วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ทหารเรียกคุยผู้จัดงานที่ขอนแก่น หวั่นจัดเวทีการเมือง



5 พ.ย. 2557 กรณีมีตำรวจสันติบาล-ทหาร จำนวนหนึ่ง เข้าไปงานประชุมเรื่อง “สิทธิชุมชนกับรัฐธรรมนูญ” ซึ่งจัดโดย เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และสมัชชาองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้นหว้ารีสอร์ท จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
อภิสิทธิ์ พันธ์วิไล นักวิชาการสิทธิมนุษยชนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ประชาไทว่า วันนี้ตำรวจและทหารเข้ามาที่การประชุม 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ได้เชิญตนเองในฐานะผู้จัดงานไปพบ พ.อ.ประกิจ ทับทอง รองผู้บัญชาการ มณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ ที่ค่ายฯ ขณะที่การประชุมนั้นดำเนินต่อไปตามปกติ
อภิสิทธิ์ ระบุว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี โดยทหารชี้แจงว่า มีผู้โทรไปแจ้งว่ามีการจัดสัมมนาในพื้นที่โดยไม่ได้ขออนุญาตและเมื่อเดินทางไปถึงการประชุมครั้งแรก ทหารเข้าไปสังเกตการณ์ไม่ได้ เพราะมีผู้เข้าร่วมปิดประตูไม่ให้เข้า ทำให้สงสัยว่ามีการพูดคุยเรื่องการเมืองหรือไม่ เมื่อไปครั้งที่สอง จึงเชิญผู้จัดมาสอบถามและขอให้หาตัวผู้ที่ปิดประตูด้วย  
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาเองไม่ทราบว่ามีการปิดประตูเนื่องจากนั่งอยู่ในห้องประชุมและไม่ทราบว่าเป็นใครด้วย ทั้งนี้ได้ชี้แจงถึงเป้าหมายการจัดงานว่าเป็นไปเพื่อการระดมความเห็นต่อประเด็นสิทธิชุมชนในรัฐธรรมนูญ เพื่อเสนอต่อ สนช.และ สปช.ต่อไป และการประชุมเมื่อช่วงเช้าก็เป็นการบรรยายเรื่องประวัติของสิทธิชุมชน ไม่ได้เป็นเรื่องการเมือง
ส่วนที่มีความกังวลว่าทหารจะมาถามหาตัวบุคคลและองค์กรภาคประชาชนอีสานที่ออกแถลงการณ์ไม่ร่วมปฏิรูปกับคณะรัฐประหารนั้น เขากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารไม่ได้ถามถึงกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพียงแต่กล่าวถึงว่า หากมีกลุ่มบุคคลนั้นเข้าร่วม เวทีก็จะมีอคติ เพราะพวกเขาได้แสดงออกว่าไม่ได้สนใจการปฏิรูปแล้ว
อภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับงานพรุ่งนี้สามารถจัดได้ตามปกติ แต่ทหารได้ขอรายชื่อผู้เข้าร่วมการสัมมนาทุกคน ซึ่งหลังจากกลับมาจากค่าย ตนเองก็ได้แจ้งกับผู้เข้าร่วมสัมมนาแล้ว
 
ส่วนการประชุม “สิทธิชุมชนกับรัฐธรรมนูญ” เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา อภิสิทธิ์กล่าวว่า แม้จะดำเนินไปตามปกติ แต่มีการเปลี่ยนกำหนดการ เนื่องจากวิทยากรบางส่วนซึ่งเป็นบุคคลที่ร่วมลงชื่อไม่ร่วมปฏิรูปกับ คสช. กังวลว่าจะถูกจับหรือเรียกตัว จึงเดินทางกลับไปก่อน

วันเดียวกัน ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทหารยุติการคุกคามการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของกลุ่มภาคประชาชนอีสานที่ออกแถลงการณ์ไม่ร่วมปฏิรูปกับคณะรัฐประหาร ยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร และเคารพนิติรัฐในการปกครองประเทศ

โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุด้วยว่า ได้รับข้อมูลในวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ว่าบุคคลที่ร่วมลงชื่อในแถลงการณ์ดังกล่าวได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ให้ไปพบเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่และบางกรณีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังพร้อมอาวุธไปที่บ้านเพื่อเชิญตัวบุคคลดังกล่าวไปให้ข้อมูลแต่ในวันดังกล่าวมีเพียง 2 รายได้ไปพบเจ้าหน้าที่ทหารแล้วที่ค่ายประจักษ์ จังหวัดอุดรธานี โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้สอบถามถึงสาเหตุและความคิดเห็นในการออกแถลงการณ์ดังกล่าว พร้อมให้ลงนามว่าหากเจ้าหน้าที่เรียกไปพบเมื่อใดต้องไปพบในทันที ส่วนรายอื่นๆ มีนัดหมายในวันถัดไปในพื้นที่จังหวัดต่างๆ เช่น มหาสารคาม ขอนแก่น เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น