วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

แผนสยบ ข่าวลือ


แผนสยบ ข่าวลือ 
เด้ง กิตติรัตน์ 
เด้ง สุกำพล ต้องฉับพลัน ทันใด

รายงานพิเศษ ในมติชนสุดสัปดาห์ 

วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2555 
ปีที่ 32 ฉบับที่ 1672 หน้า 8


           ทําไม นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จึงต้องออกมาชี้แจง 


"การบอกกล่าวหรือพูดถึงเป้าหมายตัวเลขทางเศรษฐกิจเป็น "โกหกสีขาว" ที่เป็นเรื่องปกติของนักเศรษฐศาสตร์" 
ทั้งๆ ที่ตำแหน่งประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง  เกี่ยวข้องกับการออกมา "โกหกสีขาว" ของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในเรื่องเป้าหมายการส่งออกที่ร้อยละ 15  และตัวของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็ออกมาย้ำยืนยันว่า ไม่เคยคิดที่จะลาออกจากกรณี "โกหกสีขาว"

          กระนั้น หากสังเกตกระแสการไหลเลื่อนของ "ข่าวสาร" 
การออกมาแถลงของ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ย่อมมีความจำเป็นอย่างสูง เพราะบางกระแสข่าวไปไกลถึงขนาดมีการประสานพลังระหว่าง นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ กับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช เพื่อเอา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่ไม่มีมูล


        เหมือนกับกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งย้าย พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ไปช่วยราชการในสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม  
ก็มีข่าวในลักษณะ "เจ๊าะแจ๊ะ" ออกมาจากคนใกล้ชิดอ้างคำพูดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า 

"ไม่น่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่" 


ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง สายสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความแนบแน่นอย่างสูง

ข่าวที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะไปนั่งว่าการกลาโหม ก็เสมอเป็นเพียงข่าวลือ  


           ยิ่งกว่านั้น การย้ายระนาบปลัดกระทรวงกลาโหม หาก พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ไม่หารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่หารือกับ "คนแดนไกล" ที่มหานครดูไบแล้ว ก็ยากเป็นอย่างยิ่งจะสามารถทำได้  


           ข่าวลือจึงเสมอเป็นเพียงข่าวลือ 
ไม่ว่าข่าวลือกรณี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ไม่ว่าข่าวลือกรณี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ยากที่ปรากฏได้ในทางเป็นจริง 

           เป็นข่าวประเภทชกลม  กระนั้น ก็มีความจำเป็นอย่างสูงที่บุคคลระดับ นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ และบุคคลระดับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เองจักต้องออกมาสยบ 


           เพราะบทบาทของ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นั้นสูง  
เพราะบทบาทของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เท่ากับเป็นการรุกคืบเข้าไปในกองทัพเพื่อสานไมตรีในระยะยาวไกล

นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ จึงต้องออกมายืนอยู่ข้างหลัง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
ขณะเดียวกัน จังหวะก้าวของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจึงต้องมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนเรียงอยู่เคียงข้างเพื่อให้เดินหน้าจัดระบบภายในกระทรวงกลาโหมได้อย่างราบรื่น 
เอกภาพเหนียวแน่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น