วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สนัีบสนุนใบตองแห้ง


         Red USA ต่อปัญหาข้อขัดแยังเรื่องกฏหมายนิรโทษกรรมที่มีหลายฝ่ายเสนอ แต่กลายเป็นความขัดแยัง บาดหมางที่เ้กิดขึ้น Red USA ขอนำข้อเขียนของคุณใบตองแหง ที่ได้สรุปไว้ใน เวปไซท์ประชาไทย http://prachatai.com/journal/2013/07/47804 มาแสดงไว้ ดังนี้.-


        แม้มีปัญหาทางกฎหมายดังกล่าว เกือบทั้งฉบับ ก็ต้องให้กำลังใจญาติวีรชน ในความพยายามที่จะมีส่วนช่วยผลักดันการนิรโทษกรรม การออกมาแสดงเจตนารมณ์ ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยให้สังคมเข้าใจเจตนาที่แท้จริงของการนิรโทษมากขึ้นว่า ต้องการนิรโทษมวลชนทั้งสองฝ่าย ที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยความเชื่อว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง กระทั่งละเมิดกฎหมาย หรือแสดงอารมณ์โกรธแค้นตอบโต้การปราบปราม ที่ทำให้สูญเสียชีวิตเลือดเนื้อ
 
        กระนั้นในด้านบวกก็มีด้านลบ ญาติวีรชนและผู้สนับสนุนทั้งหลาย  พึงสังวรว่าการที่จู่ ๆ ก็ออกมาเสนอร่างกฎหมายพร้อมกับดิสเครดิตพรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. ว่าร่างเดิมๆ ไม่โปร่งใส พาดพิงตัวบุคคล ทั้งที่แม่น้องเกดก็เคยซื้อปลาสลิดไปฝากป้าธิดาเป็นประจำนั้น เท่ากับสร้างความขัดแย้งเกินเหตุ แล้วก็ตกไปเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่ต้องการทำลายกระบวนการนิรโทษกรรมอยู่แล้ว
 
       ถามว่าเราควรฝากความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยหรือ ไม่เลย แต่การวิพากษ์กราดไปทั่วเท่ากับดิสเครดิตทั้งขบวน ที่เขาพยายามผลักดันจนได้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านมติพรรค
 
       การมองเรื่องใดก็ตามไม่สามารถมองเป็นสีขาวสีดำทั้งหมด แน่นอนว่าในพรรคก็มีฝ่ายที่พยายามสอดแทรก “นิรโทษเหมาเข่ง” แต่ก็มีฝ่ายที่ต่อสู้ต่อรอง กดดัน จนแม้แต่ “นายใหญ่” ก็ไม่กล้าประกาศสนับสนุนร่างปรองดองของเฉลิม (แต่ไปพูดในคลิปลับแทน ฮิฮิ) การต่อสู้นี้บรรลุผลระดับหนึ่ง แต่ก็ยังต้องสู้กันต่อไป โดยผู้ที่ต่อสู้ต่อรองภายในต้องพยายามอดกลั้นเพื่อบรรลุผล มองสถานการณ์ใหญ่มากกว่าจะออกมาด่ากันเอง
 
       แน่นอน ฝ่ายที่โต้แย้งญาติวีรชน ก็มีส่วนที่ใช้ท่าทีค่อนข้างแรง (แล้วก็เจ็บตัวเพราะคนส่วนหนึ่งมองว่า “บังอาจ” ตอบโต้พ่อแม่ผู้สูญเสีย) แต่เพราะเขารู้สึกว่าการออกมาเช่นนี้จะทำลายกระบวนการที่จะเข้าสภาอยู่แล้ว  และกลายเป็นเครื่องมือฝ่ายต่อต้านการนิรโทษฯ ซึ่งผมเชื่อว่าญาติฯ และผู้สนับสนุนก็รู้ ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังใช้ความเป็น “พ่อแม่ผู้สูญเสีย” มาดิสเครดิตร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ด้านหนึ่งเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ ก็ถูก แต่ญาติฯ ก็ต้องพยายามป้องกันและตอบโต้ เช่นพรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าสนับสนุน แต่เนื้อหาที่พูดจริงๆ ไม่ได้สนับสนุนการนิรโทษกรรมเลย แค่ให้นิรโทษความผิด พรก.ฉุกเฉินและลหุโทษเท่านั้น ก็ต้องด่ามันกลับด้วยสิว่าไม่รับผิดชอบต่อคนตายแล้วยังเสแสร้ง
 
         คือถ้าจะไม่พอใจพวกเดียวกันทอดทิ้งคนตายคนติดคุก แล้วด่ากราด เมื่อพวกที่ต้องรับผิดชอบการฆาตกรรมฉวยโอกาสบ่อนทำลาย จะบอกว่าธุระไม่ใช่ ก็คงไม่ถูกแน่ ผมไม่ได้บอกให้ปิดปาก แต่บอกว่าด่ามันทั้งคู่สิครับ
 
        ความเห็นเกี่ยวกับตัวบทที่ผมเสนอนี้หวังว่าจะรับฟัง และสอบทานกับนักกฎหมาย (สอบถามนิติราษฎร์ก็ได้) หากเห็นด้วยว่าร่าง พ.ร.บ.นี้มีปัญหา ญาติวีรชนก็ควรกลับมามีส่วนร่วมผลักดันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับวรชัย โดยก่อนอื่นต้องทำให้เคลียร์ว่า ร่างฉบับวรชัยนิรโทษให้ทหารหรือไม่ (ถ้านิรโทษทหาร ผมต่อต้านด้วย)
 
          ขณะที่ทางพรรค แกนนำ นปช.และผู้ร่วมกันผลักดันร่างนี้มา ก็ควรให้ญาติมีส่วนร่วม (แต่ที่ผ่านมาไม่ได้หมายความว่าละเลย ไม่เคยฟังความเห็นญาติ คือจะให้สอบถามทุกคนคงเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็ไม่เคยได้ยินว่าญาติเสนอความเห็นอะไรอย่างเป็นทางการ) เพราะการที่ญาติผู้สูญเสียเข้ามาร่วมมีด้านบวกอย่างที่กล่าวแล้วว่าสังคมเชื่อถือว่าจะไม่นิรโทษให้ทหาร (และไม่นิรโทษให้ทักษิณ) ส่วนที่เกรงกันว่าจะสอดไส้ในกรรมาธิการ ก็ต้องผนึกกับ นปช. ศปช. กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล เครือข่ายญาติคนติดคุก (รวมทั้งฝ่ายเสื้อเหลืองในเฉพาะประเด็น) เรียกร้องให้มีตัวแทนประชาชนเข้าไปร่วมในคณะกรรมาธิการด้วย
 
       ประเด็นสำคัญที่สุดคือ จะตัดสินใจอย่างไรก็แล้วแต่ ต้องผลักดันให้เกิดการนิรโทษกรรมโดยเร็วที่สุด อย่าให้เกิดปัญหาบานปลายอย่างที่มีแนวโน้มจะเป็น คือท้ายที่สุด การขัดแย้งกันอาจทำให้ไม่มีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับไหนได้ผ่านสภาเลย หรือจากที่มวลชนตั้งความหวังไว้ในเดือนสิงหาคม ก็จะยืดเยื้อไปอีกจนปิดสมัยประชุมสภา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น