8 เม.ย.2559 จากกรณีที่ ภาวิณี ชุมศรี ทนายความผู้รับมอบอำนาจดำเนินคดีแทน สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ฟ้องคดี โดยฟ้องมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.)เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เพื่อขอเพิกถอนคำสั่งลงโทษไล่ออกจากราชการต่อศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ บ.408/2558
โดยจากเดิมที่ศาลปกครองกลางมีนัดอ่านคำพิพากษาในคดีดังกล่าวในวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่กลับถูกเลื่อนออกไป ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ศาลปกครองกลางส่งหมายแจ้งผู้รับมอบอำนาจจาก สมศักดิ์ นัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าว ในวันที่ 11 เม.ย. นี้ เวลา10.00 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 10 ชั้น 3 ศาลปกครองกลาง ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถ.แจ้งวัฒนะ
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยังรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า คดีนี้ศาลปกครองกลางเคยนัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ภาวิณี ทนายความผู้รับมอบอำนาจดำเนินคดีแทน สมศักดิ์ ได้แถลงด้วยวาจาสรุปประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของคดีต่อหน้าองค์คณะตุลาการ และตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นว่า คำสั่งไล่ สมศักดิ์ ออกจากราชการเป็นคำสั่งทางปกครองที่มิชอบด้วยกฎหมายและให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งความเห็นดังกล่าวตามกฎหมายแล้วไม่ผูกพันต่อองค์คณะตุลาการศาลปกครองในคดีนี้
โดยตุลาการผู้แถลงคดีอ่านความเห็น โดยสรุปได้ว่า มีประเด็นที่ต้องพิจารณาประเด็นแรก คือ การกระทำของ สมศักดิ์ ผู้ฟ้องคดี เป็นการกระทำที่ผิดวินัยร้ายแรงหรือไม่ และประเด็นที่สอง คำสั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ 356/2558 คำสั่งที่ ศธ. 0592(3)1.9/6266 ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตุลาการผู้แถลงคดีมีความเห็นให้เพิกถอนคำสั่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ไล่ออกผู้ฟ้องคดีจากราชการ โดยให้เหตุผลว่า ผู้ฟ้องคดีมีเหตุอันตรายถึงแก่ชีวิตและเสรีภาพ จนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ เมื่อมีคำสั่งเรียกกลับมาสอน ผู้ฟ้องได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการทันที ไม่ได้ยื่นล่วงหน้าตามประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการการลาออกจากตําแหน่งบริหารแต่ถือได้ว่ามีเหตุผลจำเป็นพิเศษแล้ว
นอกจากนี้ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มธ.ยัง ได้อนุมัติให้ผู้ฟ้องคดีลาไปเพิ่มพูนความรู้ทางวิชาการในต่างประเทศ ในความเห็นของตุลาการผู้แถลงคดี เห็นว่าในทางปฏิบัติผู้ฟ้องคดีได้ลงไปเพิ่มพูนความรู้ จึงถือไม่ได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีจงใจละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ราชการติดต่อกันในคราวเดียวเป็นเวลา 15 วัน โดยมีพฤติการณ์อันแสดงถึงความจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ คำสั่งไล่ออกจากราชการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ 356/2558 คำสั่งที่ ศธ. 0592(3)1.9/6266 จึงเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นควรให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว
ทั้งนี้ ภาวิณี ทนายความผู้รับมอบอำนาจช่วงจากผู้ฟ้องคดีเห็นว่า แถลงการณ์ของตุลาการผู้แถลงคดีดังกล่าวเป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟ้องคดีอย่างยิ่ง แม้ว่าความเห็นดังกล่าวจะไม่ผูกพันองค์คณะเจ้าของสำนวนในการทำคำพิพากษาก็ตาม