เคยบอกไปหลายครั้งแล้วว่าการเมืองไทยไม่มีอะไรเปลี่ยน ทุกวันนี้ยังวนเวียนกับน้ำเน่าเช่นเดิม เพราะแทบทุกครั้งที่การเมืองเกิดภาวะ “ตึงเครียด” บวกกับนายกรัฐมนตรีไม่ทำอะไรที่ทำให้คนในวงจำกัดเกิดความสบายใจ และวนเวียนกับความไม่พอใจของ “อำนาจพิเศษ” ข่าวคราว “ปฏิวัติ-รัฐประหาร-ยึดอำนาจ” ก็โผล่มาอาละวาดอยู่ร่ำไป
แต่หากเราดูความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยมีอะไรที่ไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่คอยเชื้อเชิญให้ “อำนาจพิเศษ” แทรกเข้ามาครอบครองการบริหารอยู่ตลอดเวลา ดูอย่างสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริหารงานอยู่ดีๆ ไม่มีปัจจัยอะไรที่จะนำไปสู่การปฏิวัติ ก็ยังถูกปฏิวัติด้วยข้ออ้างที่เป็นสูตรคลาสสิกตลอดกาล ทั้งทุจริตคอร์รัปชัน เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และหมิ่นเบื้องสูง
ในวันนี้คนที่นางสดศรี สัตยธรรม กกต. บอกว่าทำตัวเหมือนจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่ออกตัวแรง และเล่นบทโหดพร้อมกับตั้งทีมงานพิเศษขึ้นมาอย่างลับๆ มีเครื่องมือ กำลังพล และงบลับจำนวนหนึ่ง แต่เงื่อนไขยอดฮิตก็ยังไม่แรงพอ แม้ข้อกล่าวหาต่างๆจะชัดแจ้งแดงแจ๋ขนาดเอามาอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วก็ตาม
แต่ต้นทุนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังแข็งแรงอยู่ ด้วยความเป็นนักการเมืองมือสะอาด ใสซื่อ คอยคุ้มครองความเละเทะของบริวารทั้งหมดอยู่ จึงยังไม่ถึงทางตันที่ต้องอาศัยปลายกระบอกปืนเป็นแสงสว่างของทางออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้นเท่ากับเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใหม่อีกครั้งตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตย แต่ก็อย่าได้ประมาทหรือนิ่งนอนใจเสียทีเดียว เพราะมีข่าวแว่วๆว่าเหล่าขุนศึกสีเขียวเปิดวอร์รูมวิเคราะห์กันว่า “กุนซือ” ของภาคประชาชนบางคนกำลังเดินเกม “ยั่วยุ” หรือ “ล่อเสือออกจากถ้ำ” เพราะรู้ดีว่านายใหญ่แห่งกองทัพบก “ของขึ้น” ง่ายเหลือเกิน ถ้าทนกันไม่ไหวจริงๆอาจมีการงัดแผนปฏิวัติสูตรพิสดารที่เรียกว่า “ปฏิวัติเงียบ” โดยผ่าน “กฎอัยการศึก” นำทหารออกมาควบคุมสถานการณ์เบ็ดเสร็จ เมื่อถึงจุดนั้นการเมืองไทยจะเดินเข้าสู่ “จุดเปราะบาง” เป็นอย่างยิ่ง
บวกกับท่าทีของนางสดศรีที่เปิดเผยถึงสัญญาณที่ได้ยินมาว่าอาจมีการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้ง รวมทั้งอ้างว่าทหารมีตัวแล้วว่าจะให้ใครเป็นรัฐบาล ที่สำคัญก็คือ ถ้าทหารปฏิวัติเสื้อแดงจะหือไหม ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าอาจจะมีการ “รบ” ถามว่าใครจะเป็นเหยื่อ ก็ไม่พ้นประชาชนที่ต้องตาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ถ้าปฏิวัติเงียบก็ต้องใช้อาวุธใช้รถถังกัน เชื่อว่าการปฏิวัติครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงทหารกลุ่มหนึ่งที่คิดจะทำปฏิวัติเงียบเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งและเตรียมการวางตัวบุคคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆว่า ไม่เชื่อ เพราะเชื่อมั่นว่ากองทัพวันนี้โดย พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยคิดที่จะปฏิวัติ เพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้าในระบอบประชาธิปไตย
ก็ต้องดูกันต่อไปว่า “เลือกตั้งกับปฏิวัติ” อะไรจะเกิดก่อนกัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน ปีที่ 12 ฉบับที่ 3027 ประจำวันอังคารที่ 5 เมษายน พ.ศ.2554 คอลัมน์ เก็บมาเขียน โดย ทีมข่าวการเมือง |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น