โฆษก กอ.รส. ชี้แจงกองทัพแจ้งรัฐบาลแล้วว่าจะใช้กฎอัยการศึก แต่มีข้อขัดข้องจึงทำให้ส่งช้า โดยท้ายหนังสือระบุ "จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ" ลงชื่อ "พล.อ.ประยุทธ์" แล้ว พร้อมเตือนนักวิชาการ-ผู้ร่วมรายการทีวี-วิทยุแสดงความเห็นไม่สอดคล้องแนวทาง กอ.รส. อาจเข้าข่ายความผิดซึ่ง จนท.จะต้องดำเนินการ
กอ.รส. เผยแพร่เอกสารระบุว่าเป็นหนังสือเลขที่ กห. 0407/83 เรื่อง "การประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก" ชี้แจงว่า เป็นการประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เวลา 03.00 น. เป็นต้นไป ท้ายหนังสือลงว่า "จึงเรียนมาเพื่อกรุณาทราบ ขอแสดงความนับถือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" (ที่มา: กอ.รส.)
20 พ.ค. 2557 - พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยถึงข้อสงสัยกรณีการแจ้งไปยังรัฐบาล ก่อนประกาศ พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ว่า กองทัพบกได้ทำหนังสือไปแจ้งยังรัฐบาลแล้ว โดยส่งไปที่กระทรวงพาณิชย์ ในช่วงเช้า แต่ข้อขัดข้องบางประการ กระทรวงพาณิชย์ได้เรียกเจ้าหน้าที่กองทัพบกไปรับหนังสือคืน และแจ้งว่าให้ไปยื่นในสถานที่ทำงานแห่งใหม่คือที่สำนักงานเลขาธิการสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เมืองทองธานี จึงทำให้การส่งหนังสือนั้นล่าช้า แต่กองทัพบกดำเนินการทุกอย่างไปตามขั้นตอนของการประกาศกฎอัยการศึก
ส่วนการทำความเข้าใจชาวต่างประเทศนั้น พ.อ.วินธัย ระบุว่า กอ.รส. ได้ทำหนังสือชี้แจงยืนยันสร้างความมั่นใจที่จะดูแลความปลอดภัยชาวต่างประเทศที่พำนักในประเทศไทยผ่านทุกสถานทูตแล้ว และระบุว่ามั่นใจว่า กอ.รส. จะดูแลชาวต่างประเทศและสถานทูตเป็นอย่างดี
โฆษก กอ.รส. กล่าวต่อไปว่า กรณีความเห็นของนักวิชาการ หรือผู้ร่วมรายการทางสถานีโทรทัศน์ หรือวิทยุ ขอให้ระมัดระวังการแสดงความคิดเห็นในลักษณะการวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่สอดคล้องกับแนวทางสนับสนุนให้เกิดความสงบเรียบร้อย หรือไม่เป็นไปตามประกาศ กอ.รส. ก็อาจเข้าข่ายความผิดที่เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการจึงขอชี้แจงให้ทราบโดยทั่วกัน
ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีขอให้กองทัพใช้กฎอัยการศึกตามกรอบ รธน.
อนึ่งเมื่อเวลา 14.20 น. วันนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้ข่าวผ่านเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล ถึงกรณีกองทัพบกประกาศใช้กฎอัยการศึกว่า รัฐบาลเองก็มีความมุ่งหวังที่จะเห็นความสงบเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
โดยการดำเนินการของกองทัพจำเป็นต้องเป็นไปตามแนวทางสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เลือกปฏิบัติ และให้มีความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน ภายใต้หลักนิติรัฐ นิติธรรม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง การดำเนินการของกองทัพบกดังกล่าว จะต้องอยู่ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข