วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิษณุชี้หากร่างฯไม่ผ่าน ต้องแก้รธน.ชั่วคราวทันที เปิดทางร่างใหม่ ยังระบุไม่ได้เป็นใครร่าง


ประยุทธ์ ขอปชช. อย่าสนร่างรธน.ปลอม แนะให้สนใจ ข้อดี-เสีย ฉ.ลงประชามติ แจงปมหาก รธน.ไม่ผ่านจะร่างเอง เพียงพูดประชด ระบุหากร่างผ่านเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมปที่วางไว้ 'หมวดเจี๊ยบ' ชี้ประยุทธ์ไม่ควรพูดเล่นปมประชามติ หากไม่ผ่านควรมีแผนสำรอง
12 ก.ค. 2559 เมื่อเวลา 15.00 น. ณ บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกรณี การเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญปลอมว่า อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบแหล่งที่มา และขออย่าให้ไปสนใจกับร่างรัฐธรรมนูญปลอมดังกล่าว ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการตามกฎหมาย ขอให้สนใจร่างรัฐธรรมนูญที่จะมีการทำประชามติว่ามีประโยชน์และเสียประโยชน์อย่างไรมากกว่า

แจงปมหาก รธน.ไม่ผ่านจะร่างเอง เพียงพูดประชด

สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้ออกมาระบุว่า ถ้าการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่าน นายกรัฐมนตรี จะเขียนร่างรัฐธรรมนูญด้วยตนเองนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเพียงการพูดประชดผู้สื่อข่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่สามารถร่างรัฐธรรมนูญได้เพียงคนเดียว การร่างรัฐธรรมนูญเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ขออย่าให้ความสนใจในประเด็นดังกล่าว พร้อมกล่าวต่อไปว่าถ้าร่างรัฐธรรมนูญผ่านการทำประชามติ ขั้นตอนต่อไปคือการเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมปที่วางไว้
 

วิษณุชี้หากร่างฯไม่ผ่าน ต้องแก้รธน.ชั่วคราวทันทีเพื่อเปิดทางร่างใหม่

ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึง กรณีหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ว่า จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 ทันทีที่ทราบผลประชามติ เพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าใครจะเป็นคนร่างรัฐธรรมนูญ
“หากผลประชามติออกมาว่า ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ก็ต้องมีการตีความ ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังไม่ได้หารือเรื่องนี้ แต่พยายามทำให้การออกเสียงประชามติวันที่ 7 สิงหาคม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” วิษณุ กล่าว
 

หมวดเจี๊ยบ ชี้ประยุทธ์ไม่ควรพูดเล่นปมประชามติ

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า คำแก้ตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างทำนองว่าแค่พูดเล่น ๆ เรื่องที่ประกาศว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ ท่านก็จะเขียนใหม่เองนั้น ถือเป็นคำแก้ตัวที่ไม่เข้าท่า ปัดความรับผิดชอบ และทำให้คนฟัง รู้สึกว่า ท่านไม่เห็นหัวประชาชนเลย

สุณิสา กล่าวด้วยว่า บุคคลระดับนายกรัฐมนตรี ก่อนจะพูดอะไรออกมาแต่ละคำ ควรต้องใช้ความคิดอย่างรอบคอบมากกว่าคนทั่วๆ ไป หลายๆ เท่าตัว ไม่ใช่ว่านึกจะพูดอะไรก็พูด เพราะคำพูดของผู้นำประเทศย่อมมีผลผูกพันต่อประเทศชาติ ที่สำคัญ การลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายให้ความสำคัญ เพราะจะส่งผลถึงการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งจะมีผลต่ออนาคตของคนรุ่นลูกรุ่นหลานของเรา

เรื่องใหญ่ขนาดนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เอามาพูด เป็นเรื่องเล่นๆ ได้อย่างไร คำพูดในลักษณะนี้ นอกจากจะเป็นการไม่ให้เกียรติคนฟังแล้ว ยังสะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่เคยใส่ใจคำทักท้วงของทุกฝ่าย ทั้งในและนอกประเทศ ที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญรวมทั้งการปฏิรูปประเทศ
สุณิสา กล่าว กล่าวว่า อันที่จริง พล.อ.ประยุทธ์ ควรคิดอย่างจริงจัง ว่าจะเตรียมทางออกอย่างไร หากประชามติไม่ผ่านความเห็นชอบของประชาชน เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบ ย่อมสะท้อนว่าประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลนี้แล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความชอบธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือเลือกนำ รธน.ฉบับหนึ่งฉบับใดมาประกาศใช้ เพราะถึงแม้ท่านจะมีอำนาจบังคับตามกฎหมาย แต่ก็จะขาดความชอบธรรมทางการเมือง ดังนั้น รัฐบาลควรมีแผนรองรับในทุกกรณี ไม่ว่าผลประชามติจะออกมาเป็นอย่างไร โดยควรจะเป็นแนวทางที่ชอบธรรมและประชาชนยอมรับได้

ทหารยึด จม.เกือบ 3 พัน จากไปรษณีย์ลำปาง ระบุเบี่ยงเบน-หวังคว่ำร่าง รธน. เร่งตรวจ DNA


12 ก.ค.2559 มติชนออนไลน์และผู้จัดการออนไลน์ รายงานตรงกันว่า พล.ต.กิตติศักดิ์ แม้นเหมือน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 นำกำลังสารวัตรทหาร เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบ จดหมายที่ไปรษณีย์ลำปาง หลังได้รับการประสานจากหัวหน้าไปรษณีย์ สาขาลำปาง ว่า พบจดหมายลักษณะ ผิดปกติ จำนวนเกือบสามพันฉบับ โดยจ่าหน้าซองลงเพียงเลขที่บ้าน แต่ไม่ระบุชื่อผู้รับ และไม่ระบุชื่อผู้ส่ง และจดหมายบางซอง ไม่ได้ปิดผนึก เมื่อเปิดออกดู พบมีข้อความลักษณะการเบี่ยงเบนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญและเชิญชวนประชาชนไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.ที่จะถึง
พล.ต.กิตติศักดิ์ ตรวจสอบแล้ว จึงสั่งการให้ประสาน สมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พ.ต.อ. นิคม เครือนพรัตน์ ผู้กำกับการ สภ. เมืองลำปาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตลอดจนเจ้าหน้าที่กกต.จังหวัดลำปาง เข้าร่วมตรวจสอบจดหมายดังกล่าว จากนั้นได้สั่งการให้ พ.ต.อ. นิคม ทำการอายัดจดหมายทั้งหมดเกือบ 3,000 ฉบับ โดยข้อความด้านในจดหมายได้เขียนข้อความบิดเบือนสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผิดไป จาก ร่างรัฐธรรมนูญ จริง
ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานไปรษณีย์ ทราบว่าจดหมายดังกล่าว ถูกส่งไว้ตามตู้รับจดหมาย ในพื้นที่ต่างๆของจังหวัดลำปาง โดยจุดที่พบมากที่สุด คือบริเวณตู้หน้าสถาบันอาชีวศึกษา บริเวณโรงพยาบาลลำปาง และบริเวณสวนสาธารณะในเขตเทศบาลนครลำปาง โดยจดหมายทั้งหมด เป็นซองสีขาว มีตราครุฑที่มุมซอง ระบุบ้านเลขที่ ตำบลและอำเภอ ของผู้รับ ระบุส่งไปที่จังหวัดลำพูนในลักษณะคล้ายจดหมายจากทางราชการ
      
ผบ.มทบ.ที่ 32 ยังได้กำชับให้ หัวหน้าไปรษณีย์ลำปาง ประสานไปรษณีย์ ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เข้มงวดตรวจสอบกวดขัน จดหมายซึ่งมีลักษณะดังกล่าว หากพบให้ทำการอายัดไว้ห้ามนำส่งต่อ พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ ทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ทราบเพื่อเข้าตรวจสอบ
นอกจากนี้ยังได้กำชับหากมีจดหมายลักษณะดังกล่าวห้ามส่งถึงประชาชนเป็นอันขาดเนื่องจากจะสร้างความไม่เข้าใจ ความคลาดเคลื่อนให้กับประชาชน ขณะเดียวกัน พันตำรวจเอกนิคม เครือนพรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองลำปาง ได้ประสานพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝง DNA ตามซองจดหมายดังกล่าวพร้อมให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองลำปาง ติดตามกล้องวงจรปิด ในบริเวณสี่แยก และใกล้พื้นที่ที่ตู้รับจดหมายตั้งอยู่ และจุดที่มองเห็น ตู้รับจดหมาย เพื่อตรวจสอบหาตัวผู้ที่นำ จดหมายดังกล่าวไปหย่อนตามตู้รับจดหมาย เพื่อจะได้เป็นแนวทางการสืบสวน ติดตามและจับกุมตัว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

อ่าน 'ความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ' ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น

แฟลชม็อบ 2 นักศึกษา จัดกิจกรรม 'อ่านความเห็นแย้งร่างรัฐธรรมนูญ' หน้าสำนักงานหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยความรู้สึก หวาดกลัว อึดอัด ว่าจะถูกคุกคามจับกุม แต่ก็ต้องแสดงออกเพื่ออยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้นในบ้านเมือง
12 ก.ค. 2559 บริเวณลานหน้าหอสมุด มหาวิทยาลัยขอนแก่น จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ พงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา 2 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ (ภาคอีสาน) ทำกิจกรรม 'อ่านความเห็นแย้ง ร่างรัฐธรรมนูญ' ฉบับที่ มีชัย ฤชุพันธ์ เป็นประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ โดยทำการอ่านเป็นเวลา 20 นาที
จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ผู้ทำกิจกรรมกล่าวว่า อยากให้คนมาศึกษารัฐธรรมนูญพร้อมกับอ่านเอกสารความเห็นแย้งของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างแท้จริง พวกเราเห็นด้วยว่าควรเห็นแย้ง และกล่าวด้วยว่าโหวตโนเป็นสิทธิไม่ผิดกฎหมาย
ส่วนพงษ์สุวรรณ สิทธิเสนา กล่าวว่า ทำกิจกรรมก็กลัวโดนจับ แต่ก็อึดอัดอยากพูดในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย แต่ก็กลัวมาก ผมกลัวโดนทหารคุกคาม กลัวโดนจับ ผมเคยโดนสั่งไม่ให้มีการเคลื่อนไหวจากทหาร แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะถ้าปล่อยให้สังคมอยู่กับความกลัว ก็ไม่มีคนกล้าคิดกล้าเคลื่อนไหว
จตุภัทร์ระบุด้วยว่า จะเชิญชวนให้มีการทำกิจกรรมในลักษณะเดียวกันในมหาลัยอย่างต่อเนื่อง โดยจะทำกิจกรรมเป็นกลุ่มๆ ละ 4 คน เพื่อท้าทาย พ.ร.บ.ประชามติ แต่จะหลีกเลี่ยงฝืนประกาศ คสช. 3/2558 ที่ห้ามการรวมตัวเกิน 5 คน