วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ค้นพบหลุมศพ-โครงกระดูกเหยื่อค้ามนุษย์ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย


ตำรวจรัฐปะลิส ของมาเลเซีย ค้นพบหลุมศพและโครงกระดูกมนุษย์ 24 ร่าง โดยเชื่อว่าเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ โดยจุดที่ค้นพบดังกล่าวอยู่ใกล้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ติดกับชายแดนไทยด้าน จ.สตูล โดย จนท.เชื่อว่าเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ก่อนหน้านี้มีการค้นพบหลุมศพและโครงกระดูกกว่า 106 ร่าง
แผนที่แสดงที่ตั้งหมู่บ้านวัง เกอเลียน รัฐปะลิส ชายแดนไทย-มาเลเซีย จุดที่ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์และหลุมศพเหยื่อการค้ามนุษย์ล่าสุด
24 ส.ค. 2558 - ตำรวจรัฐปะลิส ของมาเลเซีย ยืนยันข่าวการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ 24 ร่าง ในหลุมศพ 18 หลุม โดยเชื่อว่าเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ โดยค้นพบที่ภูเขา บูกิต วัง เบอร์ม่า ที่หมู่บ้านวัง เกอเลียน ทางตอนเหนือของรัฐปะลิส ติดกับชายแดนไทย-มาเลเซีย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐปะลิส ชะฟี อิสมาอิล กล่าวว่า โครงกระดูกทั้งหมดถูกส่งไปตรวจพยาธิวิทยาที่โรงพยาบาลบาฮิยะ ที่เมืองอะลอสตาร์ รัฐเคดาห์ ตั้งแต่เวลา 17.30 น. ของวันเสาร์ที่ 22 ส.ค. โดยผู้บัญชาการตำรวจรัฐปะลิส ซึ่งให้สัมภาษณ์สื่อของมาเลเซีย AstroAwani เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) ระบุว่าเจ้าหน้าที่ค้นพบหลุมศพถึง 20 หลุม แต่มีโครงกระดูกมนุษย์ใน 18 หลุม
"น่าเชื่อว่าเป็นเพราะฝนที่ตกหนัก ได้ชะล้างหลุมศพ จึงทำให้เกิดการค้นพบหลุมศพเมื่อเย็นวานนี้" ชะฟีกล่าวกับผู้สื่อข่าว ทั้งนี้มีการใช้เจ้าหน้าที่ 15 ราย พนักงาน 108 ราย จากหน่วยปฏิบัติการของตำรวจมาเลเซียประกอบด้วย หน่วยปฏิบัติการกลาง สำนักสืบสวนอาชญากรรม, หน่วยต่อต้านการค้ามนุษย์, ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน
สารวัตรสืบสวน คาลิด อาบู บากา ยืนยันกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า มีการค้นพบหลุมศพอีกหลายแห่งบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ด้านรัฐปะลิส เขากล่าวว่า หลุมศพที่พบเป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม ที่ภูเขาบูกิต วังเบอร์ม่า เช่นเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของมาเลเซียได้ค้นพบหลุมกว่า 139 หลุม มีโครงกระดูกกว่า 106 ร่างซึ่งเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านการศาสนาที่รัฐเคดาห์ พร้อมความช่วยเหลือของสภาความมั่นคงแห่งชาติมาเลเซียได้ ทำพิธีฝังโครงกระดูกที่พบ ที่สุสานของหมู่บ้านตุอาลัง ที่ตำบลโปปกเสนา รัฐเคดาห์ เมื่อเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ช่องทางบกที่เป็นป่าเขาติดต่อกันระหว่างชายแดนไทย ด้าน จ.สตูล และ จ.สงขลา และชายแดนมาเลเซียด้านรัฐปะลิส และรัฐเคดาห์ เป็นช่องทางลักลอบส่งแรงงานข้ามชาติ รวมทั้งผู้อพยพชาวโรฮิงญาข้ามแดนเข้าไปในมาเลเซีย
โดยก่อนหน้าการค้นพบหลุมศพในฝั่งมาเลเซียดังกล่าว ในฝั่งไทยเอง ก็มีการค้นพบแคมป์กักกันคนงาน และสุสานฝังศพชาวโรฮิงญาบน ยอดเขาแก้ว บ้านตะโล๊ะ หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เช่นกัน และต่อมาในวันที่ 31 พ.ค.  ศาลจังหวัดนาทวี ซึ่งอยู่ใน จ.สงขลา ได้ออกหมายจับที่ 258/2558 ออกหมายจับ พล.ต.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป กระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฏหมายร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ผู้อื่นโดยทำให้ปราศจาเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
โดยต่อมา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ รายงานว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ฟ้อง พล.ท.มนัส รวมทั้งผู้ต้องหาคนอื่นๆ รวม 72 รายด้วย โดยถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4, 6, 7, 9, 10 , 11, 52 และ 53/1 ข้อหาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 มาตรา 3, 5, 6, 10 และ 25 ข้อหาร่วมกันนำหรือพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร หรือช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 63, 64 และข้อหาเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เฉพาะผู้ต้องหาที่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ขณะเดียวกันจะมีการติดตามผู้ที่หลบหนีอีก 47 รายมาดำเนินคดี (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น