วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

พีมูฟเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปบริเวณริมคลอง ข้างกระทรวงศึกษาธิการ

พีมูฟประกาศยอมถอย 2 ก้าว ย้ายไปชุมนุมข้าง ก.ศึกษาฯ แต่ยันปักหลักอยู่จนถึงที่สุด

พีมูฟ ประกาศแถลงการณ์ ฉบับที่ 24 ‘เรายอมถอย 2 ก้าว เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงาน และพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาล’ ก่อนเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปบริเวณริมคลอง ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ด้านกลุ่มขบวนการแรงงานเดินทางมาร่วมให้กำลังใจ




วันที่ 11 พ.ค.56 เวลาประมาณ 9.30 น.ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ประกาศแถลงการณ์ ฉบับที่ 24 ‘เรายอมถอย 2 ก้าว เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงาน และพิสูจน์ความจริงใจของรัฐบาล’ ก่อนที่จะมีการเก็บข้าวของและเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปยังบริเวณริมคลองผดุง กรุงเกษม ข้างกระทรวงศึกษาธิการ
ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมถูกกดดัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สั่งให้รถสุขา และรถน้ำหยุดให้บริการแก่ผู้ชุมนุม แต่ต่อมามีการเจรจาจนรถสุขากลับมาประจำที่ตำแหน่งเดิม

ผู้ชุมนุมกำลังขนย้ายข้าวของไปยังที่ชุมนุมใหม่ 
ภาพโดย: Bee Sangtawan
แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมได้มารวมตัวกันหน้าทำเนียบตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.56 ตลอดการชุมนุมที่ผ่านมา รัฐบาลได้มอบหมายให้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ประสานงานในหลายครั้ง และในการเจรจาครั้งหลังสุด เมื่อวันที่ 10 พ.ค.56 แม้ดูเหมือนจะได้ข้อสรุปหลายเรื่อง แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว พบว่ามีการบิดเบือนสาระสำคัญในหลายเรื่อง
นอกจากนี้การแก้ไขปัญหาในกลไกของอนุกรรมการชุดต่างๆ ก็เป็นแค่เพียงได้กำหนดวันประชุมเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีหลักประกันได้ว่า ปัญหาความเดือดร้อนของพีมูฟจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
แถลงการณ์ระบุว่า การประกาศยอมถอย 2 ก้าว ในครั้งนี้ เป็นการถอยจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ ก้าวที่ 1 พีมูฟขอเปิดการเจรจากับรัฐบาลโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่รัฐบาลไม่ยอมเปิดการเจรจา กลับเปิดการหารือซึ่งมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
ก้าวที่ 2 พีมูฟยืนยันว่าจะต้องนำกรณีปัญหาทั้ง 4 เรื่องคือ การแก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล การแก้ไขปัญหาที่ดิน กรณีโครงการนำร่องธนาคารที่ดิน 5 ชุมชนภาคเหนือ เรื่องผลการเจรจาแก้ปัญหาของเครือข่ายสลัม 4 ภาค และการแก้ไขปัญหาที่ดินพิพาท กรณีพื้นที่ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการประสานจัดการให้มีโฉนดชุมชนแล้ว เรื่องเข้าสู่การพิจารณาในการประชุม ครม.ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ แต่สุดท้ายมีเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้นที่คาดว่าจะสามารถพิจารณาได้ทันใน การประชุม ครม.ครั้งนี้
นอก จากนี้ พีมูฟยังประกาศว่า จะยอมถอยโดยเคลื่อนย้ายการชุมนุมจากบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลไปปักหลักชุมนุม อยู่บริเวณริมคลองข้างกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากในช่วงวันที่ 12-13 พ.ค.56 เป็นวันพืชมงคล ซึ่งพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญจะมีการใช้ถนนราชดำเนินเป็นเส้นทางของขบวน เสด็จไปยังพระราชพิธี ประกอบกับมีความคืบหน้าในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านพอสมควร แม้จะเป็นเพียงแค่การตกลงแนวทางการดำเนินงาน ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมก็ตาม
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการสร้างบรรยากาศในการทำงานและประสานงานร่วมกันให้ลุล่วง ในระหว่างรอฟังผลพิจารณาการประชุมการแก้ไขปัญหา อีกทั้งสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการหลายชุดตลอดทั้งสัปดาห์
“อย่างไรก็ตาม พวกเราขอเรียนไปยังผู้เกี่ยวข้องให้ทราบร่วมกันว่า การประกาศถอย 2 ก้าวในครั้งนี้ เป็นการแก้ไขปัญหาภาพพจน์ของรัฐบาล เท่านั้น ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกเรา” แถลงการณ์ระบุ และว่าแนวทางที่ถูกต้อง รัฐบาลควรมุ่งมั่นและเร่งรีบแก้ไขปัญหาให้เป็นไปตามข้อสรุปของที่ประชุมตาม ที่ตกลงกันไว้
แถลงการณ์ ของพีมูฟยังระบุถึง ตัวอย่างกรณีปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่ซึ่งต้องมีการแก้ไขโดยเร็ว อาทิ การบังคับคดีชาวบ้านโคกโตนด จังหวัดภูเก็ต ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 พ.ค.56 กรณีนายดิเรก กองเงิน ที่อัยการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นัดส่งฟ้องในวันที่ 16 พ.ค.56 นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่จะต้องเริ่มเปิดเขื่อนปากมูลในเดือนพฤษภาคม เพื่อให้ปลาเดินทางเข้ามาสู่แม่น้ามูน เพื่อให้คนหาปลาสามารถประกอบอาชีพได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้หากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไข ผู้ชุมนุมก็ไม่สามารถเชื่อคำสัญญาของรัฐบาลได้
“พวกเรา ขอยืนยันมาอีกครั้งว่า เราจะยังคงปักหลักชุมนุมอย่างสงบ ต่อไป จนกว่าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพวกเราจะได้รับการแก้ไขอย่างเป็น รูปธรรม จึงจะพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการต่อไป ในรูปแบบใด” แถลงการณ์ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมขอพีมูฟในวันนี้มีบุคคลและกลุ่มเครือข่ายต่างๆ เดินทางมาร่วมให้กำลังใจ อาทิ สุนี ไชยรส คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย สุธี ประศาสน์เศรษฐ อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภารณี สวัสดิรักษ์ นักผังเมืองอิสระ เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย ฯลฯ
นอกจากนี้ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ภาคใต้ (กป.อพช.ใต้) ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง 'ขอให้รัฐบาลแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่ เป็นธรรม' เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงมาเป็นคนกำกับดูแลการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง รวมทั้งให้กำลังใจและประกาศตัวที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพีมูฟอย่างเต็ม ที่ ในทุกรูปแบบ จนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุเป้าหมายถึงที่สุด
"เราเห็นว่า วิธีการ ที่ผ่านมา รัฐบาลใช้วิธีการตั้งคณะกรรมการฯ ซึ่งมักจะนำ นักการเมืองที่ไม่ค่อยมีความรู้ประสบการณ์ปัญหานั้นๆ มาเป็นประธาน แล้วก็แต่งตั้งข้าราชการผู้ใหญ่แต่ละกระทรวงมาเพื่อปกป้องตนเอง ไม่ยอมให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยดี ถ่วงเวลา โดยมี ตัวแทนประชาชน นักวิชาการเข้าไปบ้าง แต่ก็ยืดเยื้อไปจนหมดเวลารัฐบาล ซึ่ง หากรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องการ คิดใหม่ ทำใหม่ เอาจริงกับปัญหาที่เกิดขึ้น มีหลายประเด็นปัญหา มีข้อเสนอ และทางออกที่มีการศึกษาการแก้ไขปัญหามาหลายรัฐบาลแล้ว ให้นำข้อมูลตรงนั้นมาใช้ในการตัดสินใจ ซึ่งสิ่งที่เราต้องการ คือการกล้าตัดสินใจที่ถูกต้องของรัฐบาลไม่ใช่ถ่วงเวลา" แถลงการณ์ กป.อพช.ใต้ ระบุ


บรรยากาศการชุมนุมพีมูฟที่ข้างกระทรวงศึกษาธิการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น