วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

"ดร.สมบัติ-อดีตอธิการบดีนิด้า" พลาด! เผยความนัยม็อบกบฏ "เป็นปฏิวัติประชาชน เป็นปฏิวัติแบบฝรั่งเศส ที่ประชาชนลุกขึ้นมาเปลี่ยนประเทศ"



"ดร.สมบัติ-อดีตอธิการบดีนิด้า" พลาด! เผยความนัยม็อบกบฏ "เป็นปฏิวัติประชาชน เป็นปฏิวัติแบบฝรั่งเศส ที่ประชาชนลุกขึ้นมาเปลี่ยนประเทศ"



              ตะลึงกลางรายการเจาะข่าวเด่น ของนักข่าวชื่อดัง สรยุทธ์ สุทัศนะจินดา ช่อง 3 เมื่อเชิญนักวิชาการชื่อดัง อาจารย์สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง และ อดีตอธิการบดีนิด้า ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ มาพูดเรื่องการปฏิวัติประชาชน โดยมีข้อความตอนหนึ่ง ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ได้พูดแสดงถึง “นัยยะส่วนลึก” ในความหมายของการลุกขึ้นมาโค่นล้มรัฐบาลในครั้งนี้ ว่าการลุกฮือครั้งนี้ ถ้าจะพูดให้ชัดต้องพูดแบบนักปฏิวัติว่าเป็นการปฏิวัติประชาธิปไตยโดยประชาชน “เป็นการปฏิวัติแบบฝรั่งเศส ที่ประชาชนเค้าลุกขึ้นมาหมดแล้วเปลี่ยนประเทศ”


ในบทสนทนาช่วงหนึ่งในรายการ มีดังนี้

  • สมบัติ : การที่จะมีประชาชนจำนวนมาก หรือจะให้พูดแบบนักปฏิวัติประชาธิปไตย เค้าจะบอกว่า นี่คือการปฏิวัติประชาธิปไตยโดยประชาชน
  • สรยุทธ์ : นั่นคือประชาชนลุกขึ้นมาปฏิวัติ แต่ว่าวิธีการที่จะใช้อำนาจของประชาชนเนี้ย มันจะใช้เวลากว่า?
  • สมบัติ : มันไม่เหมือนกัน และไม่ง่าย และไม่เกิดขึ้นที่ไหนก็ได้
  • สรยุทธ์ อาจารย์สุขุมบอกว่า ต่างกันแค่ทหาร?
  • สมบัติ : โอ๊ว ต่างกันมากๆ
  • สรยุทธ์ โดย กปปส โดยวิธีการที่จะไปเนี่ย เหมือนที่ทหารทำเลย?
  • สุขุม : มันเหมือนคำมั่นสัญญาอย่างนี้ เราได้ยินมาหลาย ผมก็อยู่มานาน
  • สมบัติ : ไปดูอย่างปฏิวัติฝรั่งเศสสิ ถามว่ามีแกนนำมากี่คนละ ที่ประชาชนเค้าลุกออกมาหมดแล้วเปลี่ยนประเทศนะ
  • สุขุม : นี่มัน ปี พ.ศ.นี้แล้ว?

นายกรัฐมนตรี โชว์สปิริตขอจับมือ หนุ่มใหญ่เป่านกหวีดใส่ "บอกไม่เป็นไร"


นายกรัฐมนตรี โชว์สปิริตขอจับมือ หนุ่มใหญ่เป่านกหวีดใส่ "บอกไม่เป็นไร"



             น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ เดินทางต่อมายังกลุ่มเกษตรอินทรีย์แทนรักษ์ ต.เขื่องคำ อ.เมือง จ.ยโสธร เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการแปรรูปและการตลาดของกลุ่มเกษตรอินทรีย์แทนรักษ์ โดยมีนายสมเพชร สร้อยสระคู นอภ.เมืองยโสธร และ นางจุฬาพร กรธรทรัพย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยสมาร์ทไลฟ์ จำกัด ในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มเกษตรอินทรีย์แทนรักษ์ ต้อนรับและรายงาน

             ในระหว่างที่นายกรัฐมนตรี เดินพบปะทักทาย รับดอกไม้จากประชาชนที่มารอต้อนรับจำนวนมากอยู่นั้น พบว่ามีชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี 1 คน เป็นคนในพื้นที่ จ.ยโสธร ปะปนอยู่ในกลุ่มที่ต้อนรับนายกฯ ได้เป่านกหวีดขับไล่นายกฯ โดยทีมรักษาความปลอดภัยได้กันเอาไว้ ขณะที่ นายกฯ ห้ามอย่าทำร้ายชายดังกล่าวพร้อมกล่าวว่าไม่เป็นไร และจะขอจับมือกับชายคนนั้นแต่ทางการ์ด นปช.ได้ดึงตัวออกไปก่อน โดยมีเหตุวุ่นวายเล็กน้อย จากการสอบถาม จนท.พบว่า ชายคนดังกล่าวได้ขับรถกระบะเข้ามาในพื้นที่พร้อมกับพวกอีก 2 คนที่รออยู่ด้านนอก จากนั้นได้ขับรถออกไปทันที ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจาก ตร.สภ.ยโสธร อย่างเข้มงวด

"ม็อบนกหวีด จ.ตรัง" สุดทนแฉ "กปปส.ส่วนกลาง" ยัดใส้รายชื่อแกนนำเก๊ ประกาศเลิกวงแยกทาง


"ม็อบนกหวีด จ.ตรัง" สุดทนแฉ "กปปส.ส่วนกลาง" ยัดใส้รายชื่อแกนนำเก๊ ประกาศเลิกวงแยกทาง


         นายปรีดิ์ปราโมทย์ เลิศวราภัชร แกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. จังหวัดตรัง จำนวน 9 คน ได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นแกนนำ หลังส่งรายชื่อให้ กปปส.ส่วนกลางประกาศรับรองการทำงาน แต่กลับถูกนักการเมืองแทรกแซง ด้วยการตั้งคนของ กปปส.ส่วนกลาง ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ยัดไส้เข้าไปเป็นตัวแทนในนามจังหวัดตรัง

        โดยแกนนำระบุว่า ตนอุตส่าชุมนุมยืดเยื้อปิดหน้าศาลากลางจังหวัดตรัง มาตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม จนถึงปัจจุบัน แต่กลับไม่ได้รับความสนใจจาก กปปส. ส่วนกลาง ไม่มาดูแลค่าใช้จ่าย ไม่มาส่งความช่วยเหลือ มีแต่มาขอให้พาคนขึ้นไปชุมนุมกรุงเทพ พอส่งรายชื่อขึ้นไปก็โดนสับเปลี่ยนรายชื่อทั้งหมด จึงรู้สึกว่าโดนหลอกลวง จึงประกาศถอนตัวเลิกเป็น กปปส. นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

"นิธิ" แนะเลือกตั้งคือวิธีที่แฟร์ที่สุด


"นิธิ" แนะเลือกตั้งคือวิธีที่แฟร์ที่สุด




         18 ธันวาคม 2556 go6TV - นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ นักคิด นักเขียน และนักประวัติศาสตร์ ให้สัมภาษณ์พิเศษต่อสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน มีสาระสำคัญดังนี้

สถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้จะยืดเยื้อถึงเมื่อไร

          นายนิธิ กล่าวว่า “หากรัฐบาลสามารถประคองสถานการณ์ไปจนถึงวันเลือกตั้งได้ ซึ่งนับวันการเลือกตั้งมันชัดขึ้นเรื่อยๆ ประเด็นการคัดค้านก็เริ่มมีความหมายน้อยลง เมื่อมันมีความหมายน้อยลง ส่วนหนึ่งของคนในม็อบจะพบว่าไม่มีประโยชน์ อาจรู้ว่าสู้ไปก็ไม่ชนะ หรือจะสำนึกได้ก็ตามแต่ แต่สื่อจะให้ความสำคัญลดลงไปเรื่อยๆ เวทีที่ไม่มีแสงไฟสาดส่อง ก็จะจืดมากขึ้น เมื่อถึง วันเลือกตั้งก็จะยิ่งไร้ความหมาย อารมณ์คนในสังคมจะไหลมาสู่การแข่งกันในการเลือกตั้ง”

รัฐบาล และ กปปส. เปิดเวทีระดมสมองหาทางออก เห็นด้วยหรือไม่

        “เท่าที่เข้าใจ คนที่เข้าไปสู่เวทีปฏิรูปจำนวนหนึ่ง เช่น กลุ่มธุรกิจ 7 องค์กร เป็นพวกแทงกั๊ก คือ จะให้ร่วมกับนายสุเทพก็ไม่กล้า จะขัดขานายสุเทพก็ไม่กล้า ถ้าหากพวกแทงกั๊กเริ่มมองเห็นว่า แนวทางที่นายสุเทพผลักดันไปไม่รอดก็คงจะไม่ร่วมเอง เวทีปฏิรูปที่ตั้งกันในช่วงนี้มันเลอะเทอะ หากถามกลุ่มธุรกิจที่มาร่วมว่าข้อสรุปของกลุ่มคืออะไร ก็ยังไม่รู้ ยุคสมัยที่นักปราชญ์ประชุมกันหลังฉากหาทางออกให้ปัญหาของประเทศ ที่สั่งสมมานานแล้ว โดยไม่สนใจว่าประชาชนคนอื่นคิดอย่างไร มันหมดยุคสมัยไปแล้ว” นายนิธิกล่าว

ควรทำอะไรก่อนระหว่างการปฏิรูปกับการเลือกตั้ง

         “เหตุใดจึงไม่ทำให้การเลือกตั้งเป็นหนึ่งในกระบวนการปฏิรูปในตัวมันเอง การปฏิรูปที่อยู่นอกกระบวนการประชาธิปไตยมันมีไม่ได้และไม่มีด้วย” นายนิธิกล่าว

ประเด็นใดที่ควรหยิบมาพูดคุย อภิปรายในสังคมอย่างเร่งด่วน
          “การผลักดันการปฏิรูปไม่ใช่เรื่องที่มาจัดกันเดี๋ยวนี้ แต่ต้องคืนนโยบายสาธารณะให้คนทั้งประเทศตัดสินใจ ผลักออกไปสู่กระบวนการประชาธิปไตยอย่างการเลือกตั้ง เช่น นาย ก หรือพรรคการเมืองหนึ่งเชื่อว่าควรจำกัดการถือครองที่ดินให้แต่ละคนได้ไม่เกิน 50 ไร่ ต้องไปคิดว่าควรทำอย่างไร จะนำกฎหมายใดมาใช้ อีกพรรคอาจไม่เห็นด้วย มองว่าการทำแบบนี้จะขัดความก้าวหน้าทางเกษตรกรรม ก็ถกเถียงกัน นี่คือกระบวนการปฏิรูป ทำให้เป็นระบอบประชาธิปไตย จะไปปฏิรูปกันหลังฉากไม่ได้ ต้องโยนมันลงไปในสังคม ผ่านกระบวนการทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตย ที่มีการถกเถียงกัน ปัญหาแบบนี้มันเกี่ยวกับการปฏิรูปการเมืองอย่างแน่นอนและเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ปัญหาแบบนี้ได้ก่อนวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.” นายนิธิกล่าว

ควรโยนเรื่องอำนาจศาลรัฐธรรมนูญให้สังคมวิพากษ์ด้วยหรือไม่

           นายนิธิ กล่าวว่า “ควร และที่ผ่านมามีคนโยนมาไม่น้อยแล้ว การที่ศาลรัฐธรรมนูญไปรับคำร้องวินิจฉัย พ.ร.บ.กู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาท หรือเรื่องอื่นๆ ทั้งที่ไม่มีอำนาจ ทำให้ทุกอย่างมันช้า อะไรที่เป็นการกระทำของรัฐแล้วศาลรัฐธรรมนูญไม่เกี่ยว ที่ศาลฯเคยให้เหตุผลการยุบพรรคว่าเพื่อให้เกิดความสงบนั้น ขอโทษไม่ใช่หน้าที่คุณ ความสงบเป็นหน้าที่ของคนหลายคน ไม่มีอำนาจจากเทวดาที่ไหนมาสั่งให้สงบได้ ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง เขาให้ทำอย่างหนึ่งไปทำอีกอย่าง การกระทำของฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายนิติบัญญัติควรมีการตรวจสอบ แต่ไม่ควรเลอะเทอะแบบนี้ เหตุผลที่มีการวิพากษ์ศาลรัฐธรรมนูญยังจุดไม่ติดในสังคมไทย อาจเพราะเพิ่งโยนกันมาได้ไม่นาน และเสียงของคนจำนวนหนึ่งไม่ถูกฟังมาตั้งแต่ต้น แต่หากนานเข้า เสียงจะถูกฟังมากขึ้นเรื่อยๆ”

ควรมีการเจรจา-ตกลงนอกรอบ ก่อนจะถึงการเลือกตั้งหรือไม่

           “การเลือกตั้งคือการตกลงที่ดีที่สุด แฟร์ที่สุดที่คุณและผมมีส่วนร่วม แต่ที่ผ่านมาเรามองการเลือกตั้งง่ายเกินไป คิดว่าแค่เข้าคูหาหย่อนบัตร แต่ความจริงนับตั้งแต่การหาเสียง ชูนโยบาย ซึ่งสลับซับซ้อนและมีการเจรจาตกลงอยู่ในกระบวนการนั้นเยอะแยะ มากกว่าที่กองทัพมาเปิดเจรจากันตอนนี้ เหตุใดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงมีสิทธิ์พูดมากกว่าผมหรือคุณ มันเลอะเทอะมาก ที่คิดว่าการเจรจาจะต้องอยู่ในมือคนที่มีอำนาจเท่านั้น อย่าพูดว่าต้องประชุมกันก่อน ทำไมคนพวกนั้นจึงประชุมกันฝ่ายเดียว ทำไมเราและทุกๆคนไม่ได้เข้าประชุมหรือมีส่วนร่วมบ้าง” นายนิธิกล่าว

จะยังมีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 หรือไม่

         นายนิธิ กล่าวว่า “หากรัฐบาลอดทนไว้ คิดว่าไปถึงได้ แต่รัฐบาลต้องมีสติ ขันติเพียงพอ เพราะมองไม่เห็นว่ากลุ่มมวลมหาประชาชนจะทำหรือจะยกระดับอะไรได้อีก หัวใจสำคัญ คือ รัฐบาลต้องรักษาให้รัฐทำงานในฐานะที่เป็นรัฐไปจนถึงวันที่ 2 ก.พ. 2557 ขณะนี้นายสุเทพก็เหมือนฉีกรัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังไม่กล้าประกาศเป็นทางการว่าฉีกรัฐธรรมนูญ ทหารก็ไม่กล้ายึดอำนาจ หากถึงวันเลือกตั้ง แล้วฝ่ายต้านรัฐบาลยังไม่ยอมรับ ประชาชนยังนอนกันกลางถนนอยู่ ก็ใช้สิทธิการชุมนุมไป ตำรวจเองก็ต้องขอคืนพื้นที่ให้รถใช้ถนนได้ แต่ไม่ควรใช้ความรุนแรงเป็นอันขาด คนอื่นๆก็ควรปกป้องสิทธิในการชุมนุมของคนเหล่านี้ด้วย”

ทางออกของประเทศที่คิดว่าเป็นไปได้ที่สุด

         นายนิธิ กล่าวว่า “ในทัศนะผม คือ ประชาธิปไตย หากรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ปกครองประเทศให้ไปสู่การเลือกตั้งได้ และคนไทยเองก็พร้อมจะไปสู่การเลือกตั้ง คนไทยจะเห็นเองว่าทางออกอีกทาง คือ การใช้อำนาจ ความวุ่นวายหรืออันธพาลปั่นป่วนมันไม่เวิร์ก ความแตกแยกขัดแย้งขยายวงกว้างไปถึงกลุ่มนักวิชาการ ไม่รู้จะมองอย่างไรกับนักวิชาการที่เข้าไปสนับสนุนเรื่องเหล่านี้ มันไม่มีใครแฟร์พอที่จะมาถกเถียงกัน อย่างกลุ่มนิติราษฎร์เสนอแล้วเชิญให้นักวิชาการที่เห็นต่างมาถกเถียง แต่ก็ไม่เคยมีใครมา”

อะไรคือเหตุผลให้คนกลุ่มหนึ่งเลือกจะไม่ยึดหลักการ มองว่าการเลือกตั้งไม่แก้ปัญหา หรือไม่ควรยอมรับเสียงข้างมาก
         “ม็อบของสังคมสมัยใหม่ที่มนุษย์ไม่มีพันธะผูกพันไม่ว่าจะกับครอบครัว วัด หรือโรงเรียน คล้ายกับคนที่เข้าไปร่วมม็อบในเบอร์ลิน มอสโก ปักกิ่ง ลอนดอน คือ เป็นคนที่ไม่สนใจการเมือง เช่นเดียวกับคนในยุโรปที่ไปม็อบคือคนที่ไม่เคยไปเลือกตั้งเลย ธรรมชาติของมนุษย์ที่ถูกแบ่งแยกเป็นอณูเล็กๆ ไม่มีอะไรเชื่อมโยง จึงไม่แปลกที่จะมองว่าการเลือกตั้งคือการซื้อเสียง

         ที่ผ่านมา เคยมีงานวิจัยของอาจารย์ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ซึ่งตรงกับผลวิจัยก่อนหน้าว่า การซื้อเสียงมีผลต่อการเลือกตั้งประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น งานวิจัยหลายชิ้นก็ชี้มาตลอดว่าการที่ใครจะเลือกใคร ซับซ้อนกว่าเรื่องเงิน แต่ยังรวมไปถึงว่าเป็นเครือญาติกันหรือไม่ ผู้สมัครมีผลงานหรือเปล่า ไม่ยืนยันว่าม็อบของนายสุเทพ เหมือนในลอนดอน หรือเบอร์ลินหรือไม่ แต่เท่าที่ฟังก็พบว่าคนส่วนใหญ่ที่ไปม็อบคือคนที่ไม่สนใจการเมือง เมื่อคนที่ไม่ผูกพันอะไร เปล่าเปลี่ยว โดดเดี่ยว ขาดความมั่นคง เจอม็อบก็เข้าไปร่วม

         นอกเหนือจากต้องการเป้าหมายทางการเมืองแล้ว มันคือการแสดงออกถึงการไม่มีความสุขในชีวิต สมัยที่มีม็อบมัฆวานของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็พบมีการไปสร้างชุมชนใหม่ในม็อบ ไปคุยเรื่องลูก เรื่องผัว พอมีม็อบก็มีชุมชนเกิดขึ้น คนก็วิ่งเข้าหาความผูกพัน นี่เป็นเหตุผลที่มวลมหาประชาชนของนายสุเทพถูกหลอกได้ง่ายมาก สำนักข่าวต่างประเทศบอกว่ามีผู้มาร่วม 1.5 แสน นายสุเทพบอก 5 ล้านก็เชื่อ” นายนิธิกล่าว

เอ็งคิดว่าพี่มีความสุขหรือว่ะ


อุทธาหรณ์กบฏเทือก!
"สนธิ ลิ้มทองกุล" เปิดใจคนใกล้ชิด! 4 ปีหลังโดนยิง
ใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง "เอ็งคิดว่าพี่มีความสุขหรือว่ะ"



          วันที่ 18 ธันวาคม 2556 (go6TV) สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดใจกับลูกน้องคนสนิท เผย 4 ปีหลังโดนยิง ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงไม่มีความสุข “เอ็งคิดว่า พี่มีความสุขหรือว่ะ”

          เฟสบุ้คผู้ใช้ไอดีว่า Deam Angkasuwan ซึ่งเป็นพนักงานคนสนิท ในเครือ ASTV ได้เล่าถึงคำพูดของนายสนธิ ลิ้มทองกุลถึงชีวิตของตัวเอง 4 ปีที่ผ่านมา ที่ใครต่อใครเข้าใจว่า คุณสนธิมีความสุข มีการ์ดมากมายคุ้มกัน แต่ในความจริงนั้น ไม่สามารถยืนได้แม้กระทั่ง “จะยืนไหว้พระหน้าบ้าน ยังต้องมีการ์ดยืนเต็ม เอ็งคิดว่าพี่มีความสุข”

         “เช้านี้ได้เล่าเรื่องทริปที่ไปเที่ยวอีสานให้คุณสนธิฟัง เพราะคุณสนธิเป็นคนแนะนำให้ขับรถไปเที่ยวเอง ใช้เวลาให้คุ้มค่า คุณสนธิถามโน่นถามนี่ ถามว่าได้ไปแวะนั่นที่นี่หรือเปล่า ถามจนเราแปลกใจ ในที่สุดคุณสนธิก็บอกความในใจ เราเองฟังก็สะอึก...

        "ดีน เอ็งรู้มั๊ย พี่เห็นเอ็งขับรถไปเที่ยวอีสาน พี่โครตอยากไปเลย อยากไปกราบวัดของครูบาอาจารย์ทางภาคอีสาน อยากไปกินอาหารริมโขงเหมือนอย่างเอ็ง พี่เป็นคนชอบขับรถเองมาแต่ไหนแต่ไร คิดดูซิตอนนี้ชีวิตพี่มีแค่ บ้าน-ที่ทำงาน-บ้าน พี่ใช้ชิวิตอย่างนี้มาเกือบ 4 ปีเต็มตั้งแต่โดนยิง... มันโครตทุเรศไหม ที่ไปไหนต้องมีรถตาม 2-3 คัน คนอื่นคงคิดว่ามันเท่ห์ พี่จะยืนไหว้พระที่หน้าบ้าน(พระอาทิตย์) ก็ต้องมีการ์ดยืนเต็มไปหมด เอ็งคิดว่าพี่มีความสุขหรือว่ะ?."
"กกต.อัปยศ" หาช่องทางลากเลื่อนเลือกตั้ง บอก
"ให้รัฐบาลไปคุยกับกบฏ เลื่อนเลือกตั้งไปก่อน"


            เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2556 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรรมการ กกต.ทั้ง 5 คน นำโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ร่วมแถลงข่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ.2557 ออกไปจากเดิม

            นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการ กกต.ด้านการบริหารจัดการเลือกตั้ง กล่าวว่า ความเห็นของ กกต.
  • 1. ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การจัดการเลือกตั้งเพื่อให้สงบเรียบร้อย อาจเกิดขึ้นได้ยาก เพราะสถานการณ์เลือกตั้งครั้งนี้ไม่ปกติ น่าจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นมาพอสมควร
  • 2. เราคิดว่าฝ่ายต่าง ๆ หากมีโอกาสได้คุยกัน เพื่อช่วยให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นการเลือกตั้งที่ดี ยังเป็นสิ่งที่ทำได้ นั่นคือรัฐบาลและ กปปส.รวมถึงฝ่ายอื่นๆ น่าจะได้พูดคุยหาทางออก ให้เลือกตั้งอย่างสงบเป็นได้ และ
  • 3. อย่าได้นำเงื่อนไขว่าจะต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นข้อจำกัดว่าจะต้องเลือกตั้งวันนั้น โดยอาจจะคุยว่าจะเลือกตั้งวันนั้นหรือไม่ก็ได้ ฝ่ายการเมืองจะต้องไปคุยกันว่าจะเป็นวันใด

          “หากคุยกันว่าไม่ต้องวันที่ 2 ก.พ.2557 ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลก็จะหาทางออกเลื่อนการเลือกตั้งออกไป โดย กกต.พร้อมทำหน้าที่ในการจัดการเลือกตั้ง” นายสมชัยกล่าว

           นายสมชัย กล่าวว่า
  • 4. หากคุยกันไม่ได้ ตกลงกันไม่ได้ กกต.ทั้ง 5 พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ เพื่อให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 เป็นไปอย่างดีที่สุด(จะบริสุทธิ์ยุตติธรรมหรือไม่ ยังไม่รับปากนะ  อิอิ)

          “ส่วนจะใช้กลไกทางกฎหมายอย่างไร ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง เราเชื่อว่าหลังจากที่ฝ่ายการเมืองตกลงกันได้ ข้อจำกัดทางกฎหมายน่าจะไม่มี เพราะ กกต.มองว่ามีช่องทางดำเนินการทางกฎหมายได้ หากฝ่ายการเมืองตกลงร่วมกันว่า วันที่ 2 ก.พ.2557 ยังไม่เหมาะสม” นายสมชัยกล่าว

          นายสมชัย กล่าวว่า เราไม่ได้เสนอให้เลื่อนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 เพียงแต่มองว่าถ้ามีการเลือกตั้งในวันดังกล่าวน่าจะมีความวุ่นวายพอสมควร

รวบ "การ์ดม็อบนกหวีด" เปิดห้องพักมั่วยา ผลิตระเบิดขวด พร้อมอาวุธปืน กระสุนเตรียมก่อเหตุ


รวบ "การ์ดม็อบนกหวีด" เปิดห้องพักมั่วยา
ผลิตระเบิดขวด พร้อมอาวุธปืน กระสุนเตรียมก่อเหตุ




จับการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุม เปิดห้องพักมั่วยาเสพติด อีกทั้งมีระเบิดขวดเตรียมก่อเหตุ!!

วันนี้ 19 ธ.ค.56 เวลาประมาณ 07.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี ได้ทำการจับกุมตัว
  • 1. นาย สุรนันท์ กรุงแก้ว อายุ 25 ปี
  • 2. นาย วราวุฒิ พัฒนา อายุ 19 ปี
  • 3. นาย รัตนโชค ภาคแก้ว อายุ 17 ปี
  • 4. น.ส.นฤชล อมาตยกุล อายุ 25 ปี

พร้อมของกลาง
  • 1.วัตถุระเบิดแบบประดิษฐ์เอง จำนวน 4 ชิ้น
  • 2.ลูกกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด
  • 3.อุปกรณ์การเสพยาเสพติด จำนวน 6 อัน
  • 4.บัตร Security การ์ดต่อต้านนิรโทษกรรม จำนวน 1 ใบ

           โดยพฤติการณ์กล่าวคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เพืื่อเข้าค้นห้องเลขที่ 133/33 หมู่ 5 ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีนายสุรนันท์ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าเป็นเจ้าของห้องพัก ผลการตรวจค้นปรากฎว่าพบของกลางดังกล่าว และรับสารภาพว่านัดกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อมาเสพยาเสพติดที่ห้องพัก อีกทั้งรับว่าเป็นการ์ดกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

           โดยกล่าวหาว่า ผู้ต้องหาที่ 1 ครอบครองวัตถุระเบิด และเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษ  ผู้ต้องหาที่ 2-4 เสพยาเสพติดให้โทษ