ก่อนจะเขียนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยความสมหวัง แล้วลือหึ่งว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ไม่ทราบไปกินดีหมีมาจากไหน จึงมีพลังแกล้วกล้าขนาดนั้น ...?
ผมขอเขียนถึงข่าวลือ...ที่ลือหึ่งตลอดทั้งวันของวันอังคารที่ 28 สิงหาคม 2555 โดยได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนและนายทหารระดับพันเอกและพันเอกพิเศษ พูดในเชิงเล่าใฟ้ฟังว่าจะเกิดการยึดอำนาจ (ปฏิวัติ) ภายในคืนนี้อีกแล้วหรืออย่างช้าไม่เกินวันพรุ่งนี้ ว่าแล้วก็สอบถามหาข่าวจากผมว่า ได้ข่าวอะไรบ้าง ?
ผมบอกว่าไม่มีข่าวเลย...แล้วผมก็ร้อง...โอ้...ให้ฟังว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้
หลังจากนั้น คนที่โทรคุยกับผม เล่าเป็นตุเป็นตะว่าทหารเอาแน่
จะเอาแน่เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “หักหน้า” ขนาดหนัก ทำแบบนี้ ทหารใหญ่ยอมไม่ได้ ว่าแล้วก็บรรยายลึกเข้าไปใน “หัวใจ” ของนายทหารใหญ่ว่า เขาถือว่ามันเป็นการหักหน้าที่ยอมไม่ได้เป็นอันขาด ถ้าทหารไม่ปฏิวัติแล้วละก็...อนาคตของอำมาตย์ใหญ่พังพินาศแน่ ว่าแล้วก็เล่าข่าวลือเป็นตุเป็นตะให้ผมฟังยาวเหยียด
ผมรับฟังข่าวดังกล่าว ทั้งที่เป็นข่าวจากเพื่อนและข่าวจากนายทหารใหญด้วยความรู้สึกปกติธรรมดา ไม่มีความเครียดด้วยประการทั้งปวง ทั้งนี้เพราะไม่เชื่อแม้แต่นิดว่าทหารใหญ่จะกล้าหาญขนาดนั้น ดังนั้น ผมจึงคิดของผมว่าทหารเขาก็มี ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีคนเสื้อแดงเต็มแผ่นดิน ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ที่ทหารหรือใครจะปฏิวัติได้สำเร็จ
อย่าว่าแต่ปฏิวัติเลย ต่อให้มากกว่านี้ก็ทำไม่ได้
แต่ผมก็สงสัยว่าเหตุไรจึงมีข่าวลือออกมาให้เปลืองสมอง ?
ผมคิดของผมต่อไปว่า ในสภาวะทางการเมืองตั้งแต่วันพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ย่อมเป็นที่รู้กันโดยทั่วว่า “เสื้อแดงคือกองกำลังคุ้มกันอันทรงพลังของพรรคเพื่อไทย” สถานการณ์ปัจจุบันไม่ได้เอื้ออำนวยให้ทหารทำอะไรได้ตามใจชอบ ทั้งนี้เนื่องจากพลังของคนรักประชาธิปไตย (ในประเทศไทย) โลดแล่นด้วยความกล้าหาญมีจำนวนมากขึ้นและมากขึ้น
มีแต่คนเสื้อเหลืองและพวก “สลิ่ม” เท่านั้นที่ยังงุมมะหรา ฝันหวานอยู่ตลอดเวลาว่าทหารจะสามารถ “ยึดอำนาจ” ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นความเชื่อที่เต็มเปี่ยมไปด้วย “ความเชื่อมั่น” ว่าจะสำเร็จอย่างง่ายดาย ขอเพียงแต่ให้ทหารเคลื่อนรถถังออกมา
นอกจากนี้พวก “สันติอโศก” โดยกลุ่มสาวกโพธิรักษ์ เช่นพลตรีจำลอง ศรีเมือง และพวกนายสนธิ ลิ้มทองกุล ยังกาพันฝันเพื่องว่าจะได้ใช้สูตร 70 -30 อันหมายถึงในรัฐบาลสมัยอำมาตย์ได้ครองเมืองกลับคืนมา จะให้มีการเลือกตั้งเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 70 เปอร์เซ็นต์ ล้วนแต่ให้คัดเลือกมาจากนักการเมืองน้ำดี ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนผู้นำ
พวกเขาฝันเฟื่องต่อไปว่า ถ้าทหารทำได้ดังกล่าว จะมีนายกฯพระราชทาน จะถวายคืนพระราชอำนาจ และจะปิดประเทศ 5 ปี ?
วู้ย...จะบ้าตาย ช่างพากันเพ้อเจ้อไปได้ ?
แต่จะทำอย่างไรได้ พลพรรค “ผีบุญ” โพธิรักษ์ และประดาบริวารสันติอโศก เขามีความต้องการเช่นนั้น เมื่อเขาต้องการ “ประเภทนี้” แล้วใครจะห้ามพวกเขาได้...จริงม๊ะ ? วันนี้ ผมคิดไปตามประสาของผมว่า ท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่กำลังใกล้เข้ามา ว่าแล้วผมก็ได้ความคิดอยากแต่งกลอนให้อ่านเล่น
คอยมาได้ “ร้อยปี” ยังคอยได้
จะคอยไป “อีกสิบปี” ยังมิสาย
แดงจงสู้ “กู้แค้น” แทนคนตาย
แดงต้องใหญ่ “ในแผ่นดิน” ถิ่นแหลมทอง
ผมขอฝากกลอนสั้น-สั้นให้ท่านได้อ่านเล่น ท่านผู้ใดจะต่อเติมเสริมแต่งเป็นบทกวี หรืออยากส่งบทความ ขอให้เขียนส่งได้ตลอดเวลา ส่ง ที่อีเมล์ : saaajundee@gmail.com
ก่อนจบ ผมขอแสดงความรู้สึกตื่นเต้นและสมหวังกับท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม “พล.อ. อ. สุกำพล สุวรรณทัต” ที่ท่านได้แสดงความกล้าโดยไม่รอข่าวลือด้วยการปลดฟ้าผ่า ท่านปลัดกระทรวงกลาโหม กับพวก หลุดจากเก้าอี้ แบบสายฟ้าแลบ
มันต้องอย่างนี้ จึงจะทำให้คนเสื้อแดงนอนตาหลับ
ความกล้าหาญของท่าน รมว. กลาโหม ในครั้งนี้ เป็นตัวย่างที่แสนดี มีความเหมาะเหม็งในกระแสสร้างประชาธิปไตยอย่างสูงส่ง อันเป็น “ต้นแบบ” ของนักสู้ที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ ที่คนเสื้อแดง-แดงทั้งแผ่นดิน ยกนิ้วให้ พร้อมกับเสียงไชโยโห่ร้อง
ขอยกย่อง พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต แทนคนเสื้อแดง ณ โอกาสนี้
ลือหึ่ง ไม่ทราบ “สุกำพล” ไปกินดีหมีมาจากไหน ?
“สอาด จันทร์ดี” 29 สิงหาคม 2555
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น