สุเทพระบุ 7 ม.ค. จะเดินฝั่งธนบุรีเชิญชวน 'ปิดกรุงเทพฯ'
สุเทพ เทือกสุบรรณ ระบุเดินขบวนชวน 'ปิดกรุงเทพฯ' วันอาทิตย์นี้ผลตอบรับดีมาก เป็นวันที่ถูกกอดมากที่สุดในชีวิต คนยื่นเงินกับมือร่วม 1.7 ล้าน วันอังคารนี้จะไปเดินชวนคนฝั่งธนบุรีบ้าง พร้อมเตือนอนุดิษฐ์-เลขา สมช. อย่าให้ร้ายผู้ชุมนุม ชี้รัฐบาลกำลังหาเหตุออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ไม่กลัวเพราะจะสู้กลับ
6 ม.ค. 2556 - ตามที่ช่วงกลางวันของเมื่อวานนี้ (5 ม.ค.) สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้นำผู้ชุมนุมเดินขบวนตั้งต้นจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผ่านบ้านหม้อ สะพานพุทธ เพื่อสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ผู้ก่อตั้งกรุงเทพมหานคร และเดินเข้าย่านวรจักร พาหุรัด และวงเวียน 22 กรกฎาเป็นระยะทาง 7 กม. นั้น
สุเทพขอบคุณประชาชนที่ร่วมสนับสนุนเดินโหมโรง วันนี้ถูกกอดจูบมากที่สุดในชีวิต
ต่อมาเมื่อคืนวานนี้ เมื่อเวลา 20.00 น. ที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน สุเทพ ได้กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุมว่า วันนี้มีเรื่องที่จะต้องพูดคุยหลายเรื่อง วันนี้ออกเดินสายหน่อยเพราะต้องการให้นักเรียนไปถึงโรงเรียนให้เรียบร้อยเข้าห้องสอบให้เรียบร้อย เราออกไปใกล้ๆ 10 โมง กลับมาก็ 4 โมงเย็น วันนี้มีคนยื่นเงินให้กับผม ตั้งแต่เหรียญสิบบาท ยี่สิบบาท ห้าร้อย แบงค์พัน นับกันเมื่อยเลย วันนี้รวมได้ 1,718,310 บาท
"พี่น้องที่เคารพ ผมได้รับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พี่น้องมอบให้ด้วยหัวใจ และ 90% ที่เอาเงินยัดใส่มือผมแล้วบอกว่าขอบคุณนะกำนันที่ช่วยสู้เพื่อพวกเรา ซึ้งใจจริงๆ ครับพี่น้องครับ มีผู้สูงอายุนั่งรถเข็นดักรอผม บอกว่าตั้งใจเป็นกำลังใจกับมวลมหาประชาชนที่กำลังต่อสู้เพื่อชาติ ผมกราบขอบพระคุณท่านผู้อาวุโสด้วยความเคารพ แล้วมีพี่คนหนุ่มเอาแบงค์พันมาให้ แล้วบอกว่าฉบับนี้ไม่ยับนะกำนัน คงได้ยินผมพูดว่าที่มีคนเอาเงินมาให้มันยับยู่ยี่ แสดงว่าที่เราพูดบนเวทีพี่่น้องที่ดูทีวีที่บ้านจำได้หมด"
สุเทพกล่าวว่า "วันนี้ถูกกอดถูกจูบมากที่สุดในชีวิตตั้งแต่เดินมา ตั้้งแต่เกิดมา นอกจากถูกสุภาพสตรีทุกรุ่นอายุกอดและจูบ ถูกผู้ชายกอดและจูบไป 4-5 หนด้วยครับวันนี้ ก่อนขึ้นเวทีผมเลยบอกคุณชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ว่า สำหรับคนกรุงเทพฯ หน้าตาไม่สำคัญอีกต่อไป อายุก็ไม่สำคัญ ชอบเสียอย่างกูกอดมึงได้ทั้งนั้น พี่น้องเมตตากับผมมาก และให้กำลังใจ และยืนยันว่าตั้งแต่ 13 ม.ค.เป็นต้นไป จะออกมาต่อสู้ร่วมกับมวลมหาประชาชน ทุกบ้านที่เราไป ผมได้ยินที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยเชื้อสายอินเดีย ก็พูดเหมือนกันว่าให้ไปบอกมวลมหาประชาชนสู้เอาประเทศไทยของพวกเราคืนมา สุดยอดครับ สุดยอดจริงๆ มีท่านสุภาพสตรีท่าทางเรียบร้อยยืนกระมิดกระเมี้ยน บอกว่าขอกอดทีได้ไหม ผมบอกได้ครับ พอแกกอดผม แกดิ้นใหญ่ครับ จนผมตกใจ ส่วนใหญ่ที่มอบเงินให้มากอดมาหอมต้องการให้กำลังใจ ขอว่าพวกเราอย่าท้อถอย ไหนๆ สู้มาขนาดนี้แล้ว สู้ให้ชนะ เพราะประชาชนเขารออยู่"
วันที่ 7 ม.ค. จะเดินชวนฝั่งธนร่วมปิดกรุงเทพฯ บอกเลขา สมช. ให้ระวังคำพูด
"พี่น้องทั้งหลาย วันนี้เดินไม่ไกลนัก ท่านที่ไปเดินมาวันนี้ คงเมื่อยๆ อยู่บ้าง พรุ่งนี้อนุญาตให้พักได้ 1 วัน พึ่งบริการนวดสองข้างถนนไปก่อน มะรืนนี้ (7 ม.ค.) จะเดินไกลหน่อย ไปเดินฝั่งธน ชวนพี่น้องฝั่งธนบุรีมาร่วมปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ กับพวกเรา และจะออกเช้าสักหน่อย อาจจะออกประมาณ 08.30 น. เพราะฉะนั้นพี่น้องจะเดินร่วมกับผม มะรืนนี้ก็ต้องตื่นเช้าหน่อย รับประทานอาหารเสร็จ ก็ออกเดิน 08.30 น."
"วันนี้ที่จะต้องมีเรื่องพูดคุย ขอพูดถึงคนฝ่ายรัฐบาล คนแรกคือเลขาธิการสมช. พล.ท.ภราดร พัฒนาถาบุตร ผมเคยเรียนว่าในบรรดาเลขา สมช.คนนี้ พูดอะไรผิดทุกที วันนี้ก็มาพูดอีกว่าวันที่ 13 ม.ค.นี้คนกรุงเทพฯ จะออกมาไล่พวกเราเพราะไม่พอใจพวกเรา มาโรงเรียนเดียวกับเฉลิม อยู่บำรุงเลย เฉลิมบอกเวลาสุเทพไปที่ไหนให้ลูกน้องเอาเงินไปแจกไว้ล่วงหน้า เวลาเดินผ่านก็ให้เอาเงินมาบริจาค วิธีการแบบนี้ เฉลิมกับลูกทำได้ แต่ตนทำไม่เป็นหรอก พูดจาอะไรก็ไม่มีดี เพราะพูดแบบคนที่เป็นขี้ข้าเขา เขาประกาศเองว่าเป็นขี้ข้าของทักษิณทั้งชีวิต ปากของขี้ข้า สติปัญญาของขี้ข้าก็ทำได้เท่านี้"
"พล.ท.ภราดรก็เป็นอีกคนหนึ่งพูดออกมาได้ว่าคนกรุงเทพจะออกมาไล่พวกเรา ก็เราเดินทุกวัน ให้คุณภราดรรู้ไว้ว่าชาวกรุงเทพร่วมแรงร่วมใจสนับสนุนให้พวกเราไล่ พวกขี้ข้าทักษิณและระบอบทักษิณให้หมดสิ้นจากแผ่นดินไทย ดู 13 ม.ค.ก็แล้วกันว่าใครจะไล่ใคร"
เตือนอนุดิษฐ์อย่าให้ร้ายผู้ชุมนุมไม่อหิงสา ชี้แผนร้ายรัฐบาลหาเหตุออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
"อีกคนคืออนุดิษฐ์ นาครทรรพ ขี้ข้าเขาเหมือนกัน บอกว่าผมไปหลอกล่อนำมวลชนมาจากภาคต่างๆ เป็นมวลชนที่เรียกร้องความช่วยเหลือด้านการเกษตร เท่านั้นไม่พอ บอกบรรดามวลชนที่มามีพฤติกรรมใช้ยาเสพติดเพื่อปลุกเร้าความกล้า อนุดิษฐ์ฟังให้ดี พี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุมไม่มีใครเสพยา ไม่ต้องพึ่งยาเสพติดถึงจะเกิดความกล้า แต่กล้าด้วยหัวใจ และยังบอกอีกว่ามายึดอาวุธปืนจากพวกเราได้เป็นจำนวนมาก มันมาเมื่อไหร่ ตั้งแต่เราอยู่ราชดำเนินมา ไม่มีหมาสักตัวมา แล้วมาพูดเป็นตุเป็นตะว่า ยึดอาวุธปืน วัตถุระเบิดได้จำนวนมากมันโกหกได้เหมือนนายกฯของมันไม่มีผิด ยังพูดอีกว่าผู้ชุมนุมทุบรถของทางราชการแล้วขโมยอาวุธมาและผู้ชุมนุมไปซื้อกระสุนปืนมาสำหรับใช้กับปืนที่ขโมยมาจากทางราชการ นี่คือจินตนาการของมัน มันเจตนาใส่ร้ายบิดเบือนพวกเรา ทีวีก็เหลือเกิน ออกให้ชัดเจน ทำลายภาพพจน์ของพวกเรา เราซะอีกที่พูดของจริงทั้งนั้น ทั้งเรื่องโกง ฆ่าคน แต่ไม่เป็นไป หน้าด้านอยู่ได้ก็อยู่ไป แต่วันไหนประชาชนชนะ ยึดทรัพย์มันให้หมดพวกนี้ วันที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนสมบูรณ์เมื่อไหร่ ยึดทรัพย์มันให้หมดแล้วให้มันพิสุจน์ให้ได้ว่าทรัพย์นั้นได้มาโดยสุจริต ไม่อย่างนั้นยึดเข้าแผ่นดิน"
"ผมทราบว่าที่อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ออกมาพูดจาอย่างนี้ พยายามใส่ร้าย ระบายสี มวลมหาประชาชนให้เห็นว่าพวกเราไม่ได้มาชุมนุมโดยสันติ สงบ ไม่ใช้อหิงสาจริง แต่ล้วนแล้วพกพาอาวุธมา เพื่ออ้างความชอบธรรมประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต้องการระดมกำลังเอาทหารมาปราบประชาชน นี่คือแผนร้ายของรัฐบาลนี้ และพวกคนในรัฐบาลนี้ไม่ชอบใจอย่างยิ่งที่ผู้นำทหารไม่เห็นด้วยที่จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินมาใช้กับพวกเรา เพราะเราเป็นพลเมืองดีที่จะสู้โดยสันติ ถ้ามันทำเมื่อไร มันก็จะเสี่ยงคุกเมื่อนั้น เพราะเราก็จะสู้มัน" สุเทพกล่าวตอนหนึ่งของการปราศรัย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น