อภิสิทธิ์ หนีทหาร" กับ "สด.9 ปลอม"

 


หมายเหตุ : พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ทำหนังสือถึงเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ชี้แจงผลสอบการบรรจุนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมัครเข้ารับราชการที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โดยไม่ชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย

 เป็นบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของกองทัพบกโดยไม่ผ่านการตรวจเลือก และไม่มีหลักฐานทางทหาร  


 รณีการบรรจุนายอภิสิทธิ์เข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร เป็นการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.2521 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม 

 ซึ่งผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการบรรจุ การโอน และการบรรจุกลับเข้ารับราชการ พ.ศ.2529 กำหนด 

 ในกรณีที่ผู้สมัครเข้ารับราชการเป็นชาย ระเบียบกระทรวงกลาโหมกำหนดให้ต้องมีใบสำคัญทางทหารด้วย เช่น ทะเบียนกองประจำการ (สด.3), ใบสำคัญ (แบบ สด.9) หนังสือสำคัญ (แบบ สด.8) ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกิน เข้ารับราชการทหารกองประจำการ พ.ศ. ....(แบบ สด.43) หรือใบสำคัญ/หนังสือสำคัญอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้วแต่กรณี 

 ซึ่งส่วนราชการต้นสังกัดที่ขอบรรจุได้ตรวจสอบความถูกต้องขั้นต้น และเห็นว่าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 แล้ว รมว.กลาโหมผู้มีอำนาจในการบรรจุย่อมสามารถออกคำสั่งให้บรรจุบุคคลเข้ารับราชการได้ตามที่ส่วนราชการต้นสังกัดรายงานขอบรรจุ 

 กรณีของนายอภิสิทธิ์ซึ่งขณะนั้น (7 ส.ค.2530) กระทรวงกลาโหมเชื่อว่าการขอบรรจุนายอภิสิทธิ์เข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารนั้น ส่วนราชการที่ขอบรรจุได้ตรวจสอบความถูกต้องตามระเบียบของกระทรวงกลาโหมแล้ว รมว.กลาโหมจึงออกคำสั่งบรรจุและแต่งตั้ง 

 แต่ปรากฏว่าภายหลังมีผู้ร้องเรียนการบรรจุไม่ถูกต้อง เนื่องจากใช้หลักฐานเอกสารที่ไม่ถูกต้อง 

 ทั้งนี้ กองทัพบกโดยเจ้ากรมจเรทหารบกได้สอบสวนข้อเท็จจริงตามอนุมัติ ผบ.ทบ. ท้ายหนังสือกรมการกำลังสำรองทหารบก ลับที่ กห 0426/654 ลงวันที่ 8 มี.ค.2542 รายงานผลการสอบสวนถึง ผบ.ทบ. เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2542 ตามหนังสือกรมจเรทหารบกที่ กห 0423/277 ลงวันที่ 19 พ.ค.2542 

 โดยเสนอให้ลงทัณฑ์ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476 ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิดไปเรียบร้อยแล้ว 

 ในครั้งนี้ได้ตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า

 1.1 ขั้นตอนการบรรจุมีหลักฐานใบสำคัญทางทหาร คือ หนังสือรับรองการผ่อนผันไม่เรียกเข้ากองประจำการในยามปกติ ตามหนังสือแผนกสัสดีกรุงเทพมหานคร ที่ กห 0481.62/5053 ลงวันที่ 31 ก.ค.2530 

 ซึ่งเป็นหลักฐานที่ขัดต่อพ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 เนื่องจากเป็นการรับรองว่า นายอภิสิทธิ์ได้รับการผ่อนผันตามมาตรา 29(3) และเข้าบัญชีทหารกองเกินเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2525 ได้รับการผ่อนผันไม่เรียกเข้ากองประจำการในยามปกติŽ 

 ซึ่งตามความจริง นายอภิสิทธิ์จะต้องไม่ได้รับการผ่อนผัน เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้กำลังศึกษาหรือมีสิทธิขอผ่อนผันตามพ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 มาตรา 29(3)

 ทั้งยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน จึงไม่มีรายชื่ออยู่ในระบบบุคคลในราชการทหาร ทำให้ไม่ต้องขอหรือไม่สามารถขอรับการผ่อนผันในการเข้ารับราชการทหารได้

 หรือหากได้ขอรับการผ่อนผันกรณียังศึกษาอยู่ต่างประเทศโดยมีหนังสือรับรองจากสถานศึกษาต่างประเทศและสถานเอกอัครราชทูต จะต้องได้รับการผ่อนผันตามมาตรา 27(2) เป็นแบบ สด.41 

 อีกทั้งยังมีหลักฐานต้นขั้วแบบ สด.9 และเอกสารแบบ สด.1 ฉบับจริง ยืนยันว่านายอภิสิทธิ์เข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2529 

 แต่ใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลงวันที่ 8 เม.ย.2531 ยังกำหนดข้อความผิดจากการเข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.2529 

 เป็นเข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2531 ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลฉบับเดิมที่ตรวจสอบพบเพิ่มเติม 

 ดังนั้น ใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายลงวันที่ 8 เม.ย.2531 จึงไม่อาจใช้เป็นหลักฐานใบสำคัญทางทหารที่ถูกต้องได้

 1.2 ขั้นตอนการขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการ เพื่อให้ได้มาซึ่งทะเบียนกองประจำการ (สด.3) หลังจากนายอภิสิทธิ์ได้รับการแต่งตั้งยศแล้ว เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2531 ได้นำใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายลงวันที่ 8 เม.ย.2531 ไปขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการ 

 หากนำใบสำคัญ (แบบ สด.9) ฉบับลงวันที่ 4 ก.ค.2529 เป็นหลักฐานในการขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการจะสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่เข้ารับการตรวจเลือก (ไม่ผ่านการเกณฑ์ทหาร) ในวันที่ 7 เม.ย.2530 

 จึงทำให้การขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการ (สด.3) โดยใช้เอกสารใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายไม่ถูกต้องไปด้วย

 2.รมว.กลาโหมได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้วตามคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะ) ที่ 281/55 ลงวันที่ 25 มิ.ย.2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 

 และคำสั่งกระทรวงกลาโหม (เฉพาะ) ที่ 295/55 ลงวันที่ 2 ก.ค.2555 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง (เพิ่มเติม) 

 โดยกรมเสมียนตรามีหนังสือสอบถามโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ขอให้ตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการผ่อนผันหรือได้รับการยกเว้นการเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการของนายอภิสิทธิ์มีอยู่จริงหรือถูกต้องประการใด

 ซึ่งโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าส่งเอกสารสำคัญพร้อมกับรับรองสำเนาถูกต้อง คือ ใบสมัคร สัญญาค้ำประกัน สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัครและบิดามารดา สำเนาแสดงผลการเรียน พร้อมคำแปล และผลการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล (รปภ.1) แต่ไม่พบเอกสารหลักฐานใบสำคัญทางทหารฉบับจริง 

 ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว ไม่พบข้อสังเกตเพิ่มเติมจากที่ตรวจพบก่อนหน้าโดยจเรทหารบก 

 ในการปฏิบัติเมื่อส่วนราชการต้นสังกัดที่ขอบรรจุได้ตรวจสอบความถูกต้องชั้นต้น และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของพ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 รมว.กลาโหมผู้มีอำนาจในการบรรจุย่อมสามารถออกคำสั่งให้บรรจุบุคคลเข้ารับราชการได้ตามที่ส่วนราชการต้นสังกัดรายงานขอบรรจุ 

 สำหรับการตรวจสอบเอกสารที่ถูกต้องสำหรับการผ่อนผัน หรือได้รับการยกเว้นการเรียกเข้ารับราชการทหารกองประจำการของนายอภิสิทธิ์ คงมีรายละเอียดเช่นเดียวกับข้อ 1.1 และ 1.2 

 ซึ่งพบว่าเอกสารใบสำคัญ (แบบ สด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย ลงวันที่ 8 เม.ย.2531 หนังสือแผนกสัสดีกรุงเทพมหานคร ที่ กห 0481.62/5053 ลงวันที่ 31 ก.ค.2530 และทะเบียนกองประจำการ (สด.3) 

 มีสาระสำคัญไม่ถูกต้องกับความเป็นจริง และไม่อาจใช้เป็นหลักฐานเอกสารการรับราชการทหารได้ และยังปรากฏหลักฐานแบบ สด.16 ปี 2536 ระบุว่า นายอภิสิทธิ์ไม่เข้ารับการตรวจเลือกŽ 

 และหลักฐานแบบ สด.27 ปี 2530 ระบุว่า นายอภิสิทธิ์เข้าบัญชีทหารกองเกินเมื่อวันที่ 4 ก.ค.2529Ž ซึ่งเป็นเอกสารยืนยันความไม่ถูกต้องของเอกสารตามข้อ 1.1 และ 1.2 ดังกล่าวข้างต้นด้วย

 3.หากกระบวนการบรรจุคำสั่งบรรจุ หรือคำสั่งแต่งตั้ง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมที่เกี่ยวข้อง กระทรวงกลาโหมสามารถยกเลิก เพิกถอนคำสั่งบรรจุหรือคำสั่งแต่งตั้งได้โดยอำนาจของรมว.กลาโหม 

 โดยกระทรวงกลาโหมจะต้องพิจารณามูลเหตุ และแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อดำเนินการตามกระบวนการตามระเบียบของทางราชการต่อไป 

 สำหรับการเรียกเงินเดือนและสิทธิประโยชน์อื่นๆ คืน ถ้าจำเป็นหรือมีเหตุอันควรจะพิจารณาดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ

 สำหรับการดำเนินการตามข้อ 1 และข้อ 2 กระทรวงกลาโหมสั่งการให้กรมพระธรรมนูญรวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องหารือกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นการแสดงข้อมูลเท็จในการบรรจุเข้ารับราชการของนายอภิสิทธิ์จะดำเนินการต่อไปอย่างไร 

 หากจะต้องเพิกถอนคำสั่งจะกระทำได้หรือไม่ และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับไประหว่างรับราชการจะสามารถเรียกคืนได้หรือไม่ประการใด 

 รวมทั้งพิจารณาดำเนินคดีกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการปลอมเอกสารและนำเอกสารไปใช้หรืออ้างเอกสารดังกล่าว

------------

 ลำดับเหตุการณ์การบรรจุนายอภิสิทธิ์เข้ารับราชการโรงเรียน จปร.

* 4 ก.ค.29 ร.อ.รณรงค์ ศรีพลกรัง สัสดีเขตลาดกระบัง รักษาราชการแทนสัสดีเขตพระโขนง ขึ้นบัญชีทหารกองเกินนายอภิสิทธิ์ตามแบบ สด.1 มีข้อมูลสอดคล้องกับต้นขั้วใบสำคัญ (แบบ สด.9) ที่ 5352 ลง 4 ก.ค.29 (ต้นขั้ว สด.9)

* 19 มี.ค.30 โรงเรียน จปร. มีหนังสือที่ กห 0461/762 ลง 19 มี.ค.30 เรียน ผบ.ทบ. ขออนุมัติบรรจุนายอภิสิทธิ์ สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ เข้ารับราชการในตำแหน่ง รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (อัตรา พ.ต.)

* 31 มี.ค.30 สบ.ทบ.มีหนังสือถึง โรงเรียน จปร. ขอหลักฐานการบรรจุและส่งเอกสารหลักฐานทางทหารเพิ่มเติม

* 7 เม.ย.30 มีการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ากองประจำการในพื้นที่เขตพระโขนง แต่นายอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้ารับการตรวจเลือก (สด.16 และสด.43 เป็นบุคคลขาดการตรวจเลือก)

* 9 เม.ย.30 นายอภิสิทธิ์เขียนใบสมัครที่โรงเรียน จปร. ในใบสมัครระบุว่าเกิดเมื่อ 3 ส.ค.07 อายุ 23 ปี

* 31 ก.ค.30 มีสำเนาหนังสือรับรอง ที่ กห 0481.62/5053 ลง 31 ก.ค.30 ออกโดย พ.ต.ไพโรจน์ แก้ววงศ์ ผช.สด.กรุงเทพมหานคร ว่า นายอภิสิทธิ์เข้าบัญชีทหารกองเกินเมื่อ 1 ม.ค.25 ได้รับการผ่อนผัน ไม่เรียกเข้ากองประจำการในยามปกติ ตามมาตรา 29(3) แห่งพ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497Ž ซึ่งผิดจากความเป็นจริง ข้อกฎหมาย และขั้นตอนการได้มาของ สด.41 (ผู้ผ่อนผันเข้ารับการคัดเลือกเป็นทหารที่ศึกษา ณ ต่างประเทศ) โดยเริ่มจาก

 1.ผู้ขอรับการผ่อนผันลงทะเบียนทหารกองเกินได้รับแบบ สด.9 และหมายเรียกแบบ สด.35
 2.ร้องขอผ่อนผันผ่านสถานทูต ณ สถานศึกษา แนบเอกสารรับรองการศึกษาจากสถานศึกษาพร้อมคำแปล จากนั้นสถานทูตจะมีหนังสือถึงที่ว่าการอำเภอภูมิลำเนาทหาร
 3.ผู้ขอผ่อนผันเขียนคำร้อง ณ ที่ว่าการอำเภอภูมิลำเนาทหาร ขอผ่อนผันเพื่อไปศึกษา ณ ต่างประเทศ นายอำเภอจะสอบปากคำและบันทึกความเห็นตามแบบ ปค.14 แล้วรายงานขอผ่อนผันเพื่อไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหาร
 4.สด.จังหวัดภูมิลำเนาทหารนำเรียนผู้ว่าฯ อนุมัติและลงชื่อในหนังสือผ่อนผันการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารที่ศึกษา ณ ต่างประเทศ ตามแบบ สด.41 (ผ่อนผันตามมาตรา 27(2) แต่สำหรับผู้ขอผ่อนผันเข้ารับราชการทหารที่ศึกษาในประเทศจะใช้มาตรา 29(3) สถานศึกษาจะแจ้งรายชื่อผู้ขอผ่อนผันและผู้อนุมัติผ่อนผันจะแจ้งเป็นหนังสือให้หัวหน้าสถานศึกษาได้รับทราบเท่านั้น)

* 4 ส.ค.30 บก.ทท.เสนอตามรายงานของ ทบ. ขออนุมัติบรรจุนายอภิสิทธิ์ อายุ 23 ปี คุณวุฒิ Bacherlor of Arts (Philosophy, Politics, and Economics) แห่ง University of Oxford ประเทศอังกฤษ

* 7 ส.ค.30 กห.มีคำสั่ง กห ที่ 720/30 ลง 7 ส.ค.30 เรื่องบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ โดยบรรจุนายอภิสิทธิ์เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตรในตำแหน่ง รรก.อจ.ส่วนการศึกษา รร.จปร. (อัตรา พ.ต.) ใบสำคัญทางทหารใช้หนังสือรับรองผ่อนผันไม่เรียกเข้ากองประจำการในยามปกติตามมาตรา 29(3) ที่ออกให้โดยไม่ถูกต้องตามแบบ สด.41 (หนังสือรับรองที่ กห 0481.62/5053 ลง 31 ก.ค.30)

* 8 เม.ย.31 สด.เขตพระโขนงออกใบสำคัญ (แบบสด.9) แทนฉบับที่ชำรุดสูญหายที่ 1178 ลง 8 เม.ย.31 มีข้อสังเกตในใบแทนตามต้นขั้ว จะต้องลงบันทึกตามต้นขั้วแบบ สด.9 ฉบับเดิม แต่กรณีนี้ลงวันที่การเข้าบัญชีทหารกองเกินเมื่อ 8 เม.ย.31 (เป็นวันเดียวกันกับวันออกใบแทนฯ) และไม่มีการออกเอกสาร แบบ สด.1 หรือลงบันทึกในแบบ สด.27 แต่สำหรับบุคคลอื่นในหลักฐานเล่มเดียวกันจะบันทึกวันเข้าบัญชีทหารกองเกินเป็นวันเดียวกับต้นขั้วเดิมของแต่ละบุคคล ซึ่งจะตรงกับแบบ สด.1 และแบบ สด.27 ของบุคคลนั้นๆ

* 26 เม.ย.31 กห.มีคำสั่ง กห ที่ 339/31 ลง 26 เม.ย.31 เรื่องแต่งตั้งข้าราชการกลาโหมพลเรือนเป็นนายทหารสัญญาบัตร โดยแต่งตั้งนายอภิสิทธิ์เป็นว่าที่ร้อยตรี ตั้งแต่ 26 เม.ย.31 หลังจากฝึกหลักสูตรอบรมนายทหารสัญญาบัตร สำเร็จเมื่อ 25 เม.ย.31

* 2 มิ.ย.31 โรงเรียน จปร. นำตัวนายอภิสิทธิ์ไปขึ้นทะเบียนกองประจำการที่สัสดีจังหวัดนครนายก ใช้ใบสำคัญแบบ สด.9 แทนฉบับที่ชำรุดสูญหาย โดยระบุว่าเข้าบัญชีทหารกองเกิน เมื่อ 8 เม.ย.31 ซึ่งผิดจากข้อเท็จจริงที่ลงทะเบียนทหารกองเกินเมื่อ 4 ก.ค.29 (ตามแบบ สด.9, แบบ สด.1 และแบบ สด.27 ฉบับจริง ซึ่งยังคงเก็บรักษาไว้ ณ ส่วนราชการที่รับผิดชอบ)

* 12 เม.ย.32 กห.มีคำสั่ง กห ที่ 270/32 ลง 12 เม.ย.32 เรื่อง ให้นายทหารออกจากประจำการ โดยให้ ร.ต.อภิสิทธิ์ออกจากประจำการตามที่ขอลา เป็นนายทหารกองหนุนมีเบี้ยหวัด สังกัด บก.จทบ.ก.ท. ตั้งแต่ 2 เม.ย.32 

"โดนัท 64,000 ชิ้น" ฉลอง 64 ปีวันเกิด "ทักษิณ ชินวัตร"


"โดนัท 64,000 ชิ้น" ฉลอง 64 ปีวันเกิด "ทักษิณ ชินวัตร"


อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. แจกโดนัทเด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศ 64,000 ชิ้น ชี้เป็นวาระดีวันเกิดทักษิณ สื่อเพื่อปรองดองกับคนในชาติ

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่โรงแรมเวสเทิร์น นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งขาติ (นปช.) นายจิรเดช วรเพียรกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีตรมช.พาณิชย์ และพล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ อดีตเลขาธิการ ปปง. ร่วมกันแถลงข่าว “64 สามัคคีกลมเกลียว” ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวในการแจกโดนัทจำนวนทั้งสิ้นกว่า 64,000 ชิ้น ภายใต้โครงการ 64 กลมเกลียว ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อายุ 64 ปี โดยนายอริสมันต์ กล่าวว่า ในวาระโอกาสดีในครั้งนี้หลังจากที่เป็นวาระโอกาสดีของพ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นการออกมาทำงานของตนหลังจากห่างหายไปจำศีลมากว่า 6 เดือน ที่เลือกโดนัทเป็นสัญลักษณ์ในการแจกก็เพราะว่ามีลักษณะเป็นวงกลมในการทำให้กลมเกลียวเหนียวแน่น และจะมีการแจกจ่ายให้เด็กที่ผู้ด้อยโอกาส และสถานพินิจต่างๆ แล้วแต่จะมีการขอมาเพื่อกระจายให้ได้ทั่วถึงอีกด้วยทั้งประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กล่องที่จะบรรจุโดนัทนั้นมีทั้งสิ้น 12 ชิ้น ในกล่องรูปแบบสี่เหลี่ยม บนข้อความว่า ‘ด้วยรักและผูกพัน We are Together 26ก.ค.2555’  และภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทั้งภายในกล่องมีการ์ดเขียนข้อความว่า ‘โอกาสวันเกิดของกระผม ขอมอบความรัก ความหวาน ความกลมเกลียว มายังท่านทั้งหลาย ด้วยรักและผูกพัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 26ก.ค.2555’ และบริเวณด้างข้างของกล่องมีข้อความว่า ‘โดนัทกลมเกลียวจากใจ 64,000 ชิ้นทั่วประเทศไทย กรุณารับประทานทันที’  ด้านล่างหน้าของกล่องมีข้อความว่า ‘นำส่งโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายจิรเดช วรเพียรกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง’ โดยเริ่มแจกจ่ายทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.ถึงวันที่ 3 ส.ค.


นายอริสมันต์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาเรื่องศาลรัฐธรรมนูญที่ได้มีคำวินิจฉัยออกมานั้นก็ถือว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ในเรื่องการปรองดองถือว่าเป็นการเริ่มต้น ที่ตนมาทำเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสังคมเท่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมื่องแต่อย่างใด และเรื่องดังกล่าวก็ถือเป็นเรื่องดีที่ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันว่าไม่เป็นเรื่องที่เสียหายอะไรแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เองก็ได้ทราบแล้ว.

ขอขอบคุณภาพจากไทยรัฐออนไลน์

ปชป.’รับบริจาคน้ำอีสวอเตอร์ ส่อผิดม.65 ถึงขั้นยุบพรรค

 ‘เรืองไกร’แฉหลักฐาน‘ปชป.’รับบริจาคน้ำอีสวอเตอร์ ส่อผิดม.65 ถึงขั้นยุบพรรค

              เมื่อวันที่ 21 ก.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา เปิดเผยถึงกรณีคดีพรรคประชาธิปัตย์รับเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากบริษัทอีสวอเตอร์ว่า มีหลักฐานชัดเจนที่ยืนยันได้ว่าบริษัทอีสวอเตอร์ได้ร่วมสนับสนุนสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยประสงค์ร่วมกับศูนย์อำนวยการช่วยเหลือและฟื้นฟูประสบภัยน้ำท่วม กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี แต่เป็นการบริจาคผ่านทางพรรคประชาธิปัตย์ โดยในหนังสือบันทึกข้อความของบริษัทอีสวอเตอร์เองที่ทำหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการใหญ่ ลงวันที่ 8 พ.ย. 2553 ได้แจงรายละเอียดการสนับสนุนทั้งจำนวนเงิน 1 ล้านบาท ผ่านบัญชีเลขที่   068-09656-6 ซึ่งไม่ใช่เลขที่บัญชีกองทุนของสำนักนายกฯแต่อย่างใด พร้อมยังส่งมอบน้ำดื่มแบบขวด จำนวน 850 โหล หรือ 10,200 ขวดเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะที่ทางพรรคประชาธิปัตย์กลับอ้างว่าไม่เคยได้รับน้ำมาแจกจ่ายเลย แล้วเหตุใดจึงต้องมีการทำหนังสือขออนุมัติจัดยานพาหนะไปยังกรมขนส่งรักษาพระองค์ จนกระทั่งได้รับการอนุมัติตามหนังสือเลขที่ กห 0444.14/ ลงวันที่ 22 พ.ย. 2553 เป็นพาหนะสนับสนุนภารกิจบรรทุกสิ่งของบริจาคจำนวน 5 คัน พร้อมพลขับ 6 นาย พร้อมที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 23 พ.ย. 2553 ตามที่ระบุไว้
 
              นายเรืองไกร กล่าวว่า เห็นได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์รับประโยชน์จากทางราชการ แล้วบอกว่าไม่ได้รับน้ำร่วมบริจาคได้อย่างไร อีกทั้งการขออนุมัติรถบรรทุกสิ่งของนั้นต้องใช้น้ำมันหรือไม่ มีเรื่องการใช้จ่ายเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งความผิดเป็นไปตามกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 65 (5) การเลิกหรือยุบพรรคการเมืองได้นั้น หากพรรคการเมืองไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรา 62 ซึ่งการที่พรรคการเมืองที่ได้รับเงินสนับสนุนต้องใช้จ่ายเงิน สนับสนุนให้เป็นไปตามที่บัญญัติไว้ในส่วนนี้ และจะต้องจัดทำรายงานการใช้จ่ายเงิน สนับสนุนของพรรคการเมืองในรอบปีปฏิทินให้ถูกต้องตามความเป็นจริงและยื่นต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้งภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ทำเช่นนั้น ซึ่งถึงขั้นยุบพรรคการเมืองได้

เครดิต : ข่าวสดออนไลน์  http://www.khaosod.co.th/

"พานทองแท้" สอนมวย "เทพไท" เป็นชายต้องไม่รังแกหญิง


          21 กรกฎาคม 2555 go6TV - เมื่อเวลา 20.00 น. ที่ผ่านมา นายพานทองแท้  ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊ค โดยกล่าวถึงกรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวตำหนิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ที่เยือนเยอรมนี ว่าหนีวิกฤติบ้านเมือง ถือโอกาสโชว์แฟชั่น  ว่ารู้สึก "สงสารนายกฯปู"  พร้อมกับเปรียบเทียบเรื่องดังกล่าวกับสารคดีโลกตอนที่ลูกสมันน้อยพลัดหลงไปอยู่ใจกลางฝูงฮายีน่า  
         
          "ผมว่ามันไม่ต่างกันเท่าไหร่เลยครับ และนี่เป็นมนุษย์เพศหญิง ที่ต้องทำหน้าที่แทนคนไทยทั้งประเทศ กลับมาถูกผู้ชายอกสามศอกมารุมตำหนิเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ว่าการแต่งตัว ตำส้มตำ พูดวนกันไปอยู่นั่นแหละ ผมว่าพวกท่าน "ชกไม่สมศักดิ์ศรี" ในฐานะทีมงาน "ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร" เลยครับ

           ผมเชื่อว่าท่านเองก็ทราบดีนะครับว่า คนเป็นผู้หญิงก็ต้องรักสวยรักงามเป็นธรรมดา ไม่เหมือนผู้ชายที่สูทชุดเดียวใส่ทั้งอาทิตย์ได้อย่างสบาย และการไปเยือนต่างประเทศของนายกฯ ทั้งทีการนำเสื้อผ้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จาก "ศูนย์ศิลปาชีพ" ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ไปใส่อวดสายตาคนทั้งโลก มันน่าอายตรงไหนครับ พรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่ชอบแต่เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ เขาภาคภูมิใจในผลิตภัณฑ์ของศูนย์แห่งนี้ ใจผมอยากจะเชียร์ให้นายกฯปูใส่ชุดของศูนย์ศิลปาชีพทุกวัน เปลี่ยนชุดทุกๆวันไม่ให้ซ้ำกัน เอาให้ผลิตภัณฑ์ของ ศูนย์ศิลปาชีพโด่งดังไปทั่วโลก ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะมีปัญหาอะไรมาก ก็ด่ามาอีกครับ ผมโต้กลับให้เอง "