วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554


แบงค์ไทยพาณิชย์...คุณกำลังทำอะไร จะไปไหน?
http://www.internetfreedom.us/thread-18083.html


แบงก์ไทยพาณิชย์ทุ่มเงินกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท ซื้อไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทนิวยอร์คไลฟ์ อินชัวรันส์ แจ้งข่าวร่วมกันในการที่สถาบันทั้งสองได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะซื้อหุ้นทั้งหมดจากบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ และจากบริษัทไทยที่ร่วมลงทุนกับบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ ที่ถืออยู่ในบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCNYL เป็นจำนวนเงิน ทั้งสิ้น 8,400 ล้านบาท หรือ ประมาณ 266.89 บาท ต่อหุ้น

โดยธุรกรรมนี้ขึ้นอยู่กับการดำเนินการตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มีกำหนดไว้ในสัญญา ซึ่งรวมถึงการได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแล และการได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของธนาคาร

ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินการต่าง ๆ เหล่านี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2554 โดยในปี 2543 ได้มีการร่วมทุนใน บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกันระหว่างธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 47.33 และบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แอลแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ ที่ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 23.89 กับบริษัทไทยที่ร่วมลงทุนกับบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ ซึ่งถือหุ้นอีกร้อยละ 23.44 โดยมีผู้ถือหุ้นรายย่อยอื่น ๆ ถือรวมกันอยู่ร้อยละ 5.34

โดยภายหลังจากการซื้อหุ้นครั้งนี้แล้วเสร็จ ธนาคารจะถือหุ้นในบริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) รวมประมาณร้อยละ 94.66

บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้นำในตลาดธุรกิจประกันชีวิตของประเทศ ในปี 2553 มีเบี้ยประกันรับสุทธิรวมมากกว่า 24,000 ล้านบาท และอัตราการเจริญเติบโตที่โดดเด่นและสูงกว่าตลาดมาตลอดระยะเวลา 11 ปีของการดำเนินงาน

นางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารขอขอบคุณบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ อินชัวรันส์ ที่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลา 11 ปี จนสามารถสร้างบริษัทประกันชีวิตชั้นนำของประเทศที่มุ่งมั่นการให้บริการที่ดีเยี่ยมแ​ก่ลูกค้าในประเทศไทย ธนาคารถือว่าธุรกิจประกันชีวิตเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาวที่สำคัญที่จะช่วยเติมเต็มบริกา​รทางการเงินของธนาคาร และยังเห็นโอกาสในการเจริญเติบโตอีกมากในธุรกิจประกันชีวิตของประเทศ ซึ่งธนาคารจะยังคงรักษาความโดดเด่นของบริษัทในเรื่องการเจริญเติบโตให้เป็นไปอย่างต่​อเนื่อง

ในขณะเดียวกันจะสร้างความเข้มแข็งทางการเงินและการปฏิบัติการ เพื่อการให้บริการที่เป็นเลิศของบริษัท ให้เหมือนดังเช่นตลอดเวลาที่ผ่านมาที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้มุ่งมั่นต่อการให้บริการที​่เป็นเลิศ และมอบบริการที่มีคุณค่าให้แก่ลูกค้าของธนาคารเกือบ 12 ล้านคนทั่วประเทศ

นายดิ๊ก มุดชี่ ประธานกรรมการบริหารบริษัท นิวยอร์คไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล แอลแอลซี กล่าวว่า ในการทำธุรกิจร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ ปริมาณการขายกรมธรรม์ประกันชีวิตที่เกิดขึ้นเป็นรายการหลักของบริษัทนั้น มาจากช่องทางเครือข่ายสาขาของธนาคาร และธนาคารได้แสดงความสนใจที่จะรวมการดำเนินงานของธุรกิจประกันชีวิตเข้าในฐานการให้บ​ริการแก่ลูกค้าบุคคล เช่นเดียวกับธุรกิจอื่น ๆ ที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว ดังนั้น ด้วยยุทธศาสตร์และรูปแบบการทำธุรกิจที่ธนาคารมีความมุ่งมั่น มาถึงวันนี้ เราทั้ง 2 สถาบันเชื่อว่า ถึงเวลาที่ธนาคารจะเข้ามาทำธุรกิจประกันชีวิตอย่างเต็มตัว และสำหรับบริษัท นิวยอร์คไลฟ์ จะขายหุ้นที่ลงทุนอยู่ออกไป

"บริษัท นิวยอร์คไลฟ์ มีความภูมิใจที่บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยผ่านผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนการออมเงินและว​างแผนการเงินสำหรับอนาคต ก่อให้เกิดการจ้างงานและการลงทุน ตลอดจนการนำรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ดีมาสู่ธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทย เราขออวยพรให้ธนาคารไทยพาณิชย์ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจใน บริษัทไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และต่อจากนี้ไปบริษัทนิวยอร์คไลฟ์ จะมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อสร้างคุณค่าอย่างเต็มที่ให้กับส่วนของธุรกิจต่าง​ประเทศที่คงเหลืออยู่ โดยบริษัทจะยังมีการลงทุนเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตต่อไปในอนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือกรมธรรม์ของบริษัท"

http://www.bangkokbiznews.com/home/detai...คไลฟ์.html
สำนักงานสถิติแฉตัวเลขคนไทยสุดเซ็ง ไม่ดูรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ
[Image: e2iey.jpg]

นักข่าวไปเห็นตัวเฮี่ยหางด้วนโผล่ ทบ. ลืออาถรรพ์ปฏิวัติอีกแล้ว
http://www.internetfreedom.us/thread-18118.html


ฮือฮา!!"ตัวเงินตัวทอง"โผล่ทบ.หวั่น"อาถรรพ์ปฏิวัติ" เผยเคยโผล่เมื่อปี2549มาแล้วก่อน"บิ๊กบัง"ปฏิบัติการ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการทหารบกว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 มีนาคม ที่บริเวณร้านอาหารหลังอาคารสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ปรากฏว่ามีตัวเงินตัวทองหางกุด ยาวประมาณ 1 เมตร เดินเพ่นพ่านชูคออย่างไม่กลัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมา โดยที่ตัวเงินตัวทองเดินหาอาหารอยู่สักพักใหญ่ ก่อนจะเดินหลบตัวเข้าไปภายในอาคารปั่นไฟฟ้าสำรองของกองทัพบก ซึ่งกำลังพลทหารที่พบเห็นต่างวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานา


โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวสายทหาร ที่เคยเห็นตัวเงินตัวทองยาวกว่า 1 เมตร โผล่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2549 แล้วถูกทหารใช้ไม้ตีตายก่อนจะลากไปทิ้ง ก่อนเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติรัฐประหารโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในขณะนั้น แต่หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับตำแหน่งผบ.ทบ.มีการปรับภูมิทัศน์ภายในกองบัญชาการทหารบกใหม่ให้ดูสวยงาม แล้วมีตัวเงินตัวทองโผล่ออกมาอีกครั้งจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่าจะ มีการปฏิวัติรัฐประหารอีกหรือไม่


http://www.matichon.co.th/news_detail.ph...&subcatid=

ที่จริง ทบ. ก็มีตัวเหี้ยเดินเพ่นพ่านขึ้นลิฟท์ลงลิฟท์ไปชั้น 5 ชั้น 6 ทุกวัน นักข่าวนี่ไม่ประสีประสาเอาเสียเลย หรือมองอีกแง่ นักข่าวอาจจะส่งซิกบอกว่า มันกำลังคิดการณ์เหี้ยๆ อีกแล้ว
สื่อมวลชน ยัน ทหารยิงประชาชน Asia Update TV


ปูติน อัด สหรัฐฯ แทรกแซงประเทศอื่นไปทั่ว
[Image: 29p8e3m.jpg]

ปูติน อัด สหรัฐฯ แทรกแซงประเทศอื่นไปทั่ว


หลังนำกองกำลังตะวันตกถล่มลิเบีย

22 มี.ค. รายงานข่าวจากต่างประเทศเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นายวลาดิมีร์ ปูติน นายกรัฐมนตรีของรัสเซีย กล่าวประณามรัฐบาลประเทศสหรัฐอเมริกากรณีนำกองกำลังชาติตะวันตกยิงถล่ม ลิเบีย ผ่านสื่อของรัสเซีย ว่า กองทัพสหรัฐฯเที่ยวแทรกแซงกิจการภายในของประเทศต่างๆไปทั่วโลก โดยสิ่งที่รัฐบาลวอชิงตันทำนั้นไร้มโนธรรมและเหตุผล



ทั้งนี้ นายกฯ ปูติน กล่าวพาดพิงถึงกรณีที่ชาติตะวันตกใช้กำลังเข้าแทรกแซงลิเบียว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้เปลือกนอกที่ต้องการจะปกป้องชีวิต พลเรือน แล้วไหนเล่าเหตุผล มโนธรรมมันอยู่ตรงไหน






เรียบเรียงข่าวโดยMthainews

สมศักดิ์ เจียมฯ:จะเกิดการเอาผิดผู้รับผิดชอบ 91 ศพได้ ต้องเกิดการปฏิรูประบบยุติธรรมไทย = ต้องยกเลิกสถานะสถาบันกษัตริย์และอุดมการณ์กษัตริย์นิยม





โดย ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ที่มา กระดานสนทนาInternet Freedom


1. จะเกิดการเอาผิดผู้รับผิดชอบ 91 ศพ ได้ (ไม่ว่าจะระดับอภิสิทธิ์-สุเทพ-อนุพงศ์-ดาวพงษ์ หรือระดับอื่นๆ) จะต้องเกิดการปฏิรูประบบยุติธรรมของไทย;

2. แต่จะปฏิรูประบบยุติธรรมไทยได้ หมายถึงจะต้องยกเลิกอุดมการณ์กษัตริย์นิยมที่เป็นอุดมการณ์หลักที่ครอบงำวิธีคิด-ปฏิบัติของบุคคลากรของระบบยุติธรรมไทย(ตั้งแต่ระดับตุลาการ มาถึงระดับ อัยการ มาถึงระดับเจ้าหน้าที่สอบสวน ฯลฯ) ซึ่งอุดมการณ์กษัตริย์นิยมนี้เป็นส่วนหนึ่งของสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ในปัจจ​ุบัน

ศาลไทยตัดสินไม่เพียงภายใต้พระปรมาภิไธยอย่างเป็นทางการ (formal) เท่านั้น แต่ศาลไทยตัดสินภายใต้อุดมการณ์กษัตริย์นิยม;

3. ไม่มีอุดมการณ์กษัตริย์นิยม ไม่มีสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็ไม่มี "ตุลาการภิวัฒน์" ตั้งแต่แรก;

4. ตราบใดที่อุดมการณ์กษัตริย์นิยมยังครอบงำระบบยุติธรรมไทย การปฏิบัติของบุคคลากรของระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวินิจฉัยตัดสินของศาล ก็จะไม่เป็นไปในทางที่ลงโทษผู้กระทำผิดในกรณีอย่าง 91 ศพ (ไม่ต้องพูดถึงกรณียึดอำนาจรัฐประหาร) ภายใต้อุดมการณ์แบบนี้ ภายใต้สถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์แบบนี้ จะไม่มีการลงโทษกรณีเหล่านี้อย่างเด็ดขาด;

5. ปัจจุบันและในอนาคตที่เห็นได้ ไม่มีกลุ่มการเมืองกระแสหลักใด รวมทั้งพรรคเพื่อไทยและ นปช. (ไม่ต้องพูดถึง ประชาธิปัตย์ หรือกลุ่มอื่นๆ) ที่มี "นโยบาย" ที่จะยกเลิกอุดมการณ์กษ้ตริย์นิยม ยกเลิกสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์อย่างที่เป็นอยู่;


6. จากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ "อนาคต" ของ 91 ศพ เท่าที่เห็นได้ในขณะนี้ ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับ หลายๆศพ เมื่อ 14 ตุลา, 6 ตุลา, 17 พฤษภา ... "อนาคต" ของผู้รับผิดชอบ 91 ศพ ก็จะเช่นเดียวกับ "อนาคต" (มองจากปัจจุบันคืออดีต) ของผู้รับผิดชอบศพการเมืองต่างๆ และการรัฐประหารต่างๆ

********

มีความจริงสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ผมคิดว่า จะค่อยๆเป็นที่ตระหนักแก่คนเสื้อแดงคือ ผู้เสียชีวิตในเดือนเมษา-พฤษภาปีกลาย จะมี"อนาคต"เหมือนผู้เสียชีวิตเมื่อ 14 ตุลา, 6 ตุลา, 17 พฤษภา : จะไม่มีใครได้รับการลงโทษจากการเสียชีวิตนั้น

ที่มา เฟซบุ๊ค สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

ผมคิดว่า ค่อนข้างแน่นอนว่า คดีที่ icc ไม่สามารถจะบรรลุผลได้ (ผมเห็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่อยากพูดไปมาก เพราะเห็นว่า เพื่อนๆหลายคนให้ความสำคัญ .. แต่ไหนแต่ไร ผมมองว่า เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับองค์กรระหว่างประเทศนั้น เป็นเรื่องที่ขึั้นกับการเมืองระหว่างประเทศ นั่นคือ ขึ้นกับประเทศมหาอำนาจว่าจะมีท่าทีอย่างไร ซึีงในกรณีไทย ไม่มีมหาอำนาจประเทศใด มีท่าทีให้ความสำคัญ)

ดังนั้น ก็เหลือเฉพาะในประเทศ . . .

กรณี "ระบบยุติธรรม" ของไทยนั้น ยกเว้นแต่จะเกิดการเปลี่ยนในระดับ "โครงสร้าง" อย่างชนิด "ถึงราก" (radical structural change) โอกาสที่ "ระบบยุติธรรม" ของไทย จะดำเนินการในทางที่ลงโทษกรณีเช่นนี้ เรียกได้ว่า ไม่มีเลย (ไม่งั้น แม้แต่ 17 พฤษภา ที่เกิดในยุคที่ "พัฒนา" ไปมากแล้ว คงไม่เป็นอย่างทีเห็น)

ในทางกลับกัน แกนนำเสื้อแดงเอง แม้ขณะนี้ มีแนวโน้มที่จะได้รับการผ่อนปรน ในแง่ประกันตัวออกมา แต่ก็มีคดีติดตัว คดีลักษณะนี้ - อันนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องน่ายินดีอะไรมาก - แทบจะไม่มีทางดำเนินถึงที่สุดได้ (จะต้องใช้พยานกี่ร้อยคน ในแต่ละฝ่าย? จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาคดีกี่ปี ทั้ง 3 ศาล? ฯลฯ) ... โอกาสที่จะเกิดขึ้นมากคือ ในที่สุด จะมีการ "นิรโทษกรรม" ...

และการ "นิรโทษกรรม" ต่อ แกนนำเสื้อแดง จะไมใช่การ "นิรโทษกรรม" แก่เสื้อแดงเท่านั้น จะเป็นเหมือน กรณี 6 ตุลา (ที่ผมมีประสบการณ์โดยตรง) คือ จะ "นิรโทษกรรม" ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา

ซึ่งก็จะเหมือนกรณี 6 ตุลา ที่ภาพที่ออกมาทั่วไป คือการ นิรโทษกรรม ปล่อยผมและเพื่อนออกมา แต่จริงๆ กฎหมายนิรโทษกรรมนั้น เป็นการนิรโทษ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นทั้งหมด หมายความว่า บรรดาคนที่บุกเข้าไปฆ่าคน ข่มขืน เผา แขวนคอ คน ในเช้าวันนั้น ทุกคน ล้วนได้รับการ "นิรโทษกรรม" หมด ไม่ต้องพูดถึงบรรดาคนที่เป็นผู้อยู่ "เบื้องหลัง" เหตุการณ์ฆ่าหมู่ครั้งนั้น

อันที่จริง สถานการณ์ "ปรองดอง" ในขณะนี้ มีส่วนชวนให้คิดถึงสถานการณ์หลังกรณี 6 ตุลา ไม่น้อย หลังจากความตึงเครียดรุนแรง ในช่วงรัฐบาลธานินทร์ ทีนักศึกษาหนีเข้าป่า และคิดกันว่า จะต่อสู้จนกว่าจะได้รับชัยชนะในขั้นสุดท้าย แต่หลังจากมีนิรโทษกรรม ผมกับเพื่อนในปลายปี 2521 มีคำสั่ง 66/23 ในต้นปี 2523 และมีปัญหาภายในขบวนปฏิวัติเอง .. นักศึกษาก็ทยอยกันกลับออกมา และเสมือนได้รับ "นิรโทษกรรม" จากการคุ้มครองของ 66/23 หลังจากนั้นไม่นาน ขบวนปฏิวัติทั้งขบวนก็พังครืนลง

แน่นอน คนที่ตายในกรณี 6 ตุลา ก็ไม่่มีใครต้องรับผิดชอบมาจนทุกวันนี้

(กรณี 17 พฤษภา มีความแตกต่าง และไม่มีลักษณะ "ดราม่า" เท่านี้ แต่ผลที่ลงเอยก็เหมือนกัน และในเวลาอันรวดเร็วกว่าด้วย)

..............

"ภาพ" (scenario) ที่ผมบรรยายข้างต้นนี้ จะต่างออกไปไหม ถ้า - โดย "ปาฐิหาริย์" บางอย่าง - พรรคเพื่อไทย ได้จัดตั้งรัฐบาล?

ผมไม่คิดว่าต่าง

ขอให้ลองคิดดู ถ้าสมมุติพรรคเพื่อไทย ได้เป็นรัฐบาล ในด้านความช่วยเหลือ แกนนำ ที่ยังมีคดีติดตัว วิธีที่จะทำได้มากที่สุดคืออะไร?

"นิรโทษกรรม"

แต่การนิรโทษกรรม เฉพาะแกนนำเสื้อแดง เป็นเรื่องที่แทบจะคิดไม่ได้ (unthinkable) คือ ถ้าจะนิรโทษกรรม ก็คงต้องนิรโทษกรรมไปพร้อมกันทีเดียวหมดทุกฝ่าย

หรือต่อให้ รัฐบาลเพื่อไทย ผลักดันให้ นิรโทษกรรม เฉพาะเสื้อแดงได้จริงๆ แล้วหาทางดำเนินคดีกับผู้มีอำนาจในเดือนเมษา-พฤษภา (อภิสิทธิ์, สุเทพ, อนุพงศ์ ฯลฯ) ตราบเท่าที่ "ระบบยุติธรรม" เป็นอย่างทีกล่าวถึงข้างต้น ก็เป็นไปไม่ได้อยู่นั่นเอง ที่จะสามารถดำเนินคดี กับใครก็ตาม ในกรณีผู้เสียชีวิต เดือนเมษา-พฤษภา ได้

............

แน่นอน มี "ปม" หรือ "กุญแจ" สำคัญ อยู่ประเด็นหนึ่ง

นั่นคือ การจะหลีกเลี่ยง "อนาคต" เช่นที่ว่าข้างบนนี้ได้ ก็จะต้องมีการ "เปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างอย่างถึงราก" (radical structural change) ไม่เพียงแต่ "ระบบยุติธรรม" เท่านั้น (เพราะระบบยุติธรรม ไม่สามารถเปลี่ยนในระดับนี้ โดดๆ ได้)

ปัญหาคือ : นปช. - เพื่อไทย มี นโยบาย หรือ แนวทาง สำหรับการ "เปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้างอย่างถึงราก" เช่นนี้อยู่หรือไม่์?

*********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล : ข้อเสนอ 8 ข้อ เพื่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

ปฏิบัติตาม 8 ข้อนี้ ผลลัพท์ ไม่ใช่การล้มสถาบันกษัตริย์ แต่ทำให้สถาบันฯ มีลักษณะเป็นสถาบันฯ สมัยใหม่ ในลักษณะไม่ต่างจากยุโรป เช่น สวีเดน, เนเธอร์แลนด์

(ผมตระหนักในความแตกต่างบางอย่างของข้อเสนอนี้กับยุโรปอยู่ เช่น ผมเข้าใจว่า เรื่องมาตราแบบ รธน. 2475 ในข้อแรก ไม่มีในยุโรปเหมือนกัน แต่นี่เป็นข้อเสนอที่อิงอยู่บน ความเฉพาะของไทยทีผ่านมา)
1. ยกเลิก รธน. มาตรา 8 เพิ่มมาตรา ในลักษณะเดียวกับ รธน.27 มิย 2475 (สภาพิจารณาความผิดของกษัตริย์)

2. ยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญา ม.112

3. ยกเลิก องคมนตรี

4. ยกเลิก พรบ. จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ 2491

5. ยกเลิก การประชาสัมพันธ์ด้านเดียวทั้งหมด การให้การศึกษาแบบด้านเดียวเกี่ยวกับสถาบันทั้งหมด

6. ยกเลิก พระราชอำนาจ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองทั้งหมด (4 ธันวา, 25 เมษา "ตุลาการภิวัฒน์" ฯลฯ)

7. ยกเลิก พระราชอำนาจ ในเรื่อง โครงการหลวง ทั้งหมด

8. ยกเลิก การบริจาค / รับบริจาค โดยเสด็จพระราชกุศล ทั้งหมด



-มัดคออาชญากรบงการทะเหี้ย..มสังหารหมู่ เปิดคลิปตู่+วรวัจน์จัดหนักถลกหนังแฉมือเผาCTWถึงซีด 

-ก้าวต่อไปของชาวเสื้อแดง:วิธีปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้เป็นแบบญี่ปุ่น- สวีเดน

-ระยิบ เผ่ามโน:ลอยไปกับสายน้ำ



มัดคออาชญากรบงการทะเหี้ย..มสังหารหมู่ เปิดคลิปตู่+วรวัจน์จัดหนักถลกหนังแฉมือเผาCTWถึงซีด


AFPเสนอภาพรายงานข่าวว่า ฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กล่าวหาว่า นายกรัฐมนตรีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ในวันสลายการชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปีกลาย ข้ออ้างว่าผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายเผาเป็นการโยนบาป เพราะมีหลักฐานว่าเจ้าหน้าที่เป็นคนลงมือเผา โดยปล่อยให้ชายแต่งกายแบบทหารใช้ระเบิดถล่มแล้วเผา และไล่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไม่ให้เข้ามาดับไฟ ขณะที่นายอภิสิทธิ์กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวตอบโต้ว่า ฝ่ายผู้ชุมนุมเป็นผู้ที่เผาห้าง(ภาพข่าว:AFP)

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
18 มีนาคม 2554

โดนจัดหนัก-สุเทพ เทือกสุบรรณ กับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 2ผู้นำรัฐบาลหุ่นเชิดระบอบปกครองอำมาตย์ ถูกฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีเป็นผู้รับผิดชอบในการสังหารหมู่ผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 2553 ในช่วงค่ำวานนี้ โดยทั้งสองใช้กลยุทธ์ชิงโอกาสรีบโต้ทันควันในช่วงเริ่มต้นการอภิปรายประเด็นนี้ในช่วงหัวค่ำ ซึ่งเป็นเวลาไพรไทม์ของรายการโทรทัศน์

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ใช้เวลาอภิปราย 3 ชั่วโมง 40 นาที โดยอ้างอิงเอกสารหลักฐานทางราชการจากDSIมัดแน่นยืนยันว่าทหารใต้การบังคับบัญชาของทั้งสองเป็นผู้สังหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ปราศจากอาวุธ ทั้งสองจึงต้องถูกดำเนินคดีอาชญากรผู้บงการสั่งฆ่าหมู่

ซีด-หลังการอภิปรายจบลงในเวลา02.00น.ฝ่ายค้านขอให้ทั้งสองตอบทันที แต่นายอภิสิทธิ์ขอเลื่อนไปตอบในช่วงเช้าวันศุกร์ที่18มีนาคม โดยไม่ให้เหตุผลใดๆ เขามีสีหน้าอิดโรยและลดพยศความอวดดีลงอย่างเห็นได้ชัด เชื่อได้ว่าต้องการยื้อเวลาเพื่อหาหลักฐานเอกสารมาหักล้างการอภิปรายของนายจตุพร


ที่รัฐสภาวันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาการอภิปรายของนายจตุพร โดยเริ่มต้นเมื่อเวลา 09.20น. ช่วงเริ่มต้นก็ชี้ว่านายตุพรโกหก และแก้ต่างว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับนายทหารและทหารที่นายจตุพรอภิปรายว่า เป็นผู้ควบคุมการสังหารเสื้อแดง และเป็นผู้รับผิดชอบต่อความตาย 91 ศพ จากนั้นได้อ้างว่า ชายชุดดำซึ่งเป็นเครือข่ายก่อการร้ายของนปช.เป็นผู้รับผิดชอบการสังหาร และกล่าวหาว่าการดำเนินการของฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณเหมือนคอมมิวนิสต์ เพราะมีพรรคเพือไทยต่อสู้ในสภา มีมวลชนจัดตั้งเสื้อแดง มีกองกำลังชายชุดดำติดอาวุธ

นายจตุพรลุกขึ้นตอบโต้ช่วงเวลา 11.25 น.ว่า นายสุเทพไม่ยอมตอบคำถามที่เขาอภิปรายหลักฐานเอกสารจากDSIและเอกสารราชการที่ชี้ชัดว่า ทหารเป็นผู้สังหารตามคำบงการของนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์ แต่แถไปอีกเรื่อง ซึ่งไร้หลักฐาน เป็นการหน้าด้านโกหกกลางสภา

เป็นที่น่าสังเกตว่านายอภิสิทธิ์ไม่ได้ลุกขึ้นชี้แจงใดๆ ต่อจากนายสุเทพ ทั้งที่ทำท่าว่าจะชี้แจงในตอนที่นายจตุพรอภิปรายเสร็จเมื่อคืนที่ผ่านมา

นายอภิสิทธิ์เพิ่งจะมากล่าวชี้แจงในตอนสรุปเมื่อราว21.20น. โดยยืนยันว่าฝ่ายชุมนุมมีกองกำลัง เป็นต้นเหตุของความรุนแรง รัฐบาลไม่มีเหตุผลไปฆ่าผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมยิงระเบิดใส่ทหารก่อนในวันที่10เมษายน 2553 ช่วง13-19พ.ค.ทหารอยู่ในที่ตั้งแต่ถูกโจมตี จึงกระชับพื้นที่เลยเกิดการสูญเสีย ส่วนว้นที่19เข้ายึดสวนลุมฯเพราะมีอาวุธ ช่วงบ่ายวันที่19แกนนำมอบตัวแล้ว แต่ผู้ชุมนุมระแวงก็ไปรวมตัวกันที่วัดอภัยทาน แต่มีกองกำลังเข้าไปอยู่ในวัดปทุมฯ ปัญหาจึงเกิดขึ้น

ส่วนที่นายจตุพรอ้างเอกสารศอฉ.เรื่องรายชื่อทหารที่ปฏิบัติการตามพื้นที่ให้กับDSIแล้วอ้างว่าทหารฆ่าประชาชน และว่าผมกับนายสุเทพเป็นผู้บงการ ส่วน13ศพที่นายจตุพรอ้างว่าทหารฆ่าประชาชนนั้น เขาก็ส่งกลับพื้นที่สอบสวน กรณีกระชับวงล้อมก็มีการต่อสู้ จึงเกิดปัญหา

นายอภิสิทธิ์อ้างว่าในสำนวน 13 ศพนั้น ไม่มีปากคำใครยืนยัน และบางทีก็ขัดกัน กรณี6ศพวัดปทุมฯนั้น ก็ยังไม่ชัดเจน ทำไมไม่ปล่อยให้เจ้าที่ที่เขามีหน้าที่สืบสวนสอบสวนไป การมาโยงว่านายสุเทพกับผมบงการฆ่า ไม่ได้หรอกครับ เป็นการปลุกเร้าความขัดแย้งในชาติ

สภาจะมีเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปจนถึงเวลา 23.00 น.วันนี้ และจะลงมติ้ในเช้าวันเสาร์ที่19มีนาคม

คลิปอภิปรายซักฟอก 3 ชั่วโมง 40 นาทีโดยจตุพร



























คลิปจตุพรอภิปรายซักฟอกเพิ่มเติมตอบโต้เทือก 18มีนาคม







คำต่อคำ ประเด็นการอภิปราย “ใครเผา ? central world”โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย






ท่านประธานที่เคารพครับ

ใน การอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ผมต้องขออนุญาตฝากคำขอโทษท่านนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และท่านรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผ่านท่านประธานไปด้วยครับ ว่า คำอภิปรายของผมในวันนี้ อาจจะทำให้ท่านทั้ง 2 รู้สึกไม่สบายใจ

เพราะ การที่ผมอภิปราย แล้วทำให้ท่านทั้งสอง รู้สึกว่า การตอบคำถามในสภาผู้แทนราษฏร เพื่อยืดเวลาการแสวงหาข้อเท็จจริงออกไปนั้น วันหนึ่งมันก็จะถึงวันที่ มีหลักฐาน และพยาน ยืนยันอย่างชัดเจน ว่า ท่านทั้ง 2 เป็นผู้บริหารประเทศ และกล่าวคำโกหกกลางสภานั้น! เป็นการที่ ทำให้ท่านต้องหมดเครดิตทางการเมือง และต่อไป ท่านพูดอะไร ก็คงจะเชื่อได้ยาก

นับตั้งแต่วันที่ ท่านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ตอบคำถามผมในสภาว่าท่านไม่เชื่อข้อมูลของผม แต่ท่านบอกว่าท่านเชื่อคำพูดของยามในเซ็นทรัลเวิลด์มากกว่านั้น

นับตั้งแต่วันที่กลุ่ม นปช.ถูกควบคุมตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้นผมก็ให้ความพยายามในการศึกษาสืบเสาะเพื่อหาคำตอบให้ได้ว่า ใครเป็นคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ และก่อให้เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งนึง ในกรุงเทพมหานครกันแน่

แต่ ปริศนาว่าใครเป็นคนเผาเซ็นทรัลเวิลด์ก็ถูกกลบด้วยการประชาสัมพันธ์และการ สร้างกระแสของรัฐบาลว่าคนเผาคือพวกเสื้อแดงและการตอกย้ำเช่นนั้นก็ทำให้ทุก คนในกรุงเทพเชื่อได้เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนที่ได้รับผลกระทบมากๆ และก็ไม่อยากเชื่อว่าทางรัฐบาลจะกล้าสั่งการให้มีการเผาบ้านเผาเมืองด้วยตน เอง ก็คงเป็นพวกเสื้อแดงนั่นแหละ

และเรื่องมันก็ค่อยๆเงียบหายไป

แต่ท่านประธานครับ ในใจผมก็ยังมีปมที่เคลือบแคลงสงสัยอยู่หลายประการ

ประการแรกครับ จากการตอบคำถามในการอภิปรายของผมเรื่อง ทหารบนรางรถไฟฟ้า หน้าวัดปทุมวนาราม ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 และยิงประชาชน!

แต่ ท่านรองนายกสุเทพ เทือกสุบรรณ พยายามบอกว่า วันที่ 19 พฤษภาคม ไม่มีทหารบนรางรถไฟฟ้า ทหารบนรางรถไฟฟ้ามาวันที่ 20 พฤษภาคม และบอกว่า วันหนึ่งหลักฐานก็จะปรากฏว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

ท่านประธานครับ แล้วท่านประธานฟังคลิปวีโอคำพูดของท่านรองนายกสุเทพก่อนนะครับ (แทรกคลิป คลิปที่ 1)

วันนี้ผมไปค้นพบสำนวนบันทึกคำให้การของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่สอบสวน

จ.ส.อ สมยศ ร่มจำปา หัวหน้าชุดปฏิบัติการ หน่วยรบพิเศษ ม.พัน 32 ลพบุรีครับ ซึ่งยืนยันได้ว่าเขาได้รับคำสั่ง จาก พ.ต นิมิตร วีระพงษ์ให้ เข้ามาปฏิบัติ งานบนรางรถไฟฟ้า บริเวณหน้าวัดปทุมตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่19 ซึ่งจากเอกสารชิ้นนี้ ยืนยันได้ว่าจากการที่ผมอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านในครั้งนั้น

ท่านได้โกหกในสภาผู้แทนราษฏรว่าไม่มีทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้า ท่านได้บิดเบือนข้อมูล ของการกระทำ ของพวกท่านมาโดยตลอด หรือท่านจะมาแก้ตัวว่าที่ทหารทำไปทุกอย่างนั้น พวกท่านไม่รู้กันเลย

ท่านประธานครับ

ใน ส่วนที่ผมจะอภิปราย และจะยืนยันในประเด็นนี้ ก็เพื่อที่ผมจะสรุปให้ท่านประธาน และพี่น้องประชาชนที่ฟังอยู่ทุกท่าน ทราบว่าทหารภายใต้การบัญชาการของ ศอฉ. ซึ่งมี ฯพณฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานนั้น ได้ เข้าควบคุมพื้นที่ แบบเบ็ดเสร็จตั้งแต่เมื่อไหร่ และผู้ก่อการร้ายในความหมายของท่านนั้น มันมีตัวตนจริงหรือไม่ หรือ?

ทำไมจึงเป็นผู้ก่อการร้ายล่องหน ซึ่งจนป่านนี้ยังจับใครไม่ได้เลยสักคนเดียว ไม่มีอาวุธ ไม่มีการใช้สไนเปอร์ยิงผู้ก่อการร้ายล่องหนตาย ได้เลยสักคน และ นอกจากนั้น ยังไม่มีร่องรอย ของการต่อสู้ เกิดขึ้นในการสำรวจภายในของเซลทรัลเวิล์ดหลังวันเกิดเหตุการณ์เลย แม้แต่น้อย

ผมต้องกล่าวหาว่า การที่ฯพณฯ รองนายกสุเทพ สามารถเร่งดับเพลิงให้สงบได้แต่ท่านไม่ทำ การนิ่งเฉย ปล่อยให้มีการเผาไหม้เกิดขึ้น ลุกลาม จนกระทั่งตึกเวิล์ดเทรดถล่ม เมื่อเวลา 21.19 น. และปล่อยให้พนักงานดับเพลิงเข้ามาดับเพลิงได้ ก็เมื่อตอน 4 ทุ่ม มันก็เท่ากับท่าน ทำผิดกฏหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 81 วงเล็บ 2 ต้อง“คุ้ม ครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลให้พ้นจากการล่วงละเมิด ทั้งโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐและโดยบุคคลอื่น และต้องอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ”

ก่อน อื่น ผมต้องขอย้ำเตือนความจำของท่านประธานและพี่น้องประชาชนทั้งประเทศก่อนนะครับ ว่า เหตุการณ์ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 นั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง

1. ใน ช่วงเช้าเวลาประมาณ 05.00 น. ทหารเข้ากระชับพื้นที่ตั้งแต่บริเวณสวนลุม เข้ามาจนถึงแยกสารสิน ท่านประธานจะเห็นภาพรถหุ้มเกราะ เห็นภาพของทหารติดอาวุธครบมือ เต็มอัตราศึก ภาพของทหารยิงกดดันกลุ่มผู้ชุมนุมทุกคนที่อยู่ในรัศมีการยิงจนโงหัวไม่ขึ้น จนกระทั่งมีการยิงกลุ่มผู้ชุมนุมถึงแก่ชีวิตในขณะนั้น จำนวน 2 คนคือ

* 1.นายถวิล คำมูล ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อเวลา 11.30 น.
* 2.นายธนโชติ ชุ่มเย็น ถูกยิงเสียชีวิต 11.30 น.

1. นปช. ประกาศยุติการชุมนุม เวลา 13.40 น. และได้เข้ามอบตัวให้อยู่ในการควบคุมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลาต่อมา นั่นหมายถึงในขณะนั้น ทหารเริ่มเข้าคุมพื้นที่แล้วครับ
2. กลุ่มประชาชนได้ถูกกดดันให้เคลื่อนย้ายไปสู่วัดปทุมวนาราม ตั้งแต่เวลา 14.00 น.
3. ทหารเข้าควบคุมพื้นที่ราชประสงค์ไว้ได้ทั้งหมด โดยที่ท่านประธานจะเห็นภาพทหารที่ยืนคุมสถานการณ์ต่างๆไว้ ดังภาพที่ปรากฏดังต่อไปนี้

1. ภาพ ที่ 1 เป็นภาพเมื่อเวลา 14.40 น. จะเห็นได้ว่า ทหารจำนวนมาก ได้เข้าถึงเวทีได้ตั้งแต่เวลา 14.40 น.แล้ว ซึ่งเวทีจุดนี้อยู่ถนนราชประสงค์ข้างเซลทรัลเวิล์ด นับระยะสายตาประมาณ 50 เมตร ซี่งนับว่าใกล้มาก ซึ่งอยู่ตรงนี้ (ชี้ภาพประกอบ)
2. ภาพที่ 2 ทหารยืนคุมกำลังอยู่หน้าเวทีเมื่อเวลา 17.01 น. ซึ่งภาพนี้เป็นภาพโดยผู้เห็นเหตุการณ์ชาวต่างชาติ ซึ่งอยู่ตรงนี้ (ชี้ภาพประกอบ) จากภาพจะเห็นได้ว่า ทหารได้ยืนคุมกำลังกันอยู่อย่างสบายๆ ถึงขั้นถอดเสื้ออยู่ เพราะคิดว่าในบริเวณนั้นสามารถคุมกำลังกันได้เบ็ดเสร็จจนไม่มีใครที่คิดว่า เป็นผู้ก่อการร้ายของท่านอยู่ในบริเวณนั้นแล้ว
3. ภาพที่ 3 ทหารยืนคุมกำลังรายล้อมห้างเซลทรัลเวิล์ดในเวลา 17.04 .01 น. ภาพ นี้ ก็ถ่ายภาพจากผู้เห็นเหตุการณ์ชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน
4. ภาพที่ 4 เดินมาอีกนิดหนึ่งเวลา 17.04.35 น. ก็มีภาพของทหารจำนวนมากยืนคุมสถานการณ์รายล้อมเซลทรัลเวิล์ดไว้อย่างแน่นหนา
5. ส่วนด้านหลังเซลทรัลเวิล์ดก็มีทหารยืนรายล้อมอยู่ ในส่วนที่จับภาพได้คือตั้งแต่เวลา 17.00 น. เช่นกัน
6. ถัดมา ก็มีทหารยืนรายล้อมเรียงรายเต็มไปหมดก็เป็นเวลา 17.00 น. เช่นเดียวกัน

ส่วน บนรางรถไฟฟ้าด้านหน้านั้นก็มีรายงานผลการสอบสวนของ DSI รายงานการสืบสวนคดีพิเศษ”บันทึกคำให้การ” จากการสอบปากคำของ พต.นิมิตร วีระพงษ์ รางรถไฟฟ้านั้นได้ถูกทหารเข้าควบคุมไว้หมดแล้วตั้งแต่ ช่วงเช้าและไม่มีใครสามารถขึ้นมาได้
ท่านประธานดูภาพนี้นะ ครับในช่วงเช้าเวลา 07.00 น. นั้นทหารซึ่งขึ้นควบคุมรางรถไฟฟ้าได้ใช้รถราง แบบใช้บนรางรถไฟฟ้า ขึ้นปฏิบัติงานวิ่งยาวและควบคุมไปตลอดจนถึงหน้าวัดปทุมวนาราม ท่านประธานจะเห็นภาพโดยตลอดนะครับว่าทุกภาพยืนยันได้ว่าทหารควบคุมพื้นที่ ได้ตลอดเส้นทาง ทั้งบนรางรถไฟฟ้า และด้านล่างซึ่งจากปากคำของ จ.ส.อ.สมยศ ร่มจำปาก็ได้ยืนยันว่าเขาได้เป็นผู้ปฏิบัติงานคุ้มครอง โดยมี ร.31 พัน 2 รอ.รับผิดชอบบนถนนพระรามที่ 1

ท่านประธานครับจากหลักฐานทั้ง หมด ท่านประธานคงจะเห็นแล้วว่าตั้งแต่เวลา 14.40 น. จนกระทั่ง ถึงเวลา 22.00 นาฬิกา ไม่มีบุคคลอื่นนอกจากทหารควบคุมบริเวณของสี่แยกราชประสงค์ไว้ได้เลย โดยเฉพาะเวลา17.00น.นั้น ไม่มีบุคคลอื่นที่เป็นอันตรายต่อทหารอยู่อย่างแน่นอน

ประกอบ กับหนังสือสอบถามของ DSI ต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ ยธ.0800/3108 และ หนังสือตอบของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ตช.0015.135 / 17936ลงวันที่ 8 ตุลาคม 2554 ลงนามโดย พลตำรวจตรี วรศักดิ์ นพสิทธิพร จะเห็นว่าตั้งแต่วันที่ 17 – 19 พฤษภาคม 2553 จะไม่มีตำรวจปฏิบัติงานอยู่ในบริเวณของสี่แยกราชประสงค์เลย

ท่านประธานครับ นอกจากนั้น นอกจากวงล้อมด้านใน ดังที่กล่าวมาแล้ว ทหารยังมีวงล้อมด้านนอกซึ่งตรึงกำลังไม่ให้มี บุคคลเข้า – ออก ในบริเวณนั้นได้อีก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า ใครจะเข้าก็ไม่ได้ และใคร จะออกมาก็ไม่ได้ เช่นกัน เพราะฉะนั้นการคุ้มกันคนเข้า - ออกบริเวณสี่แยกราชประสงค์และบริเวณ เซลทรัลเวิล์ดจึงแน่นหนามาก

ดัง นั้น ท่านประธานครับ ผมจึงขอสรุป ตรงนี้เอาไว้ก่อนว่าตั้งแต่เวลา 14.40 น.จนถึง17.00น. นั้น ทหารได้เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ รอบๆเซนทรัลเวิล์ดไว้ได้แล้ว อย่างเบ็ดเสร็จ แล้วประเด็นนี้ ก็จะนำไปสู่คำถามต่อไปว่าใครเผาเซลทรัลเวิล์ดและมันเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ได้ อย่างไร

แล้วถาม ว่า ในขณะนั้นมีการจลาจล คนเป็นหมื่นเป็นแสน กรูกันไปเผาเซลทรัลเวิล์ดจริงไม๊ ?

ท่านประธานครับ จากภาพทั้งหมดมีคนไม่ถึง 30 คนเหลืออยู่ แล้วไหนละครับมีการยิงกันและการก่อการร้าย

แล้วประเด็นนี้ ก็จะนำไปสู่คำถามต่อไปว่าใคร เผาเซลทรัลเวิล์ดและมันเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ ได้อย่างไร

ใน ตอนนี้ ผมก็จะขอเข้าสู่ประเด็นที่ 2 ที่เกี่ยวกับคำตอบของท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ตอบผม ในสภาผู้แทนราษฎร ในตอนที่ผมอภิปรายว่า เพลิงไหม้ เซ็นทรัลเวิลด์นั้นเกิดอย่างไร และท่านนายกตอบผมว่า ในเวลา5โมงเย็นไม่มีทหารอยู่บริเวณแยกราชประสงค์ ซึ่งผมก็แสดงให้เห็นแล้วครับว่ามีทหารเข้าควบคุมพื้นที่ได้ตั้งแต่เวลา14.40 น.พร้อมรูปผู้หญิงคนสุดท้าย และในกรณีที่มีผู้เข้ามาเผาเซ็นทัลเวิลด์นั้น ท่านเลือกที่จะเชื่อ รปภ. ของเซ็นทรัลมากกว่าผู้แทนราษฏร

และวันนี้ครับ ในนามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ผมก็จะขอเป็นตัวแทนของเหล่าพนักงานดับเพลิง ลูกจ้างและรปภ.ของเซลทรัลเวิล์ดตัวจริงที่ท่านพูดถึง นำเอาข้อมูลของเซลทรัลเวิล์ดที่ถือว่า เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงมาอภิปรายให้ท่านนายกรัฐามนตรีฟัง ซึ่งเมื่อท่านรับฟังแล้วก็ช่วยตอบผมหน่อยนะครับ ว่า ท่านยืนยันใช่ไหมครับว่า ท่านขอเชื่อคำพูดของ รปภ. ของเซลทรัลเวิล์ด และต่อจากนี้ ก็จะเป็นคำอภิปรายของท่านและ เสียงคร่ำครวญจากหัวใจของพวกเค้าตัวจริงที่ส่งผ่านมาถึงท่าน ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นคนใสซื่อ สะอาด และบริสุทธิ์

และนี่เป็นคำคร่ำครวญจากหัวใจของเหล่า ยาม ผู้เฝ้าเซลทรัลเวิล์ดที่ถูกท่านทำลาย บ้าน ของพวกเค้าไป

ท่านประธานครับ จากคำตอบของท่านนายกรัฐมนตรี ในวันนั้น ทำให้เหล่าเจ้าของบ้าน ที่ได้รับฟัง ทุกคนรู้สึกบาดใจ ผมจึงได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจำนวนมาก จากเจ้าของบ้าน ที่อยู่ภายในเซลทรัลเวิล์ด จากผู้พบเห็นเหตุการณ์ตัวจริงที่อยู่ภายใน ถึง 417 คนเหล่านั้น ทุกคนบอกว่า พร้อม! จะพูดความจริง เพื่อให้ความจริง ปรากฏต่อแผ่นดิน! ดีกว่าปล่อยให้ มีคนพูดเท็จและทำให้ประชาชนทั้งแผ่นดิน เข้าใจผิด

ท่านประธานครับ เรื่องมันสนุกล่ะครับ

ท่านนายกรัฐมนตรีพร้อมที่จะรับฟังแล้วหรือยังครับ

1. ผมมีหลักฐานเป็นหนังสือมาจากเจ้าของบ้านที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น มีมากถึง 417 คน
2. ผมมีหลักฐานคำตอบจากเจ้าของตัวจริงคุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ที่ตอบคำถามในคณะกรรมาธิการ องค์กรอิสระในวุฒิสภา
3. ผม มีหลักฐานเป็นหนังสือที่สัมภาษณ์ พนักงานดับเพลิงทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เผา เซลทรัลเวิล์ด! แต่คนเผาเป็นคนที่มีอำนาจเหนือทหารและตำรวจ
4. ผมมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายบัญทึกเหตุการณ์อย่างเป็นทางการ ของบริษัทเซลทรัลเวิล์ด
5. ผมมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ที่เค้าบรรยายถึงความเจ็บปวดและเจ็บช้ำน้ำใจของเค้า ที่บ้านของเค้าถูกเผาทำลาย
6. ผม มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากผู้เห็นเหตุการณ์ชาวต่างประเทศ ที่อาศัย อยู่บนชั้น 23 ของคอนโด เพลสซิเด้นเพลส ซึ่งบันทึกภาพการระเบิดในเซลทรัลเวิล์ดหลังจากทหารเข้าคุมพื้นที่ทั้งหมด แล้ว ในเวลา 17.40 น.
7. ผมมีหลักฐานเป็นแผนผัง การควบคุมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกันและดับเพลิงทั้งหมด
8. ผมมีหลักฐานว่า ท่านรองนายกสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนสั่งการเกี่ยวกับการดับเพลิง หรือไม่ให้ดับเพลิง ของเซลทรัลเวิล์ดทั้งหมด
9. ผมมีหลักฐานว่า ทหาร ควบคุม พื้นที่เซลทรัลเวิล์ดไว้ได้ทั้งหมดแล้ว และมีหลักฐานการสอบสวนของ DSI ว่าทหารคุมพื้นที่อยู่ทั้งหมด
10. ผมมีหลักฐาน เป็นแบบสรุปรายงานเหตุเพลิงไหม้ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ระบุว่า “รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติงาน และจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิง”

ท่าน ประธานครับวันนี้ผมมีหลักฐานจำนวนมาก และเป็นหลักฐานทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคล ที่เป็นเจ้าของบ้าน รวมทั้งเป็นหลักฐานทางราชการ เมื่อผมถามจบ ผมจะถาม สำนึกของนักการเมืองของ ท่านนายกรัฐมนตรีบ้างแล้วแหละว่า ถ้าหลักฐานทั้งหมดยืนยันได้ว่า การเกิดเพลิงไหม้ในเซลทรัลเวิล์ด พัวพัน มัด ยึดโยง กับตัวท่าน ว่า ท่านปล่อยปละละเลย ไม่สั่งการปล่อยให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง จนเกิดความเสียหายกับ กรุงเทพมหานคร อย่างแยกไม่ออก ท่านปกปิดเหตการณ์แบบ คนผาเข้าเผาได้ แต่คนดับไฟเข้าดับไฟไม่ได้

แล้ว ในฐานะที่ท่านเป็นผู้รับผิดชอบ ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร

หลักฐานชิ้นที่ 1 ผมมีหลักฐานเป็นหนังสือ เสียงจากเจ้าของบ้าน ใครเผาเซ็นทรัลเวิล์ดมาจากเจ้าของบ้านที่เฝ้าอยู่ตรงนั้น มีมากถึง 417 คน

และ มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายบัญทึกเหตุการณ์อย่างเป็นทางการ ของบริษัทเซลทรัลเวิล์ด รวมถึงผมมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอ ที่เค้าบรรยายถึงความเจ็บปวดและเจ็บช้ำน้ำใจของเค้า ที่บ้านของเค้าถูกเผาทำลาย

เสียงจากเจ้าของบ้าน ใครเผาเซ็นทรัลเวิล์ด

หนังสือ ฉบับนี้ เขียนโดยเหล่าเจ้าของบ้าน ผู้รัก พิทักษ์ รักษาบ้าน เซลทรัลเวิล์ดของเค้า ด้วยความรัก ความหวงแหน ความห่วงใยผมขอนำเวลาท่านประธานและท่านผู้ชม กลับไปตั้งแต่เวลาบ่ายโมงของวันที่ 19 พฤษภาคม ท่านประธานครับในเซลทรัลเวิล์ดที่ทุกคนคิดว่า เหมือนไม่มีใครอยู่ เหมือนไม่มีใครป้องกัน เหมือนถูกทอดทิ้ง อย่างโดดเดี่ยว !

แต่ท่านประธานครับ ข้างในของเซลทรัลเวิล์ดนั้นมี พี่น้องที่มีจิตวิญญาณ ในการรักษา หวงแหน สถานที่ทำงาน อู่ข้าวอู่น้ำ และเปรียบเสมือนเป็นบ้านของพวกเค้าเอง ด้วยชีวิต พวกเขาเดินทางมาให้ข้อมูลพร้อมภาพถ่ายประกอบภายในถึงการเตรียมความพร้อม ของพวกเค้า ในการรักษาพิทักษ์ ปกป้อง เซลทรัลเวิล์ด บ้านของพวกเค้า

ในเซ็นทรัลเวิล์ดนั้นมีพนักงานรักษาความปลอดภัยอยู่ ประมาณ 200 นาย มีพนักงานดับเพลิงที่อยู่ประจำการตลอด 24 ชม. อยู่มากกว่า 50 นาย และยังมี พนักงานที่อาสาสมัคร รักษา พิทักษ์ปกป้องเซลทรัลเวิล์ด อยู่รวมถึง 417 คน

ท่าน ประธานครับ พวกเขาอยู่อาศัยในเซลทรัลเวิล์ดมาตั้งแต่ เมื่อ วันที่ 12 มีนาคม 2553 เมื่อเริ่มมีการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ท่านประธานดูภาพครับ ชุดภาพชุดนี้เป็นภาพภายในเกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยและการเตรียมความพร้อม ของเซลทรัลเวิล์ด ซึ่งเป็นชุดเอกสารภายในของเซลทรัลเวิล์ดเอง ซึ่งท่านประธานจะสามารถสังเกตุได้จาก แบ็คกราวด์ ด้าน ล่าง

ท่าน ประธานครับ ตลอดระยะเวลา 67 วัน ที่พวกเค้าอยู่ในเซลทรัลเวิล์ด เขาได้อยู่อาศัยและเอื้ออาทรกับผู้ร่วมชุมนุม กันเป็นอย่างดี เขาบอกผมเองว่า เขาอยู่กับเวทีของ นปช. และกลุ่มคนที่มาร่วมชุมนุม อยู่ในบริเวณนั้น พวกเค้าแทบจะเรียกได้ว่า รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะระยะเวลา..วันนั้น เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอที่พวกเค้าเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกัน

ท่านประธานครับ ในวันที่ 19 พฤษภาคมนั้น พวกเค้าได้ติดตามการชุมนุมและการสลายการชุมนุมของทหารอยู่ในตึกสูง ตลอดเวลา
ท่านประธานครับ ในวันที่ 19 นั้นเค้านำภาพถ่าย จาก cctv เวลา 14.00 น. เข้ามาให้ดูครับ ว่ามีกลุ่มคนที่พยายามจะบุกเข้ามาในเซลทรัลเวิล์ดซึ่งเป็นคนที่เค้า ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ซึ่งดูแล้ว มีการเตรียมการมาอย่างเป็นระบบ คนทุบกระจกก็เข้ามาทุบ คนเตรียมกล่องโฟมก็ยกกล่องโฟมมาเป็นแผง ไม่ใช่กล่องโฟมเก่านะครับเป็นกล่องโฟมใหม่ทั้งตั้งเลย! รักษากันไว้อย่างดีมาก พวกเค้า

ทุบกระจก เข้ามาในเซลทรัลเวิล์ดและพยายามเผา (แทรกภาพ มีกลุ่มคนพยายามเข้ามาเผารอบแรก)

ท่าน ประธานครับ จากจำนวนผู้ที่เข้ามาบุกรุก จากภาพ cctv บอกได้ครับ ว่าคนที่เข้ามาพยายามเผาในครั้งแรกนั้น มีประมาณไม่ถึง 20 คนเท่านั้นเอง หมูมากครับ สำหรับการขับไล่ผู้บุกรุกออกไป ด้วยจำนวนคนที่อยู่ภายใน ถึง 417 คน

ท่านประธาน จะเห็นภาพ การขับไล่ผู้บุกรุกออกไป ของ เจ้าหน้าที่ป้องกันของเซ็นทรัลเวิล์ด

ท่าน ประธานครับในช่วงเวลาที่พวกเขาเหล่าเจ้าของบ้าน ยังอยู่ภายในเซลทรัลเวิล์ดและระบบสปิงเกอร์ ซึ่งมีหัวดับเพลิงอยู่ทุกๆ 3 ตารางเมตร ยังทำงานอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็ตามถ้าจะเข้ามาเผาพวกเขารับรองว่าจะทำไม่สำเร็จแน่นอน

ดังนั้นประเด็นที่ว่าการเกิดการเผา ไม่ว่าจะเป็นเหลือง เป็นแดง เป็นทหาร เป็นตำรวจ หรือเป็นจะเป็นใครเข้ามาเผาในช่วงบ่ายนั้น ก็ไม่มีความสำคัญเท่าไหร่แล้วครับ เพราะมันเผาไม่ได้ อย่างแน่นอน เพราะด้วยระบบการทำงานจากการป้องกันตัวเองขอบระบบสปิงเกอร์ จะเห็นได้ว่า เมื่อเวลา 14.30 น.ระบบสปิงเกอร์ ได้ทำงานดับเพลิงจนสงบลงทั้งหมด

เรื่อง นี้พ.ต.ท.ชุมพล บุญประยูร ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ที่ปรึกษาด้านการป้องกันอัคคีภัยในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปได้พูดถึงเรื่องนี้เอา ไว้ในหนังสือคนช่วยคนว่า

“เอาเฉพาะแค่ระบบป้องกันอัคคีภัยในห้างก็เกิน พอแล้ว ไม่ต้องพูดถึงบุคลากรเผา อย่างไรก็ไม่ไหม้ เพราะ ทุกๆ 3 ตารางเมตร จะมีสปิงเกิ้ลตัวหนึ่ง เรียกว่า ในทุกเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร จะมีสปิงเกิ้ลคลุมหมด ใหนจะสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ไหนจะกล้อง cctv ที่มองเห็นทุกจุดที่เกิดเหตุ แล้วยังมีห้องควบคุมสั่งการถึง 3 จุด จะเห็นได้เลยว่า ไม่มีทางไหม้ลุกลามได้เลย แต่นี่มันตั้งใจเผา แล้วไล่คนที่ดับเพลิงออกมา เผาอย่างนี้ 2-3 ชม . ก็ไหม้หมดแล้ว ถ้าไม่มีคนดับ ”

และท่านยังบอกอีกว่า “ผมทำไมถึงรู้สึกโกรธ เจ็บแค้น ปวดร้าว ทั้งๆที่ไม่ใช่สมบัติอะไรของผมเลย หรือของพ่อแม่ผมเลย ก็เราเป็นนักดับเพลิง มันเป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องช่วยชีวิต ช่วยพิทักษ์ทรัพย์สิน และต้องช่วยเหลือตามมนุษยธรรม แต่เรา กลับทำอะไรไม่ได้เลย มันเป็นโศกนาถกรรมที่ไม่น่าเกิดขึ้น”นั่น เค้าเป็นพนักงานดับเพลิงเค้ายังมีจิตวิญญานที่อยากดับเพลิงเลย ทำไมท่านซึ่งเป็นผู้บริหารประเทศถึงใจดำ ปล่อยให้เกิดเพลิงใหม้เผาผลาญเมืองไปทั้งกรุงเทพฯ

และ เดี๋ยวผมจะบอกท่านประธานต่อไปอีกนะครับ ว่าแล้วเซลทรัลเวิล์ด มันเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร

ท่าน ประธานครับ ในเวลา 14.40 น. ห่างจากครั้งแรก40นาที คราวนี้มีกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เข้ามาในเซลทรัลเวิล์ดครับ คราวนี้นำมาด้วยระเบิด เข้ามาที่จุดเดิมแหละครับ ภาพนี้เซลทรัลเวิล์ดบรรยายภาพเลยครับว่า เป็นชายแต่งกายคล้ายทหาร
ชาย คนนี้แต่งกายรองเท้าบูท แบบทหารเลย และมีผ้าพันคอคล้ายๆกับทหารที่อยู่ด้านนอก ผูกมาด้วย เค้าคงไม่นึกว่า มีภาพ cctv จับอยู่ คราวนี้ปาระเบิดใส่พนักงานก่อนเลย

ท่านประธาน คงจะสังเกตุเห็นหลุมระเบิดนี้น่ะครับ หลุมแบบนี้ไม่ใช่ระเบิดปิงปอง แต่เป็นระเบิดที่มีอานุภาพทำลายล้างที่รุนแรง แบบที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารเค้าใช้อยู่ หรือถ้าจะดูจากลักษณะการระเบิดแล้วก็น่าจะเป็นระเบิด m67 หรือระเบิดน้อยหน่า

ท่านประธานครับ คราวนี้พนักงานของเซลทรัลเวิล์ดบาดเจ็บกันเยอะแยะไปหมด โหดร้ายไหมครับท่านประธาน แค่เคลียร์พื้นที่ก็ไม่ได้คำนึงถึงชีวิตประชาชนเลย เค้าบาดเจ็บอาการหนักกันหลายคน อย่างนายประหยัด ที่นอนอยู่ตรงนี้โดนเข้ากลางหลัง สาหัสเลยครับ พวกเค้าพยายามแจ้งไปยังทหารตำรวจทุกฝ่าย แต่ไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือเค้าเลย จนกระทั่งมีตำรวจจากทางวังสระปทุม เข้ามาเมื่อเวลา 15.35 น. จับผู้บุกรุกได้ 9 คน และได้ถูกดำเนินคดีไปแล้วทั้งหมด

ท่านประธานครับ แปลกไม๊ครับ ตำรวจจากวังสระปทุมจำนวน40คนเข้ามาได้แต่ทหารไม่ยอมเข้ามาช่วยแม้แต่คนเดียว นี่ถ้าทหารเข้ามาข่วยนะครับ เซนทรัลเวิลด์ไม่ถูกเผาแน่นอน

ท่าน ประธานครับ การบุกรุกของผู้บุกรุกชุดที่ 2 เมื่อเวลา 14.40 น. นั้นเค้าบุกรุกเพื่อที่จะไล่พนักงานของเซลทรัลเวิล์ดออกไป เท่านั้นเองครับมันตลกมากครับ พนักงาน 417 คนรวมกับตำรวจของวังสระปทุม40คน ที่มีอาวุธครบมือ ถูกสั่งให้ออกจากพื้นที่ เมื่อเวลา 16.30 น.ด้วยการอ้างว่า กลัวผู้บุกรุกจำนวนไม่ถึง 20 คน ตามภาพที่จับได้จากกล้องวงจรปิด เข้ามาในเซลทรัล

แล้วมันก็เป็นแบบนี้แหละครับท่านประธาน พนักงานทั้ง 417 คน ถูกให้ออกจากเซลทรัลเวิล์ด ด้วยความงงงวย ว่าทำไมทหารถึงไม่ช่วยพวกเค้าในการต่อสู้กับผู้บุกรุก ที่มีจำนวนเพียง ไม่ถึง 20 คน ทั้งที่ทหารก็ได้รายล้อมเซลทรัลเวิล์ดไว้หมดแล้วตามภาพที่ผมแสดงให้เห็น เบื้องต้น แล้วเมื่อบอกให้พวกเค้าออกไป เค้าส่งต่อภาระกิจการดูแลให้แล้วทำไมทหารไม่เข้ามา ทำไมปล่อยให้เกิดเพลิงไหม้

ท่านประธานครับ พนักงานของเซลทรัลทุกคนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง และพวกเค้าบอกเลยว่า ลำพังแค่ไฟไหม้แค่นี้ ไม่คนามือพวกเค้าแน่นอน แต่เค้าไม่เข้าใจว่า รัฐบาลและทหารทำอะไร ปล่อยให้ไฟใหม้กรุงเทพทั้งเมือง น่าอายไม๊ครับท่านประธานครับ นอกจากพวกเค้าจะงง งวย ด้วยความไม่เข้าใจว่า ทำไมพวกเค้าถูกต้องให้ออกไปจากเซลทรัลเวิล์ด ทั้งๆที่พวกเค้าคิดว่า ถ้าเพียงแต่ทหารให้ความร่วมมือ เซ็นทรัลทรัลเวิล์ดแค่ 20 คนเท่านั้น

เซ็นทรัลเวิล์ดก็จะถูกรักษาเอาไว้ได้ และนอก จากนั้น พี่น้องประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก ก็ยังมีคำถามว่า ทำไมทหารที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า ต้องยิงประชาชน ที่วัดปทุมวนารามเสียชีวิต 6 ศพ และอีก 1 ศพที่หน้าวัดปทุมวนาราม

ท่านประธาน ครับ นอกจาก 9 คน ที่ถูกจับได้แล้วนั้น ผมได้รับคำบอกเล่าจากพนักงานดับเพลิงของเซ็นทรัลเวิลด์ และมอบภาพของผู้บุกรุกซึ่งมีไม่ถึง 20 คน ให้มาด้วย ซึ่งบุคคลดังกล่าวนี้ดูลักษณะแล้วเป็นกลุ่มเดียวกับที่เข้ามาขว้างระเบิด น้อยหน่าที่บริเวณหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ แทรกภาพ ชายฉกรรจ์ ในที่จอดรถ

ท่าน ประธานครับ คนกลุ่มนี้มีไม่มาก แต่ไม่มีทหารตำรวจคนใด กล้าแตะต้อง และแต่งกายรัดกุม คล้ายคนในเครื่องแบบ ประการสำคัญ พนักงานของเซ็นทรัลเวิลด์ที่คุ้นเคยกับกลุ่มคนเสื้อแดงไม่เคยพบบุคคลเหล่า นี้อยู่ในกลุ่มของคนเสื้อแดงมาก่อนเลย
ท่านประธานครับ ผมอยากให้ท่านประธานได้ดูภาพประวัติศาสตร์ ภาพที่มีการเผาเซลทรัลเวิล์ด ภาพที่ทำให้เซลทรัลเวิล์ดเกิดเพลิงไหม้จริงๆ

ท่าน ประธานครับ เซ็นทรัลเวิล์ดไม่ได้ไหม้ จากกลุ่มบุคคล ที่บุกรุกเข้าไปในเซลทรัลเวิล์ด ในตอนแรก ไม่ได้ไหม้จากบุคคลที่ท่านประธานเห็นในภาพสื่อต่างๆ ที่รัฐบาลนำมาเสนอแต่ท่านประธานครับ เซลทรัลเวิล์ดถูกเพลิงไหม้จากภาพดังกล่าวต่อไปนี้ครับ รัฐบาลนึกว่ารัฐบาลเก็บภาพ cctv ที่อยู่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน้าเกสรพลาซ่า และภาพ cctv ที่อยู่บริเวณรอบๆเวทีผู้ชุมนุมออกไปได้หมดแล้ว และรัฐบาลไม่เคยคิดว่า จะมีชาวต่างประเทศถ่ายภาพนี้เอาไว้ได้

ท่านประธานครับ ภาพนี้ เป็นภาพที่เรียกว่า ระเบิดเซลทรัลเวิล์ด ไม่ใช่ภาพการเผาบ้านเผาเมืองหรอกครับแต่มันเป็นภาพ ระเบิดบ้าน ระเบิดเมือง จุดที่ระเบิดนี้ อยู่ห่างจากทหารที่หน้าเวที ประมาณ 30 เมตร อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารอย่างใกล้ชิด รายล้อมอย่างแน่นหนา และจุดที่ระเบิดครับ อยู่ตรงนี้ และท่านประธานครับ ผมอยากจะบอกว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มันเป็นเรื่องของการ บล๊อคพื้นที่เผา หรือปล่อยให้ไฟไหม้ เพราะในช่วงเวลานั้น ได้มีการระดมยิงอย่างหนักหน่วงตั้งแต่ เวลา 16.0 0 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 7 ศพ ได้แก่

1.นายรพ สุขสถิต ถูกยิงเสียชีวิตที่หน้าประตูวัดปทุม เวลา 16.00 น.
2. นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อาสาพยาบาล ถูกยิงตัดขั้วหัวใจ เสียชีวิต เวลา 16.00 น.
3. นายอัครเดช ขันแก้ว ถูกยิงเวลา 16.30 น.
4. นายสุวัน ศรีรักษา ถูกยิงเวลา 17.00 น
5.นางสาวกมลเกษ อรรถฮาด หรือน้องเกตุ ถูกยิงเวลา 18.30 น. โดยประมาณ
6.นายมงคล เข็มทอง ถูกยิงในเวลา 19.00 น.
7.นายวิชัย มั่นแพร ถูกยิงเวลา 19.00 น.

ท่าน ประธานครับ เรื่องทั้งหมดนี้ มันเป็นเรื่องของการ บล๊อคพื้นที่เพื่อเผาหรือปล่อยให้ไฟไหม้ และท่ามกลางการยิงกดดันของทหาร เพื่อไล่คนออกจากบริเวณของเซลทรัลเวิล์ดหรือ จุดที่ถูกระเบิด ก็ทำให้มีคนตายอีก 7 คน และถ้าไม่มี ระเบิดบ้านระเบิดเมือง ลูกนี้ เซลทรัลเวิล์ดก็จะไม่เกิดเพลิงไหม้อย่างแน่นอน

ท่านประธานครับ บุคคลเหล่านี้มีเทวดาจัดให้ครับ จัดหนักด้วย

ท่าน ประธานครับ การเผาในขั้นตอนนี้ มันอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารอย่างเข้มงวดแล้วครับ ท่านนายกอาจจะบอกว่าท่านไม่ได้เผา แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าท่านไปเผาด้วยตัวเองนี่ครับ ผมจะบอกว่าการเผาครั้งนี้มีเทวดาจัดให้ครับแล้วถ้าบอกว่าการเกิดเพลิงใหม้ ครั้งนี้คนเสื้อแดงเผา เองคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย มันก็คงจะหนักไปหน่อย

ท่านประธานครับ ผมบอกไม่ได้ว่าเป็นคนเสื้อแดงหรือเปล่า

แต่ผมพอจะบอกได้ครับ ว่าไม่ใช่คนเสื้อแดง

โดยปรกติคนเสื้อแดง เค้าไม่ใส่สายรัดข้อมือครับ มันเป็นการแสดงออกของพฤติกรรมกลุ่ม ที่ทำคล้ายๆกัน

ท่าน ประธานลองฟังคำพูดในนิตยสารคนค้นคน ร.ต.อ.ชาญณรงค์ พึงรัตนะมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการเขตุใต้และธน สมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยแห่งประเทศไทย เจ้าของรหัส อส.50หัวหน้าทีมดับเพลิงที่ห้างเซ็นทรัลเวิร์ล พูดถึงกรณีที่มีคนกีดกันไม่ให้เข้าไปดับเพลิงได้ดังนี้

“ผม อึดอัดมากที่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงได้ตั้งแต่แรก แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ก่อน จะเข้าไปช่วยเขา เราก็ต้องปลอดภัยนะครับ ถ้าเขามียิงอยู่ เขาเผาอยู่ เราเข้าไปดับเค้าก็ไม่พอใจ เพราะมันไม่ใช่อุบัติเหตุ มันจงใจเผา มีการกีดกันไม่ให้เข้าไปดับ มีการปิดล้อมรถ ยึดรถ มีทุกอย่าง ทำให้การทำงานยากขึ้นมาก คนดับเพลิงก็เสียใจกันทั้งนั้นแหละครับ ที่มีคนเข้าไปเผา แล้วเรา ไม่สามารถเข้าไปดับได้ ”*
พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ เล่าว่า
“เหตุการณ์ ตอนนั้นมันมั่วมากๆ รถดับเพลิงก็เข้าไปดับไฟไม่ได้ เพราะว่าพนักงานดับเพลิงที่เข้าไปบริเวณนั้น โดนกลุ่มผู้บุกรุกเอาปืนจ่อหัวไม่ให้เข้าไป จึงตัดสินใจเข้าไปที่พื้นที่ แต่ทหารบอกว่ายังเข้าเครียพื้นที่ไม่ได้ แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นไฟไหม้ต่อหน้าเช่นกัน ที่สุดแล้วก็ต่อโทรศัพท์นานมาก จนได้คุยกับท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านถามว่า ต้องการอะไร ก็บอกว่า รถดับเพลิงและกำลังทหาร หลังจากนั้น รถดับเพลิงก็มา


ท่านประธานครับ ไม่ว่า ท่านนายกจะตอบว่าอย่างไร

ฯพณฯ รองนายกสุเทพ ผู้อำนวยการศอฉ.จะตอบว่าอย่างไร

* ท่าน จะบอกว่าท่านจะสั่งหรือไม่สั่ง ท่านจะบอกว่าท่านจะรู้หรือไม่รู้ การเกิดเพลิงไหม้ภายใต้การควบคุมพื้นที่ของทหารอย่างใกล้ชิดแล้วนั้นท่าน ต้องรับผิดชอบ

* ท่านจะสั่งให้มีการยิงประชาชนที่วัดปทุมตาย หรือไม่ แต่การที่ทหารเกณท์ ที่มาปฏิบัติงาน แล้วยิงประชาชนตาย ท่านต้องรับผิดชอบ

* ท่าน ปล่อยปละละเลย ปล่อยให้มีการเกิดเพลิงไหม้ และเซลทรัลเวิล์ดวอดวาย ทั้งที่สามารถสั่งรถดับเพลิงให้ปฏิบัติงานได้ทัน ท่านต้องรับผิดชอบ

* หรือท่านจะบอกว่าเป็นผู้ก่อการร้ายชุดดำเหมือนท่านถวิล เปลี่ยนสี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงพูดอีก

ท่านรู้มั้ยครับ เรื่องนี้ พ.ต.ท.ชุม พล บุญประยูร ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เลขาธิการสมาคมอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัย ที่ปรึกษาด้านการป้องกันอัคคีภัยในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ปได้พูดไว้ในนิตยสาร คนช่วยคนอีก ไว้ว่า

“วัน นั้นมีคนอยู่ในเหตุการณ์กว่า 300 คน ที่สามารถชี้ได้ว่า เป็นฝีมือใคร ใครทำ หรือไม่ทำ โตๆ อาจจะพูดไม่ออก แต่เล็กๆนั้นพูดทั้งนั้น เพราะพวกเค้าบาดเจ็บมา โดนไล่ยิงมา ต้องคลาน ต้องหมอบกันมาตลอดทาง เป็นกิโล กว่าจะออกมาจากสถานการณ์เลวร้ายตรงนั้นได้ ”


“ตลอด เวลาสองเดือนเต็มๆ เราได้ประสานไมตรีกับผู้ชุมนุมมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพวกการ์ดแทบรู้จักกันทุกคน แต่ในวันเกิดเหตุ เราไม่เห็นหน้าคนเหล่านั้นเลย มีแต่พวกที่เรียกตัวเองว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่าย กลุ่มนี้แหละที่เค้าบอกว่า เป็นผู้ก่อการร้าย เป็นผุ้ก่อการร้ายที่แม้แต่ตำรวจ และทหาร ก็ไม่กล้าแตะ ถ้าแตะมันก็ต้องมี ศพ! กันบ้างแหละ แต่นี่ไม่ คนกลุ่มนี้ เข้า- ออก ในทีเกิดเหตุโดยไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเค้า ”

“ผม อยากจะถามทุกฝ่ายที่มีหน้าที่รับผิดชอบเหตุการในวันนั้นว่า ทำไม ? ถึงปล่อยให้มีการเผา ทำไม? ทางราชการถึงไม่เข้าไปดับเพลิงตั้งแต่แรก วันนั้นนะ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของทางราชการ มาทีหลังแล้วมาตอนจะเช้าอยู่แล้ว ”

หลักฐานชิ้นที่ 2 .ผมมีหลักฐานเป็นภาพถ่ายจากผู้เห็นเหตุการณ์ชาวต่างประเทศ ที่อาศัย อยู่บนชั้น 23 ของคอนโด เพลสซิเด้นเพลส ซึ่งบันทึกภาพการระเบิดในเซลทรัลเวิล์ดหลังจากทหารเข้าคุมพื้นที่ทั้งหมด แล้ว ในเวลา 17.42 น.

หลักฐานชิ้นที่ 3 ผมมีหลักฐานเป็น “แผนปฏิบัติการระงับเหตุความไม่สงบ เรียบร้อยในสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณแยกราชประสงค์ จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร “ การควบคุมการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องกันและดับเพลิงทั้งหมด

หลักฐานชิ้นที่ 4 ผมมีหลักฐาน เป็นแบบสรุปรายงานเหตุเพลิงไหม้ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ระบุว่า “รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหารว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมขัดขวางการปฏิบัติงาน และจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ดับเพลิง”

ท่าน ประธานครับ ผมไม่อยากบอกเลย ว่า การเกิดเพลิงไหม้เซลทรัลเวิล์ดครั้งนี้ อยู่ภายใต้การวางแผน อย่างใกล้ชิดและละเอียดรอบคอบรัดกุม ผมจะพาท่านประธานมาดูแผนผัง ของการวางกำลัง เพื่อปกป้องดูแลรักษา เซ็นทรัลเวิล์ด

การป้องกันภัยครั้งนี้ อยู่ในแผนปฏิบัติงานมีผู้รับผิดชอบชัดเจน แต่ประหลาดครับท่านประธาน ในแผนการวางกำลังของ ศอฉ.

จุดที่ 1.วางที่สยามพารากอน
จุดที่ 2. วางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จุดที่ 3. วางที่เกษรพลาซ่า

มีผู้ควบคุมดูแลรับผิดชอบชัดเจน ทั้ง 3 จุด ได้ถูกวางเป็นรูป สามเหลี่ยม ล้อมกรอบเซ็นทรัลเวิล์ดไว้ตรงกลาง

แต่ประหลาดตรงที่ไม่มีการวางกำลังที่เซ็นทรัลเวิล์ดเลย และจุดที่ได้วางกำลังก็ไม่ได้ถูกเพลิงไหม้เลย

และ ประหลาดที่ผู้บุกรุก ก็ไม่ได้เข้าไปบุกรุกบริเวณที่เข้าไปวางกองกำลังไว้ด้วยเลย ผู้บุกรุกชุดนี้เก่งมาก รู้ด้วยว่า ตรงไหนวางกองกำลังไว้ ตรงไหน ไม่วางกองกำลังไว้

แต่รัฐบาลแย่มาก ที่ จุด ที่น่าจะเสี่ยงที่สุด แต่กลับไม่มีการป้องกัน!

ตลกมาก แถมผู้บุกรุกไม่ถึง 20 คน จากภาพกล้องวงจรปิด ก็เข้ามาเผาเซลทรัลเวิล์ดได้อย่างสบาย ๆ

และออกจากวงล้อมของทหารที่รายล้อมอย่างใกล้ชิดแน่นหนา ได้อย่างสบายๆ

แหละไม่มีการจับกุมใครได้เลย แบบสบายๆ เค้าคงหายตัวได้มั้ง และ

ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมทหารถึงไม่ยิงป้องกันหรือทำร้ายผู้ที่เข้าไปเผา โดยเฉพาะจุด ที่วางระเบิดซึ่งใกล้กับทหารมาก

ท่านประธานครับ ท่านเชื่อไหมครับว่า อันที่จริงแล้วรอบๆ ของเซลทรัลเวิล์ด และจุดที่ถูกไฟไหม้มีรถดับเพลิงอยู่จำนวนมาก
จำนวนรถดับเพลิง ทั้งหมด มีอยู่ถึง 7. คัน และจากเอกสารของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กรุงเทพ ฯ(แทรก)

จุดที่1.เกษรพล่าซ่า มีรถดับเพลิง2คัน
จุดที่2.ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี2คัน
จุดที่3.หลังวัดปทุม มีรถดับเพลิง2คัน
จุดที่4.อัมรินทร์พลาซ่ามีอีก1คัน

ระบุ ไว้เลยว่า ทหารไม่ให้เข้า ด้วยอ้างว่า มีผู้ก่อการร้าย ซึ่ง ผมก็บอกแล้วว่าผู้ก่อการร้าย ชุดนี้ ประหลาดมากที่เข้าไปเผาเซลทรัลเวิล์ดได้อย่างสบายๆ และออกไปได้ อย่างสบายๆ และไม่มี ทหารคนไหนทำร้ายหรือยิงหรือเก็บ อาวุธปืนกระสุนอะไรได้เลย

ท่านประธานครับ แบบนี้แหละครับ ที่ผมเรียกว่า

บล๊อคพื้นที่ เพื่อระเบิดบ้าน ระเบิดเมือง
บล๊อคพื้นที่แล้วทำให้มีคนตาย ที่วัดปทุม 7 ศพ
บล๊อคพื้นที่ วางระเบิดแล้วกล่าวหาใส่ร้าย ว่า กลุ่ม นปช เป็นคนเผาบ้านเผาเมือง
บล๊อคพื้นที่ เพื่อทำลายหลักฐาน และกล่าวหาใส่ร้าย เพื่อกลบข้อกล่าวหาว่า มีการฆ่าสังหารประชาชนมาตั้งแต่ วันที่ 10 เมษายน 2553


ผม ได้เก็บหลักฐานทั้งหมดลำดับห้วงเวลา ทุกขั้นตอนเก็บข้อมูลทุกอย่างอย่างละเอียดละออ ทำให้วันนี้ผมเห็นภาพทั้งหมดของการปฏิบัติการ ของ ศอฉ ภายใต้การสั่งการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

หลักฐานชิ้นที่ 5 ผมมีหลักฐานคำตอบจากเจ้าของตัวจริงคุณสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ ที่ตอบคำถามในคณะกรรมาธิการ องค์กรอิสระในวุฒิสภา

หลักฐานชิ้นที่ 6 ผมมีหลักฐานว่า ท่านรองนายกสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นคนสั่งการเกี่ยวกับการดับเพลิง หรือไม่ให้ดับเพลิง ของเซลทรัลเวิล์ดทั้งหมด

* แทรกหน้าข่าว พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ เล่าว่า “เหตุการณ์ ตอนนั้นมันมั่วมากๆ รถดับเพลิงก็เข้าไปดับไฟไม่ได้ เพราะว่าพนักงานดับเพลิงที่เข้าไปบริเวณนั้น โดนกลุ่มผู้บุกรุกเอาปืนจ่อหัวไม่ให้เข้าไป จึงตัดสินใจเข้าไปที่พื้นที่ แต่ทหารบอกว่ายังเข้าเครียพื้นที่ไม่ได้ แต่ก็ทนไม่ได้ที่จะเห็นไฟไหม้ต่อหน้าเช่นกัน ที่สุดแล้วก็ต่อโทรศัพท์นานมาก จนได้คุยกับท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ ท่านถามว่า ต้องการอะไร ก็บอกว่า รถดับเพลิงและกำลังทหาร หลังจากนั้น รถดับเพลิงก็มา”

และหลังจากนั้นพนักงานดับเพลิงจึงเข้าพื้นที่ได้ เมื่อเวลา 4 ทุ่ม

จาก หลักฐานที่ผมได้อภิปรายในวันนี้ ท่านประธานและพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ คงจะเห็นแล้วว่าแม้กระทั่งในสายตาของพนักงานของเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ผมเรียกว่าเจ้าของบ้านนั้น และเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์ และใกล้ชิดกับผู้บุกรุกมากที่สุด หรือแม้กระทั่งคุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ผู้บริหารใหญ่ของกลุ่มเซ็นทรัล ให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจ
ถามว่าเรากลัวเสื้อแดงไหม เราไม่กลัว มีความเสี่ยงเดียวกับเสื้อแดงคือ หากรัฐบาลยังคุยไม่รู้เรื่อง เค้าก็ถือโอกาศหาแพะรับบาป เราไม่ได้เกี่ยวกับเสื้อแดงเลย เรากับเสื้อแดงก็รักกันดี เรากับเสื้อเหลืองก็รักกันดี เราไม่มีสีเสื้อ


และนอกจากนั้นใน จิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ประธานคณะกรรมการ ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา เผยว่า จากการเชิญตัวแทนเซ็นทรัลเวิล์ดมาให้ข้อมูล กรณีเหตุเพลิงใหม้ช่วงการชุมนุมตัวแทนระบุ เป็นฝีมือของกลุ่มคนถืออาวุธครบมือ และตลอดเวลาการชุมนุม ผู้ชุมนุมมีความสัมพันธ์ ที่เป็นไปด้วยดีกับทางห้าง ก็ยังไม่เชื่อเลยว่า คนเผาเซ็นทรัลเวิลด์เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดง ยิ่งหลักฐานปรากฏชัดแบบนี้

ผมอยากจะบอกว่า เก้าเดือนของการถูกคุมขังของ กลุ่ม นปช เป็น เก้าเดือน ของกระบวนการยุติธรรมของบ้านเมืองตัดสินพวกเค้าไปอย่างมีข้อมูลไม่ครบ พวกเค้าถูกคุมขังอย่างไม่เป็นธรรม ถูกกระทำจากการถูกกล่าวหาว่า เผาบ้านเผาเมืองซึ่ง จากหลักฐานทั้งหมด ผมเชื่อว่า พี่น้องประชาชน จะเห็นแล้วว่า พวกเค้าไม่ได้ทำแต่มีคนกลุ่มหนึ่ง จัดให้ ซึ่งคนเหล่านี้เป็นมนุษย์ล่องหน ทำงานรับคำสั่ง ปฏิบัติการภายใต้ การอยู่ใกล้ชิดกับทหารอย่างที่เรียกว่า “เผาขน” ได้

เป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจที่ตำรวจทหารต้องเกรงใจ
เป็นผู้ก่อการร้ายที่แม้แต่ตำรวจ และทหาร ก็ไม่กล้าแตะ

ท่านประธานครับ

คน ปล่อยปละละเลยให้มีการระเบิดบ้าน ระเบิดเมือง อยู่ลอยนวล เสวยสุข เป็นนายกรัฐมนตรี เสวยสุข เป็นรองนายกรัฐมนตรี ร่วมกัน กับคณะรัฐมนตรีแถมยัง โกงบ้าน โกงเมือง สร้างความเดือดร้อนให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนอีก 2 ปี ของการบริหารบ้านเมือง ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาล ก่อให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ เกิดข้าวยากหมากแพง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ แล้วอย่างนี้ ท่านนายกยังจะคิด หวัง อยู่ในตำแหน่ง อีกต่อไปด้วยการสนับสนุน จากคนของกองทัพ หรือครับ

วันนี้ เป็นการเผชิญหน้า ระหว่างกลุ่มของท่านที่เรียกว่ากลุ่มอำมาตย์ กับกลุ่มของพี่น้องประชาชน ที่เรียกว่า กลุ่มประชาธิปไตย จริงอยู่ วันที่ท่านอยู่ด้วยอำนาจ ท่านเหมือนได้รับชัยชนะ ท่านบอกว่าท่าน จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีก 4 ปี ท่านรุ้ไหมครับ เพียงแค่พี่น้องประชาชน ได้ยินว่าท่านจะอยู่ต่ออีก 4 ปี ด้วยการสนับสนุนของกลุ่ม อำมาตย์ กลุ่มอำนาจนอกระบบ กลุ่มโกงกินบ้าน โกงกินเมือง แค่นี้ พี่น้องประชาชน ก็ทนไม่ไหวแล้วครับ

ท่านประธานครับ ที่ผ่านมานั้น ยังไม่พอ ผมอยากให้ท่านประธานเห็นเอกสารอีกชิ้นหนึ่ง ท่านประธานครับเมื่อไม่กี่ปีมานี้ในสมัยท่านนายกทักษิณ งบทหาร มีประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ปีนี้ ทหารเพิ่มงบประมาณ เป็น 1แสน 7 หมื่น ล้าน แค่นี้ พี่น้องประชาชน เค้าบอกผมมาว่า เค้ารู้สึกว่า งบประมาณแผ่นดินและงบประมาณ ที่รัฐบาลได้กู้มาถึง 1.49 ล้านล้านบาท นั้นเค้าเหมือนว่า เค้าไม่ได้รับงบประมาณอะไรเท่าที่ควรเลย สภาพเศรษฐกิจ สภาพรายได้ของเค้าตกต่ำ ทุกคนมีหนี้มีสินเพิ่มมากขึ้น รัฐบาล ให้ประชาชนกู้เพิ่มขึ้น แต่การสร้างรายได้เพิ่มให้กับประชาชนไม่ได้ดีขึ้นเลย นอกจากนั้น รัฐบาลยังจะเก็บภาษี ขูดรีดภาษี พี่น้องประชาชน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปีก่อนเก็บภาษีน้ำมันได้เพิ่ม เป็น 2แสน 7 หมื่น 8 พันล้าน เพิ่มขึ้น 61 เปอร์เซนต์ ปีนี้ ปี 2554 เก็บภาษีน้ำมัน เพิ่มขึ้นได้อีก เอาไปทำงบกลางปี อีกแสนล้าน รัฐบาลดีใจว่าได้เงินเพิ่ม แต่พี่น้องประชาชนฝากผมมาบอก ท่านนายกว่าเงินที่ท่านเก็บได้นั้น คือเงินในกระเป๋าของเค้าเอง แล้วการใช้จ่ายงบประมาณ ก็ยังไม่โปร่งใสอีกด้วย

ท่านประธาน ครับ วันนี้ ทหารของบประมาณเพิ่ม จาก 7 หมื่นล้าน เป็น 1 แสน 7 หมื่นล้าน แล้วปีนี้เป็น 2 แสน 4 หมื่น 7 พัน ล้านแล้วพี่น้องประชาชน ของผม จะเอาอะไรกินแค่นี้เค้ายังเดือดร้อนไม่พออีกหรือครับ ท่านคิดว่า พี่น้องประชาชนจะทนไหวหรือครับ วันนี้ พี่น้องประชาชนจดจำพรรคประชาธิปัตย์ ที่โกงกินน้ำมันปาล์ม ได้อย่างขึ้นใจ

วันนี้ พี่น้องประชาชน จดจำพรรคภูมิใจไทย ที่โกงทุกอย่างที่ขวางหน้าได้อย่างเจ็บใจ

พี่ น้องประชาชนจดจำพรรค ชาติไทยพัฒนา พรรครวมใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคกิจสังคม ว่าพายเรือให้โจรนั่ง อย่างเสียใจที่สุด และผมเชื่อว่า ในวันเวลาของการเลือกตั้ง ที่จะมาถึงพี่น้องประชาชน จะร่วมมือกันสอนบทเรียนให้ทุกท่านอย่างที่ท่านจะไม่เคยรู้เคยเห็นมาก่อน การต่อสู้ของกลุ่มอำมาตยาธิปไตย กับกลุ่มของประชาชน มันมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว

วันเลือกตั้งจะเป็นวันพิพากษา พวกท่านและถ้าหากพรรคชาติไทยพัฒนา พรรครวมใจไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคกิจสังคม ยังไม่กลับใจ ยังคงพายเรือให้โจรนั่ง ยังปล่อยให้มีการโกงกินบ้าน โกงกินเมือง ยังปล่อยให้คนที่สั่งการ สังหารพี่น้องประชาชน ลอยนวล ยังปล่อยให้คนที่ระเบิดบ้าน ระเบิดเมือง ทำความเจ็บช้ำให้กับพี่น้องประชาชน ผมเชื่อว่าเมื่อถึงวันเลือกตั้ง ท่านจะไม่ได้กลับคืนสู่สภาอันศักดิ์สิทธ์ของพี่น้องประชาชนเลย แม้แต่คนเดียว

ผมจะขอสรุป ข้อมูลการอภิปรายอีกครั้งหนึ่ง ว่า

1. บริเวณ ราชประสงค์ และรอบๆ เซลทรัลเวิล์ดตกอยู่ในการควบคุมของทหาร ได้ตั้งแต่เวลา 14.40 น. แล้ว ทหารทุกคนล้อมอยู่ในอริยบท แบบสบายๆ พบแต่ผู้ก่อการร้าย ล่องหน ที่สามารถลักลอบเข้าไปเผาในเซลทรัลเวิล์ด และออกมาได้อย่างไม่มีใครเห็น ไม่มีการต่อสู้ ไม่มีการใช้สไนเปอร์ยิงผู้ก่อการร้าย และไม่มีนักข่าวทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ พบเห็นผู้ก่อการร้าย มีแต่พนักงานของเซลทรัลเวิล์ดรายงานว่า พบ ผู้ที่เรียกว่า “ กองกำลังไม่ทราบฝ่าย ” เป็นผู้ก่อการร้ายที่แม้แต่ตำรวจ และทหาร ก็ไม่กล้าแตะ เข้าไปเผาเซลทรัลเวิล์ด

2. เซ็นทรัลเวิล์ด ถูกระเบิด เผาทำลาย อย่างรุนแรงเมื่อเวลา 17.42 น. หลังจากทหารเข้าควบคุมพื้นที่ทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว ซึ่งในระยะเวลาเดียวกัน เป็นเวลาที่ ทหารบนรางรถไฟฟ้า ระดมยิง ประชาชน ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ตั้งแต่พนักงานของเซลทรัลเวิล์ด ที่หลบหนีออกมา จนกระทั่งถึง 7 ศพ วัดปทุม

3. จากข้อมูล การเตรียมพร้อมของหน่วยงานป้องกันสาธารณะภัยและเซลทรัลเวิล์ดทำให้รู้ว่า ไม่มีทางเผาเซลทรัลเวิล์ดได้ พาดพิงแต่ ฯพณฯ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ท่านผู้อำนวยการ ศอฉ. จะได้สั่งการให้ทหารเปิดทาง หรือ ให้ทางสนับสนุนพนักงานของเซลทรัลเวิล์ด หรืออนุญาตให้พนักงานดับเพลิง เข้าไปทำหน้าที่ของเค้าได้ อย่างเต็มภาคภูมิ!

สุดท้ายผมขอถามสำนึกของนักการเมือง ของท่านนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ รองนายกรัฐมนตรี ฯพณฯท่าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่า การที่ท่านไม่ “คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลให้พ้นจากการล่วงละเมิด โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ และโดยบุคคลอื่น และไม่อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ”

เป็น การเล็งเห็นว่า การกระทำเช่นนั้น ท่านจะได้ผลประโยชน์ จากการที่ทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่ม นปช.ว่าเป็นกลุ่มบุคคล ที่เผาบ้านเผาเมือง หรือสามารถกลบทำลายน้ำหนักของการสังหารประชาชน ถึง 91 ศพ แต่ท่านก็ทำ ความเสียหายของบ้านเมือง ที่เกิดขึ้น มันมากมายใหญ่หลวงเกินกว่า พวกเราจะรับได้ ผมถามว่า ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร และผม และคณะในนาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่เป็นผู้แทน ของพี่น้องประชาชน

พวกเราไม่ไว้วางใจให้ท่านบริหารงาน ราชการแผ่นดินต่อไป แล้วครับ

****
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:

-ภาพ เอกสาร หลักฐาน ถอดการอภิปราย ส.ส.วรวัจน์ ต่อกรณีใครเผาเซ็นทรัลเวิล์ด ! 

-ข้อมูลมัดแน่นสังหารหมู่10เมษา-19พฤษภา ใครฆ่าเสธ.แดง ใครเหี้ย..มสังหารหมู่วัดปทุม ใครเผาCTW? 

-จาตุรนต์เตือนมาร์ค: 'มี 2 สัญชาติเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้'

ปฏิรูปประเทศไทย:”ความเพ้อเจ้อ”ของนายประเวศ วะสี

ณ ปัจจุบันนี้ นายประเวศ ก็ยังไม่มีการพูดถึงการล้อมปราบการสังหารประชาชน 91 ศพ ในเหตุการณ์พฤษภาอำมหิต ทั้งที่ปากเขาชอบพร่ำบ่นถึงความยุติธรรม


โดย ไกรก้อง กูนอรลัคขณ์
22 มีนาคม 2554

นายประเวศ วะสี ประธาน คสป. แถลงว่า วันที่ 24-26 มีนาคมนี้ จะมีการจัดสมัชชาปฏิรูปเป็นการประชุมสุดยอดทางสังคมที่ไม่เคยมีมาก่อน 

เพื่อร่วมจัดทำฉันทามติแก้ทุกข์ของชาติซึ่งไม่มีรัฐบาลใดอดีต ปัจจุบัน และอนาคตจะแก้ไขได้ เพราะเกิดจากโครงสร้างที่ทำให้คนส่วนน้อยเอาเปรียบชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศไทย

โดยกล่าวว่า จะมีการขอ ฉันทามติ เรื่องการกระจายอำนาจสู่ชุมชนท้องถิ่น กระจายการที่ดิน พลังศิลป์เยียวยาการชิงชังและทอนกำลังกัน

แน่นอนว่า ณ ปัจจุบันนี้ นายประเวศ ก็ยัง ไม่มีการพูดถึง การล้อมปราบการสังหารประชาชน 91 ศพ ในเหตุการณ์พฤษภาอำมหิต ทั้งที่ปากเขาชอบพร่ำบ่นถึงความยุติธรรม 

นายประเวศ มักกล่าวถึงปัญหาเชิงโครงสร้าง ที่เป็นแนวคิดหน้าที่ว่าด้วยการสมานฉันท์ การปรองดอง การที่แต่ละส่วนมีหน้าที่ในการผลักดันให้องคาพยพเคลื่อนตัวไป

เหมือนดั่งกับว่า สังคมในโลกนี้ไม่มีความขัดแย้ง 

เป็นทฤษฎีเดียวกับฮิตเลอร์เผด็จการนิยมใช้กล่าวอ้างในการควบคุมประชากรไม่ให้กระด้างกระเดื่องต่ออำนาจผู้ปกครอง

แท้จริงแล้ว ปัญหาการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ปัญหากระจายการถือครองที่ดิน และ การปฏิรูประเทศไทยนั้น ย่อมเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางอำนาจในสังคมไทย ที่โยงใยกับปัญหาการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยหรือไม่? อย่างไร?

ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการจัดตั้งองค์กรในการเคลื่อนไหวแค่ไหน? ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีหรือไม่ ?

ปัญหาการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งนายประเวศเสนอ ก็ไม่ได้ฟันธงว่า คือการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหรือไม่?

ยังพูดลอยเพ้อๆอยู่ และการเลือกตั้งผู้ว่าที่มีการเสนอมีนาน ก็มักถูกขัดขวางจากระบบราชการส่วนสำคัญของระบอบอำมาตยาธิปไตย

นายประเวศ อาจจะพูดถึง การกระจายอำนาจให้ชุมชนท้องถิ่นจัดการทรัพยากรธรรมชาติ แต่นายประเวศไม่ได้ทบทวนบทเรียนว่า อุปสรรคสำคัญในการกระจายอำนาจให้ชุมชนท้องถิ่นก็มักเป็นหน่วยงานระบอบราชการที่มีวิธีคิดแบบรวมศูนย์อำนาจนั่นเอง

นายประเวศ พูดถึงการกระจายการถือครองที่ดิน แม้แต่การเปิดเผยข้อมูล ว่าใครถือครองที่ดิน เท่าไร ที่ไหน ก็ยังมิอาจกระทำได้จริง

ดูเหมือนนายประเวศ จะเพ้อๆว่า ปัญหาโครงสร้าง ถ้าทุกคนรู้ก็จะประเทืองปัญญา ตรัสรู้ได้ก็สามารถแก้ปัญหาได้ในทันทีทันใด ซึ่งนายประเวศทำประจำมาทุกรัฐบาล

นายประเวศ แถลงว่าจะมีประชาชนและหลายองค์กรมาร่วมประชุมในครั้งนี้จำนวนมาก แต่นายประเวศก็ไม่ได้บอกว่า ใครจ่ายงบประมาณ มีเบี้ยเลี้ยงไหม ใช้งบประมาณอย่างพอเพียงไหม?

หรือว่า “ กูมาเอง ไม่มีใครจ้างกูมา ” หรือว่า “กูต้องมาเพราะไม่มาสสส. สกว. พอช. จะตัดทุนโครงการกู” นายประเวศก็ควรชี้แจงให้โปร่งใสด้วย มิฉะนั้น “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง”


ผู้เขียนเอง มีความคิดว่า มีแต่สังคมประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะนำเปิดทางให้ประชาชนสามารถรวมกลุ่มสร้าง อำนาจอย่างเสรีต่อรอง กดดัน สร้างพลัง เพื่อให้ชนชั้นที่เอาเปรียบ ยอมกระจายการกระจุกตัวของที่ดินที่ตนเองครอบครองอยู่ ยอมที่จะจ่ายภาษีก้าวหน้า เพื่อกระจายความมั่งคั่งที่ตนเองเสพสุขอยู่บนความทุกข์ของคนจำนวนมาก ฯลฯ

ปัญหารากเหง้าในเงื่อนไขสภาพทางการเมืองที่สำคัญในช่วงประวัติศาสตร์ ปัจจุบัน คือ ระบอบอำมาตยาธิปไตย มีปรัชญาความเชื่อว่า คนยังโง่อยู่ ไม่มีความรู้ จึงต้องเป็นพลเมืองชั้นสอง จึงต้องมีคนที่เหนือกว่าปกครองดูแล จึงเป็นเพียงไพร่ ที่มูลนายต้องบังคับควบคุมดูแล เหมือนเฉกเช่นสมัยในอดีตสังคมศักดินาไทย

ข้อเสนอของนายประเวศ เป็นการบิดเบือนหลอกลวง การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง เนื่องเพราะว่า การปฏิรูปประเทศไทย ที่สำคัญคือการปฏิรูปกองทัพและองคมนตรี ซึ่งล้วนเป็นจักรกลของระบอบอำมาตย์ทั้งสิ้นที่คอยขัดขวางการพัฒนาประชาธิปไตยให้ก้าวหน้า เช่น การรัฐประหาร การแทรกแซงทางการเมือง เป็นต้น

การปฏิรูปประเทศไทย ปฏิเสธไม่ได้ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 ด้วยไม่เพียงต้องสร้างนโยบายและกฎหมาย เนื่องจากเป็นรัฐธรรมนูญที่ล้าหลังขัดขวางการพัฒนาประชาธิปไตยในหลายมาตรา การแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยต้องลดอำนาจนอกระบบ เช่น การให้อำนาจกับกระบวนการตุลาการมากเกินไปโดยไม่ได้เชื่อมโยงกับประชาชนแต่อย่างใด สมาชิกวุฒิสภามาจากการแต่งตั้งถึง 74 คน ฯลฯ และอื่นๆที่ต้องช่วยคิดช่วยผลักดัน

การปฏิรูปประเทศไทยนั้น ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม (เหมือนสูตรที่นายประเวศท่องจำตลอดเวลา แต่กลับไม่นำมาใช้มาปฏิบัติ) ซึ่งต้องมีกระบวนการจากล่างสู่บนเหมือนเช่นกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ 40 ต้องมีการระดมความคิดเห็นจากภาคส่วนสาขาอาชีพต่างๆ มิใช่เพียงภาคประชาชน ภาคประชาสังคม เพียงน้อยนิดของนายประเวศและเหล่าอำมาตย์เอ็นจีโอทั้งหลายเท่านั้น

การปฏิรูปประเทศไทยนั้น ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายให้มีความยุติธรรมเท่าเทียมกันไม่ใช่ระบบสองมาตรฐานอย่างที่เห็นและเป็นอยู่

การปฏิรูปประเทศไทยนั้น ต้องปฏิรูปความคิดจิตสำนึกให้คนในสังคมไทยรักประชาธิปไตย เคารพหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียง เคารพกติกาประชาธิปไตย ฯลฯ และอื่นๆอีกมากมายที่ต้องช่วยคิดช่วยผลักดัน

ดังนั้น การปฏิรูปประเทศไทย จึงมิเป็นเพียงของนายประเวศและคณะ เท่านั้น

เทือกทำหล่นเปิดโฉม2มือสไนเปอร์สังหารเสื้อแดง

เทือกทำหล่น-ภาพสไลด์ที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำไปประกอบการชี้แจงและกล่าวหาเสื้อแดงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและเผอเรอทิ้งไว้ ระบุว่ามือสไนเปอร์ คือ ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และมือชี้เป้าคือ ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด กำลังสังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างมันมือ ต่อมา 1 ใน 2 คนนี้ยังไปเขียนข้อความในเว็บบอร์ดของนายสิบทหารบกประกาศว่าตนคือทีมสไนเปอร์ ราวกับเป็นวีรกรรม


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา กระดานสนทนาInternet Freedom

กระดานสนทนาการเมือง Internet Freedomได้เปิดเผยภาพถ่ายสไลด์ที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง นำไปประกอบการชี้แจงและกล่าวหาเสื้อแดงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและเผอเรอทิ้งไว้ ระบุว่า มือสไนเปอร์ คือ ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ และมือชี้เป้าคือ ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด ขณะกำลังสังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างมันมือ


คลิปวิดิโอ-มือสไนเปอร์(ส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ) และมือชี้เป้า (ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด)กำลังสังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างมันมือ




หลักฐาน-สไลด์ที่อ้างว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำไปประกอบการชี้แจงกล่าวหาเสื้อแดงในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลและเผอเรอทิ้งไว้ แต่ในภาพกลางนั้นระบุวันที่ 15 เมษายน ความจริงเป็น 15 พฤษภาคม


วีรกรรม?-ส.อ.คชารัตน์ เนียมรอด (โอ๊ต)ไปโพสต์ข้อความในเวบบอร์ดของนายสิบรุ่นเดียวกันยอมรับว่า ตัวเองคือบุคคลในคลิป ศอฉ.ที่ชุมชนบ่อนไก่ด้วยความภาคภูมิใจ


ข้อมูลจำเพาะมือสไนเปอร์-ข้อมูลจำเพาะของส.อ.ศฤงคาร ทวีชีพ มือสไนเปอร์ที่สังหารผู้ชุมนุมมือเปล่าอย่างเลือดเย็น


กระดานสนทนาIFระบุว่า จากการสืบค้นพบว่า มือสไนเปอร์คือ ส.อ. ศฤงคาร ทวีชีพ สังกัด ม.พัน ๕ รอ. เลขที่บัตรประชาชน 3189900095166 วันเกิด 4 กันยายน 2524 โทรมือถือ 086-7643501 ที่อยู่ 196 พหลโยธิน, ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี 18000

ส่วนส.อ. คชารัตน์ เนียมรอด (โอ๊ต)มีเบอร์อีเมล์ kacharat_746@hotmail.com เฟซบุ๊คhttp://www.facebook.com/profile.php?id=100001606870309

อย่างไรก็ตามการนำข้อมูลมาเผยแพร่ต่อของไทยอีนิวส์ ไม่มีความประสงค์ให้เกิดการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพียงแต่ต้องการให้เป็นข้อมูลต่อDSI เนื่องจากหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปนาน 9 เดือน ยังไม่มีหลักฐานใดชี้ว่าDSIได้ดำเนินคดีต่อบุคคลทั้งสอง

เผยนายทหารตัวเอ้คุมสังหาร10เมษา-19พฤษภา,แก๊งฆ่าเสธ.แดง,กระชากโฉม5สมุนเหี้ย..มสังหาร6ศพวัดปทุม


ก่อนหน้านี้กระดานสนทนาบอร์ดInternet freedom เผยแพร่ครั้งแรก 30 มกราคม 2554 ได้เปิดเผยเอกสารรายชื่อทหาร-หน่วยงานที่ได้รับคำสั่งเข้าสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง พร้อมพื้นที่ปฏิบัติการ และเหยื่อสังหาร ซึ่งรวมทั้งกรณีสังหารเสธ.แดง พลตรีขัติยะ สวัสดิผล และ 5 นายสิบมือสังหารบาป 6 ศพวัดปทุมฯ ดังต่อไปนี้

1.)พล.ม.2รอ.กับเหยื่อสังหารนักข่าวญี่ปุ่นและเหยื่อ10เมษาฯ

เอกสารแผ่นแรกเปิดเผยรายชื่อผู้เสียชีวิต 19 รายรวมทั้งนักข่าวรอยเตอร์ชาวญี่ปุ่น ในเหตุการณ์ 10 เมษายน 2553
พล.ม.2รอ.มีชื่อเต็มๆว่า กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
ปัจจุบันนี้มีพล.ต. สุรศักดิ์ บุญศิริ เป็น ผบ.พล.ม.2 รอ.

พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผู้รับผิดชอบเหตุการณ์แยกคอกวัว เคยไล่เสธ.แดงออกจากกองทัพมาแล้ว

พ.อ.ธรรมนูญ วิถี ผู้รับผิดชอบบริเวณถนนดินสอ ที่นักข่าวญี่ปุ่นเสียชีวิต และนายวสันต์ ภู่ทอง ถูกยิงกระโหลกเปิด แต่พ.อ.ธรรมนูญก็บาดเจ็บจากการนี้ ซึ่งได้รับพรระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จทรงเยี่ยมอาการบาดเจ็บด้วย(ภาพข่าว:เดลินิวส์)

2.)พล.ม.2รอ.,พล.1รอ.และพล.ร.9กับ10เมษาและกรณีสังหารพลทหารณรงค์ฤทธิ์


เอกสารแผ่นทื่2เปิดเผยถึงเหตุการณ์เหยื่อสังหาร10เมษาอีกรายบริเวณสะพานมัฆวานฯมีพล.1รอ.รับผิดชอบ,เหตุการณ์ระเบิดที่สีลม22เม.ย.และเหตุการณ์เสื้อแดงเคลื่อนไปตลาดไทย เป็นเหตุให้พลทหารณรงค์ฤทธิ์ สาละ เสียชีวิต เวลานั้นสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่ด้วยกันยิง

พล.1รอ.ย่อมาจาก กองพลที่ ๑ รักษาพระองค์ ส่วนพล ร.9 ย่อมาจาก กองพลทหารราบที่ 9 กาญจนบุรี

3.)พล.ม.2รอ.กับการตายของตำรวจและเหยื่อ


เอกสารแผ่นที่3กล่าวถึงการเสียชีวิตของตำรวจ 2 นาย ผู้ชุมนุม 1 ราย คือนายชาติชาย ซาเหลา

โดยมีพล.ม.2รอ.รับผิดชอบภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี

4.)สังหารเสธ.แดงและ6ศพวัดปทุม-พล.ม.2รอ.,พล.1รอ.,ร.31พัน2รอ.และกองพันรบพิเศษที่1 กรมทหารรบพิเศษที่3(ลพบุรี)


เอกสารแผ่นที่4กล่าวถึงการสังหารเหยื่อในวันที่ 15 พ.ค.บริเวณซอยงามดูพลี,แยกบ่อนไก่,ซอยสุวรรณสวัสดิ์ มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ

มีพล.ม.2รอ.ใต้บังคับบัญชาของ พ.อ.เพชรพรม โพธิ์ชัย รับผิดชอบ

เอกสารแผ่นนี้กล่าวถึงการสังหาร6ศพวัดปทุมฯรวมทั้ง"น้องเกด"เหตุเกิดวันที่ 19-20พ.ค.2553 มีพล.1รอ.ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.ท.ยอดอาวุธ พึ่งพักตร์

ทหารกล้าฆ่า6ศพในวัดปทุมฯ?-หลังจากนายจตุพร พรหมพันธ์ ได้เปิดเผยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วถึงรายชื่อทหารที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นทีมปฏิบัติการสังหารหมู่เหยื่อ 6 ศพที่ลี้ภัยในเขตอภัยทาน วัดปทุมวนาราม เมื่อ 19 พฤษภาคม 53 ล่าสุดมีการเปิดเผยโฉมหน้าและประวัติทีมงานที่ถูกกล่าวหาดังกล่าวทางอินเตอร์เน็ต (คลิ้กที่ภาพเพื่อขยายใหญ่)
นศล.ภายใต้บังคับบัญชาของ พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ คำภีระ 

และรบพิเศษที่3ลพบุรี มีพ.ต.นิมิต วีระพงศ์ กับจสอ.สมยศ ร่มจำปา(ในภาพ) เป็นผู้บังคับบัญชา

เอกสารแผ่นนี้ยังกล่าวถึงการยิงสังหารเสธ.แดงในระยะไกลด้วยว่ามีพล.ม.2รอ.ภายใต้การบังคับบัญชาของ พ.ต.สุรพงษ์ กาญจนโพธิ์ พ.ต.ณัฐพล บุญกระพือ ร.อ.จิรจำนง โกษาวัง(ในภาพ) และร.อ.ศันศนะ เพ็ชรสุข

5.)พล.ม.2รอ.กับเหตุการณ์สังหาร14-17เมษายน

เอกสารแผ่นนี้กล่าวถึงเหตุการณ์สังหารที่บริเวณถนนวิทยุ,สนามมวยลุมพินี,ธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่,ซอยปลูกจิต,สวนลุมพินี,แยกศาลาแดงระหว่างวันที่ 14-17พ.ค.2553 นอกจากพ.อ.เพชรพนม โพธิ์ชัยแล้ว มีพ.ท.โกญจนาท ธูปเทียนรัตน์ และพ.ท.วิฑูร โพธิ์ร่มรื่น เป็นผู้บังคับบัญชา

6.)พล.ม.2รอ.


เอกสารแผ่นนี้กล่าวถึงเหตุการณ์ระหว่างวันที่15-19พฤษภาคม ซึ่งเป็นเหตุให้ช่างภาพชาวอิตาลีเสียชีวิต พร้อมผู้ชุมนุมที่ตกเป็นเหยื่อสังหารอีก 7 ราย อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพล.ม.2

เหตุการณ์นี้มีผู้บังคับบัญชาคือพ.อ.ถนัดพล โกษยเสวี , พ.อ.ไตรเทพ ศรีพันธุ์วงศ์ ,พ.ท.ฉัตรชัย ดวงรัตน์,พ.อ.เพชรพนม โพธิ์ชัย


7.)พล.ม.2รอ.กับเหตุสลายม็อบราชประสงค์


เอกสารแผ่นสุดท้านนี้เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิต1ราย โดยกองพลทหารม้าที่2รักษาพระองค์เป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากพ.อ.ไตรเทพแล้วมีพ.อ.ธัชพล เปี่ยมวุฒิ เป็นผู้บังคับบัญชา (บุคคลในภาพ)