(ซ้าย) โทนี แอ็บบ็อต กล่าวต่อรัฐสภาเพื่อไว้อาลัยเหตุระเบิดในประเทศไทย เมื่อ 18 ส.ค. (ที่มา: คัดลอกจาก The Guardian) (ขวา) อุปทูตสหรัฐอเมริกา ดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี และคณะร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตและแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ เมื่อ 19 ส.ค. (ที่มา: เพจสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย)
อุปทูตสหรัฐร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตที่ศาลพระพรหม - นรม.ออสเตรเลียแถลงต่อสภาเพื่อไว้อาลัย และขอให้ชาวออสเตรเลียยังคงมาเมืองไทย เพราะผู้วางระเบิดต้องการทำให้คนกลัวจนสูญเสียความเป็นตัวเอง "และเราไม่ควรถูกข่มขู่เช่นนั้น" ด้านโฆษก กต.จีนขอให้ฝ่ายไทยสืบหาความจริง และประกันความปลอดภัยชาวจีนในไทย
20 ส.ค. 2558 - ปฏิกิริยาจากนานาชาติต่อเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์ กรุงเทพฯ เมื่อ 17 ส.ค. นั้น ล่าสุด เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) อุปทูตสหรัฐอเมริกา ดับเบิลยู แพทริค เมอร์ฟี พร้อมคณะผู้แทนชาวไทยและชาวอเมริกันจากหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาในประเทศไทย เดินทางมาร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตและแสดงความเสียใจกับครอบครัวและมิตรสหายของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดหน้าศาลท้าวมหาพรหม เอราวัณ เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม
“เรามาที่นี่เพื่อร่วมไว้อาลัย สหรัฐอเมริกาและประชาชนชาวอเมริกันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับประเทศไทยและประชาชนชาวไทยทุกคน เราขอประณามการใช้ความรุนแรงดังเช่นที่เกิดขึ้นนี้ ชาวอเมริกันและชาวไทยมีมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ให้แก่กัน และนี่คือเหตุผลที่พวกเรามาที่นี่ในวันนี้ด้วยหัวใจเดียวกัน” อุปทูตเมอร์ฟีกล่าว ทั้งนี้ตามรายงานของเพจสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
จีนขอให้ทางการไทยมีมาตรการดูแลความปลอดภัยชาวจีน
สำหรับปฏิกิริยาจากนานาชาตินั้น ในเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศจีน เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ฮัว ชุนยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวถึงเหตุระเบิดที่กรุงเทพฯ เมื่อ 17 ส.ค. ว่า จีนขอประณามอย่างแข็งขันต่อเหตุระเบิด แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหยื่อ รวมทั้งประชาชนชาวจีน และขอแสดงความเห็นใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้สูญเสียและต่อผู้ได้รับบาดเจ็บ
"ภายหลังเกิดเหตุ กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตจีนในประเทศไทย ได้ตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินนั้นทันที และพยายามอย่างไม่ลดละที่จะจัดการในเรื่องที่เกี่ยวข้อง สถานทูตจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสถานที่เกิดเหตุและโรงพยาบาลในท้องที่เพื่อตรวจสอบสภาพของชาวจีนที่ได้รับผลกระทบ และได้ติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และเรียกร้องให้ฝ่ายไทยค้นหาข้อเท็จจริง และทำอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาผู้บาดเจ็บ จัดการต่อผู้ที่เสียชีวิตอย่างเหมาะสม และมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการประกันความปลอดภัยแก่ชาวจีนและองค์กรสถาบันที่อยู่ในประเทศไทย
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุด้วยว่า ในเช้าวันที่ 18 ส.ค. รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ หวังอี้ ได้จัดการประชุมฉุกเฉินระหว่างกระทรวงเพื่อรวบรมข้อมูลของชาวจีนและวิเคราะห์สถานการณ์ความมั่นคงในไทย และในช่วงบ่ายวันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมกิจการเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศ แต่พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสถานทูตไทยประจำประเทศจีน โดยฝ่ายจีนได้ขอให้ไทยดูแลผู้บาดเจ็บอย่างดีที่สุด และเตรียมมาตรการดูแลระยะต่อไปอย่างเหมาะสม นำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และวางมาตรการเพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยให้กับประชาชนจีนและองค์กรสถาบันของคนจีนในประเทศไทย
"จีนจะยังคงติดต่อฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด และจัดการอย่างดีที่สุดต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีมาตรการที่ตื่นตัวเพื่อสร้างหลักประกันความปลอดภัยและผลประโยชน์ของชาวจีนและสถาบันของชาวจีนในประเทศไทย"
นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรไว้อาลัยต่อนักศึกษาฮ่องกงผู้เสียชีวิต
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ได้โพสต์ทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ไว้อาลัยต่อเฉิน อิงเยี่ยน หรือวิเวียน เฉิน (Chan Wingyan / Vivian Chan) ชาวฮ่องกง อดีตนักศึกษาวิชากฎหมายที่ลอนดอน ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่กรุงเทพฯ โดยเขาเขียนข้อความไว้อาลัยว่า "รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งเมื่อได้ทราบว่าพลเมืองสหราชอาณาจักรเสียชีวิตในเหตุระเบิดเขย่าขวัญในกรุงเทพฯ ขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวของเธอและผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด"
นายกรัฐมนตรีแถลงไว้อาลัย และยังคำแนะนำให้ชาวออสเตรเลียยังคงมาประเทศไทย
เพราะผู้ก่อเหตุระเบิดต้องการทำให้เรากลัวจนสูญเสียความเป็นตัวเอง และเราไม่ควรถูกขู่เช่นนี้
เพราะผู้ก่อเหตุระเบิดต้องการทำให้เรากลัวจนสูญเสียความเป็นตัวเอง และเราไม่ควรถูกขู่เช่นนี้
คลิปโทนี แอ็บบ็อทท์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแถลงต่อรัฐสภาเพื่อไว้อาลัยเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. (The Guardian)
ด้าน โทนี แอ็บบ็อทท์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แถลงต่อรัฐสภาที่กรุงแคนเบอร์รา มีรายละเอียดตามที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ดังนี้
"ท่านประธานสภา ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งในการแจ้งต่อรัฐสภาว่าเกิดเหตุการณ์โจมตีอันเลวร้ายในกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา
ผู้วางระเบิดหนึ่งคนหรือหลายคนก่อเหตุบริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม การก่อเหตุนั้นชัดเจนว่ามุ่งต่อผู้บริสุทธิ์ และในขณะที่รายละเอียดทั้งหมดนั้นยังไม่เป็นที่รับทราบ เราทราบว่าผู้คนอย่างน้อย 20 คน เสียชีวิต และอย่างน้อย 125 คนบาดเจ็บ
นี่เป็นอีกหนึ่งการโจมตีต่อผู้บริสุทธิ์ที่ต่างดาเนินชีวิตประจำวันของพวกเขา
ผมขอแจ้งต่อสภาว่า สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียในกรุงเทพฯ ยังคงทางานอย่างใกล้ชิดกับทางการไทยเพื่อระบุว่ามีชาวออสเตรเลียได้รับผลกระทบจากความโหดร้ายนี้หรือไม่
จนถึงขณะนี้ เราไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าชาวออสเตรเลียเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ
ผมขอแจ้งต่อสภาว่า ตารวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ได้เสนอความช่วยเหลือทางเทคนิคต่อตารวจของไทย นอกจากนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นยยังได้เสนอความช่วยเหลือต่อหน่วยงานของไทย
เรียนท่านประธานสภา ทุกๆ ปีมีชาวออสเตรเลียจำนวน 900,000 คน เดินทางไปยังประเทศไทย ประเทศไทยเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร ชาวออสเตรเลียหลายล้านคนมีประสบการณ์ที่มีความสุขในขณะท่องเที่ยวในประเทศไทย
ชาวออสเตรเลียควรยังคงเดินทางมายังประเทศไทย เพราะสิ่งที่ผู้ก่อเหตุระเบิดในเมืองที่คับคั่งด้วยผู้คนต้องการคือทำให้เรากลัวจนสูญเสียความเป็นตัวเอง และเราไม่ควรถูกข่มขู่เช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ชาวออสเตรเลียในต่างประเทศควรใช้ความระแวดระวัง และควรติดตามเว็บไซต์ smart traveller และควรใช้ความระมัดระวังอย่างเหมาะสม
เรียนท่านประธาน ในเหตุการณ์อันเศร้าสลดนี้ เอกอัครราชทูตไทยประจำออสเตรเลียให้เกียรติมาร่วมการประชุม และผมขอต้อนรับท่านสู่การประชุมวันนี้ ชาวออสเตรเลียทุกคนเสียใจอย่างสุดซึ้ง
เราชิงชังความโหดร้ายนี้และขอแสดงความเสียใจ และส่งความเห็นใจไปยังรัฐบาลไทยและประชาชนชาวไทย ผมขอกล่าวปิดท้ายว่า การโจมตีเช่นนี้มีแต่จะทาให้รัฐบาลออสเตรเลียและผู้คนออสเตรเลีย และเจ้าหน้าที่และรัฐสภาออสเตรเลีย มุ่งมั่นยิ่งขึ้นในการพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อตอบโต้ลัทธิสุดโต่ง และต่อสู้กับการก่อการร้าย"
นายกรัฐมนตรีมาเลเซียประณามเหตุระเบิด และขอให้ชาวมาเลเซียในไทยตื่นตัวมากยิ่งขึ้น
ด้านนายกรัฐมนตรีนาจิป ราซัก โพสต์ข้อความใน เฟซบุ๊คเมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า "มาเลเซียประณามเหตุเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพลเรือนผู้บริสุทธิ์เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้มีชาวมาเลเซีย 2 คนเสียชีวิต (หมายเหตุ: ยอดปัจจุบันหลังการพิสูจน์เอกลักษณ์เพิ่มเป็น 5 ราย) และชาติอื่นๆ"
"กระทรวงการต่างประเทศและสถานทูตมาเลเซียในประเทศไทยจะยังคงติดต่อหากันและให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวเหล่านั้น ขอแสดงความห่วงใยและภาวนาให้กับพวกเขา" นาจิปกล่าว และยังกล่าวอีกว่า "ผมขอเตือนชาวมาเลเซียซึ่งกำลังเดินทางอยู่ในกรุงเทพฯ ให้มีความตื่นตัวยิ่งขึ้นและติดต่อกับสถานทูตมาเลเซียเพื่อขอความช่วยเหลือในกรณีจำเป็น"
ในอีกสเตตัสหนึ่งของนาจิป เปิดเผยด้วยว่าเขาได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยเพื่อแสดงความเสียใจต่อเหตุระเบิด นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียชาวมาเลเซียด้วย โดยนายกรัฐมนตรีของไทยยังให้ความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น