วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เปิดตัว “วีรบุรุษหลักสี่” หนุ่มวัย 27 ฝ่ากระสุนปืนช่วยลุงโดนยิงที่คอ ในเหตุการณ์ปะทะหลักสี่ "ผมทิ้งลุงไม่ได้ ไม่มีใครเข้าไปช่วยลุงเลย"


เปิดตัว “วีรบุรุษหลักสี่” หนุ่มวัย 27 ฝ่ากระสุนปืนช่วยลุงโดนยิงที่คอ ในเหตุการณ์ปะทะหลักสี่ "ผมทิ้งลุงไม่ได้ ไม่มีใครเข้าไปช่วยลุงเลย"


เปิดตัว “วีรบุรุษหลักสี่” หนุ่มวัย 27 ฝ่ากระสุนปืนช่วยลุงโดนยิงที่คอ แยกหลักสี่




          โลกโซเชียลเผยแพร่ภาพชายหนุ่มน้ำใจงาม คลานเข้าไปนั่งอยู่กับลุงเสื้อขาว ที่โดนยิงด้วยกระสุนปืนที่คอ หายใจรวยริน อยู่ดูแลเป็นเพื่อนไม่ทิ้ง จนเหตุการณ์สงบลงและส่งลุงเสื้อขาวขึ้นรถพยาบาลไป

          นายยงยุทธ หมกคล้าย อายุ ๒๗ อาชีพค้าขาย “วีรบุรุษหลักสี่” ได้เล่าถึงเหตุการณ์ในเย็นวันที่ 1 กุมภาพันธ์ให้ฟังว่า

         “ผมโทรคุยกับแฟน แฟนผมอยู่ที่ห้างไอดีสสแควร์หลักสี่ ผมเลยขี่มอไซต์ไปวัดหลักสี่เพื่อไปรับแฟน โดยขี่มอไซร์เลาะโลคอลโรดออกมา ระหว่างทางขับสวนกับรถของ กปปส. พอดี ตรงป้ายสถานีรถไฟหลักสี่  จากนั้น ก็ไปจอดรอแฟนหน้าห้างไอทีสแควร์ ผมเห็นเด็กช่างกลพร้อมอาวุธยืนอยู่ จากนั้นเห็นรถ กปปส วิ่งผ่าน เห็นการ์ด กปปส กรูลงมาจากรถพร้อมอาวุธ เห็นเริ่มยิง

        ผมตกใจกระโดดหาที่กำบังทันที ทิ้งรถไว้ข้างล่าง ผมก็ขึ้นไปอยู่บันใดห้าง ที่เขาเขียนป้ายว่าปิดปรับปรุง เห็นมวลชนฝ่ายหนึ่งฮืออยากสู้ แต่ก็ไปตะโกนว่าอย่าสู้ เพราะมีทั้งยิงทั้งระเบิด และได้ยินว่ามีคนโดนยิง เห็นมีตำรวจจะเข้าไปช่วย แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะตำรวจไม่มีอาวุธ ตำรวจจึงถอยออกไป

          จนเสียงปืนเริ่มลดลง ผมจึงตะโกนบอกให้มองหาคนเจ็บว่าอยู่ตรงไหน เห็นคนเจ็บเสื้อขาวนอนแน่นนิ่ง ไม่ขยับเลย คนเข้าใจว่าคนนั้น “ตาย” แล้ว ตนจึงใช้กล้องซูมเข้าไปดู (ปกติ ผมจะพกกล้องซัมซุงติดตัว) ปรากฏเห็นยังเคลื่อนไหว ยังไม่ตาย จึงมองหาหน่วยพยาบาล ให้หน่อย ผมจะเข้าไปดูลุง ผมจึงกระโดดเข้าหาที่กำลัง และคลานเข้า ปรากฏมีเสียงปืน ผมก็หมอบลง พอคลานไปสามเมตร ก็ได้ยิงเสียงปืน ผมก็ล้มลงนอนราบ และคลานไปหาลุงเสื้อขาว เพราะต้องการเข้าไปหาลุงเพราะห่วงว่าลุงจะตาย เพราเข้าใจว่า หากโดนยิงจะเข้าไปช่วยปฐมพยาบาล ผมทิ้งลุงไม่ได้ ไม่มีใครเข้าไปช่วยลุงเลย ผมคลานเข้าไป ผมเข้าไปถึงดูใกล้ ลุงยังไม่ตาย หายใจอยู่ แต่นิ่งมาก ตะโกนเรียก ลุงๆๆ เป็นไงบ้าง ลุงขยับปาก พยักหน้าเบาๆ รู้ตัว และลืมตามอง แต่ว่าลุงขยับไม่ได ลิงพยายามมองหาแผลว่าแผลตรงไหน เห็นเลือดซึมตรงคอ ก็เลยบอกให้ลุงนอนราบ อย่าขยับตัวแรง แล้วเราก็นั่งพิงเสาเฝ้าลุง ส่งเสียงให้ลุงรู้ตัวว่า มีคนอยู่ใกล้ๆ พยักหน้าตลอด

          รถพยาบาลมาถึงตอนหยุดยิงประมาณ ห้านาที แต่ไม่มีใครกล้าขยับเพราะกลัวจะยิงกันอีก พอผมขยับตัว เสียงปืนดังขึ้นอีก ก็เลยทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาอีก ผมก็ต้องนั่งพิงเสาเหล็กไว้ครึ่งชั่วโมง จึงตะโกนบอกให้พอก่อน ๆๆ อย่าเพิ่งยิง จึงให้คนประสานงานทหาร ให้ทหารสั่งกู้ภัยเอาเปล ให้ทหารนำเปลเข้ามาเพื่อเอาคนป่วยออกไป ก็ทุลักทุเล ไม่มีที่บล็อกคอ มีเปลอย่างเดียว”

         “ผมรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงรีบออกจากจุดนั้นทันที ได้ทราบว่าลุงขึ้นรถพยาบาลไปแล้ว ก็เลยแยกย้ายกันไป ตนก็รีบวิ่งกลับไปที่รถ ตามหาแฟน และรีบเดินทางออกจากจุดเกิดเหตุทันทีด้วยความตกใจ”

          ล่าสุด ผู้ที่บาดเจ็บชื่อ นายอะแกว แซ่ลิ้ม อายุ 72 ปี เข้ารักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลวิภาวดี อาการขณะนี้ยังสาหัส เสี่ยงเป็นอัมพาตตลอดชีวิต เพราะกระสุนปืนเข้าลำคอสองนัด ขยับตัวไม่ได้ ซึ่งนายยงยุทธ ได้ทราบข่าวแล้วและได้ขอให้พี่น้องประชาชน ได้ช่วยเหลือคุณลุงคนนี้ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น