กกระสุนจากคลังแสงทหารบกกว่า 597,500 นัด ส่งคืน 479,577 นัด ใช้ไป 117,923 นัด เผยมีการเบิกกระสุนปืนซุ่มยิง 3,000 นัด ส่งคืน 880 นัด ขณะที่เบิกกระสุนซ้อมเพียง 10,000 นัด ส่งคืน 3,380 นัด (อ่านข่าวย้อนหลัง)
เปิดเอกสารใหม่ คำสั่งรักษาด่าน ศอฉ.ฯ
สั่งการไปหลายหน่วยทั้งทหาร-
ตำรวจ
ใบปะหน้าของเอกสารที่ กห.0407.45 (สยก.)/130 ลงวันที่ วันที่ 17 เม.ย. 53 “เรื่อง ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติ
การใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่” เรียน ผอ. ศอฉ. โดย พล.อ. รอง เสธ.ศอฉ. (3) ท้ายเอกสารมีข้อความว่า “อนุมั
ติตามเสนอในข้อ 4” ลงนามโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ในฐานะ ผอ.ศอฉ. และยังมีนายทหารยศนายพล 2 นาย (ไม่สามารถอ่านลายมือชื่อได้) ร่วมลงนามในหนังสือสั่งการด้วย
ทั้งนี้ นอกจากเอกสาร “สยก.ศอฉ. ที่ กห.0407.45 (สยก.)/130” ที่มีการนำเสนอไปนั้น ประชาไทยังนำเสนอใบปะหน้าของ เอกสารดังกล่าว โดยหน้าเอกสารเรียนไปยัง “ผอ. ศอฉ.” ลงนามโดย “พล.อ. รอง เสธ.ศอฉ. (3)” (ไม่สามารถอ่านลายมือชื่อได้) ลงนามวันที่ 18 เม.ย. 54 โดยในท้ายเอกสารมีข้อความว่า “
อนุมัติตามเสนอในข้อ 4” ลงนามโดย “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ในฐานะ ผอ.ศอฉ. โดยลงนามวันที่ 18 เม.ย. 53 นอกจากนี้ยังมีนายทหารอีก 2 นาย ลงนามในเอกสารดังกล่าว คือ พล.อ. (ไม่สามารถอ่านลายมือชื่อได้) ระบุตำแหน่งเป็น เสธ.ศอฉ. และ พล.อ. (ไม่สามารถอ่านลายมือชื่อได้) ระบุตำแหน่งเป็น ผช.ผอ.ศอฉ.(3)
เอกสาร “ส่วนราชการ สยก.ศอฉ.” ที่ “ต่อ กห 0407.45/130” ลงวันที่ 18 เม.ย. 55 ลงนามโดย พล.ต. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รอง หน.สยก.ศอฉ. ทำการแทน หน.สยก.ศอฉ. เสนอต่อ บช.น. ระบุท้ายหนังสือสั่งการว่า "เพื่อกรุณาทราบ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้
องต่อไป" โดยท้ายเอกสารระบุการแจกจ่
ายไปยังหน่วยงานทหาร-ตำรวจหลายหน่วย
และล่าสุดวันนี้ (20 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวประชาไท เผยแพร่เอกสาร “ส่วนราชการ สยก.ศอฉ.” ที่ “ต่อ กห 0407.45/130” ลงวันที่ 18 เม.ย. 55 เรื่อง “เรื่อง ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติ
ในการใช้อาวุธ เพื่อ รปภ.ที่ตั้งหน่วย และสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ และสายตรวจเคลื่อนที่” ลงนามโดย พล.ต. ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รอง หน.สยก.ศอฉ. ทำการแทน หน.สยก.ศอฉ. เสนอต่อ บช.น. โดยแนบสิ่งที่ส่งมาด้วยคือ “สำเนาหนังสือ สยก.ศอฉ.ลับ - ด่วนมากที่ กห. 0407.45/130 ลง 17 เม.ย. 53” หรือคำสั่งรักษาด่านฯ ศอฉ. ดังกล่าว โดยระบุท้ายหนังสือสั่งการว่า “เพื่อกรุณาทราบ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้
องต่อไป”
ไม่เพียงแต่ บช.น. เท้านั้น ในท้ายเอกสารระบุถึง “รายการแจกจ่าย” ว่ามีการแจกจ่ายคำสั่งดังกล่
าวไปยังหน่วยงานทางทหารทั้
งทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตำรวจหลายหน่วย ได้แก่ กกล.รส.ทภ.1, ศปก.ตร., บช.น., ศปก.ทอ., ศปก.ทร., พล.ม.2 รอ., นปอ., พล.ร.9, พล.1 รอ., บก.ควบคุม ทภ.2, บก.ควบคุม ทภ.3 และ บก.ควบคุม พล.ป.
เตรียมเรียกทหารที่ปฏิบัติ
การเข้าให้ปากคำที่ดีเอสไอ 22 ส.ค. นี้

ด้านวอยซ์ทีวี รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค. พ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดี ดีเอสไอและหัวหน้าชุดพนั กงานสอบสวนคดีพิเศษร่วมกั
บพลตำรวจตรีอนุชัย เล็กบำรุง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหัวหน้าชุดสืบสวนชันสูตรพลิกศพกรณีการเสียชีวิตของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติหรือ นปช.ในช่วงเหตุการณ์สลายการชุมนุมช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ประชุมร่วมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับความคืบหน้าในการรวบรวมหลักฐานเพื่อสรุป สำนวนคดีการเสียชีวิตของแนวร่วม นปช.ทั้ง 98 ศพ โดยมีการเปิดเผยว่าในวันที่ 22 สิงหาคม 2555 คณะทำงานสอบสวนชัณสูตรพลิกศพได้นัดให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าให้ ข้อมูลกับพนักสอบสวนจำนวน 1 นาย แต่ พ.ต.อ.ประเวศน์ไม่ได้เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าให้การนั้นเป็น พลซุ่มยิงหรือไม่ เปิดเผยเพียงว่าเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในช่วงเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 เท่านั้น
นอกจากนี้ ดีเอสไอจะเชิญผู้ชำนาญการด้
านอาวุธ 1 คน เข้าสอบปากคำเพื่อขยายผลเพิ่
มเติมบางจุด โดยต้องการให้ผู้ชำนาญการด้านอาวุธให้รายละเอียดถึงประเภทของอาวุธ ตลอดจนอานุภาพอาวุธแต่ละชนิดที่มีภาพปรากฏผ่านสื่อ โดยผู้ชำนาญคนดังกล่าวมาจากฝ่ายตำรวจซึ่งไม่กังวลว่าจะไม่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายทหารเนื่องจากเป็นผู้ชำนาญการที่ได้รับการรับรองจากศาลแล้ว
นอกจากสำนวนการเสียชีวิตที่
คาดว่าเกิดจากการปฏิบัติ
งานของเจ้าหน้าที่รัฐและส่งให้ตำรวจดำเนินการจำนวน 22 ราย แล้ว ดีเอสไอจะส่งสำนวนการสอบสวนการเสียชีวิตที่อาจเกิดจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มอีก 5 รายในจำนวนนี้เป็นกรณีเสียชีวิตที่บริเวณบ่อนไก่ อย่างไรก็ตาม หลังมีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบแล้วพบว่ามีพยานที่เป็นญาติผู้เสียชีวิตทยอยให้ข้อมูลมากขึ้น
อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น