รายการคืนความสุขให้คนในชาติ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ระบุห่วงความปลอดภัยประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เตรียมมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการ ขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดโครงการ “You’ll never walk alone” เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากประชาชน ย้ำหน่วยทหารทุกหน่วยที่มีเวรยาม แจ้งได้ทั้งหมด พักรถอะไรก็ได้ ถ้าง่วงจอดนอนก็ได้ ปลอดภัย เตือนอย่าไปจอดในที่ไม่มีคนอยู่อันตราย
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557 เวลา 20.15 น. โดยมีรายละเอียดทั้งหมดดังต่อไปนี้
สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกคน
ก่อนอื่นผมขอส่งความปรารถนาดีแด่พี่น้องคริสต์ศาสนิกชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสที่เพิ่งจะผ่านไป สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพร้อมกับพี่น้องชาวไทยต้องขอแสดงความชื่นชมยินดีกับทีมฟุตบอลชาติไทย ที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการ AFF SUZUKI CUP 2014 ซึ่งทีม“ขุนพลช้างศึก” ของไทยนั้น สามารถพลิกสถานการณ์หลังจากได้รับพระราชทานกำลังใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านทางรองราชเลขาธิการ และได้นำชัยมาถวายพ่อหลวง และปวงชนชาวไทยได้ในที่สุด
วันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วย ผมขอชื่นชมในความเข้มแข็ง เสียสละ และอดทน ของนักกีฬาทุกท่านภายใต้การนำของโค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวไทยที่รู้รักสามัคคี มีวินัย รักชาติ รักสถาบัน ถวายพระเกียรติได้อย่างสมภาคภูมิ รัฐบาลได้มอบเงินสนับสนุนให้ 5 ล้านบาท และได้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนโดยบริษัท CP และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้เพิ่มอีกบริษัทละ 5 ล้านบาท รวมเป็น 15 ล้านบาท
วันนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดพังงา เพื่อเข้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและสูญหายทุกท่าน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง 10 ปีแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคน ภัยธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ แต่เราทุกคนต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาป่าต้นน้ำ การปลูกป่า การทำช่องทางระบายน้ำเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ พร้อมทั้งการให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันภัยแจ้งเตือนภัยไว้ล่วงหน้าด้วย และในวันนี้เช่นกัน ผมได้มีโอกาสเข้าตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จริง ๆ แล้วหลายจังหวัดในภาคใต้ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมาก และฝนตกไม่หยุดต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดการท่วมขังเป็นระยะเวลาที่นานกว่าปกติ และมีระดับน้ำที่ลึกมากพอสมควร ทำให้ประชาชนเดือดร้อน สำหรับพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมในทุกพื้นที่นั้น ที่ผมไม่ได้ไปเยี่ยม ทางรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้เร่งสั่งการให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเร่งด่วน
ในปีใหม่นี้ ผมเข้าใจดีว่าพี่น้องข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ข้าราชการท้องถิ่น อาสาสมัคร ต่างต้องเสียสละทำหน้าที่คอยปฏิบัติงานช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน ที่สัญจรไปมา ซึ่งในการปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้น ผมเข้าใจดีว่าในหลาย ๆ เรื่อง มีปัญหา อุปสรรค ทั้งในกฎเกณฑ์ ความพร้อมของเครื่องไม้เครื่องมือ กฎระเบียบที่ต้องแก้ไข ก็ขอให้ท่านได้ทุ่มเท ทำด้วยใจ ด้วยความเสียสละ ให้ทุกท่านตระหนักว่า ข้าราชการ อาสาสมัคร เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละเพื่อให้การบริการแก่ประชาชน ให้ประชาชนมีความสุขและปลอดภัยในช่วงวันหยุดราชการหลายวัน อย่างเช่นในช่วงวันปีใหม่นี้
สำหรับการทำงานของรัฐบาลในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นถือได้ว่า ได้ดำเนินการตามนโยบายและยุทธศาสตร์ใหญ่ ที่ได้แถลงไว้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และแจ้งให้กับพี่น้องทราบเมื่อเริ่มเข้ามาบริหารประเทศ ล้วนแต่เป็นการสร้างพื้นฐานการพัฒนาที่นำไปสู่ความยั่งยืนให้กับประเทศชาติในอนาคต ทั้งนี้ พวกเราทุกคนได้พยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศ บนหลักการที่ว่า นโยบายการต่างประเทศเป็นส่วนประกอบสำคัญของนโยบายองค์รวมทั้งหมดในการบริหารราชการแผ่นดิน
การประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 นับว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ในการเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติระดับสุดยอดผู้นำครั้งแรกของรัฐบาลนี้ โดยเราได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านผู้นำทุกประเทศ GMS เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมด้วยรัฐมนตรีประจำแผนงาน GMS รัฐมนตรีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่อาวุโส GMS บุคคลสำคัญในภาคธุรกิจและเอกชน GMS รวมทั้งประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งเป็นองค์กรหุ้นส่วนการพัฒนาของ GMS เข้าร่วมการประชุมด้วย
หัวข้อหลักของการประชุม คือ “ความมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” ก่อนการประชุมระดับผู้นำประเทศ ได้จัดให้มีการประชุมระหว่างภาคีการพัฒนาต่าง ๆ เพื่อเป็นการหารือและเตรียมข้อเสนอต่อผู้นำ ประกอบด้วย การประชุมด้านการลงทุน การประชุมของภาคธุรกิจ การประชุมของหุ้นส่วนการพัฒนา และการประชุมของกลุ่มเยาวชน
จากนั้น ผมในฐานะผู้แทนผู้นำทั้งหมด ได้ให้ข้อคิดเห็นต่อข้อเสนอเหล่านั้น และนำไปเป็นประเด็นหารือในการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศ GMS ซึ่งได้มีการรับรองแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ผลการประชุมระดับผู้นำประเทศ GMS นั้น ได้แสดงความชื่นชมในความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของประเทศสมาชิก ในอันที่จะผลักดันการดำเนินความร่วมมือให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและน่าพอใจ อาทิ
การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเชื่อมต่อตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ – ใต้ ด้วยสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 เมืองห้วยทราย สปป.ลาว – อ.เชียงของ ประเทศไทย ขณะนี้ก็กำลังเตรียมขยายการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก ไปยังประเทศเมียนมาร์ และการพิจารณาสถานที่ตั้งของ “ศูนย์ประสานงานการซื้อขายไฟฟ้า” ระหว่างประเทศสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงประเทศสมาชิก และสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
การพัฒนาด้านกฎระเบียบ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า และคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจให้ครอบคลุมเมืองหลวงของแต่ละประเทศสมาชิก อีกทั้งร่วมมือกันผลักดันการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงด้วยกัน
ต่อไปเป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ลดขั้นตอนในการตรวจลงตรา มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวใน GMS สำหรับในปี 2559-2569 จะผลักดันให้เกิด “ศูนย์ประสานการท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” อีกด้วย
เรื่องต่อไปการอำนวยความสะดวกด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านแรงงานใน GMS และเรื่องสุดท้ายคือการเสริมสร้างและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน ในภูมิภาค โดยเฉพาะประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกต่าง ๆ นั้น ต่างก็มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาอนุภูมิภาค GMS อย่างยั่งยืน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต พร้อม ๆ กัน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่าจะร่วมกันที่จะนำไปสู่การค้า การลงทุนในภูมิภาค การร่วมกันพัฒนาแนวเส้นทางคมนาคมใน GMS ให้เป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ร่วมกันขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบการคมนาคมขนส่งข้ามพรมแดน เพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายยานพาหนะ สินค้า และคน ทั้งนี้จะมีการประสานความร่วมมือระหว่างกันในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับอนุภูมิภาค และสอดคล้องกันทั้งในระดับคณะทำงาน และกรอบความร่วมมืออื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น อาเซียน อาเซียน – จีน และอาเซียนบวกสาม
ความร่วมมือไทย – จีน ในการเดินทางไปจีนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 22 – 23 ธันวาคม 2557 นั้น เป็นการเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรใกล้บ้าน ที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือรอบด้าน ทั้ง 2 ฝ่ายก็มั่นใจว่า จะสามารถผลักดันมูลค่าการค้าการลงทุน ให้ขยายตัว 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน และผมขอแสดงความขอบคุณในการต้อนรับที่อบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี สำหรับทั้งสองประเทศ ในการที่กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และร่วมกันมองไปข้างหน้า กำหนดวิสัยทัศน์และแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาคควบคู่ไปด้วยกับความร่วมมือทวิภาคี
อีกประการหนึ่ง ในปีหน้าเป็นปีแห่งการครบรอบสถาปนาความสัมพันธ์ไทย จีน ครบรอบปีที่ 40 และเป็นปีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ซึ่งทางสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ก็ถวายพระพรมาด้วย เพราะว่า ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ของไทยกับจีนนั้น มีความแน่นแฟ้นมาโดยตลอด ทั้งผู้นำทุกท่านก็ได้ฝากถวายพระพรไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และทุกพระองค์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
เรื่องความร่วมมือทวิภาคีในด้านการพัฒนาเส้นทางรถไฟ ที่เราได้ลงนาม MOU ที่ประเทศไทยไปแล้วนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีคณะกรรมการร่วมเร่งหารือในรายละเอียดของโครงการภายในต้นปีหน้า ซึ่งผมกำหนดไว้แล้วว่าภายในเดือนมกราคม พร้อมที่จะพูดคุยกัน เป็นต้นไป แล้วก็เร่งศึกษาทำความเข้าใจ หากฎกติกาการค้า การร่วมกันลงทุนอะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ ให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นของขวัญให้กับคนไทย ในประมาณปลายปี 2558 หรือเร็วกว่านั้น ทั้งนี้ ได้ขอให้จีนสนับสนุนให้ไทยเป็น “ศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความพร้อมของไทยที่จะเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ควบคุมระบบรถไฟในภูมิภาค รวมทั้งตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการรถไฟ ขณะเดียวกัน ก็มีความร่วมมือในอีกหลายๆ ด้าน ที่สำคัญ ได้แก่
ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การศึกษาดูงานด้านกิจการอวกาศและการวิจัยในประเทศจีน การพัฒนาระบบ GPSสำหรับเรือประมง และใช้ประโยชน์จากดาวเทียมและเทคโนโลยีสำรวจระยะไกล หรือระบบ remote sensing พร้อมทั้งเสนอให้มีการลงนามความร่วมมือด้านอวกาศระหว่างรัฐบาลทั้งสองฝ่าย
สำหรับความร่วมมือด้านพลังงาน จีนยินดีกระชับความร่วมมือกับไทยในเรื่องพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงงานขยะ ขณะที่เราก็พร้อมเสนอการส่งออกเอทานอลแก่จีน สำหรับความร่วมมือด้านพลังงานนี้นั้น ก็จะหารือกันในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านพลังงานไทย – จีน เพื่อขยายผลความสำเร็จต่อไป
เรื่องความร่วมมือด้านเกษตร จีนก็ยินดีที่จะเร่งรัดดำเนินการตามที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน อีกทั้งจีนจะเร่งรัดการจัดตั้งสถาบันวิจัยยางในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย ผมได้ขอให้การสนับสนุนในการจัดตั้งสถาบันตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์เรื่องยาง และเรื่องรถยนต์ด้วย ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะพิจารณาต่อไป ซึ่งก็เป็นผลดีกับบ้านเรา เราจะได้มีสถาบันวิจัยต่าง ๆ ที่มีมาตรฐาน เมื่อผลิตแล้วต้องมีการรับรองมาตรฐานและส่งออกได้ ไม่ใช่ผลิตออกมาแล้วไม่ต้องรับรองคุณภาพ ส่งไปก็เสียค่าตรวจสอบอีกจากต่างประเทศทำให้มูลค่าสินค้านั้นแพงมากขึ้น
นอกจากนั้น เรายังยินดีที่จะร่วมมือกันในด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การทหาร ยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งในเรื่องการทางด้านป้องกันประเทศและเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาภัยพิบัติ ตลอดจนการป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดน เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ทั้งนี้ ด้านการท่องเที่ยวได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องหน่วยงานทั้งสองฝ่ายจะต้องควบคุมในเรื่องของการบิน การสัญจรไปมา โดยต้องหารือกันต่อไปในเรื่องของการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศระหว่างสองประเทศไทย-จีน และความร่วมมือในกรอบอาเซียน ซึ่งจะมีการจัดตั้งประชาคม ประกอบด้วย สามเสาหลักในปี 2558 จีนพร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในภูมิภาค และในส่วนของกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) จีนยินดีเพิ่มการลงทุน สนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจการค้าในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ ผมได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีจีนสนับสนุนไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคนี้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกับทั้งของไทยและของสมาชิกอาเซียนด้วย เราต้องก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กัน
โอกาสเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีจีนและผมได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อยกระดับความร่วมมือตลาดทุนและตลาดเงินระหว่างสองประเทศ จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารประชาชนจีน ความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศจีน จำกัด และบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ซึ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น มีข้อจำกัด เงื่อนไข กฎกติกา พันธะสัญญาระหว่างประเทศต่าง ๆ จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพูดคุยเจรจาความ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความร่วมมือต่าง ๆ เราจะต้องสร้าง และต้องให้พันธมิตรคู่ค้า ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์นั้นได้ประจักษ์ ก็คือ “ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ” การเป็นผู้เล่นที่เคารพกติกาสากลนั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการเป็นตัวของตัวเองที่สำคัญ นั่นก็คือสิ่งที่รัฐบาลนี้กำลังดำเนินการอยู่ เพื่อให้นานาชาติยอมรับ และลดความเหลื่อมล้ำ ให้ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันในเวทีต่าง ๆ ของโลก
เรื่องการค้ามนุษย์ เป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วน เมื่อต้นสัปดาห์ ผมได้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อเป็นการประเมินผลการดำเนินงาน ทบทวนประสิทธิภาพของกลไกการทำงานที่มีอยู่ สำหรับเป็นข้อมูลพื้นฐานในการหารือ และวางแผนการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นรายเดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นไป ที่ประชุมรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่หน่วยราชการต่าง ๆ ประสบ ที่จะต้องดำเนินการต่อไปในปี 2558 ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การให้ความคุ้มครองแก่เหยื่อการค้ามนุษย์และพยาน การป้องกันการค้ามนุษย์ และการสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน
ผมได้มีการสั่งการให้มีการทบทวนกลไกในการทำงาน แก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ระดับชาติ เพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างมีความบูรณาการมากยิ่งขึ้น ให้มีการขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ได้อย่างจริงจัง ให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการเรื่องค้ามนุษย์ คณะอนุกรรมการเรื่องประมงและ IUU คณะอนุกรรมการเรื่องแรงงานเด็ก แรงงานบังคับและแรงงานต่างชาติ คณะอนุกรรมการสตรี และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์ โดยทุกคณะต้องมีเป้าหมายและแผนงานอย่างชัดเจน พร้อมรายงานผลการดำเนินการให้ผมทราบทุกเดือน ในวันที่ 7 นี้ก็จะเสนอในเรื่องของยุทธศาสตร์ระยะยาวและกำหนด Road Map ในการที่จะเดินหน้าในการแก้ปัญหาในการรับรู้ให้กับองค์ระหว่างประเทศ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มิฉะนั้นแล้วจะมีผลเสียต่อการค้าขาย การเศรษฐกิจ โควตาการส่งออกของเราทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องประมง สินค้าทางประมงทั้งหมดเราจะเป็นปัญหา มีมูลค่ากว่าสองแสนล้านบาท
เรื่องเร่งด่วนการจดทะเบียนเรือประมงไทย ต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการต้องจดทะเบียนเรือทุกลำ ติด GPS ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่เราจะต้องแสดงให้นานาชาติเขารับรู้ถึงการแก้ไขปัญหา เพื่อจะลดระดับในเรื่องของความเป็น Tier 3 และในเรื่องของกติกา (Illegal Unreported and Unregulated Fishing : IUU ) เรื่องประมงด้วย จะมีผลต่อเสถียรภาพ ความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน รายได้ของประเทศ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมานาน ได้มีการแจ้งเตือนตั้งแต่ปี 2553 มาแล้ว การลดระดับ จัดระดับเราเป็น Tier 2 ปี 53-54-55-56 จนกระทั่งถึงปี 57 เมื่อเราเข้ามานั้น ก็พอดีกับที่เขาปรับเรามาเป็น Tier 3 พอดี เราจะแก้กลับไปให้ได้โดยเร็ว
เพราะฉะนั้น เราจะต้องปรับปรุงอย่างจริงจัง ยั่งยืน อาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งราชการ พ่อค้า ประชาชน ขอร้อง และอาจจะต้องสร้างพันธกิจทางด้านการประมงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อจะได้ลดเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย แหล่งจับปลาต่าง ๆ ซึ่งมีน้อยในปัจจุบัน ประเทศไทยเรามีความมั่นคงทางทะเลมาก คือเรือประมง ขีดความสามารถในการจับปลา เราอาจจะเก่งที่สุดก็ได้ในขณะนี้ ต้องร่วมมือกัน วันนี้เราถูกจับอยู่ในน่านน้ำเสรี น่านน้ำต่างประเทศมากพอสมควร แล้วเราต้องไปช่วยเอาเขากลับมา เสียค่าปรับอะไรเสียหายไปหมด ฉะนั้นอาจจะต้องจัดระเบียบมีการพูดคุยหารือกันให้ดีเรื่องประมง และข้อสำคัญก็จะต้องไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์เหล่านี้โดยเด็ดขาด เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำจะต้องถูกไล่ออก ถูกลงโทษอย่างหนักและโดยทันที ขอร้องกัน
เรื่องการค้ามนุษย์นั้น รวมความไปถึงเรื่องของ การค้าผู้หญิงเด็ก โสเภณี ขอทานต่าง ๆ ทั้งหมดหลายเรื่อง ทั้งประมง ใช้แรงงานเกินเวลา แรงงานเด็กต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นการผิดกติกาพันธสัญญาต่างประเทศนานาชาติทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องเร่งดำเนินการ ผมขอกำชับทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ทุกคณะอนุกรรมการ และคณะกรรมการนโยบายนั้นจะประกอบไปด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 ท่านเป็นรองประธาน และในส่วนของคณะอนุกรรมการก็จะเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานหลัก ๆ และข้างล่างบูรณาการข้าราชการ ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ก็จะเริ่มทำงานได้เต็มที่ต่อเนื่องจากของเดิม เราก็แก้มาตลอด ตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจ ก็ต้องพัฒนาต่อไปให้สร้างการรับรู้ ทั้งต่างประเทศ ทั้งในประเทศ ในประเทศร่วมมือกัน ต่างประเทศแสดงให้เขาเห็นว่าเราก็แก้ไขแล้ว แต่ขอเวลาว่าต้องเดินไปตาม Road Map ต้องใช้เวลา เพราะหมักหมมมาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นประชาชนจะต้องเป็นผู้ที่คอยเฝ้าระวังให้รัฐบาลด้วย ถ้าใครพบเห็นเหตุการณ์ ผู้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือเกี่ยวข้อง ตลอดจนเบาะแส การทุจริตคอร์รัปชัน สามารถติดต่อหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้ตามหมายเลขที่ปรากฏหน้าจอนี้
มาตรการปลอดภัยในการเดินทาง ในห้วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง รัฐบาลมีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม โดยเฉพาะเยาวชน เด็ก ผู้หญิง เหล่านี้ เพื่อกลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัว ไปเยี่ยมญาติ หรือไปท่องเที่ยว รัฐบาลได้กำหนดมาตรการ กำหนดแผนอำนวยความสะดวกป้องกันอันตรายต่าง ๆ ในทุกมิติไว้แล้ว เพื่อจะรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปีนี้หยุดหลายวัน รวมทั้งการให้การบริการขนส่งสาธารณะ การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน อาคารผู้โดยสาร สถานีรถไฟ การอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูล การจราจร การลดราคาค่าบริการจุดผ่านทางต่าง ๆ ในช่วงปีใหม่
นอกจากนั้น มาตรการป้องกันการลดอุบัติเหตุทางถนน จะเน้นการบูรณาการการป้องกันร่วมกันในลักษณะยึด Area Approach เช่น ให้จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน มีมาตรการแก้ไขปัญหา ตั้งจุดตรวจ จุดพักรถ ดูแลการจราจรจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ถนนชำรุด บริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย และปรับสภาพสิ่งแวดล้อมอันตรายข้างทาง เพื่อให้มีทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในการขับขี่ยานพาหนะ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อยมาก ผมรู้ดีว่าเหนื่อย ก็อยากจะพักผ่อนแต่ก็ไม่ได้ ด้วยความรับผิดชอบในหน้าที่ ขอขอบคุณจากหัวใจ ของนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลด้วย ถึงข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร ทุก ๆ คนที่ช่วยกัน
การขับขี่ยานพาหนะนั้น ผมขอความร่วมมือจากพี่น้องทุกคนด้วย ให้ระมัดระวังในการเดินทาง การเลี้ยงสังสรรค์ การดื่มสุรานั้น ก็อาจจะมีมากในช่วงปีใหม่นี้ ผมถือว่าทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังตนเอง และรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นด้วย พลขับรถต้องรับผิดชอบผู้โดยสารภายในรถ ผู้โดยสารภายในรถต้องรับผิดชอบพลขับรถ ต่างคนต่างก็ดูแลกัน ถ้าพลขับดื่มเหล้า ดื่มสุรา ก็ไม่ขึ้นรถกัน ไม่ต้องรีบร้อนกลับมา เดี๋ยวเสียชีวิตเปล่า ๆ ก็แจ้งความดำเนินคดีไป ประมาท อันนี้ผมได้สั่งการไปแล้วว่า ในช่วงปีใหม่จะต้องมีผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยการดื่มสุราของพลขับหรือทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงในการจัดงานบันเทิงต่าง ๆ ผู้จัดงานต้องรับผิดชอบทั้งหมดในชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนที่มาเที่ยว เขามาเที่ยว ท่านได้เงินเขา ท่านก็ต้องผิดชอบ ดูแลเขาให้ดีด้วย ขอให้ทุกคนได้มีสติ คำนึงถึงความพอดี ช่วยกันดูแลคนที่เรารัก อย่าให้ความสนุกของเรากลายเป็นความทุกข์ของคนอื่น ตัวเองปลอดภัย คนอื่นก็ต้องปลอดภัยด้วย
สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองกำกับการสายตรวจ 191 ได้เปิดโครงการ “You’ll never walk alone” เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากประชาชน ซึ่งนอกจาก 191 แล้ว ยังสามารถแจ้งเหตุต่าง ๆ ผ่านช่องทางที่แสดงบนหน้าจอโทรทัศน์ของท่านเวลานี้ ( 061-3850191, 061-3851191, 061-3852191และ 061-3853191 เฟซบุ๊ก “สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191” และไลน์ไอดี “patrolcop0191”) และหน่วยทหารทุกหน่วย กองรักษาการทุกพื้นที่ ประตูทางเข้า - ออก ที่มีเวรยาม แจ้งได้ทั้งหมด พักรถอะไรก็ได้ ถ้าง่วงจอดนอนก็ได้ ปลอดภัย อย่าไปจอดในที่ ๆ ไม่มีคนอยู่ อันตราย
ในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้ ผมอยากขอให้ทุกท่านช่วยกันส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยในภาคต่าง ๆ ที่กำลังประสบภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมในภาคใต้ จังหวัดพัทลุง – สงขลา – ปัตตานี –นราธิวาส ภัยหนาว – ไฟป่าในเขตภาคเหนือภาคอีสาน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต่อไป ในพื้นที่ประสบภัยนี้ ขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ด้วย ภาคเอกชน หรือพี่น้องในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ สามารถร่วมแสดงน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือ โดยติดต่อผ่านส่วนราชการใกล้บ้านท่าน ธารน้ำใจของคนไทยนั้นจะส่งไปถึงปลายทางแน่นอน และขอให้คนไทยทุกคน ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงอยู่นั้น ก็ขอให้ปลอดภัย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และผ่านพ้นวันเวลายากลำบากเหล่านี้ไปได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาในเรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้โดยเร็ว ในทุกมิติ ในทุกมาตรการ วิธีการต่าง ๆ
สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ร่มเย็น น่าอยู่ มั่นคง แข็งแรง อย่างยั่งยืนในทุกมิติ ผมได้กำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยไว้แล้วว่าในปี 2558 - 2562 นั้น รัฐบาล ประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น