เผลอแป๊บเดียว TPBS หรือองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ก็ก่อตั้งมาได้ 5 ปีแล้วนะครับ ซึ่งแปลว่าเราได้ใช้เงิน “ภาษีบาป” สร้างทีวีของคนชายขอบ ริมขอบ ตกขอบ ไปมากกว่า 10,000 ล้านบาท
แต่แหม แค่ได้ดู ณาตยา แวววีรคุปต์ เอา NGO กับชาวบ้านมาออกเวทีสาธารณะวันละโหล ก็คุ้มแล้วครับ รายการอย่างนี้จะไปหาสปอนเซอร์ได้ที่ไหน เพราะจัดช่องไหนก็ไม่มีคนดู (อ้าว)
รายการดีๆ อย่างนี้ TPBS ทุ่มทุนสร้างอย่างคุ้มค่าภาษีบาป กระทั่งมีเสียงเล่าอ้างว่า เมื่อตอนน้ำท่วมภาคใต้ บังเอิ๊ญทีมช่างภาพขาด ไม่พอถ่ายทำ “เวทีสาธารณะ” ทางสถานีต้องเรียกทีมรายงานสดน้ำท่วมภาคใต้ขึ้นมา ยกเลิกรายงานสดไปเลย ภูมิปัญญาชาวบ้านสำคัญกว่า คริคริ
เผลอแป๊บเดียว เทพชัย หย่อง ก็จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ TPBS ครบวาระในวันที่ 9 ตุลาคม 2555 นี้ ซึ่งอันที่จริง “เฮียสิ่ว” แกรับตำแหน่งมาตั้งแต่ 15 มกราคม 2551 แต่ตอนนั้นแค่รักษาการ แล้วจึงได้รับเลือกให้เป็น ผอ.อย่างเป็นทางการเมื่อ 10 ตุลาคม.2551
ตาม พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ.2551 ที่รัฐบาลขิงแก่ยึดไอทีวีมาตั้ง TPBS ต้องสรรหา ผอ.ใหม่ พี่หมอพลเดช ปิ่นประทีป ประธานกรรมการนโยบาย ออกประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็น ผอ.TPBS ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน 2555 โดยกำหนดระยะเวลารับสมัครตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายน จนถึงวันที่ 4 กรกฎาคม ซึ่งแปลว่าปิดรับสมัครไปเรียบร้อยแล้ว
แม้ TPBS จะยังไม่ประกาศเป็นทางการว่ามีใครสมัครบ้าง แต่ก็รู้กันแซ่ด ว่ามี 4 คน ได้แก่ เฮียสิ่วเจ้าเก่า, สมชัย สุวรรณบรรณ ณ BBC ผู้สร้างเซอร์ไพรส์ ลาออกจากกรรมการนโยบายมาสมัคร ผอ.ทั้งที่เหลือวาระดำรงตำแหน่งอีก 2 ปี, วสันต์ ภัยหลีกลี้ รอง ผอ.ด้านปฏิบัติการ อดีต ผอ.อสมท.และ ผศ.นลินี สีตะสุวรรณ ภาควิชาศิลปะการละคร อักษรศาสตร์ จุฬาฯ มือเขียนบทละครช่อง 3 เจ้าของรางวัลนับไม่ถ้วน หนึ่งในกรรมการบริหาร TPBS
คนในล้วนๆ เลยครับ จะเปรียบเป็น “ศึกสายเลือด” ก็ได้
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระดับแม่บ้าน TPBS ยังรู้ว่า ศึกครั้งนี้ชิงชัยกันระหว่างสมชัยกับเทพชัย BBC Vs Nation เท่านั้น โดยฝ่ายแรกต่อครึ่งควบลูก ไม่มีใครรอง ขณะที่วสันต์ ภัยหลีกลี้ ต้องหลีกลี้หนีภัยสถานเดียว วสันต์ได้เป็นรอง ผอ.เพราะเฮียสิ่วหิ้วมา ขณะที่สมชัยก็เป็นหัวหน้าเก่า ณ BBC เพียงแต่ตอนแรก ทั้งคู่กั๊ก ไม่บอกว่าจะสมัคร วสันต์ถามเฮียสิ่วครั้งแล้วครั้งเล่า ก็กบไต๋อยู่นั่นแหละ วสันต์จึงยื่นใบสมัครไปก่อน แต่พอสมชัยลาออกลงสมัคร เฮียสิ่วก็ประกาศ กรูอยู่เฉยไม่ได้แร้ว ขอลุย
เจอรุ่นใหญ่เขาดวลกันอย่างนี้ ก็น่าเสียดาย วสันต์ไม่ถอนตัวก็เหมือนถอน วสันต์เนี่ยถึงใครจะมองว่ารุ่งมณี เมฆโสภณ ส่งเข้าประกวด แต่เป็นมืออาชีพด้านข่าว ทัศนะส่วนตัวส่วนเมียอาจมีผลบ้าง แต่ไม่ถึงกับสุดขั้วสุดโต่ง แถมวสันต์ยังไม่เล่นการเมืองในสำนักงาน ไม่เล่นพรรคเล่นพวก ไม่สร้างอาณาจักร
ส่วน ผศ.นลินี เจอ 2 บิ๊กประกบแบบนี้ก็เป็นแค่ไม้ประดับ คนในเล่าว่า TPBS อยากให้เธอเข้ามาช่วยงานละคร ที่ไหนได้ เธอกลับอยากคุมข่าว เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกับนคร ชมพูชาติ ทนายความก๊วน สุวัตร อภัยภักดิ์, นิติธร ล้ำเหลือ (เคยเป็นทนายให้กบฏไอทีวี) เป็น 2 ตัวแทนอย่างไม่เป็นทางการของพี่น้องเอ๊ยฮาร์ดคอร์ในคณะกรรมการบริหาร
คนดีเขาเตะตัดขากัน
ถามว่าทำไมสมชัยต่อครึ่งควบลูก ก็ต้องย้อนไปดูว่า กรรมการนโยบายของ TPBS มี 9 คน ตามกฎหมายเมื่อครบ 2 ปีต้องจับสลากออก 2 คน โดยกรรมการชุดแรกตั้งเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2551 ได้แก่ อ.เกริกเกียรติ พิพัฒน์เสรีธรรม ประธาน, อ.จอน อึ๊งภากรณ์, สมชัย สุวรรณบรรณ, เอื้อจิต วิโรจน์ไตรรัตน์, หมอพลเดช ปิ่นประทีป, จินตนา พันธุฟัก, มัทนา หอมละออ , รศ.อรศรี งามวิทยาพงศ์ และกมล กมลตระกูล
เมื่อครบ 2 ปีวันที่ 2 สิงหาคม 2553 สี่คนแรกถูกหวยต้องออกไป แต่สมชัยได้รับเลือกเข้ามาใหม่ พร้อมกับ ผศ.จุมพล พูลภัทรชีวิน, รศ. มาลี บุญศิริพันธ์ และศิริชัย สาครรัตนกุล คราวนี้ หมอพลเดชเป็นประธาน ฉะนั้นเมื่อถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2555 ห้าคนที่เหลืออยู่จากชุดแรกก็ต้องครบวาระ และต้องสรรหาใหม่
ซึ่งตอนนี้ก็มีประกาศรับสมัครกรรมการนโยบายแล้ว คณะกรรมการสรรหาจาก 15 องค์กรที่กฎหมายกำหนด เลือก สัก กอแสงเรือง เป็นประธาน อ.วิลาสินี อดุลยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักรณรงค์สื่อสารสังคม สสส. เป็นเลขานุการ เปิดรับสมัครกรรมการนโยบาย ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ถึง 8 กรกฎาคม ปิดรับสมัครไปแล้วยังไม่รู้ผลว่ามีใครสมัครมั่ง
แต่มีตลกร้ายจะเล่าให้ฟัง คือมีคนไปสมัครวันที่ 7 กรกฎาคม ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมรับสมัคร เพราะเป็นวันเสาร์ วันที่ 8 เป็นวันอาทิตย์ พอพลิกไปดูประกาศก็บอกว่าให้สมัครได้ “ทุกวัน (เว้นวันหยุดราชการ)” เออ แล้วจะเปิดรับสมัครถึงวันที่ 8 ทำไมให้ป่วยการ
คุณสักแกชอบนับวันผิดอย่างนี้ มิน่าเล่า ถึงโดน กกต.แจกใบแดง คริคริ
คณะกรรมการสรรหาจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาในวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งผู้ผ่านการพิจารณาจะต้องไปแสดงตนและวิสัยทัศน์ด้วยวาจาต่อที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา ในวันที่ 27 กรกฎาคม
สังเกตอะไรไหมครับ คณะกรรมการนโยบายชุดใหม่จะเข้ามาวันที่ 2 สิงหาคม ขณะที่เฮียสิ่วจะครบวาระวันที่ 9 ตุลาคม เหลือเวลาอีกตั้ง 2 เดือน 7 วัน ทำไมคณะกรรมการนโยบายชุดเดิมจึงต้องรีบสรรหาผู้อำนวยการ ก่อนที่ตัวเองจะพ้นจากตำแหน่ง
มิหนำซ้ำ สมชัย สุวรรณบรรณ ยังลาออกจากคณะกรรมการนโยบายมาลงสมัครเอง ถามว่ากรรมการนโยบายที่เหลือ 8 คนจะเลือกใคร ระหว่างคนกันเองอย่างสมชัยกับเฮียสิ่ว ซึ่งแหล่งข่าวระดับแม่บ้านคนขับรถยังรู้ว่า กินเกาเหลากับกรรมการนโยบายอยู่เนืองๆ
นี่ถึงแม้แหล่งข่าวระดับสูงหน่อย 170 ซม.จะยืนยันว่า สมชัยนิสัยฝรั่ง BBC ไม่ได้ล็อบบี้ใครเลย ก็ยังต่อครึ่งควบลูกไม่มีคนกล้ารอง
ศึกครั้งนี้สนุกแน่ เพราะพนักงานระดับสูง ยกเว้นฝ่าย Admin ส่วนใหญ่เฮียสิ่วเอาเข้ามา ก็ถือหางเฮียสิ่ว แต่พวกพนักงานระดับล่าง ว่ากันว่าถ้าให้พนักงานโหวตเลือก ผอ.ได้ สมชัยเป็นต่อถึง 10-1 (แทง 10 จ่าย 1 ไม่รวมทุน) เพราะพนักงานระดับล่างอึดอัดเต็มแก่ อยากให้ใครก็ได้เข้ามา “ล้างบาง” พวก นขต.(หน่วยขึ้นตรง)
แต่แม้สมชัยจะเป็นต่อทุกด้าน ก็ใช่ว่าจะคล่องคอ เพราะอาการรุกลี้รุกลนไม่ยอมรอกรรมการชุดใหม่ของกรรมการนโยบายดังกล่าว ทำให้เฮียสิ่วลั่นวาจาไว้แล้วว่า แพ้เมื่อไหร่กรูฟ้องแน่
มีอย่างที่ไหน กรรมการนโยบายจะพ้นวาระ 2 สิงหาคม ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการสรรหา 24 กรกฎาคม แต่ปิดรับสมัคร ผอ.วันที่ 4 กรกฎาคม จะประกาศชื่อ ผอ.คนใหม่ภายในวันไหนก็ไม่บอก งุบงิบงุบงิบ ตำแหน่งนี้เฮียสิ่วแกหวงของแกนะเออ เพราะเป็นเก้าอี้เทวดาประทาน พรบ.ที่ร่างโดยอาจารย์สมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ณ TDRI ไม่ยักกำหนดคุณสมบัติ ผอ.ว่าต้องจบปริญญาตรี ทั้งที่ปกติ ผอ.องค์กรระดับนี้ต้องจบปริญญาตรี คนในวงการสื่อที่พอจะทำหน้าที่นี้ได้ ก็มีแต่เฮียสิ่วนี่แหละที่ไม่จบปริญญาตรี
อย่างว่า ความรู้ความสามารถไม่ได้วัดกันด้วยปริญญา ใบตองแห้งก็ไม่จบปริญญา สมัคร ผอ.TPBS ได้เหมือนกัน 555
จิ้งจกข้างตึก TPBS ทักว่า หลังจากพระเทพฯ เสด็จฯ เปิดตึกในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้แล้ว หมดพิธีมงคล ก็จะเป็นวันดีเดย์ ลุยกันตึกระเบิดแน่ โดยพนักงานระดับล่างที่อึดอัด ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการแบ่งก๊กแบ่งเหล่ามา 4-5 ปี กำลังรอโอกาส รอสุญญากาศอำนาจ เพื่อเสนอปัญหาต่อสังคมเช่นกัน
(หมายเหตุประชาไท: เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ เว็บไซต์ใหม่ ''''ประชาไท'''' ขอสงวนเนื้อหาบางช่วงให้ผู้อ่านติดตามและยลเว็บไซต์ใหม่ด้วยตัวเอง โปรดคลิกอ่านหัวข้อ
ไม่มีที่ว่างให้คนนอก และ
ช่องทางพิเศษคนดี)
“ตอบโจทย์” สาธารณะ
คำถามที่สาธารณชนจะต้องถามสื่อสาธารณะ TPBS คือ ทำไมกรรมการนโยบายจะต้องเร่งรีบคัดเลือก ผอ.ใหม่ และทำไมจึงมีคนสมัครแค่คนใน 4 คน ภาพลักษณ์ TPBS มันเป็นอย่างไรไปแล้วหรือ
กรรมการนโยบายควรยกเลิกการรับสมัคร ผอ. รอให้กรรมการนโยบายชุดใหม่เปิดรับสมัครใหม่ อย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และให้สาธารณชนมีส่วนร่วม อ้าว ก็สื่อสาธารณะนี่ครับ ไม่ใช่ของกรรมการนโยบาย 9 คน กรรมการสรรหา 15 องค์กร
ถ้าจะให้ดี ก็ TPBS Got Talent จัดให้ผู้สมัครทุกคนมาแสดงวิสัยทัศน์ประชันกัน ทางรายการของ TPBS เอง (แต่ไม่เอาเวทีสาธารณะ คนเยอะไป จับประเด็นไม่ถูก) สมมติเช่น “ตอบโจทย์” ให้คนดูช่วยกันโหวต ให้คนดูกด like ให้คนดูช่วยกันส่งคำถาม ถึงแม้คนตัดสินยังเป็นกรรมการ แต่ถ้าค้านสายตาชาวบ้าน ก็มีหวังถูกโห่
อันที่จริง ควรจะทำตั้งแต่การสรรหากรรมการนโยบายเลยครับ ถ่ายทอดสด แสดงวิสัยทัศน์กรรมการสรรหาไปด้วยในตัว (บลูสกายยินดีถ่ายทอดให้ฟรีๆ ฮิฮิ)
ทีวีสาธารณะ จะไปทำกระมิดกระเมี้ยนอยู่ทำไม จัดเรียลลิตี้โชว์เลยก็ได้ ให้ชาวบ้านส่ง SMS แพ้คัดออกสัปดาห์ละราย
เผลอๆ จะกลายเป็นรายการฮิตที่สุดนับแต่ก่อตั้ง TPBS มา
แล้วถ้าจะให้ดีนะครับ TPBS ก็ควรจะถือโอกาสนี้ สรุปปัญหา ทิศทาง แนวทาง นโยบาย การบริหาร ฯลฯ โดยให้พนักงานระดับล่างมีส่วนร่วม ให้โอกาสพวกเขาเสนอปัญหาระบายความอึดอัดใจอย่างเต็มที่ พูดถูกบ้าง พูดผิดบ้าง ก็ต้องฟัง เพราะที่ผ่านมามีแต่ปิดกั้น พนักงาน TPBS ไม่สามารถก่อตั้งสหภาพแรงงานได้ เพราะมีระเบียบบังคับไว้ ก่อตั้งได้แต่สมาพันธ์พนักงาน TPBS ซึ่งพูดอะไรมากก็ไม่ได้อีก เพราะมีระเบียบกำหนดว่า ห้ามพนักงานเคลื่อนไหวให้ร้ายองค์กร
ปิดปากกันซะอย่างนี้ จะเป็นทีวีสาธารณะในระบอบประชาธิปไตยได้ไงละครับ
ปล.ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ยินดีให้สำนักข่าวอิศรานำไปเผยแพร่
ติดตามความเคลื่อนไหวของ ประชาไท ทางอีเมล
คลิกอ่าน
http://goo.gl/8xIcV หรือเฟซบุ๊ค
http://fb.me/Prachatai