วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554


พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร บุคคลแห่งรัก..?!
โดย....สอาด จันทร์ดี

      ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลแห่งรัก
       เป็นผู้นำในดวงใจของผู้รักประชาธิปไตย คนเสื้อแดงไม่ได้รักทักษิณเพราะความรูปหล่อ ไม่ได้รักเพราะท่านเป็นคนรวย
                
        รู้ไหม...คนที่รวยกว่าท่านทักษิณหลายแสนล้านบาทมีตั้ง ๑๘ ราย (ตามที่ได้มีการจัดอันดับเศรษฐีในประเทศไทย ท่านทักษิณอยู่อันดับที่ ๑๙) ทำไมพวกผมไม่ลุ่มหลงกับคนรวยเหล่านั้น เพราะฉะนั้น ขอได้โปรดเข้าใจเถิดครับ พวกผมรักทักษิณเพราะท่านเป็นคนเก่ง คนดี เป็นคนของประชาชน เป็นคนเก่ง “ที่คนยากคนจนพึ่งได้”  รวมทั้งแม้แต่คนรวย-รวยทั้งหลายก็ยังได้พึ่งท่าน ได้พึ่งตั้งแต่การทำให้แต่ละครอบครัว มีอยู่มีกิน แต่ละวิสาหกิจมีความเจริญก้าวหน้า ท่านทักษิณได้ทำให้ประเทศไทยทั้งประเทศมีศักดิ์ศรีทัดเทียมประเทศอื่น

                ประเทศไทยกำลังจะก้าวหน้าไปด้วยดีในยุคไทยรักไทย

                ก็มีคนมากระชากให้ประเทศไทยถอยหลัง ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ?

                ดังนั้น เมื่อพูดถึงความรัก..คนเสื้อแดงมีเหตุผลที่ดีและเต็มเปี่ยมทุกด้าน จึงได้ทุ่มเทความรักให้ท่านทักษิณอย่างเต็มจิตเต็มใจ พวกเราไม่แปลกใจตนเองว่ารักทักษิณมากเพราะอะไร

                แต่พวกเราแปลกใจว่าเหตุไรหนอ คนไทยบางกลุ่มจึงมองคนเก่งไม่ออก มองไม่เห็นคนดี พวกเราไม่เข้าใจว่าทำไมจึงลุ่มหลงในความรูปหล่อ ซึ่งเป็นความหล่อแต่รูปจูบไม่หอมนอกจากจูบไม่หอม ยังเก่งในการฆ่าคน ฆ่าแล้วก็โยนความผิดให้คนเสื้อแดงหาว่าฆ่ากันเอง

                เรื่องนี้นะถ้าลูกคนรวยถูกฆ่าบ้าง พวกคุณจะยอมไหม ? นอกจากนี้พวกเราไม่เข้าใจว่า“ทหารฆ่าคนกลางถนน” ไล่ยิงทั้งกลางวันและกลางคืน มีคลิปมากมายแพร่หลายอยู่ในโลกอินเตอร์เน็ท คนทั้งโลกเขาเชื่อว่ามีคนออกคำสั่งให้ทหารฆ่าประชาชน พวกคุณก็ยังรักคนพวกนั้นอยู่...รักสุดหัวใจขาดดิ้นเสียด้วย

                ท่านครับ ผมอยากเขียนเรื่องนี้เพื่อจะเอามาสนทนากันเพื่อต้อนรับสถานการณ์พรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากกว่า ๑๕ ล้านเสียง ชนะพรรคประชาธิปัตย์ ๒๖๕ ต่อ ๑๕๙ ส่งผลให้พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเหมาะที่จะเขียนอย่างยิ่ง

                แต่ทว่า...เมื่อได้ตั้งใจเขียนก็ย่อมจะไม่พ้นไปจากเรื่องหยุมหยิมมากมายหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ ๒๓ ฯพณฯ พ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของ ฯพณฯ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของแผ่นดินสยาม ที่พวกเราคนเสื้อแดงรักท่านอย่างมีเหตุผล

                ใช่...ถึงจะรักเพียงใดก็ยังถือว่าเรื่องของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องธรรมดาของคนเสื้อแดง หาได้มีความวิเศษจนต้องกราบไหว้อย่างสิโรราบก็หาไม่ พวกเราถือว่าท่านทักษิณเป็นคนธรรมดาของคนเสื้อแดง แต่เป็นธรรมดาที่ตายแทนได้

                ส่วนคนเสื้อเหลืองกับพรรคประชาธิปัตย์ ดูเหมือนจะไม่ยอมรับ “เรื่องท่านทักษิณ” ว่าเป็นเรื่องธรรมดา หากแต่พากันถือเป็นเรื่องร้ายแรงที่จะต้องตามล่า ตามพิฆาตชนิดไม่ยอมให้กลับสู่บ้านเกิดทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นคนไทยคนหนึ่ง และเคยเป็นนายกรัฐมนตรีที่เก่งและมีคุณงามความดียากที่จะหานายกรัฐมนตรีคนไหนเทียบท่านได้

                การกระทำของพวกเสื้อเหลืองกับพรรคประชาธิปัตย์ เห็นแล้วน่าสังเวชใจยิ่งนัก เพราะว่าปฏิกิริยาแต่ละครั้ง “จะเป็นจะตายเอาให้ได้” ดังจะเห็นได้จากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ก็มีการกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้ทำเพื่อทักษิณคนเดียว สถานีวิทยุของพวกเสื้อเหลืองยังคงด่าไม่เลิก แม้แต่สถานีวิทยุของ “กองทัพไทย” เอฟเอ็ม 101 เมกกะเฮิร์ท ก็ยังพูดจาเล่นงาน พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ไม่รู้จักเลิกเช่นกัน

               ผมขอกราบท่านผู้อ่านด้วยความเคารพว่า “ถ้าการพูดโจมตี”  ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร เบาลงบ้าง ผมจะไม่เขียนให้เปลืองหน้ากระดาษ เพราะผมไม่อยากให้คนไทยบาดหมางใจกัน ไม่อยากสะกิดแผลหัวใจ ถ้าผมเอาเรื่องของท่านทักษิณมาเขียนขย่มไม่หยุด  มันอาจทำให้ “บาดใจ”ใครหลายคน

               ทั้งนี้ก็เพราะคนเหล่านั้นเคยโกรธ เคยเกลียด เคยวางแผนฆ่า และได้ใส่ร้ายป้ายสี เอาความเท็จมาใช้เป็นข้อมูลเล่นงานท่านทักษิณ จนเป็นผลให้แต่ละคน“ทำใจไม่ได้” จึงยังแสดงท่าที่เป็นศัตรูไม่เลิก

               ที่เห็นชัดที่สุด พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา แข็งทื่อไปทั้งตัว

               แข็งแบบนี้ มีคำถามว่า เหตุไร ? จึงไม่เอาคนใหม่มาแทน ?

               ผมอยากทบทวนความจำว่ากว่าบ้านเมืองจะผ่านมาถึงวันนี้แสนทุลักทุเล ภาพแห่งความเจ็บปวดยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของประชาชนนับเป็นล้านๆคน แม้แต่ในหมู่ของคนเสื้อเหลืองเองก็เห็นกับตาว่าทหารไล่ฆ่าคนเสื้อแดงปานว่าเล่น ซึ่งการเข่นฆ่าทั้งหลายทั้งปวง มีแต่คนในชาติเดียวกันตกเป็นเหยื่อมรณะอย่างน่าเวทนา ความมรณะพวกนั้นเกิดมาจาก “ความขัดแย้ง” ทางการเมือง

         ธรรมดาของความขัดแย้งทางการเมือง เขาไม่ถือว่าเป็นศัตรูของประเทศ

         แต่พรรคประชาธิปัตย์กับทหารได้ทำเรื่องความขัดแย้งทางการเมืองแท้ ๆ ให้เป็นเรื่องศัตรูชาติด้วยการกล่าวหาคนเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย ซึ่งไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าอะไรคือลักษณะการก่อการร้าย (เพราะมันไม่เป็นความจริง)

        แท้ที่จริงปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาระหว่างคนกลุ่มหนึ่งที่สู้ทักษิณไม่ได้ พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งจนทำให้เชื่อว่าจะไม่มีทางได้ชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จึงวางแผนทำลายพรรคไทยรักไทย โดยมีกลุ่มอำมาตย์และพวกนายทหารใหญ่ “ตลอดทั้งมือที่มองไม่เห็น” ก็รวมหัวกันถล่มท่านทักษิณไม่เลี้ยง

        แรกเริ่มเดิมที ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร มิได้เฉลียวใจว่าจะมี “คนชั่ว” แอบเล่นงาน จึงตกเป็นเหยื่อสุดที่จะป้องกันตัวเองได้ จึงกลายเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ถูกทหารยึดอำนาจ พรรคไทยรักไทยถูกยุบ ตัวเองถูกศาลพิพากษาให้จำคุก ๒ ปี ถูกยึดทรัพย์เป็นเงิน ๔.๖ หมื่นล้าน และถูกตราหน้าว่าไม่มีความจงรักภักดี ข้อกล่าวหาอันเลวร้ายเหล่านี้ ถล่มใส่ร่างท่านทักษิณยังกะขุนเขา แต่ทว่า...ประชาชนไม่ทิ้งท่าน ทำให้เกิดคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน แห่กันออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
         คนเสื้อแดงจากเหนือ อีสาน และอีกหลายแห่งในประเทศไทยได้สละชีพ ณ สี่แยกคอกวัว บ่อนไก่ ศาลาแดง แยกราชประสงค์ ประตูน้ำ และวัดปทุมวนาราม ภาพเรือนร่างของประชาชนผู้เสียสละนอนคว่ำหน้า – หงายท้อง เลือดเนืองนอง!

                ภาพเหล่านี้...อำมาตย์ ทหาร และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีอาการสยองให้เห็น

                แต่ภาพเหล่านี้ได้กลายเป็น “สัญลักษณ์” ของความเหี้ยมโหด และได้ช่วยให้จิตใจของคนเสื้อแดงมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นผลให้การเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้หมดประตูสู้...ทั้งๆที่พากันหว่านเงิน ใช้อำนาจรัฐทุกวิถีทางก็ไม่ชนะ

                พ่ายแพ้แล้วแทนที่จะยอมรับแต่โดยดี กลับโวยวาย หาว่า “คนเสื้อแดงถูกหลอก” แล้วส่งเสียงเจื้อยแจ้วโกหกไปวันๆ สุดท้ายก็พากัน “ตั้งรัฐบาลเงา” ออกข่าวว่าจะตามประกบทุกกระทรวง ตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะประกบ ฯพณฯ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
                พรรคประชาธิปัตย์ประกาศว่าจะประกบทุกกระทรวงนะไม่แปลก ? แต่ที่แปลกก็คือข่าวที่ปล่อยออกมาว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะไปไม่รอด จะเกิดวิกฤตทางการเมืองครั้งใหญ่ไม่เกิน ๖ เดือน

                อ้าว..? เหตุไรจึงเป็นอย่างนั้นไปได้ ?

                อยากรู้จังว่าทำไมจะต้องวิกฤติอีกใน ๖ เดือนข้างหน้า

                ไม่เป็นไร...ถ้ามันจะวิกฤติก็ต้องวิกฤติ...ทำไงได้

                แต่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์กับทหารโปรดเก็บเอา “ประโยคน้อยๆ” ในท่อนท้ายของความเห็นเรื่องนี้เอาไปคิดเสียให้ดีว่า...ถ้าพวกท่านยิ่งทำ ประชาชนยิ่งเกลียด...เกลียดมากขึ้นทุกที
         
         ทหาร อำมาตย์ มือมองไม่เห็น พรรคประชาธิปัตย์ ชอบแบบนั้นหรือ ?
        ขณะเดียวกัน...โปรดอย่าลืม...ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลแห่งรัก ?! ของประชาชน

         ผมอยากให้คนไทยทั้งประเทศ เข้าใจในความรัก เแล้วเลิกไล่ล่าทักษิณได้แล้ว หันหน้าเข้าหากันช่วยกันสร้างชาติดีกว่า สมกับที่ได้มีการเลือกตั้งในท่ามกลางการแสดงออกของประชาชนทั้งประเทศ แห่ไปเลือกตั้งอย่างท่วมท้น
       การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ควรจะจบด้วยการเลือกตั้ง
        ถ้าใช้การเลือกตั้ง เป็นแนวทางแก้ปัญหาของชาติ ก็จะเป็นการใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือพัฒนาการเมืองอย่างแท้จริง
       ทักษิณเป็นบุคคลแห่งรักอย่างเต็มเปี่ยมขนาดนี้ ยังจะมีวิกฤติใน  6 เดือนข้างหน้าอีกหรือ ?! 
                                                                                                 สอาด จันทร์ดี
                                                                                        ๑๓ กันยายน ๒๕๕๔
http://redusala.blogspot.com

สื่อไดโนเสาร์
โดย....ขอม ดำดิน
   แต่ก่อน สื่อเคยเล่นงานพวกเผด็จการว่าเป็นทาสที่ปล่อยไม่ไป
    คนพวกนั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นไดโนเสาร์-เต่าพันปี
     มาวันนี้ สื่อได้กลายเป็น “ทาส” เสียเอง.. หนักยิ่งกว่าพวกเผด็จการ
    สิ่งที่น่าตำหนิสื่อได้แก่ภาพความตายของคนเสื้อแดงที่ถูกทหาร “ยิงทิ้ง” นับจำนวนเกือบ ๑๐๐ คนซึ่งเป็นการยิงทิ้งกลางถนนหลวง มีสายตานับพันนับหมื่นเห็นทหารทำ แต่ปรากฏว่าสื่อไทยไม่ใช่น้อยมองไม่เห็นภาพความตายเหล่านั้นเลย...ช่างน่าอัศจรรย์นัก ?

                ขอชื่นชม...ข่าวสด มติชน โลกวันนี้ บางกอกทูเดย์ ตาสว่าง

                สื่อที่มองไม่เห็นความตายที่สี่แยกคอกวัว และความตายหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ใกล้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีคนถูกฆ่าตายมากกว่า ๑๐ ศพ (๑๐ เมษายน/๕๓) มีซากรถสายพานตีนตะขาบถูกถอดชิ้นส่วนกองพะเนินเทินทึก ไม่ปรากฏว่าจะมีสำนักข่าวของสื่อไทยเข้าไปทำสกู๊ปข่าว

                พวกเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คล้ายกับว่าไม่มีความตายเกิดขึ้น

                สื่อที่เป็นสถานีโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นช่อง ๓-๕-๗-๙-๑๑ และสถานีทีวี Thai PBS ไม่ยอมนำเอาความจริงมาเผยแพร่ เป็นเหตุให้ประชาชนชาวไทยมากกว่าครึ่งประเทศไม่รู้ความจริงว่าทหารฆ่าประชาชน แต่ในเวลาเดียวกันกลับได้ชมภาพ “ห้างเซ็นทรัล เวิลด์” ถูกเผา และได้ชมคนเสื้อแดงทะเลาะกับทหาร

                สื่อพวกนั้นเข้าข้างรัฐบาลยุคนายอภิสิทธิ์ แบบไม่ลืมหูลืมตา

              ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สื่อไม่เป็นกลาง สื่อเอียงข้าง สื่อยุแยงตะแคงรั่ว รุมอัดรุมด่าคนเสื้อแดงแบบไม่เลี้ยง สื่อที่เป็นหัวหอกในครั้งนั้น ประกอบด้วย ASTV ผู้จัดการ วิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ของราชการโดยนางฟองสนาน จามรจันทร์ คุณภัทรา แล้วก็มี ดร. เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ธีระ ธีรภัทร ดร. เสรี วงศ์มณฑา สันติอโศก โพธิรักษ์ จำลอง ศรีเมือง สนธิ ลิ้มทองกุล อัญชลี ไพรีรักษ์ พันธมิตร เอ็ฟเอ็ม ๙๒.๒๕ จ่าพงษ์ สารคาม และ เอ็ฟเอ็ม ๑๐๑ ของกองทัพไทยเป็นต้น

                หนังสือพิมพ์รายวันไม่ว่าจะเป็นไทยโฟสท์ (เปลว สีเงิน) แนวหน้า เดอะ เนชั่น เดลินิวส์ คมชัด ลึก ผู้จัดการ เคยถล่มแหลก กล่าวหา พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดงแบบมั่นอดมั่นใจว่า “คนดีมีแต่พวกเขา” ส่วนฝ่ายพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทย เป็นคนชั่วไปทั้งหมด

                อย่างไม่น่าเชื่อ..เขาด่าแดง แต่ยกย่อง “เนวิน ชิดชอบ” สุดกู่ ?

                ขอยกเอาหนังสือพิมพ์ The Nation (เดอะ เนชั่น) ฉบับวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๔มาเป็นข้อสังเกตเขาพาดหัวข่าวว่า Who’s Really In Charge Here ? :“ใครกันแน่คือนายกตัวจริง ?

                เมื่อพาดหัวข่าวเป็นคำถามเอาไว้แล้วก็ได้แสดงความเห็นตอบคำถามของตนเอง ดังนี้

“Quiet PM seen as taking orders from THAKSIN overshadowed by Chalerm, while Reds wait in the wings. Thailand: Land of Three Prime ministers referring to YINGLUCK Shinawatra, Her brother 
In-exile, Thaksin and Chalerm Yoobumrung.”

                เพื่อความเข้าใจง่าย ขอแปลว่า “เป็นที่แน่ชัดว่านายกรัฐมนตรี รับคำสั่งมาจากทักษิณ ผ่านเงาของเฉลิม ขณะพวกเสื้อแดงเป็นปีกควบคุมในลักษณะประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีพร้อมกัน๓คน ประกอบด้วยยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับพี่ชายของเธอ “ทักษิณ” ลี้ภัยอยู่ต่างแดน กับเฉลิม อยู่บำรุง”

                Yingluck still scams able to stand the heat although she’s standing right in the middle of the Kitchen. Chalerm may be helping draw the fire away from her for now, hut he is mad cook. Thaksin is outside. So the big chef is not feeling the high temperature. Certainly, effects are being made to keep Thailand’s first female prime minister going, but Yingluck could be forgives, if she’s feeling strangely isolated,

                “ยิ่งลักษณ์ จะสามารถยืนอยู่กับความร้อนได้ ณ ตรงกลางครัว ซึ่งเฉลิมจะช่วยผลักไฟออก แต่เฉลิมก็เป็นพ่อครัวใหญ่ขี้โมโหร้าย ทักษิณอยู่ข้างนอก ปล่อยให้พ่อครัวใหญ่ควบคุมไม่ให้อุณหภูมิความร้อนเพิ่มสูง เพื่อจะประคองให้นายกหญิงคนแรกของประเทศไทยอยู่ได้”

                ผมพิเคราะห์ดูการเขียนบทความของเดอะเนชั่น พบว่าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษสำหรับคนต่างชาติ ฉบับนี้ได้เขียนแบบเปรียบเปรยส่อไปในทางเหยียบหยามย่ำยี มิได้มีลักษณะให้เกียรติแก่ “สตรี” คนแรกของประเทศไทยที่เป็นนายกรัฐมนตรี

                เดอะเนชั่นใช้คำว่า “เฟเมล” [Famale] เพศหญิง อย่างจงใจ

                ไม่ยอมให้เกียรติว่าเป็นสตรี [Woman] แต่อย่างใด

                ถ้าใจยกย่องหญิงไทย จะใช้คำว่า “Thailand’s First woman prime minister” ด้วยหัวใจที่ให้เกียรติ  จะไม่เรียก “ตัวผู้-ตัวเมีย” ดอกครับ !

                ผมขอยกตัวอย่างหนังสือพิมพ์เดลินิวส์อีกฉบับหนึ่ง “ตรีศูล” หน้า ๕ ฉบับวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ เขียนในข่าวสังคม “ไม่แฮปปี้กับปฏิบัติการคู่ขนาน โดยนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร + รองฯ เฉลิม อยู่บำรุง ข้างหนึ่งกล่อมคนไทยงมงายด้วยประชานิยม อีกข้างหนึ่งเร่งช่วยนายใหญ่ดูไบ” กม. นิรโทษสะดุดก็ใช้ฎีกาพระราชทานอภัยโทษ โดยสำรอง ฟอกคดีที่ดินรัชดา ไว้อีกชั้นหนึ่ง ยิ่งนายกเงา บิ๊กเหลิม อ้างมี ๑๕ ล้านเสียงกาเบอร์ ๑ เพื่อไทยเป็น “ตรายาง” อยากทำอะไรก็ได้ ตรีศูลว่าน่ากลัว เพราะยังมีอีก ๕๐ ล้านเสียงไม่คิดเช่นนั้น...”
     วันนี้ “ยิ่งลักษณ์โมเดล” ไม่ล้างแค้น แต่ล้างบาง ..แป๊บๆหลัง รมว. ทรัพยากรฯ ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ย้ายอธิบดีกรมอุทยานเปิดทางเด็กยุทธ์ตู้เย็น ดำรง พิเดช คัมแบ๊ก..

       ผมอ่านตรีศูลด้วยความเข้าใจในจิตใต้สำนึกของเขา...ตรีศูลยังคงดักดานอยู่กับความเชื่อที่ผิด ๆ กับตัวท่านทักษิณ เลยเป็นเหตุให้มองผิด ๆ มาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทั้งหมด สรุปแล้วได้ความว่ามันเป็นปฏิบัติการคู่ขนาน มือข้างหนึ่งกล่อมคนไทย “งมงาน” กับประชานิยม มืออีกข้างช่วยนายใหญ่ดูไบ

      ตรีศูลหนอตรีศูล...คุณไม่เคยเข้าใจถูกมาก่อนเลยว่าพวกอำมาตย์ไดโนเสาร์เอาแต่ฆ่าคน คุณไม่เคยแสดงความสมเพทเวทนาในความตายของประชาชน

                ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ / ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ !

                พฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ มาจนถึง ราชดำเนิน-ราชประสงค์

      เหตุการณ์เหล่านี้มีแต่ความตาย...หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ไม่ใช่ไม่เห็น...พวกคุณเห็นตำตา แต่ไม่เคยปรากฏว่าพวกคุณจะเข้าใจ พวกคุณบิดเบือนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

                กรณีของทักษิณ ที่ระหกระเหิรอยู่ต่างแดน ยึดนครดูไบเป็นแหล่งพักพิง ไม่ยอมเดินทางกลับประเทศไทยให้ถูกจับยัดคุก ก็เพราะตระหนักแก่ใจว่า “ ประเทศไทยไม่ให้ความเป็นธรรม” อย่างเดียวยังไม่พอ มันยังมีความ “ไม่ปลอดภัย” ซ่อนอยู่ในมุมมืด ที่สามารถหยั่งรู้ว่าภัยมหันต์ นอนรอยู่ในคุก

                ยอมเข้าคุกเมื่อไหร่ตายเมื่อนั้น...เห็นไหม ท่านสมัคร อยู่นอกคุกยังตาย ?

                ตรีศูลครับ...คุณเป็นนักหนังสือพิมพ์ใหญ่ ชื่อเสียงโด่งดัง คุณตระหนักดีว่าศาลคือที่พึ่งสูงสุดของประชาชนทุกหมู่เหล่า ศาลอาศัยกฎหมายฉบับเดียวตัดสินคดีความแก่คนทุกชั้นทั้งประเทศ

                แต่สำหรับ “ศาลรัฐธรรมนูญ” และ กกต. และอะไรต่อมิอะไรที่ตั้งขึ้นมาไล่ล่าทักษิณ ไม่มีความเป็นธรรมดอกท่าน (จะบอกให้) ทั้งนี้เนื่องจากการตัดสินได้ใช้ “การลงมติ” เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย  แล้วก็ตัดสินไปตามเสียงส่วนใหญ่ แม้ไม่เป็นเอกฉันท์ก็ตัดสินได้ แล้วมันเป็นธรรมตรงไหน ?

                ประเทศไหนใช้การลงมติเป็นเกณฑ์ตัดสิน
                ประเทศนั้นจะเต็มไปด้วยนรก “อยุติธรรม”

                คุณตรีศูล...เคยค้นหาความลี้ลับตรงนี้ไหม...แล้วเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ คตส. และ กกต. อย่างไร...? ถ้าคุณไม่ยอมค้นหาความลี้ลับ สติปัญญาของคุณไม่แตกต่างจากไดโนเสาร์ชั้นเลว ไม่รู้ว่าหางของตัวเองอยู่ทางก้น ?

                พวกไดโนเสาร์ชั้นเลวพวกนี้เป็นสื่อปฏิกิริยาทั้งขึ้นทั้งล่อง !
                                                                                                                “ขอม ดำดิน”
http://redusala.blogspot.com