วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555


เตือนสติ สส.เพื่อไทย

          ผมได้รับฟังมาจากพี่น้องคนเสื้อแดงมากมายหลายคน
พูดว่า...นึกไม่ถึงว่าพรรคเพื่อไทยจะก้าวเดินแบบไร้สติ

นึกไม่ถึงว่าจะ ก้าวเดิน “แบบคนทื่อ-ทื่อ” ?ทื่อเหมือนโง่ อะไรทำนองนั้น

แล้วก็ถามว่าไม่รู้ดอกหรือว่านี้คือ การวางยาพิษตนเอง ?!

แล้วเตือนว่า...ขืนก้าวเดินแบบนี้ มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง
.....

ผมจึงเอามาเขียน...เรียนนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยทุกคน โปรดทราบแทนพี่น้องที่แสดงความคิดเห็น อยากให้ผมเขียนเตือนสติ (ท่านเหล่านั้น) โดยด่วน

ผมจึง ขอเขียนถึงท่านผู้ทรงเกียรติของพรรคเพื่อไทยว่า ขอได้โปรด“รับฟังเรื่องราว” บนพื้นฐานความจริงว่า การยกอ้างเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่นั้น แท้ที่จริงยังเป็นรองและ “รองอย่างมากมาย” ต่อผลประโยชน์ของตัวเอง นั้นก็คือท่านได้เป็นผู้แทนราษฎร ได้เป็นรัฐมนตรี ได้เป็นข้าราชการ-การเมือง ล้วนแต่เป็นประโยชน์ส่วนตน วงศ์ตระกูลและครอบครัวทั้งสิ้น

ในการได้ประโยชน์ของท่านในครั้งนี้ล้วนแต่ได้มาจากกองศพ อันเต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาของคนเสื้อแดง10 เมษายน – 19 พฤษภาคม 2553 แล้วท่านจะทำงานด้วยความกตัญญูต่อดวงวิญญาณของผู้เสียสละจำนวนมากเหล่านั้นหรือไม่ ? นี้คือคำถาม

โปรดอย่าลืมว่าคนเสื้อแดงคือ “มวลมหาประชาชน” ที่ต่อต้านสองมาตรฐาน ต่อต้านความชั่วช้า ต่อต้านเผด็จการโดยมีแรงจูงใจจาก ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกพวกอำมาตย์กระทำต่อท่านแบบไม่มีเมตตาธรรม ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ  มีแต่ความโหดเหี้ยมป่าเถื่อน ทารุณ ราวกับว่าท่านทักษิณและประชาชนไม่ได้เป็นคนไทยในชาติเดียวกัน พวกเขาโหดร้ายขนาดนั้น และร้ายแรงต่อเนื่องด้วยการไม่เลิกจองเวร ใส่ร้ายป้ายสี กล่าวหาตั้งแต่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ  ชินวัตร ลงมาจนถึงประชาชนชาวรากหญ้า หาว่าฝักใฝ่อยากเป็นประธานาธิบดี เป็นภัยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นพวกล้มเจ้า แล้วกล่าวหาว่าเป็นพวกก่อการร้ายไม่เว้นแม้กระทั่งหญิงชรา เด็กเล็ก ที่เข้าร่วมชุมนุมกับ นปช. ก็ได้ถูกกล่าวหาด้วย

ข้อกล่าวหาเหล่านี้มีคนได้รับความเดือนร้อนแสนสาหัส ขนาดถูกฆ่า ถูกอุ้มหาย ถูกไล่ยิงกลาง เช่น กรณีการฆ่าที่วัดปทุมวนาราม และก่อนหน้านั้น ทหารได้สังหาร เสธ.แดง นายทหารของกองทัพบกที่ออกมาร่วมสู้กับคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นภาพที่ไม่มีวันลืม

            ภาพต่อมา ได้แก่การไล่จับแกนนำยัดคุก ล่ามโซ่ตีตรวนขังลืม ห้ามประกัน

            ท่านนักการเมืองของพรรคเพื่อไทย...ลืมเรื่องเหล่านี้แล้ว...กระนั้นหรือ ?

            ลองย้อนดูการฆ่าอันเหี้ยมโหดในครั้งนั้น เขาเตรียมการฆ่าอย่างประณีตบรรจง ฆ่าด้วย “สมาธิ” อันมั่นคง กล่าวคือ “ทหารที่เป็นมือสังหาร”  ที่กำลังเล็งหาเป้าแต่ละคน จะมีกองกำลังคุ้มครอง อยู่ห่างจากมือสังหารออกไปหลายชั้น ชั้นแรกห่าง ๕ เมตร แล้วกระเถิบออกไปอีก ๑๐ เมตร ๒๐ เมตร และ ๑๐๐ เมตร เพื่อจะไม่ให้ใครเข้ามารบกวนสมาธิในขณะนิ้วมือเตรียมเหนี่ยวไกสไนเปอร์...เรียกว่าหน่วยคุ้มกันได้ทำงานสนับสนุนการฆ่าอย่างประณีตบรรจงประหนึ่งการจัดเวรยามเฝ้าหอเทวาลัย

            จงเชื่อไว้เถิดว่าถ้ามือสไนเปอร์ไม่ได้รับการคุ้มกันอย่างเยี่ยมยอด พวกมือสไนเปอร์จะไม่อาจจับเป้าได้อย่างแม่นยำขนาดนี้ ทั้งนี้ ยังมี “ตัวล่อ” คอยหลอกล่อให้ เสธ. แดง เดินออกมากจากมุมอับ แล้วเปิดอ้าซ่าให้กระสุนวิ่งเข้าเจาะศีรษะได้แม่นยำเหมือนจับวาง

            ทำไม...นักการเมืองของพรรคเพื่อไทย จึงมองภาพเหล่านี้ไม่ออก

            ผมอยากบอกกับนักการเมืองพรรคเพื่อไทยว่าประชาชนคนเสื้อแดงเขามีความหวังกับท่านอย่างสูงส่ง เขาเชื่อว่านักการเมืองคนเสื้อแดงจะช่วยให้ประเทศนี้ได้รับประชาธิปไตย และหวังต่อไปว่าพวกท่านจะมี “คุณสมบัติ” เป็นนักการเมืองที่ดี มีความโดดเด่น ฉลาดและไม่เห็นแก่ได้

            ทว่าหลังจากพวกท่านได้เข้าไปนั่งในสภาแล้ว แทบจะกลายเป็นคนละกลุ่มกับคนเสื้อแดงไปเลย ทำให้คนเสื้อแดงเข้าไม่ถึง ส.ส. ของตัวเอง เมื่อมองดูให้ชัด จะพบว่า ส.ส. ของคนเสื้อแดงทื่ถือเป็นธาตุสีเดียวกัน เหลือน้อยเต็มทน น้อยจนแทบว่าอยู่กันคนละโลก

            กรณีความพ่ายแพ้ที่จังหวัดปทุมธานี ยิ่งทำให้เห็นความแตกต่างทางความคิด นั้นก็คือ คนเสื้อแดงมองไปที่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กลับมองไปที่กองงบประมาณมหาศาลที่กองเป็นกะตั้กอยู่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้วเกิดกิเลสอยากเข้าไปบริหารเงินงบประมาณอันมากมาย ของ อบจ.มูลค่ามหึมาตรงนี้

            จึงผันตัวเองออกมาสมัคร นายก. อบจ. โดยอ้างว่าจะออกมาทำงานพัฒนาให้กว้างขึ้น

            เปล่าเลย...คนเสื้อแดงเขาตระหนักอยู่ในใจว่าเหตุไร จึงทิ้งตำแหน่ง ส.ส. ที่มีคุณค่าสูงส่งในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่างไม่มีเยื่อใจ ..คนเสื้อแดงอยากถามว่า.มิใช่เพราะกิเลสดอกหรือ จึงยอมลดตัวลงไปสมัคร นายก อบจ. เพียงเพื่อจะเข้าไปดูแลเงินหลายพันล้านบาท

            ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ได้ทำให้คนเสื้อแดงโดยรวมสั่นสะเทือน และสะเทือนถึงแก่นแกนทางความคิดของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคผู้บริหารประเทศชาติ แสดงว่ายังไม่ได้ตกผลึกเรื่องผลประโยชน์ของตัวเอง ระหว่างเงินกับการเป็นผู้แทนของปวงชนอันไหนจะสำคัญกว่ากัน
            ใช่แล้ว...มันย่อมทำให้เกิดความเสี่ยใจได้ ไม่น้อยเลย

            ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในจังหวัดปทุมธานี จะไมหยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะว่าประดาพลพรรคของฝ่ายมหาอำมาตย์จ้องอยู่ทุกกระพริบตา เพื่อจะส่งความวิบัติและความพ่ายแพ้ให้แก่พรรคเพื่อไทยในหลายกระบวนท่า รวมทั้งการปรองดองที่มีการเรียกร้องหาก็เป็นหนึ่งกระบวนท่าเพื่อการสังหาร

            ผมได้รับฟังนักสู้คนสำคัญท่านหนึ่งพูดใส่หูเมื่อไม่นานมานี้ว่า “พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งมาได้อย่างสง่างาม” แต่ไม่ยอมคาดเข็มขัดแชมป์  แถมมีการแอบ “โยนผ้าขาว” ยอมแพ้พวกเผด็จการในสภาหินอ่อนด้วยลีลาอ่อนช้อย โดยไม่นึกว่าคนเสื้อแดงเขาเลือกให้มาสู้ ไม่ใช่เลือกให้มาโยนผ้าขาว

            อย่างไรก็ตาม หลายท่านได้โทรแสดงความคิดเห็น ดังเช่นคุณ “ศิลป์ชัย” จากจังหวัดตากโทรมาถี่ยิบถึงวันละ 3-4 ครั้ง แสดงความคิดเห็นว่า ต่อจากนี้ไป พรรคต้องกล้าที่จะห้ามส.ส. กิเลสหนา อย่าปล่อยให้ทำเลอะเทอะตามใจชอบอีกเป็นอันขาด 

            ประการสำคัญถ้ามีการเลือกตั้งซ่อมเมื่อใด เมื่อนั้นให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เอเชียอัพเดท ออกไปทำข่าว ช่วยเหลือการหาเสียงทันที พร้อมกับจัดคาราวานของคนเสื้อแดงในพื้นที่แห่งนั้น เคาะประตูบ้าน  ช่วยเหลือคนละไม้คนละมือให้คึกคักให้ได้

            นอกเหนือจากเรื่องนี้ ขอให้ ส.ส. ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ขอให้ “ลงพื้นที่” ด้วยความเอาใจใส่ เข้าไปผูกมิตร สร้างความแนบแน่นให้แน่นเหนียว อย่าขี้เกียจหลังยาวเป็นอันขาด

คุณศิลป์ชัยเตือนสติมาจากจังหวัดตาก

            ผมเตือนต่ออีกโสดหนึ่ง เตือนให้คิด ก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะเดินหลงทางมากไปกว่านี้?

                                                                                    “สอาด จันทร์ดี”
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น