7 ส.ค.2557 ศาลพิเศษคดีอาชญากรสงคราม กรุงพนมเปญ กัมพูชา ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต นวน เจีย วัย 88 ปี และ เขียว สัมพัน วัย 83 ปี อดีตผู้นำเขมรแดง ในความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกัมพูชาอย่างน้อย 1.7 ล้านรายในช่วงปี 2518-2522 ในยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ
สำหรับ นวน เจีย เป็นอดีตผู้นำอันดับสองรองจาก พล พต ผู้นำเขมรแดง ส่วน เขียว สัมพัน เป็นอดีตประมุขแห่งรัฐของกัมพูชาขณะอยู่ภายใต้การปกครองของเขมรแดง โดยเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจระดับสูงของเขมรแดง รองจากพล พต เช่นกัน
สำหรับ นวน เจีย เป็นอดีตผู้นำอันดับสองรองจาก พล พต ผู้นำเขมรแดง ส่วน เขียว สัมพัน เป็นอดีตประมุขแห่งรัฐของกัมพูชาขณะอยู่ภายใต้การปกครองของเขมรแดง โดยเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจระดับสูงของเขมรแดง รองจากพล พต เช่นกัน
นิล นอน ผู้พิพากษา ระบุว่า พวกเขามีความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ประหัตประหารทางการเมือง และการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอื่นๆ ประกอบด้วยการบังคับให้ย้ายถิ่น การบังคับให้หายสาบสูญ และโจมตีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ด้านทนายความของทั้งสองระบุว่า พวกเขาจะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานี้
องค์กรสิทธิยินดีคำพิพากษา หยุดวัฒนธรรมปล่อยคนผิดลอยนวล
รูเปิร์ต แอบบ็อต (Rupert Abbott) รองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า คำพิพากษาที่รอคอยกันมานานนับเป็นขั้นตอนสำคัญ ในการผดุงความยุติธรรมให้กับเหยื่อในยุคเขมรแดง และเน้นให้เห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาการลอยนวลพ้นผิด
“แต่กรณีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธไม่ยอมมาให้การ รวมทั้งข้อกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงทางการเมืองในคดีอื่นๆ ของศาลพิเศษกัมพูชา เป็นปัญหาสำคัญ และทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมของขั้นตอนปฏิบัติ และการเคารพสิทธิของผู้เสียหายที่จะได้รับฟังความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับอาชญากรรมตามข้อกล่าวหา”
“การไต่สวนคดีอย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องสำคัญมาก หากศาลพิเศษกัมพูชาต้องการทิ้งมรดกที่ส่งผลระยะยาวในแง่การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบยุติธรรมที่กำลังง่อนแง่นของกัมพูชา อีกทั้งเพื่อสนับสนุนความพยายามในการยุติวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดที่ยังฝังรากลึกอยู่”
“แต่กรณีที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธไม่ยอมมาให้การ รวมทั้งข้อกล่าวหาว่ามีการแทรกแซงทางการเมืองในคดีอื่นๆ ของศาลพิเศษกัมพูชา เป็นปัญหาสำคัญ และทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นธรรมของขั้นตอนปฏิบัติ และการเคารพสิทธิของผู้เสียหายที่จะได้รับฟังความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับอาชญากรรมตามข้อกล่าวหา”
“การไต่สวนคดีอย่างเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพถือเป็นเรื่องสำคัญมาก หากศาลพิเศษกัมพูชาต้องการทิ้งมรดกที่ส่งผลระยะยาวในแง่การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบยุติธรรมที่กำลังง่อนแง่นของกัมพูชา อีกทั้งเพื่อสนับสนุนความพยายามในการยุติวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดที่ยังฝังรากลึกอยู่”
“ศาลพิเศษกัมพูชาต้องไต่สวนคดีทั้งหมดให้เสร็จสิ้นในเวลาอันเหมาะสมและด้วยความเป็นธรรม ปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้รับความสนับสนุนอย่างเต็มที่จากรัฐบาลกัมพูชาและประชาคมระหว่างประเทศ”
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยินดีกับคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งกำหนดให้มีการเยียวยา 11 โครงการสำหรับผู้เสียหาย และเรียกร้องให้มีการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี รัฐบาลกัมพูชายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหยื่อทั้งหมด”
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยินดีกับคำวินิจฉัยของศาล ซึ่งกำหนดให้มีการเยียวยา 11 โครงการสำหรับผู้เสียหาย และเรียกร้องให้มีการปฏิบัติตามอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี รัฐบาลกัมพูชายังมีภารกิจอีกมากที่ต้องทำเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเหยื่อทั้งหมด”
ที่มา
Top Khmer Rouge leaders guilty of crimes against humanity
http://www.bbc.com/news/world-asia-28670568
Top Khmer Rouge leaders guilty of crimes against humanity
http://www.bbc.com/news/world-asia-28670568
แถลงการณ์แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น