จับ 7 คน แจ้งข้อหา 4 ปล่อย 3 คดีครอบครองอาวุธไม่ได้รับอนุญาตหลังจากทหารเข้าตรวจค้นบ้านพัก ตำรวจแถลงคดีขโมยปืนจากค่ายตชด.เพื่อนำไปขายดำเนินคดีอาญาแล้ว ขณะนี้อยู่ใน ป.ป.ท. ยังไม่คืบหน้า ส่วนคดีนี้เป็นคดีครอบครองอาวุธ หนึ่งในผู้ต้องหาระบุ ขโมยปืนไม่เกี่ยวกับการเมือง
จากกรณีที่เว็บไซต์มติชนรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2560 อ้างแหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงว่า มีการจับกุมและสอบสวนผู้ผู้ต้องหา 7 รายที่ก่อเหตุขโมยปืนจำนวน 885 กระบอกจากค่าย ตชด.24 จังหวัดอุดรธานีตั้งแต่ปี 2555 อยู่ในค่าย มทบ.11 และจะมีการส่งมอบตัวผู้ต้องหาให้กองบังคับการปราบปรามในวันนี้ (15 ก.พ.) นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 17.30 น. ทหารนำตัว 7 ผู้ต้องหามายังกองบังคับการปราบปราม และตำรวจได้แถลงข่าวโดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เป็นประธาน โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นอดีตตำรวจตชด. คดีนี้เป็นการขโมยปืนออกจากค่ายตชด. ซึ่งผู้ต้องหารับว่าดำเนินการจริงอยู่ 20 กระบอก ปัจจุบันตามคืนมาได้ 1 กระบอก โดยตำรวจจากอุดรธานีเจ้าของพื้นที่จะรับตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่จังหวัดอุดรธานีในวันพรุ่งนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับ “ขอนแก่นโมเดล” หรือไม่ พล.อ.ศรีวราห์ให้หนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้ตอบ เขายืนยัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแต่อย่างใดและรายละเอียดอื่นขอให้การในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ผู้ต้องหาที่ถูกนำตัวมาแถลงข่าวท่ามกลางสื่อมวลชนที่สนใจทำข่าวจำนวนมากนั้น มี 4 คนที่มีหมายจับและถูกแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนอีก 3 คนนั้นจะได้รับการปล่อยตัวหลังการแถลงข่าว โดยการดำเนินคดีครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีขโมยปืนในค่ายไปจำหน่าย
ทั้งนี้ ขอนแก่นโมเดล หมายถึงคดีที่มีผู้ต้องหา 26 คนที่ถูกแจ้งข้อหาสบคบกันเพื่อก่อการร้าย ผู้ต้องหาถูกจับกุม 1 วันหลังการรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ในจำนวนนี้มีผู้หญิง 2 ราย ผู้ต้องหาส่วนใหญ่อายุ 50-60 ปี และอายุสูงสุดคือ 72 ปี โดยทหารแถลงข่าวว่าทั้งหมดวางแผนร่วมกันเตรียมดำเนินการในจังหวัดขอนแก่น 4 ขั้นตอน คือ 1.ระดมมวลชนให้มากที่สุด 2. เจรจาปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ 3. เจรจาเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร 4. ทำลายสถาบันการเงินและนำเงินมาแจกจ่ายให้ประชาชน (ปฏิบัติการโรบินฮูด) “ทั่วปฐพีหนี้เป็นศูนย์” ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจำคุกเป็นเวลาหลายเดือนก่อนจะได้ประกันตัวเพื่อสู้คดีในศาลทหารขอนแก่น ปัจจุบันเสียชีวิต 2 ราย และมี 3 รายถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเนื่องจากถูกดำเนินคดีข้อหาเตรียมป่วนกิจกรรม Bike for Dad
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช อธิบายเพิ่มเติมว่า การขโมยปืนกว่า 800 กระบอกนั้นผู้กระทำผิดค่อยๆ ทยอยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552-2557 กระทำการโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นเจ้าหน้าที่คลังอาวุธและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปจำหน่าย รายละเอียดเส้นทางการขายหรือจะมีกี่คนที่ร่วมดำเนินการยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีมาตั้งแต่ปี 2554 มีการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งในการไล่ออกและปลดออกจากราชการ และยังมีการดำเนินคดีอาญาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต จำนวน 5 คดี ขณะนี้คดีอยู่ที่สำนักงานป้องการและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 4 คดี และอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 1 คดี นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีแพ่งให้ตำรวจผู้เกี่ยวข้องจำนวน 10 นายชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 38 ล้านบาท
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า การจับกุมตัวและดำเนินคดีที่นำตัวมาแถลงข่าวในวันนี้เป็นคนละคดีกับกรณีปืนหาย 800 กระบอก แต่สืบเนื่องมาจากฝ่ายความมั่นคงเข้าตรวจค้นบ้านผู้กระทำผิดแล้วพบอาวุธปืนเครื่องกระสุนผิดกฎหมาย จึงร้องทุกข์กล่าวโทษที่สภ.เมืองอุดรธานี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับ 4 ราย คือ 1.ด.ต.สุชาติ ใจตาง ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ร.ต.ท.จันทร์เพ็ชร บุญผ่องศรี ฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง 3. ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา ฐาน มีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.ด.ต.นิมิต สานก้อย ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจู่โจมตรวจค้นดังกล่าวเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจาก ในการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2560 มีรายงานว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของ ตชด.สูญหาย ผบ.ตร.จึงสั่งการด้วยวาจาให้พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วรายงานให้ทราบและเร่งดำเนินการ