หลังจากที่ทนายความยื่นประกันไม่ได้ถึง 3 ครั้ง จำเลยจึงได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอกลับคำให้การเดิม โดยขอให้การรับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ ไม่ขอสู้คดี ศาลระบุจำเลยผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ และ ม.112 จำนวน 7 กรรม พิพากษาจำคุกกรรมละ 8 ปี รวมเป็นจำคุก 56 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 28 ปี สาวลูกสองปล่อยโฮหลังทราบคำตัดสิน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วันนี้ (7 สิงหาคม 2558) ศาลมณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ นัดสืบพยานโจทก์ในคดีที่นางศศิวิมล (ขอสงวนนามสกุล) ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากกรณีโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ในชื่อ ‘รุ่งนภา คำภิชัย’ จำนวน 7 ข้อความ ในช่วงระหว่างเดือนกันยายน 2557
ก่อนหน้านี้จำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาไว้ในเดือน มิ.ย.58 ก่อนนัดตรวจพยานหลักฐานในเดือนถัดมา แล้วจึงเริ่มนัดสืบพยานโจทก์ แต่ในช่วงเช้าวันนี้ ผู้รับมอบอำนาจจากทนายจำเลยได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาล ขอกลับคำให้การเดิม โดยขอให้การรับสารภาพตามฟ้องของโจทก์ ไม่ขอต่อสู้คดีอีก และได้ยื่นคำร้องประกอบขอให้ศาลลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษจำคุกไว้
เนื่องจากเรือนจำได้นำตัวผู้ต้องหามาศาลช้า ทำให้ศาลได้ขึ้นพิจารณาคดีในช่วงบ่าย เมื่อศาลได้รับคำร้องขอกลับคำให้การ จึงได้ให้งดการสืบพยานโจทก์เอาไว้ และได้อ่านคำพิพากษาในทันที โดยศาลเห็นว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 14 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 7 กรรม พิพากษาให้จำคุกกรรมละ 8 ปี รวมเป็นจำคุก 56 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 28 ปี
ส่วนคำร้องที่จำเลยขอให้ศาลลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษ ศาลเห็นว่าความผิดของจำเลยเป็นการล่วงละเมิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ประชาชนเคารพสักการะ การกระทำของจำเลยจึงกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนอย่างร้ายแรง และศาลได้ลงโทษจำเลยในสถานเบาอยู่แล้ว จึงให้ยกคำร้องในส่วนนี้
สำหรับศศิวิมล ถูกดำเนินคดีจากการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ โดยกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า ‘เฟซบุ๊กเชียงใหม่’ ต่อบัญชีเฟซบุ๊กชื่อรุ่งนภา คำภิชัย ในความผิดตามมาตรา 112 เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2557 (รายงานข่าวโดยผู้จัดการออนไลน์) โดยศศิวิมลให้ข้อมูลว่าราวปลายเดือนกันยายน 2557 ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายค้นไปที่บ้านและมีการนำเครื่องคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือจากบ้านของเธอไปตรวจสอบ
จนเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2558 เธอได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวไปที่สถานีตำรวจ และมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 ก่อนจะถูกนำตัวไปฝากขังยังศาลทหาร และนำตัวไปควบคุมยังทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ทันที โดยญาติได้เช่าหลักทรัพย์จำนวน 400,000 บาท เพื่อยื่นขอประกันตัวรวม 3 ครั้ง แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยมีทนายความที่ญาติจำเลยว่าจ้างเข้าช่วยเหลือในคดีนี้
ศศิวิมล อายุ 29 ปี ทำงานเป็นพนักงานในโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันมีลูกสาวสองคน อายุ 7 และ 5 ปี ตามลำดับ โดยเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองและไม่เคยร่วมชุมนุมทางการเมืองกับกลุ่มใดๆ มาก่อน
ภายหลังทราบคำพิพากษา จำเลยได้ร้องไห้โฮออกมาในบริเวณศาล ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของครอบครัว โดยลูกสาวทั้งสองคนได้เดินทางมาที่ศาลในวันนี้ด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น