วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

จับการ์ดม็อบกบฏ พกมีด-ใบกระท่อม ระหว่างเดินทางจากรามคำแหงไปทำเนียบ พบเป็นคนใต้ทั้งหมด


จับการ์ดม็อบกบฏ พกมีด-ใบกระท่อม ระหว่างเดินทางจากรามคำแหงไปทำเนียบ พบเป็นคนใต้ทั้งหมด





             ตำรวจจราจร สน.โชคชัย ได้สกัดจับกลุ่มการด์ กปปส.ที่จะเดินทางจาก ม.ราม ไปสมทบกับผู้ชุมนุมในจุดกระทรวงการคลังได้จำนวน 5 คน เบื้องต้นพบว่าเป็นมาจาก จว.ในภาคใต้ทั้งหมด และพบใบกระท่อม 1ถุง และอาวุธมีด 2 เล่ม ยอมรับว่าจะนำไปป้องกันตัวและร่วมต่อสู้กับตำรวจ คฝ.ที่จะเข้ามาเอาพื้นที่คืน และตรวจสอบประวัติ พบว่าเกือบทุกคนมีหมายจับหมดครับ

ผอ.โรงเรียนฮาร์โรว์ ยอมรับแล้ว มีเป่านกหวีดใส่ "น้องไปป์" จริง


ผอ.โรงเรียนฮาร์โรว์ ยอมรับแล้ว มีเป่านกหวีดใส่ "น้องไปป์" จริง


            เมื่อ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไมเคิล ฟาร์ลีย์ ครูใหญ่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ได้ส่งอีเมล์ถึงผู้ปกครองของนักเรียนทุกคน เพื่อชี้แจงถึงเหตุการณ์เกิดการเป่านกหวีดใส่ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ ลูกชายนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีใจความว่า

          ถึงผู้ปกครองทุกท่าน ผมยินดีที่ได้แจ้งให้ท่านทราบว่าโรงเรียนเปิดตามปกติได้ในวันนี้ ทางโรงเรียนได้ทำการทบทวนและปรับเปลี่ยนระบบการรักษาความปลอดภัยเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์บ้านเมือง ณ ขณะนี้ จากอีเมลล์ที่ผมส่งถึงทุกท่านในวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตามด้านล่าง) เกี่ยวกับข่าวลือของรถกระบะที่พยายามจะบุกเข้ามาในโรงเรียน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ผมขอยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม โรงเรียนมีความตื่นตัวและคอยเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา ณ ตอนนี้ ผมขอขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการสวมบัตรผู้ปกครอง และให้ความร่วมมือที่ดีกับพนักงานของโรงเรียน

          ผมรู้สึกเสียใจว่าที่ผ่านมาได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในโรงเรียน เราทุกคนภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนฮาร์โรว์ เราต้องการให้ความปลอดภัย ความสุข และการศึกษาที่ดีที่สุดให้กับเด็กนักเรียนทุกคน ดังนั้น ผมจึงรู้สึกผิดที่ได้ยินว่ามีการเป่านกหวีดและมีการเรียกชื่อเด็กนักเรียนในชั้นเตรียมมัธยม และทีมงานรักษาความปลอดภัยของเด็กดังกล่าว นอกจากกรณีนี้แล้ว ยังมีกรณีของผู้อื่นที่ถูกแอบถ่ายรูปในโรงเรียน รวมถึงการทำให้ตื่นตระหนกในรูปแบบต่างๆ

           ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ผมขอความกรุณาจากผู้ปกครองทุกท่าน อย่านำเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองเข้ามาในบริเวณโรงเรียน หนทางเดียวที่เราทุกคนจะดูแลความปลอดภัย ความสุข และการศึกษาของเด็กนักเรียนฮาร์โรว์ได้ คือ ทุกคนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ ในสภาพแวดล้องของโรงเรียน ทั้งนอกรั้วโรงเรียน ในโรงเรียนและในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ขอให้ทุกคนรับผิดชอบในส่วนของตนเอง เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตในโรงเรียนที่ปกติ

          ในสัปดาห์นี้โรงเรียนจะคอยดูแลสถานการณ์อย่างระมัดระวัง โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเขตดอนเมือง สมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย สถานทูตอังกฤษและอีกหลายหน่วยงาน และทางโรงเรียนจะรายงานสถานการณ์ในแต่ละวันให้ท่านทราบผ่านทางข้อความเอสเอ็มเอส อีเมลล์ และเว็บไซต์ของโรงเรียน ขอให้เข้าใจว่าโรงเรียนยังคงเปิดตามปกติในสัปดาห์นี้ หากนักเรียนคนใดมีความจำเป็นต้องนำเสื้อประจำบ้านมาเปลี่ยนที่โรงเรียนก็สามารถทำได้


ไมเคิล ฟาร์ลีย์

ครูใหญ่

มุดรูหนี! ลูกชายชูวิทย์ จวกดารากลัวแก๊สน้ำตา สุดท้ายหายหัวหด


มุดรูหนี! ลูกชายชูวิทย์ จวกดารากลัวแก๊สน้ำตา สุดท้ายหายหัวหด


เติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ ลูกชายชูวิทย์ โพสต์แซว แตงโม ถามหายไปไหน เมื่อคืนที่เกิดเหตุการณ์ปะทะ หลังเคยพูดว่าถ้าเหตุการณ์รุนแรงหรือต้องแลกกับชีวิต ถ้าไม่เจอแตงโมให้มาเหยียบหน้าได้


           เมื่อช่วงดึกของวานนี้ (1 ธันวาคม 2556) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อินสตาแกรมของ นายเติมตระกูล กมลวิศิษฎ์ ลูกชายของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์รูปพร้อมข้อความ ถามถึงนางเอกสาวแตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ที่เคยขึ้นปราศรัยบนเวทีราชดำเนิน เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 ว่า..

          "หนูขอสาบานตรงนี้เลยค่ะว่า ไม่ว่าเหตุการณ์จะรุนแรงไปกว่านี้ หรือว่าจะต้องแลกด้วยชีวิต หรือจะต้องทำอะไรเพื่อให้แลกมา เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ของประเทศไทย วันนั้นไม่เจอหน้าหนู ให้มาเหยียบหน้าเลยค่ะ" โดยมีตัวอักษรสีเหลือง พิมพ์ทับตัวอักษรเหล่านั้นอีกที ระบุว่า.. "เมื่อคืนและวันนี้มึงหายไปไหนมา" ส่วนใต้ภาพของนายเติมตระกูล โพสต์ว่า หายแว้บบบบ เลยนะครับ คุณแตงโม

           ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ก็มีการตั้งคำถามกับดารานักแสดงที่ขึ้นเวทีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณว่าหายไปไหน ด้วยเช่นกัน









หมายจับกำนันเทืิอก

ศาลสั่งจับ 4 แกนนำคปท. "นิติธร-อุทัย-รัชต์ชยุตม์ พิชิต" บุกรุกสถานที่ราชการ -มั่วสุม-ทำให้เสียทรัพย์


ศาลสั่งจับ 4 แกนนำคปท. "นิติธร-อุทัย-รัชต์ชยุตม์ พิชิต" บุกรุกสถานที่ราชการ -มั่วสุม-ทำให้เสียทรัพย์





          เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ห้องพิจารณาคดี 812 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง กรณี พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญพิเศษ สน.พญาไท ได้ยื่นคำร้องขออนุมัติออกหมายจับ นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ,นายอุทัย ยอดมณี , นายรัชต์ชยุตม์ หรือ อมร ศรีโยธินศักดิ์ และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ในข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ ,ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นหรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง ซึ่งเป็นความผิดฐานบุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีอาวุธในเวลากลางคืนฯ ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 215 , 358 และ 365 กรณีที่นายนิติธร กับพวกพามวลชนเข้าไปในกระทรวงการต่างประเทศวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา

       โดยวันนี้ พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ ได้เตรียมพยานไว้ไต่สวน 7 ปากและจะขอเปิดคลิปวีดิโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ศาลเห็นว่าพยานเอกสารที่ส่งให้ศาลนั้นเพียงพอสามารถที่จะพิจารณาได้แล้ว โดยไม่จำต้องเปิดคลิปวีดิโอและให้ พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ เบิกความเพียงปากเดียว สรุปว่า นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. ได้นำประชาชนบุกรุกกระทรวงการต่างประเทศ แม้จะได้นำประชาชนออกมาแล้ว แต่ก็ยังไปชุมนุมที่หน้ากองทัพบกและทำเนียบรัฐบาล เห็นว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายอย่างชัดเจน แม้ที่ผ่านมาตำรวจจะสามารถประสานงานกับ 4 แกนนำ คปท.ได้ แต่ก็เป็นการติดต่อประสานงานขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ที่แยกอุรุพงษ์ แต่ภายหลังจากที่เคลื่อนย้ายมาชุมนุมยังเวทีราชดำเนินก็ไม่ได้มีการติดต่อประสานงานกันแล้ว

          ขณะเดียวกันศาลก็ได้สอบถาม น.ส.พวงทิพย์ บุญสนองทนายความของผู้ต้องหาที่ยื่นคัดค้านการออกหมายจับ ถึงพฤติการณ์จนเสร็จสิ้นแล้ว จึงนัดฟังคำสั่งในวันนี้

           ต่อมาเมื่อเวลา 17.10 น. ศาลได้มีคำสั่งให้ออกหมายจับ นายนิติธร ล้ำเหลือ,นายอุทัย ยอดมณี , นายรัชต์ชยุตม์ หรือ อมร ศรีโยธินศักดิ์ และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ในข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และผู้ใดเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นหรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครอง ซึ่งเป็นความผิดฐานบุกรุก โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยมีอาวุธในเวลากลางคืนฯ ตามประมวลกฎหมาย มาตรา 215 , 358 และ 365 ประกอบมาตรา 362 เนื่องจากปรากฏพฤติการณ์ว่าผู้ต้องหากับพวกได้บุกเข้าไปยังกระทรวงการต่างประเทศจริงและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นการกระทำผิดทางอาญามีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป จึงอนุญาตให้ออกหมายจับได้ตามคำร้อง

ที่มา ข่าวสด