วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554


นิติราษฎร์ ผู้อาจกล้า!
          
          http://www.dailyworldtoday.com/newsblank.php?news_id=12294

       เรื่องจากปก
         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ วันสุข
         ปีที่ 7 ฉบับที่ 330 ประจำวัน จันทร์ ที่ 3 ตุลาคม 2011

   
          นิติราษฎร์ ผู้อาจกล้า!

           ข้อเสนอทางวิชาการ 4 ประเด็นเพื่อลบล้างผลพวงจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ในประกาศนิติราษฎร์ของคณะนิติราษฎร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฎร เนื่องในโอกาส “5 ปีรัฐประหาร 1 ปีนิติราษฎร์” เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2554 กลายเป็นประเด็นร้อนทั้งทางการเมืองและวิชาการที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และตอบโต้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนายทหารที่ทำรัฐประหาร 19 กันยายน อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่แต่งตั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีการตั้งคำถาม ตีความ และบิดเบือนข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ จนคณะนิติราษฎร์ต้องแถลงข่าวชี้แจงเพิ่มเติมอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา

ข้อเสนอ 4 ประเด็น ประกอบด้วย

1.ให้ลบล้างผลพวงของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
2.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
3.กระบวนการยุติธรรมกับผู้ต้องหาหรือจำเลย และเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายภายหลังรัฐประหาร 19 กันยายน และ
4.ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 และให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งคณะนิติราษฎร์ให้เหตุผลว่า
“เพื่อมิให้การรัฐประหารทำลายหลักการอันเป็นรากฐานของนิติรัฐประชาธิปไตยจนหมดสิ้น คณะนิติราษฎร์เสนอให้มีการจัดทำ “คำประกาศว่าด้วยคุณค่าอันเป็นรากฐานของระบอบเสรีประชาธิปไตย” แม้คำประกาศดังกล่าวจะไม่มีสถานะเป็นกฎหมาย แต่คำประกาศดังกล่าวเป็นวิญญาณของระบอบเสรีประชาธิปไตยที่ไม่มีบุคคลใดหรือไม่มีวิธีใดทำลายหรือทำให้สูญสิ้นไปได้”

จุดยืนคณะนิติราษฎร์

คณะนิติราษฎร์เป็นนักวิชาการจากคณะนิติ ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ประกอบด้วย อาจารย์วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนพานิช อาจารย์ธีระ สุธีวรางกูร อาจารย์ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์ฐาปนันท์ นิพิฏฐกุล อาจารย์จันทจิรา เอี่ยมมยุรา อาจารย์สาวตรี สุขศรี และอาจารย์ปูนเทพ ศิรินุพงศ์ ไม่ได้เพิ่งเป็นข่าว แต่ได้แสดงความกล้าหาญคัดค้านและประณามการทำรัฐประหาร 19 กันยายนตั้งแต่เริ่มต้น โดย 4 อาจารย์ได้ออกแถลงการณ์ฉบับแรกประณามการทำรัฐประหารว่าเป็นการฉีกรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ถือว่าไม่เคารพและย่ำยีอำนาจการตัดสินใจของประชาชนในการเลือกผู้บริหารประเทศตามครรลองระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งทำลายเสรีภาพในการแสดงความเห็นและจำกัดสิทธิของประชาชนที่มิอาจรับได้

หลังจากนั้นได้เปิดเว็บไซต์ “คณะนิติราษฎร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฎร” (www.enlightened-jurists.com) เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2553 ซึ่งได้ร่วมกับเพื่อนอาจารย์เพื่อรวบรวมผลงานและบทวิเคราะห์ทางวิชาการ โดยให้เหตุผลว่า
“อาจารย์กลุ่มเล็กๆกลุ่มนี้ได้ทำหน้าที่ของตนอย่างกล้าหาญ โดยการออกแถลงการณ์โต้แย้งผู้มีอำนาจในบ้านเมืองโดยการชี้แจงข้อกฎหมายต่างๆอย่างตรงไปตรงมาตามหลักนิติรัฐ และการทำหน้าที่ของกลุ่ม 5 อาจารย์ก็คงเปรียบเหมือนกับบ่อน้ำที่ราษฎรทั้งหลายจะมาตักดื่มเพื่อดับความกระหายใคร่รู้ในความเป็นประชาธิปไตย และกลุ่มนี้ก็จะทำหน้าที่ในการตอบคำ ถามกฎหมายที่สอดคล้องกับแนวทางประชาธิปไตยและความเป็นธรรมมาตลอด”
โดยเฉพาะอาจารย์วรเจตน์ได้แสดงความเห็นทางวิชาการทางกฎหมายที่ต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตยมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดเสวนาเพื่อให้เกิดการปฏิรูปกองทัพ กระบวนการยุติธรรม การเมือง และการปรับปรุงมาตรา 112
ทุบกล่องดวงใจเผด็จการ

จึงไม่แปลกที่คณะนิติราษฎร์จะถูกกล่าวหาและยัดเยียดในแง่ลบต่างๆว่ารับงานหรือรับใช้ “ระบอบทักษิณ” จาก “กลุ่มเกลียดทักษิณ” ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการด้วยกัน ภาคประชาชน นักการเมือง หรือผู้นำกองทัพ โดยเฉพาะข้อเสนอ 4 ประเด็นล่าสุดที่เหมือนทุบ “กล่องดวงใจ” เผด็จการหรือคณะรัฐประหารและพวกพ้อง เพราะเป็นการประกาศความเสียเปล่าของผลพวงรัฐประหาร โดยเฉพาะคำพิพากษาของศาลและมาตรา 36-37 รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2549 ที่คณะรัฐประหารออกมาเพื่อนิรโทษกรรมตัวเอง (อ่านเพิ่มเติมข่าวไร้พรมแดนหน้า 5 และฟังจากปากหน้า 18)
ที่สำคัญการลบล้างผลพวงรัฐประหารยังเป็นการเปิดให้กระบวนการยุติธรรมสามารถเริ่มต้นใหม่ ซึ่งอาจมีผลต่อการฟ้องคณะรัฐประหาร คตส. คณะรัฐมนตรี และบรรดาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่เป็นผลพวงจากรัฐประหาร อย่างที่ ร.ต.ฉลาด วรฉัตร เคยฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นกบฏมาแล้ว แต่ศาลยกฟ้องเพราะมาตรา 36-37 ทั้งยังเป็นการปิดประตูตายไม่ให้เกิดการรัฐประหารในไทย ซึ่งไทยถือเป็นประเทศที่มีการรัฐประหารมากเป็นอันดับ 4 ของโลกจากข้อมูลของ The Center for Systemic Peace (CSP) ที่รวบรวมข้อมูลการทำรัฐประหารทั่วโลกตั้งแต่ปี 1946-2010 โดยซูดานมากที่สุด 31 ครั้ง รองลงมาคืออิรัก 24 ครั้ง โบลิเวีย 19 ครั้ง และไทย, กินีบิสเซา, ซีเรีย, โตโก 17 ครั้ง
เรียงหน้าอัดนิติราษฎร์

ที่น่าสังเกตคือกลุ่มที่ออกมาคัดค้านและโจมตีข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์นอกจากพยายามบิดเบือนไปถึงเรื่องการรับใช้ระบอบทักษิณหรือกลุ่ม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว ยังเน้นไปที่มาตรา 112 ว่าไม่ควรแตะต้องสถาบันเบื้องสูง โดยเฉพาะ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชา การทหารสูงสุด และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ใช้วาทกรรมที่ถนัดว่า ไม่เข้าใจว่าทำไมกลุ่มนิติราษฎร์จึงก้าวล่วงถึงขนาดให้ลบล้างคำพิพากษา เหมือนเป็นการเจาะจงเพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่มเท่านั้น ส่วนนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ จัดหนักกล่าวหาว่ากลุ่มนิติราษฎร์ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างเป็นขั้นตอนและระนาบเดียวกันนั้นรับงานจากใคร กลุ่มใด และมีผลประโยชน์อะไรหรือไม่ เพราะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐ นิติธรรมของชาติ
“คนเราแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ว่าต้องการอะไร ที่สุดแล้วการเสนอเรื่องนี้จะเป็นการเพิ่มปมความขัดแย้งแตกแยกในสังคมไทยให้มากขึ้น”

อดีต “คตส.-ส.ส.ร.” ร้อนฉ่า!

นายสัก กอแสงเรือง อดีต คตส. ออกมาตอบโต้กลุ่มนิติราษฎร์โดยอ้างในฐานะตัวแทนสภาทนายความว่า สิ่งที่กลุ่มนิติราษฎร์เสนอจะให้ลบล้างคำพิพากษาและการกระทำที่เสียเปล่านั้น ในนานาอารยประเทศเป็นกรณีการกระทำที่เกิดขึ้นจากอำนาจเผด็จการที่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งแตกต่างจากเหตุการณ์ในไทยที่มีการรัฐประหารและทำการตรวจสอบความผิดของผู้มีอำนาจบริหารประเทศที่ใช้อำนาจแสวงหาประ-โยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง ข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์จึงเอื้อประโยชน์กับอดีตนักการเมืองมากกว่าจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับสังคม ซึ่งการฉ้อราษฎร์บังหลวงของนักการเมืองนั้นเลวร้ายกว่าการรัฐประหาร

ด้านนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. อดีต ส.ส.ร. และเลขานุการคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ตอบโต้กลุ่มนิติราษฎร์ผ่านเฟซบุ๊คว่า ยังมีอาจารย์ มธ. ส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์ พร้อมตั้งคำถาม 15 ข้อ เช่น คมช. เลว รัฐธรรมนูญ 2550 มาจาก ส.ส.ร. เลว แต่รัฐบาลที่มาจากรัฐธรรมนูญเลวเป็นรัฐบาลดีใช่หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญช่วย พ.ต.ท.ทักษิณคดีซุกหุ้นถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ช่วยคดียึดทรัพย์ถือว่าใช้ไม่ได้ เป็นตุลาการภิวัฒน์ใช่หรือไม่ ถ้ายกเลิกกฎหมายที่ถูกยกเลิกไปแล้วได้ จะล้มเลิกการกระทำทั้งหลายและลงโทษคณะรัฐประหารกี่ชุด หรือจะลงโทษเฉพาะคณะรัฐประหารที่กระทำต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แย่กว่ารัฐธรรมนูญปี 2540, 2475 ที่นิติราษฎร์จะนำมาใช้ใช่หรือไม่ ฯลฯ

อดีตคณบดีโต้อธิการบดี!

ขณะที่นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มธ. ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.ร. ร่างรัฐธรรมนูญปี 2540 ตอบคำถามนายสมคิด โดยสนับสนุนข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ว่า กลุ่มนิติราษฎร์ไม่ได้เสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2549 แต่ให้ถือว่าการนิรโทษกรรมแก่ผู้ทำรัฐประหารตามมาตรา 37 ไม่เกิดผลตามกฎหมาย ส่วนตุลาการภิวัฒน์คือตุลาการที่ยอมเป็นเครื่องมือและอาวุธให้กับผู้มีอำนาจใช้ประหัตประหารและทำลายล้างศัตรูของตน ตุลาการศาลทั้งในคดีซุกหุ้นและคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณจึงเป็นตุลาการภิวัฒน์ด้วยกันทั้งสิ้น เพียงแต่ในคดีซุกหุ้นตุลาการภิวัฒน์เป็นฝ่ายแพ้
ส่วนคำถามว่าหาก คมช. เลว ส.ส.ร. เลว รัฐธรรมนูญและรัฐบาลที่เป็นผลพวงนั้นจะเลวด้วยหรือไม่นั้น นายพนัสตอบว่า ไม่ใช่เรื่องใครดีใครเลว แต่เป็นเรื่องของหลักการในทางนิติ ศาสตร์ที่ต้องมีการยืนยันระหว่างอำนาจรัฐกับเสรีภาพของประชาชน และระหว่างระบอบเผด็จการกับระบอบประชาธิปไตย ซึ่งนักกฎหมายควรยืนอยู่ข้างใดมากกว่า ฯลฯ ทั้งยังให้นายสมคิดเสนอความเห็นที่ดีกว่าของกลุ่มนิติราษฎร์ด้วยว่าเป็นอย่างไร ถ้าดีกว่าจริงก็จะสนับสนุนเต็มที่ในฐานะนักกฎหมายด้วยกัน

จุดแสงสว่างต้านรัฐประหาร

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ไม่ใช่แค่การตอบโต้กันของฝ่ายที่คัดค้านหรือฝ่ายสนับสนุนในวงจำกัดเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่าคณะนิติราษฎร์ได้จุดประกายให้ประชาชนและสังคมไทยเห็นทางสว่างที่จะต่อต้านการรัฐประหาร
อย่างที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทย เขียนผ่านเฟซบุ๊คว่า กลุ่มนิติราษฎร์มีความกล้าที่จะยืนยันหลักการและจิตวิญญาณของประชาธิปไตย ชี้แจงข้อเสนออย่างมีหลักการและเหตุผล ไม่เหมือนนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ได้พูดถึงหลักการเกี่ยวกับประชาธิปไตยหรือการรัฐประหาร ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลยแม้แต่น้อย

นายรุจ ธนรักษ์ นักเขียนอิสระ เห็นว่าสิ่งที่คณะนิติราษฎร์ทำเสมือนจุดไฟแห่งปัญญาให้สังคมที่กำลังมืดมิด ซึ่งคือ “หน้าที่” โดยตรงของนักวิชาการที่มีต่อสังคม เป็นหลักคิดที่ควรได้รับการ “ปลูกฝัง” และต่อยอดไปเรื่อยๆ เพื่อให้คนไทยเชื่อกันจริงๆเสียทีว่าอำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของพรรคการเมือง ของทหาร หรือของเทวดาที่ไหน

“ลองคิดดูว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยเพียง 7 คน เขียนข้อเสนอเพียง 4 หน้ากระดาษแล้วตั้งโต๊ะแถลงข่าวใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง วันรุ่งขึ้นผู้มีอำนาจทั้งหลายในประเทศล้วนเป็นเดือดเป็นร้อนกันไปหมดกับแนวทางที่พวกเขานำเสนอ ทั้งที่พวกเขาไม่มีปืน ไม่มีเงิน และไม่มีกระทั่งฐานการเมือง มวลชน สิ่งที่อาจารย์กลุ่มนี้ทำให้พวกเราเห็นคือการบอกว่าในการจะสู้กับปิศาจนั้นเราไม่จำเป็นต้องขายวิญญาณให้ปิศาจอีกตนหนึ่งเพื่อเอาอำนาจดิบเถื่อนมาปราบปิศาจตนแรก เราสู้กับปิศาจได้ด้วยแสงสว่าง ด้วยความรู้ ด้วยเหตุผล ด้วยปัญญา และปิศาจทุกเผ่าพันธุ์เหมือนกันหมด พวกมันกลัวแสงสว่าง”
สารถึงผู้รักในนิติรัฐ-ประชาธิปไตย

ล่าสุดอาจารย์คณะนิติราษฎร์ได้ประกาศนิติราษฎร์หลังจากมีทั้งผู้คัดค้านและสนับสนุนว่า มีผู้เขียนบทความ จดหมาย คำกลอน รวมทั้งส่งอีเมล์ถึงคณะนิติราษฎร์จำนวนมาก ทั้งให้กำลังใจ สนับสนุนข้อเสนอ รวมทั้งเสนอแนะเพิ่มเติม ทั้งตั้งคำถาม แสดงความไม่เห็นด้วย หรือต่อว่าด่าทอ คณะนิติราษฎร์จึงส่งสารผ่านเว็บไซต์นิติราษฎร์ว่า
“คณะนิติราษฎร์ได้รับสารเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว และขอขอบคุณในทุกคำให้กำลังใจและสนับสนุนของประชาชนผู้มีใจรักในนิติรัฐประชาธิปไตย และปฏิเสธไม่ก้มหัวหรือยอมจำนนต่อรัฐประหารไม่ว่า ณ เวลาใดๆ ขอขอบคุณและชื่นชมทุกท่านที่พร้อมร่วมกันยืนยันว่าในที่สุดแล้วประชาชนคือรัฏฐาธิปัตย์ที่แท้จริงในระบอบประชาธิปไตย เป็นผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ และมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ในการลบล้างผลพวงจากการประกอบอาชญากรรมยึดอำนาจไปจากมือประชาชน

คณะนิติราษฎร์จะน้อมรับและตอบข้อสงสัยในคำวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอก็ต่อเมื่อบุคคลหรือกลุ่มบุคคลเหล่านั้นได้อ่านและทำความเข้าใจทุกถ้อยแถลงของข้อเสนออย่างละเอียดเพียงพอแล้ว ด้วยจิตใจที่เปิดกว้าง วิจารณ์อยู่บนพื้นฐานหลักการแห่งกฎหมาย และขอแสดงความเสียดาย แต่ไม่แสดงความท้อใจเมื่อเราพบว่ายังมีคนอีกจำนวนหนึ่งที่จำนนต่อรัฐประหาร พร้อมสยบยอมต่ออำนาจอื่นใด เหยียบย่ำหลักการ และมองข้ามหัวประชาชน”
กระดิ่งผูกคอแมว

การเคลื่อนไหวของอาจารย์คณะนิติราษฎร์จึงเป็นความกล้าหาญที่เต็มไปด้วยอันตราย เพราะต้องยอมรับว่าประเทศไทยยังมี “อำนาจนอกระบบ” ที่มองเห็นและมองไม่เห็น ซึ่งทุกข้อเสนอล้วนเป็นประเด็นละเอียดอ่อนและกระทบโดยตรงกับการเมืองการปกครองในระบอบประ-ชาธิปไตยแบบไทยๆที่ยังถูกหมกเม็ดจาก “อำนาจนอกระบบ” ไม่ใช่แค่อำนาจของกองทัพที่สามารถทำรัฐประหารได้ตลอดเวลาเท่านั้น

ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการจุดไฟแห่งความหวังและความกล้าหาญให้กับผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในการต่อสู้กับอำนาจเผด็จการ เหมือนหนูในนิทานอีสปที่ “เอากระดิ่งไปผูกคอแมว” เป็นเรื่องของหนูที่ถูกเจ้าแมวอ้วนใหญ่จับกินตัวแล้วตัวเล่า จึงต้องหารือกันว่าจะทำอย่างไรให้รอดพ้นจากเจ้าแมวอ้วนตัวนี้ จนมีหนูฉลาดเสนอให้เอากระดิ่งไปผูกที่คอแมว เพื่อเวลาแมวเดินมาจะได้ยินเสียงและจะได้หลบทัน ซึ่งหนูทุกตัวต่างก็เห็นดีเห็นงามด้วย
แต่ปัญหาคือหนูตัวไหนจะ “กล้าหาญ” เอากระดิ่งไปผูกคอแมวอย่างคณะนิติราษฎร์!

ที่มา : นิตยสารโลกวันนี้วันสุข ปีที่ 7 ฉบับ 330 วันที่ 1 - 7 ตุลาคม 2554  พ.ศ. 2554
หน้า 16 คอลัมน์ เรื่องจากปก โดย ทีมข่าวรายวัน
http://redusala.blogspot.com

"สมคิด" จนแต้ม! ลบเพจหนี "ลูกสาวปรีดี" เดือดฉะ 
"ขอบคุณที่เปรียบปรีดีกับถนอม,จอมพลป.

"สมคิด" จนแต้ม! ลบเพจหนี "ลูกสาวปรีดี" เดือดฉะ "ขอบคุณที่เปรียบปรีดีกับถนอม,จอมพลป.
[ภาพ: 297002_2344485606628_1084627571_2713347_278817095_n.jpg]
"ดุษฏี พนมยงค์" เดือดฉะ อธิการ มธ. "ขอบคุณที่เปรียบปรีดี กับ ถนอม, จอมพล ป."

ร้อนกลายเป็นประเด็น เมื่อการเขียนโต้ตอบระหว่างอธิการบดี มธ. นายสมคิด
เลิศไพทูรณ์ กับผู้ไม่เห็นด้วยกรณีคณะนิติราษฏร์ ออกแถลงการณ์
การเขียนตอบโต้ของอธิการบดี ได้มีคำพูดกล่าวพาดพิง ท่านปรีดี
พนมยงค์ ผู้ประสาทการมหาวิทยาลัย

เมื่อคืน คุณดุษฏี พนมยงค์ บุญทัศนกุล ได้ออกมาตั้งคำถามถึงอธิการบดีว่า
ท่านปรีดีเกี่ยวข้องอะไรกับการรัฐประหาร และแสดงความไม่พอใจที่
อธิการบดี นำท่านปรีดี มาเทียบเท่าเผด็จการเช่น จอมพล ป. สฤษดิ์
ประภาส ถนอม รวมทั้ง สุจินดา คราประยูร

http://www.go6tv.com/2011/09/blog-post_29.html

อธิการบดี "สมคิด" จนแต้ม! ลบเพจหนี "ลูกสาวปรีดี"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ตั้งคำถาม 15 ข้อ ฝากไปยังนักวิชาการ "คณะนิติราษฎร์"
ในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีคำถามข้อหนึ่งระบุว่า "ถ้าเรายกเลิกกฎหมาย
ที่ถูกยกเลิกไปแล้วได้ เราจะล้มเลิกการกระทำทั้งหลายและลงโทษ
คณะรัฐประหารกี่ชุด สุจินดา ถนอม ประภาส สฤษดิ์ จอมพล ป. อ.ปรีดี
หรือจะลงโทษเฉพาะคณะรัฐประหารที่กระทำต่อนายกฯทักษิณ"

ส่งผลให้นางดุษฎี บุญทัศนกุล บุตรสาวนายปรีดี พนมยงค์ ผู้ประศาสน์การ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ถูกนายสมคิดกล่าวอ้างถึงในคำถามดังกล่าว
เข้ามาโพสข้อความในหน้ากระดานเฟซบุ๊กของอธิการบดีมหาวิทยาลัย
ธรรมศาสตร์คนปัจจุบันว่า

"อาจารย์เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าคะ ที่พูดพาดพิงถึงนายปรีดีเกี่ยวกับ
การรัฐประหาร ( เห็นข่าวจากนสพ.หลายฉบับ ) โปรดอธิบายด้วย"

ต่อมา นายสมคิดได้เข้ามาตอบคำถามของนางดุษฎีว่า "ผมเข้าใจท่านปรีดี
ดีครับ การรัฐประหารกับการปฏิวัติต่างกันครับ แต่อยากให้ผู้คนได้คิดห
าเหตุผลตรึกตรองในเรื่องต่างๆ"

จากนั้นบุตรสาวนายปรีดีจึงเข้ามาพิมพ์โต้ตอบกลับอีกสองข้อความว่า
"กลับไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของอาจารย์ต่อสาธารณชนก่อนค่ะ" และ
"ขอบคุณค่ะ ที่นำปรีดี มาเทียบเท่ากับ สุจินดา ถนอม ประภาส สฤษดิ์
จอมพลป."

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 29
กันยายน เมื่อตรวจสอบไปที่หน้ากระดานเฟซบุ๊กของนายสมคิดอีกครั้งหนึ่ง
พบว่า ข้อความโต้ตอบระหว่างนางดุษฎีและนายสมคิดได้ถูกลบหายไปแล้ว
*****************************************

ปรับขนาดรูปภาพอัตโนมัติ 20% (640x432). ขนาดเดิมคลิกที่แถบนี้ (800x540). เปิดหน้าใหม่ คลิกที่รูปภาพ.
[ภาพ: 13172768501317296114l.jpg]


ขอขอบคุณมติชนออนไลน์
เขียนโดย JJ_Sathon http://www.go6tv.com/2011/09/blog-post_4957.html




****************************************************

ทายาทปรีดีถาม "สมคิด" เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เอาปรีดีไปเปรียบสุจินดา

นางดุษฎี บุญทัศนกุล บุตรสาวของนายปรีดี พนมยงค์ ผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหนึ่งในผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิ.ย. 2475 ถามข้อข้องใจต่อสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กรณีที่นายสมคิดพาดพิงถึงนายปรีดีในฐานะเป็นผู้ทำรัฐประหาร
โดยนางดุษฎี เข้าไปโพสต์คำถามลงในเฟซบุ๊กของนายสมคิด ซึ่งตั้งค่าความเป็นส่วนตัวให้สามารถเปิดให้อ่านได้ทั่วไปว่า "อาจารย์เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่าคะ ที่พูดพาดพิงถึงนายปรีดี เกี่ยวกับการรัฐประหาร(เห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับ) โปรดอธิบายด้วย
นายสมคิด กล่าวตอบว่า "ผมเข้าใจท่านปรีดีดีครับ การรัฐประหารกับการปฏิวัติต่างกันครับ แต่อยากให้ผู้คนได้คิดหาเหตุผลตรึกตรองในเรื่องต่างๆ"
นางดุษฎี บุญทัศนกุล โพสต์ตอบว่า "กลับไปอ่านคำให้สัมภาษณ์ของอาจารย์ต่อสาธารณชนก่อนค่ะ" และ "ขอบคุณค่ะ ที่นำปรีดี มาเทียบเท่ากับ สุจินดา ถนอม ประภาส สฤษดิ์ จอมพลป."
ก่อนหน้านี้ นายสมคิดได้โพสต์คำถาม 15 ข้อที่เขามีต่อกลุ่มอาจารย์นิติราษฎร์ลงในเฟซบุ๊กของเขาเอง และได้รับการเผยแพร่ซ้ำในสื่อมวลชนหลายแขนง คำถามที่พาดพิงถึงนายปรีดีในฐานะผู้ทำรัฐประหาร คือคำถามในข้อ 11 ซึ่งระบุว่า "ถ้าเรายกเลิกกฎหมายที่ถูกยกเลิกไปแล้วได้ เราจะล้มเลิกการกระทำทั้งหลายและลงโทษคณะรัฐประหารกี่ชุด สุจินดา ถนอม ประภาศ สฤษฏ์ จอมพล ป. อ.ปรีดี หรือจะลงโทษเฉพาะคณะรัฐประหารที่กระทำต่อนายกทักษิณ"
สำหรับบทสนทนาดังกล่าว เป็นที่ฮือฮาในบรรดาผู้เล่นเฟซบุ๊กจำนวนหนึ่งที่ติดตามวิวาทะอันเกิดจากข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนับจากการแถลงข่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีการการแคปเจอร์หน้าจอแชร์ไฟล์ภาพบทสนทนาดังกล่าวตลอดเช้าวันนี้

http://redusala.blogspot.com

ต่อต้านโผทหาร ที่สังหารประชาชน
 
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
    
http://redusala.blogspot.com

จารึกการ์ตูนเซียร์


ละครนี้เขียนจากคน..หรือธรรมชาติครับ?



ยามเปลวแดด..แผดเผา.. จนเร่าร้อน
แต่เก่าก่อน..เคยร่มเย็น..เป็นสุขสันต์
ท้องฟ้าสวย..กลับมืดมิด..สนิทพลัน
เหลือ..แค่อดีต..แห่งฝัน..ผูกพันใจ....



ขมุกขมัว..สลัวเลือน..เหมือนลอยลับ
ซากย่อยยับ..ดับสนิท..จิตหวั่นไหว
คลื่นน้ำซัด..ถาโถม..โหมเข้าไป
แน่นฤทัย..เจ็บปวด..รวดร้าวระทม....



ธรรมชาติ..แยกเขี้ยว..เที่ยวไล่ล่า
สร้างสิ่งทุกข์..และน้ำตา..พาขื่นขม
ทั้งเรือกสวน..ไร่นา..มาล่มจม
วิโยคตรม..ทั่วถิ่น..แผ่นดินไทย....



กทม. ...ร้อนเปลวแดด..มันแผดเผา
พี่น้องเรา..ทั่วทุกคน..หม่นหมองไหม้
หอบข้าวของ..หนีน้ำ..ชอกช้ำใจ
ละครนี้..ตอบได้ไหม..ใครเขียนมา....



ขอให้กำลังใจพี่น้องที่กำลังเดือดร้อนทุกคนครับ
๓ บลา / วันอาทิตย์สีแดง ๒ ต.ค.๕๔

วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 01/10/54 หน่วยกล้าตาย



นิติราษฎร์หน่วยกล้า...ยอมตาย
วิชาการมั่นหมาย...มุ่งแก้
ลิ่วล้อกวาดทวนกราย...กรีดกราด
แสดงตัวกร่างแท้...หน่อเนื้อ เผด็จการ



ทหารทะเหรี่ยร้อง...อย่าแหยม
ตัวแค่แมงหวี่แวม...หิ่งห้อย
รัฐประหารเยี่ยมแย้ม...หยันขู่
ประสานเสียงติดต้อย...ร่วมต้าน ‘ธิปไตย



นิติราษฎร์ ประกาศสู้... พวกหมาหมู่ เห่าหอนใหญ่
ล้วนพวก ที่ร่วมใจ...ลงขันใส่ ไล่ทักษิณ



เหตุผล ทนไม่ได้...ที่จะให้ รากหญ้ากิน
ได้ดี มีทรัพย์สิน...ทางหากิน ด้วยตัวเอง



ปลดหนี้ ไม่ต้องกู้...นายทุนผู้ ขู่ข่มเหง
ไม่ต้อง หนีนักเลง...ไม่ต้องเกรง ใครย่ำยี



กองทุน หมู่บ้านออก...ไม่กลัวดอก ทบต้นจี้
โอทอป ตำบลมี...ค้าขายดี มีทางไป



ทักษิณ มันชั่วช้า...ทำขี้ข้า พ้นจากไพร่
ไล่ฟัด ยัดขี้ให้...ทำท่าไหน ไม่ตายพ้น



จำต้อง รัฐประหาร...เพื่อล้างผลาญ แค่หนึ่งคน
ประเทศ ต้องอับจน...ประชาชน ทุกข์รันทด



ตราชั่ง ก็พังสิ้น...ทั้งแผ่นดิน บิ่นเบี้ยวหมด
สัมพันธ์ ประเทศหด...เพราะไล่ล่า ฆ่าคนเดียว



นิติราษฎร์ บังอาจขืน...มารื้อฟื้น ให้หวาดเสียว
ดาหน้า มากันเชียว...กลัวเรื่องเลี้ยว เฉี่ยวเข้าตัว



บรรจงเรียงร้อย คำนิราศ วันนี้โดย ท่านห้าบี (BBBBBFC)
ขอบคุณครับ

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2554

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 30/09/54 อัศวินผู้กล้า..กับขี้ข้าเผด็จการ



อัศวิน ผู้กล้า เปิดหน้าสู้
ให้โลกรู้ พวกคนระยำ ทำรัฐประหาร
คือผลพวง ความชั่วช้า สุดสามานย์
สืบสันดาน อมนุษย์ สุดแสนเลว....


พอคิดแพ้ แล้วพาล..เหมือนมารขย้ำ
กี่ระยำ ที่เร่งรุด ฉุดลงเหว
ใช้เขี้ยวเล็บ รุกไล่ สุมไฟเปลว
จนแหลกเหลว นิติรัฐ ขัดคุณธรรม....


พวกขี้ข้า เผด็จการ พวกมารสถุน
รุ่นสู่รุ่น หวังจงใจ ใฝ่ถลำ
อย่าถามหา สัจจะชน คนใจดำ
แค่เพ้อพร่ำ ซ้ำซาก ทาสกากเดน....


ผ่านกี่ยุค กี่สมัย ใครเหลวแหลก
สร้างแตกแยก กี่สมัย ใครก็เห็น
สร้างระยำ กี่สมัย ใครเบี่ยงเบน
สร้างทุกข์เข็ญ กี่สมัย ใครรุกราน....


ให้กำลังใจ นิติราษฎร์ ผงาดสู้
ยืนหยัดอยู่ เพื่องัด พวกรัฐประหาร
ประชาชน พร้อมสนอง ตามต้องการ
ล้างบางมาร จนดับดิ้น หมดสิ้นไป....


๓ บลา / ๓๐ ก.ย.๕๔

วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 29/09/54 ลีลา..ขัดแข้งขัดขา



นโยบาย ดีดี เริ่มมีผล
พวกสัปดน ก็ระแวง ขัดแข้งขา
ใครเป็นใคร เริ่มโผล่หาง อำพรางตา
เห่าเหมือนหมา..พวกสิ้นคิด จิตโสมม....


จ้องถอดถอน อ้อนตีน ลิ้นสองแฉก
หวังชำแรก เร่งรัด อัดทับถม
ก็แค่พวก เหิมเกริม เติมอารมณ์
พ่นอาจม ประสงค์ร้าย ทำลายกัน....


พวกสลิ่ม ตัวแสบ มันแอบจ้อง
ชะเง้อมอง นโยบาย เร่งขายฝัน
ผลพลอยได้ กลับเงียบกริบ หยิบแบ่งปัน
สันดานมัน โคตรระยำ ต่ำสิ้นดี....


เพิ่มเงินเดือน ค่าแรง ยิ้มแฉ่งทั่ว
ไม่มีมั่ว ให้เก็บกด ลดภาษี
บ้านหลังแรก รถคันงาม ตามทันที
มอบสิ่งดี กลับบ้าคลั่ง หวังทำลาย....


คิดขัดแข้ง ขัดขา จนหน้ามืด
เผยกำพืด สร้างระยำ ทำฉิบหาย
ใช้วาจา ฮึกเหิม เพิ่มวุ่นวาย
หวังหลอกฟาย พวกเดียวกัน ให้ฟั่นเฟือน....


๓ บลา / ๒๙ ก.ย.๕๔

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 28/09/54 ชูได้..ไม่ต้องขัดเขิน


แค่น้องปู เข้ามา ว่าการรัฐ
เดือนเดียวจัด เจนทาง สว่างไสว
ที่เข็ญขุก ทุกข์ท้น น้ำล้นไทย
ดินถล่ม นาล่มให้ แก้ไขกัน


เสาร์อาทิตย์ น้องปู ดูน้ำท่วม
ฝนหลั่งร่วม รวมไหล ไร้ทางผัน
ไปไล่จี้ บรรเทาภัย รีบให้ทัน
หิวโหยกัน ขาดน้ำข้าว ปวดร้าวจริง


ไหนจะต้อง ตามเก็บกวาด พวกฟาดขี้
อวดตัวดี คุยโขมง โฉงเฉงยิ่ง
พอน้ำลด ตอผุดโผล่ โชว์ของจริง
รายการโกง โยงทุกสิ่ง วิ่งถึงตา


ทั้งซีซี ทีวี มีแต่กล่อง
เอามาส่อง หาเหา คงเข้าท่า
รถดับเพลิง เริงฝน จนขึ้นรา
อีกทั้งค่า ชดเชย ไม่เคยเจอ


ไปกู้เงิน มหาศาล มาผลาญเล่น
ไม่จำเป็น เอามาจ่าย รุ่ยร่ายเว่อร์
สวาปาม ไทยเข้มแข็ง แบ่งจนเบลอ
กอดคอเกลอ ไอ้เนรวิน กินพุงกาง


ไปนั่งเคียง น้องปู ดูมันฝัน
งานต้านต่อ คอรัปชั่น ไม่พรั่นบ้าง
สิบชักสาม งามหน้า รู้ท่าทาง
ต้องมาวาง ให้ขม้ำ หยอดน้ำมัน


มันไม่อาย น้องปู ผู้พิลาศ
งานสะอาด ประกาศชัย อย่างไม่หวั่น
ไม่มีเรื่อง ฉาวเหม็นโฉ่ มาโชว์กัน
ปูสร้างสรร ทางสะอาด ให้ชาติไทย


ทุกโครงการ ที่หว่านคำ เริ่มทำแล้ว
มาแหวกแนว บัตรเครดิต ความคิดใหม่
เพื่อเป็นทุน ดุนเกษตร- กรไทย
รถบ้านใคร ซื้อเริ่มแรก มีแจกคืน


วันสามร้อย เดือนหมื่นห้า ตามมาติด
สามสิบบาท เพื่อความฟิต คิดแล้วชื่น
เอสเอ็มแอล กองทุนเก่า เอาไปคืน
หนึ่งเดือนยืน ปูยกก้าม ความสุขไทย


เรียงร้อยบทกวีประกอบภาพโดยท่านห้าบี (BBBBBFC)
ขอบคุณมากๆ ครับ

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 27/09/54 นิติราษฎร์..ปักธงลงตรงหัวใจ



เผด็จการ ร้อนรุ่ม ดั่งสุมร่าง
อุตส่าห์ลับ-ลวง-พราง เปิดทางไว้
หวังลบล้าง ความระยำ ทำจัญไร
นิติราษฎร์ จึงลากใส้ ให้เห็นกัน....


ปักธงลง ตรงหัวใจ ไอ้คนชั่ว
ปิดรอยรั่ว ผลพวงเลว แหลกเหลวนั่น
รัฐประหาร ผลาญชาติ อุบาทว์มัน
กลับไม่หวั่น ลบผิดได้ ไม่เชือนแช....


คมช. คนมันชั่ว ไม่กลัวผิด
ดัดจริต พูดพร่ำ คำตอแหล
ว่าเพื่อชาติ ตอบสนอง ต้องดูแล
ไม่แยแส เรื่องเลวร้าย ฉิบหายพลัน....


นิติราษฎร์ ต้องลากใส้ ให้รู้แจ้ง
เรื่องเคลือบแคลง ห้าปี ที่ผกผัน
ใครจะลับ-ลวง-พราง ก็ช่างมัน
สิ่งสร้างสรรค์ นั่นหรือ คือความจริง....


ปักธงลง ตรงหัวใจ ให้คนชั่ว
อำนาจมั่ว ต้องแก้ไข ได้ทุกสิ่ง
หากเจอพวก ลับลวง จงท้วงติง
คืนความจริง ที่สับสน เพื่อ..คนไทย....


๓ บลา / ๒๗ ก.ย.๕๔

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 26/09/54 ดีชั่วอยู่ที่ตัว..อย่ามัวโทษผีสาง



จะดีชั่ว พวกระยำ คนทำไว้
เหตุไฉน ใยไปโทษ โกรธผีสาง
กี่เรื่องชั่ว มั่วปกปิด คิดอำพราง
มากล่าวอ้าง ผีสาง ช่างน่าอาย....


เสกข้าวสาร ไล่ผี ที่สิงพรรค
ร่วมกันผลัก ภูตผี ให้หนีหาย
หวังลบล้าง ความมารยา บ้าน้ำลาย
แถมใส่ร้าย สิ่งลี้ลับ..พวกอัปรีย์....


หวังอิทธิฤทธิ์ ปิดตา ไม่กล้าแฉ
เหมือนยิ่งแก้ ยิ่งมัดแน่น ยิ่งแค้นผี
ปัดรังควาญ ยิ่งถาโถม โหมเข้าตี
ยิ่งปากดี ยิ่งหางโผล่ โชว์สามานย์....


เพราะเวรกรรม นำหน้า พาสนอง
ตามครรลอง โสมม สมกล่าวขาน
ยังมีพวก ตามโอ่ โง่ดักดาน
อุ้มพวกมาร ชูคอ จ้อรายวัน....


จะดีชั่ว ตัวรู้ อยู่เต็มอก
หวังชี้นำ พวกแม่ยก ให้ผกผัน
จะอ้างผี หรือเทวดา ไม่ว่ากัน
สิ่งเดียวนั้น รู้กันทั่ว ว่าชั่วจริง....


๓ บลา / ๒๖ ก.ย.๕๔