ศาลสั่งจำคุก 5 ปีจำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง ทั้งนี้จ่าประสิทธิ์ถูกจำคุกมาแล้ว 6 เดือนและไม่ได้รับการประกันตัว เบื้องต้นจำเลยไม่อุทธรณ์ ลูกสาวร่ำไห้โฮ
3 ธ.ค.2557 ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยจังหวัดสุรินทร์ ตกเป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา 112 โดยศาลตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี แต่เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 2 ปี 6 เดือน และไม่รอลงอาญา เนื่องจากศาลเห็นว่า ข้อความที่ปราศรัยทำให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันกษัตริย์อันเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย นับเป็นเรื่องร้ยาแรง อีกทั้ง จ.ส.ต.ประสิทธิ์ เป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรย่อมต้องมีความรู้ผิดชอบ มีวิจารณญาณ ระมัดระวังคำพูดมากกว่าคนธรรมดา นอกจากนี้เขายังมีประวัติการทำผิดมาแล้วแล้วยังกระทำผิดอีกในความผิดที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น จึงไม่รอการลงโทษ
ทั้งนี้ จำเลยถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. รวมเวลาเกือบ 6 เดือน โดยไม่ได้รับการประกันตัว
ผู้สื่อข่ายรายงานว่า ศาลอ่านคำพิพากษาเพียงสั้นๆ โดยไม่ได้กล่าวถึงคำฟ้องแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ก่อนศาลอ่านคำพิพากษาศาลได้สอบถามจำเลยว่ามีประวัติคดีอาญา 8 คดีโดยอัยการสั่งไม่ฟ้อง 7 คดีใช่หรือไม่ จำเลยรับว่าใช่ และภายหลังการอ่านคำพิพากษา ศาลได้แจ้งแก่จำเลยว่าตัดสินไปตามพยานหลักฐาน หากไม่พอใจคำพิพากษาสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในหนึ่งเดือน จากนั้นจำเลยสอบถามศาลว่า หากไม่ต้องการอุทธรณ์ ใช้เวลานานเท่าใดคดีจึงจะเด็ดขาด ศาลกล่าวว่า หากจำเลยไม่อุทธรณ์ก็ต้องดูว่าอัยการจะอุทธรณ์หรือไม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัวจำเลยออกจากห้อง โดยไม่อนุญาตให้จำเลยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ส่วนลูกสาวจำเลยก็ร่ำไห้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นจากการปราศรัยของจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว เมื่อวันที่ 7 พ.ค.57 จากนั้นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษเขาในความผิดมาตรา 112 ในอีกสองวันต่อมา ภายหลังรัฐประหารจ.ส.ต.ประสิทธิ์ถูกเรียกเข้ารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อมาทหารได้คุมตัวเขามาส่งมอบให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112
ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาคดี พร้อมกับยื่นขอประกันตัวหลายครั้งโดยครั้งหลังสุดนั้นได้ขอไต่สวนอาการป่วยด้วยโรคลมชักของเขาที่อาจถึงแก่ชีวิตด้วย ก่อนหน้าการยื่นประกัน ญาติของเขาแจ้งว่า เขามีอาการชักและหงายหลังล้มลงขณะออกมาเยี่ยมญาติและต้องนอนโรงพยาบาลราชทัณฑ์หลายคืน อย่างไรก็ตามศาลยังคงไม่อนุญาตให้ประกัน โดยเชื่อว่าโรคของเขาไม่ร้ายแรงและเรือนจำสามารถดูแลได้ (รายละเอียดอ่านที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพโดยไอลอว์)
ต่อมาจำเลยกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ โดยทนายจำเลยระบุว่าจำเลยมีความจงรักภักดีและไม่ต้องการสร้างภาระให้กับศาล ข้อความการปราศรัยตามที่ถูกฟ้องมาต้องการหมายความถึงสุเทพ เทือกสุบรรณ เท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น