วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เปิดภาพชัดๆ ! "กระป๋องแก๊สน้ำตาสีเขียว" ของม็อบเสธ.อ้าย และน้องโบว์ "สีเดียวกัน"

เปิดภาพชัดๆ ! "กระป๋องแก๊สน้ำตาสีเขียว" ของม็อบเสธ.อ้าย และน้องโบว์ "สีเดียวกัน"

กระป๋องด้านซ้ายสี เงิน มีตัวอักษร 555 เป็นของตำรวจที่ผลิตจากอเมริกา  ส่วนกระป๋องสีเขียวเข้ม อักษรเหลือง ระบุวันหมดอายุไปแล้ว แหล่งข่าวกล่าวว่า ผลิตจากจีน และนำเข้าโดยผ่านมาจากประเทศมาเลเซีย

กระป๋องสีเงินหรือขาว เมือจุดแล้วจะไหม้เป็นดังภาพ

บชน. แถลงข่าวระบุชัด สีขาวเงิน ของตำรวจ แต่ที่จับได้จากผู้ชุมนุม จะเป็นสีเขียว ซึ่งมีแหล่งผลิตจากจีน และนำเข้ามาโดยบริษัทสัญชาติมาเลเซีย

วันหมดอายุ เดือนพฤษภาคม 2012 ที่จับได้จากกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเช้าที่โยนใส่ตำรวจ

วิถีพุ่งทางโค้งของกระป๋องแก๊สน้ำตา ที่พุ่งออกจากฝั่งผู้ชุมนุมด้านขวา ไปทางด้านซ้าย

กระป๋องแก๊สน้ำตาที่จับได้ในม็อบจริง

ย้อนกลับไปเมื่อ วันที่ 7 ตุลาคม 2551 เมื่อสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงสวัสดิ์ เวลานั้น นางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ เสียชีวิต โดยถูกอ้างว่า โดนแก๊สน้ำตาจนเสียชีวิต  เมื่อค้นภาพย้อนหลัง ปรากฏว่า "กระป๋องแก๊สน้ำตา" ที่เป็นเหตุให้นางสาวอังคณาเสียชีวิต เป็นกระป๋องแก๊สน้ำตา "สีเขียว" เหมือนกัน

ภาพเมื่อ 7 ตุลาคม 2555 เผยความจริงชัดเจนว่า กระป๋องแก๊สน้ำตาที่อ้างว่าเป็นสาเหตุให้นางสาวอังคณา เสียชีวิตวันนั้น เป็นกระป๋องแก๊สน้ำตาสีและประเภทเดียวกันกับที่ม็อบเสธ.อ้าย ใช้ในวันนี้เช่นกัน


รองผบช.น.แจงแก๊สน้ำตาหมดอายุ ฝีมือม็อบโยนใส่ ยันไม่รังแกปชช. มีหลักฐานชัด

 เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 24 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. แถลงเรื่องแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการชุมนุม โดยมีการนำแก๊สน้ำตามาให้สื่อมวลชนดู 3 ชนิด ว่า กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาที่หมดอายุมาใช้นั้น ปรากฏว่าเมื่อตรวจสอบพบว่าเป็นสีเขียวไม่ใช่แก๊สน้ำตาของตำรวจ โดยช่วงเช้าตนนั่งรถประชาสัมพันธ์เข้าไป ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างแก๊สน้ำตาเข้ามาด้วย ซึ่งแก๊สน้ำตาที่ตำรวจใช้นั้น ล็อตแรกเป็นยี่ห้อ 555 CS ผลิตจากสหรัฐอเมริกา มีกล่องสีขาวแถบฟ้า โดยเป็นล็อตแรกที่แจกตำรวจไป ส่วนล็อตที่สองที่จะมีการแจก เป็นยี่ห้อ MP-BD2-OC ซึ่งเป็นแบบแป้งก็มาจากสหรัฐอเมริกา โดยตำรวจก็มีจุดกั้นโดยแยก พล.1 ไม่พกอาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว  


  “ส่วนที่แยกมัฆวานฯ ตำรวจวางกำลัง แต่ไม่ได้ปฏิบัติตาม ซึ่งตำรวจมีการบันทึกภาพไว้ตลอดว่า ตำรวจไมได้รังแกประชาชน แต่ถูกปาใส่ก่อน ช่วงเช้าตำรวจที่บาดเจ็บมาจากภาคอีสาน 5 คน แต่กลับถูกรถชน เนื่องจากผู้ชุมนุมขับพุ่งชนรื้อลวดหนามทำให้บาดเจ็บ ซึ่งขอวิงวอนว่าเราคนไทยด้วยกันอย่าทำอะไรให้เป็นปัญหา โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ย้ำให้ดูแลประชาชนอย่างดี”รองผบช.น.กล่าว

 พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ทุกจุดได้สั่งการให้บันทึกทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอทุกจุด เพื่อเป็นหลักฐาน โดย ผบ.ตร.  และพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เน้นย้ำให้ผู้การเข้มแข็งที่มาช่วยจากภูธรต่างๆ 40 จังหวัด ที่เฝ้าแต่ละจุดให้ดูแลอย่างเต็มที “สำหรับแก๊สน้ำตากระบอกเขียวของกลุ่มผู้ชุม (เขียนด้านข้างว่า GT6-ARA1CS) ยังไม่ทราบประเทศที่ผลิต แต่คาดว่าเป็นของประเทศจีน หมดอายุเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับแผนการปฏิบัติก็ยืนยันว่าชัดเจน โดยเปิดให้ 2 ช่องทาง คือ  แยก พล.1 และแยกวัดเบญจฯ โดยช่องทางอื่นมีการวางกำลังไว้แล้ว เพื่อดูแลความสงบ และป้องกันห้ามนำอาวุธเข้ามาอย่างเด็ดขาด ส่วนจุดต่างๆ ที่มีการวางกำลังก็สั่งให้ดูแลอย่างดี ทาง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. และพล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้ประชุมสั่งการตลอดเวลา เพื่อสั่งการและเตรียมการตามสถานการณ์ ขณะนี้ยังคงปกติไม่รุนแรง ส่วนสถานที่ราชการก็วางกำลังไว้เรียบร้อยแล้ว ความพร้อมในด้านกำลังก็พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงแผนต่างๆก็มีขั้นตอนการปฏิบัติชัดเจน” รอง ผบช.น.กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น