วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สุเทพเผยได้พบ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ต่อหน้า ผบ.เหล่าทัพ แต่ไม่มีการเจรจาใดๆ

สุเทพเผยได้พบ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' ต่อหน้า ผบ.เหล่าทัพ แต่ไม่มีการเจรจาใดๆ

เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยช่วงค่ำเผยได้พบนายกรัฐมนตรี แต่ย้ำว่าไม่ได้ไปเจรจาต่อรองใดๆ แต่เป็นการนำความต้องการของประชาชนไปเรียกร้องให้รัฐบาลรีบคืนอำนาจเพื่อให้มีการปฏิรูป เมื่อปฏิรูปเรียบร้อย กปปส. จะคืนอำนาจและจัดเลือกตั้ง พร้อมย้ำให้ข้าราชการหยุดงานจันทร์นี้ 
บรรยากาศปราศรัยของสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เมื่อคืนวันที่ 1 ธ.ค. 2556 อย่างไรก็ตามในการแถลงข่าวรอบนี้สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี รวมทั้ง TPBS ไม่ได้เชื่อมสัญญาณการปราศรัยแต่อย่างใด
ช่วงเวลาเดียวกับที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัย สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวี รวมทั้ง TPBS นำเสนอรายการตามปกติ ต่างจากการแถลงข่าวในช่วงกลางวัน

สุเทพเผยได้พบยิ่งลักษณ์ พร้อมขอให้คืนอำนาจให้ประชาชนแต่โดยดี
1 ธ.ค. 2556 - เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. วันนี้ (1 ธ.ค. 56) ที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ "คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" หรือ กปปส. ได้แถลงข่าวโดยระบุว่าเพิ่งพบกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อหน้า ผบ.เหล่าทัพสามเหล่าทัพ อย่างไรก็ตามขณะที่รายงานอยู่นี้ยังไม่มีการยืนยันข่าวดังกล่าวจาก ผบ.เหล่าทัพ และนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้สุเทพ แถลงว่า รัฐบาลได้หมดความชอบธรรมในทางการเมืองที่จะบริหารประเทศ เพราะประชาชนเจ้าของประเทศได้ลุกขึ้นยืนปฏิเสธอำนาจบริหารราชการแล้ว และวันนี้ได้บอกกับยิ่งลักษณ์ ชินวัตรว่า "ประชาชนมีความประสงค์ที่จะใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชน เป็นประชาธิปไตยทางตรง ให้ยอมส่งมอบอำนาจให้ประชาชนแต่โดยดี เราก็จะปฏิบัติต่อคุณยิ่งลักษณ์ด้วยความเป็นสุภาพชน เพราะพวกเราล้วนเป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น ที่ประชาชนจะมาบริหารเอง เพราะไม่สามารถอดทนกับระบอบทักษิณได้ ขอให้คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ฟังเสียงประชาชน คืนอำนาจให้ประชาชน ประชาชนต้องการให้บอกนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ โดยตรง ซึ่งหน้า และชัดเจนที่สุด"
จากนั้นผู้ชุมนุมตะโกนว่า "ออกไป ออกไป" อย่างกึกก้อง

ไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่มีการต่อรอง ต้องให้ประชาชนจัดการประเทศ
สุเทพกล่าวต่อว่า "ผมได้บอกคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อหน้า ผบ.สามเหล่าทัพว่า มวลมหาประชาชนลุกขึ้นกระทำการเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ เพื่อประเทศไทย ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ใครคนใดคนหนึ่ง พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นเรื่องของประชาชน ไม่ใช่เรื่องพรรคการเมือง จนกว่าประชาชนจะได้จัดตั้งสภาประชาชน และรัฐบาลของประชาชน เพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ปฏิรูปบ้านเมืองให้เรียบร้อยหลังจากนั้นจะคืนอำนาจให้เป็นอำนาจตัดสินตามกระบวนการประชาธิปไตย พรรคการเมืองใดจะลงมาสมัครเลือกตั้งต้องอยู่ภายใต้กฎประชาธิปไตยอันบริสุทธิ์ ภาระจะสิ้นสุดลงเมื่อบ้านเมืองได้รับการจัดการเรียบร้อยอย่างที่กราบเรียนมานี้"
"และได้แจ้งให้ยิ่งลักษณ์ทราบว่า ทางออกประเทศไทยมีอย่างเดียว คือให้ประชาชนมีอำนาจจัดการประเทศ ตามเจตนารมณ์ของประชาชนโดยรวมทั้งประเทศที่ลุกขึ้นมาในคราวนี้ ไม่มีทางเลือกอื่น ไม่มีข้อต่อรอง และที่มวลมหาประชาชนได้ดำเนินการมา และดำเนินการต่อไปนั้น จะต้องเสร็จสิ้นภายใน 2 วันนี้ จึงไม่มีข้อเรียกร้อง ไม่มีข้อต่อรองใดๆ ที่จะเสนอต่อรัฐบาล"
"รัฐบาลโดยคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยินยอมโดยดี มอบอำนาจคืนประชาชน หรือจะดำเนินการอย่างไรเป็นเรื่องของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและคณะ ประชาชนจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะมีอำนาจจัดการประเทศเต็มที่และบรรลุเป้าหมาย ตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนได้กำหนดร่วมกัน"

ยันจะเป็นการพบครั้งสุดท้าย จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน
สุเทพกล่าวว่า "นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรไม่ได้ตอบแต่อย่างใดทั้งสิ้น ผมถือว่าได้เป็นตัวแทนประชาชน บอกเจตนารมณ์แท้จริงของมวลมหาประชาชนแล้ว นี่จะเป็นการพบกันครั้งเดียวระหว่างผมกับคุณยิ่งลักษณ์ จะไม่มีการพบกันอีกจนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน"
"จะยึดหลักสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ จะใช้วิธีการอหิงสาเท่านั้น ไม่ว่ารัฐบาลจะเดินการอย่างไร เราจะใช้หลักอหิงสาและไม่กลัวรัฐบาล ถ้าหากฝ่ายรัฐบาลใช้มาตรการรุนแรงกับประชาชนมีผู้บาดเจ็บ มีผู้เสียชีวิตแบบที่ทำกับนักศึกษารามคำแหง ประชาชนจะไม่ยอมและจะลุกขึ้นทั้งประเทศ ผมได้บอกกับนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ว่าถ้าคิดปราบปรามประชาชน จับกุมผม จะฆ่าผม จะมีประชาชนอีกหลายสิบล้านลุกขึ้นมาทำการแทนผม จนกว่าจะบรรลุเจตนารมณ์ประชาชน"
"ให้นายกรัฐมนตรีพึ่งรู้ว่า ประชาชนไม่อดทนต่อไม่ ไม่ยืดเยื้อเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น นี่ไม่ใช่การต่อรองแต่เป็นเจตนารมณ์ของคนไทยทั้งประเทศที่ไม่ต้องการให้มีระบอบทักษิณอีกต่อไปแล้ว"
สุเทพยืนยันว่า ที่ไปพบกับยิ่งลักษณ์นั้น เป็นการพบต่อหน้า ผบ.เหล่าทัพสามเหล่าทัพ ไม่มีลับลบคมใน "ไปสื่อสารว่า ประชาชนคิดอย่างไร ต้องการอย่างไร เท่านั้นเอง" อย่างไรก็ตาม สุเทพระบุว่าไม่ขอพูดถึงรายละเอียดของการพบ แต่ยืนยันว่าเป็นการพบต่อหน้า ผบ.เหล่าทัพ
สุเทพกล่าวด้วยว่า "สำหรับพี่น้องตำรวจ ถ้าวางอาวุธไม่ทำร้ายประชาชน จะพร้อมอ้าแขนต้อนรับ เพราะตำรวจเป็นข้าราชการประชาชนเช่นเดียวกัน ผมได้บอกยิ่งลักษณ์ว่า ที่วันนี้มวลมหาประชาชนต้องไปล้อมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพราะไม่ต้องการให้ตำรวจยกกำลังพร้อมอาวุธมาทำร้ายประชาชน เป็นการป้องกันโดยชอบตามกฎหมายและตามประเพณีนิยมของอารยะขัดขืนโดยแท้"

เรียกร้องข้าราชการใช้ดุลยพินิจหยุดงานไม่ทำตนเป็นสมุนระบอบทักษิณ
สุเทพกล่าวด้วยว่า ในการพบกันคราวนี้ผมคิดว่าเป็นข่าวดี เพราะ ผบ.สามเหล่าทัพ แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่ากองทัพอยู่ข้างประเทศไทย ท่านผู้บัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดต่อหน้าผบ.เหล่าทัพว่า "กองทัพไม่ต้องการเห็นประชาชนบาดเจ็บล้มตาย เพราะกองทัพอยู่ข้างประเทศไทย" สุเทพอ้าง และกล่าวว่า "ผมได้เรียนกับ ผบ.เหล่าทัพทั้งสามเหล่าทัพว่า พวกเราที่ลุกขึ้นกระทำการมีเจตนารมณ์แน่วแน่ทำเพื่อประเทศไทยและลูกหลานของเรา จะยึดหลักสันติ อหิงสา ไม่บีบบังคับข้าราชการกลุ่มใดทั้งสิ้น แต่เรียกร้องข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ใช้ดุลยพินิจตัดสินใจ ยืนอยู่ข้างประชาชน ฉะนั้นขอกราบเรียนผู้รักชาติทั้งหลายว่า เราจะเดินหน้าปฏิบัติการของเราต่อไป ขอเรียนข้าราชการทุกกรมกอง แผนกการ ไม่ว่าพลเรือน ตำรวจ ทหาร ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ท่านต้องหยุดปฏิบัติราชการ ไม่ทำตนเป็นสมุนระบอบทักษิณ"
สุเทพกล่าวถึงผู้ชุมนุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า "ขอให้พี่น้องทั้งหลายอดกลั้น อดทน และไม่แสดงอาการที่รุนแรงใดๆ รวมทั้งพี่น้องทั้งหลายที่รวมกันอยู่รอบๆ ทำเนียบรัฐบาล ผมได้บอกกับคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ผบ.เหล่าทัพว่าเรารู้ดีว่าการกระทำการอย่างนี้ แม้แต่ล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ราชการ เป็นความจำเป็น และเราพร้อมรับการดำเนินคดี พิจารณาคดีตามกฎหมาย โดยไม่หลีกเลี่ยง ขอให้ชาติอยู่รอดได้ มวลมหาประชาชนพอใจแล้ว นี่คือสิ่งที่ผมบอกคุณยิ่งลักษณ์ มาสรุปให้พี่น้องฟัง"

ย้ำส่งท้าย ขอให้ข้าราชการหยุดงานจันทร์นี้ เพราะรัฐบาลหมดความชอบธรรมแล้ว
สุเทพย้ำว่า "โอกาสนี้เท่านั้นที่เราจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้น รอดพ้นจากอำนาจระบอบทักษิณ ให้พี่น้องได้มั่นใจว่าตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญนั้น อำนาจอธิปไตยแท้จริงเป็นของปวงชนชาวไทย เมื่อรัฐล้มเหลวที่จะบริหารราชการก็เป็นความชอบทำที่ประชาชน ลุกขึ้นแสดงพลัง ทุกการปฏิบัติการ ในการปฏิบัติของมวลมหาประชาชนโดยพร้อมเพียงกัน"
"ขออนุญาตเป็นตัวแทนมวลมหาประชาชน เรียนกับพี่น้องข้าราชการอีกครั้งว่า ท่านต้องตัดสินใจตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ที่จะต้องหยุดงานพร้อมเพรียงกัน โดยสมัครใจ ด้วยหัวใจของท่านรู้ผิดถูก ประโยชน์ชาติ ประโยชน์ประชาชนอยู่ที่ไหน ประชาชนรอคำตัดสินใจในวันพรุ่งนี้ ขอย้ำกับข้าราชการว่า รัฐบาลหมดความชอบธรรมทางกฎหมายแล้ว รัฐบาลได้แสดงตนเป็นผู้กบฎต่อรัฐธรรมนูญ และประชาชนได้แสดงตนเป็นผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ ขอให้ข้าราชการได้ตัดสินใจเพื่อชาติโดยพร้อมเพรียงกัน"
บรรยากาศของการชุมนุม กปปส. ที่ ถ.ราชดำเนิน ภายหลังจากที่สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ สิ้นสุดลง
หลังการปราศรัยของสุเทพที่ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะจบลง ต่อมาที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ประกาศว่าในวันพรุ่งนี้ตามที่สุเทพ เทือกสุบรรณ ประกาศให้มีการหยุดงานนั้น จงออกมาร่วมกับมวลมหาประชาชนให้ยิ่งใหญ่ไพศาลทั่วทั้งประเทศ ประชาชนจะได้ลุกขึ้นมากำชัยชนะขึ้นสุดท้าย ไม่มีวันเสียของเด็ดขาด และต้องชนะให้ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น