ประวิตร โรจนพฤกษ์ เล่าเหตุการณ์ถูกนำตัวเข้าค่าย "ปรับทัศนคติ" รอบที่สอง
ประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นให้สัมภาษณ์ประชาไท กรณีถูกเรียกเข้าค่ายรอบสอง โดยถูกถามข้อความในโซเชียลมีเดีย 2 ข้อความ หนึ่งคือ ข้อความในทวิตเตอร์ของตนเอง เรื่องความชอบธรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และข้อความจากไลน์ยาว 3 หน้า เกี่ยวกับการแต่งตั้งเลขา สมช. ซึ่งได้ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่ข้อความของตนเอง
หลังถูกสอบอยู่ราว 1 ชั่วโมงที่กองทัพภาคที่ 1 เขาถูกนำตัวไปราบ 11 โดยถูกถามถึงจุดยืนทางการเมือง ความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทางการเมืองและองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ และสาเหตุที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรา 112 โดยเขาได้ปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนเสื้อแดง หรือพวกของทักษิณ ชินวัตร เพียงแต่มีจุดยืนไม่เอารัฐประหารเท่านั้น ส่วนกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นไม่ได้โกรธหรือเกลียดเขาเป็นการส่วนตัว เพียงแต่แสดงความเห็นในหลักการเท่านั้น ทั้งยังเคยแสดงความไม่เห็นด้วยการล้อเลียนเขาทางกายภาพด้วย
ประวิตรระบุว่า ระหว่างการพูดคุยพบว่า เจ้าหน้าที่ทหารกังวลกับโซเชียลมีเดีย
"เขาพารานอยด์ทวีต ไม่ได้สนใจอะไรในเนชั่น" ประวิตรกล่าวและว่า เขาถูกมองเป็นผู้นำทางความคิดคนหนึ่ง เนื่องจากถูกรีทวีตข้อความ
"คนที่เกลียดทำให้ฉันดูใหญ่เกินจริง" เขากล่าวและมองว่า ทหารกำลังทำสิ่งที่เกินจำเป็น
หลังอยู่ที่นั่นและถูกสอบตั้งแต่ 15.30-21.00 น. ประวิตรถูกนำตัวขึ้นรถตู้ไปยังอีกสถานที่หนึ่งใช้เวลาชั่วโมงเศษ แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นที่ไหน เพราะถูกปิดตาด้วยผ้า
ห้องขนาด 4*4 ตร.ม. ที่เขาอยู่มีเพียงแสงไฟนีออน ส่วนแสงธรรมชาติอื่นถูกปิดหมด ในห้องมีกล้องวงจรปิด มีทีวีหนึ่งเครื่องที่รับได้เพียงช่อง 3 และไทยพีบีเอส เครื่องปรับอากาศตั้งพื้นที่มีป้าย "กาญจนบุรี" และน้ำดื่ม และเขาถูกล็อคอยู่ในห้อง
ราว 7-8 โมงเช้าวันจันทร์ มีคนนำอาหารเข้ามาให้ (ซึ่งเป็นเมนูที่ถูกถามไว้ตั้งแต่อยู่กรุงเทพฯ)
20 ชั่วโมงแรก เขาไม่ได้พูดคุยกับใคร นอกจากเคาะประตูขอออกไปสูดอากาศนอกห้อง เพราะเขารู้สึกว่าในห้องไม่มีอากาศ เขาได้รับอนุญาตให้ออกมานั่งนอกห้อง 6 ครั้งโดยทุกครั้งต้องถูกปิดตาก่อน ต่างจากการเข้าค่ายหนแรกที่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เอง และบางคนที่ถูกคุมตัวก็เตะบอลกัน
ค่ำวันนั้น มีเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงมาพูดคุยเรื่องการเมืองกับเขาและถามว่าต้องการอะไรหรือไม่ เขาได้ขอแสงอาทิตย์ อากาศ และแชมพู
เช้าวันถัดมา เขาได้ "อากาศ" โดยถูกให้นั่งหันหลังให้ประตู และเปิดประตูไว้ให้ราว 30 นาที
ราวบ่ายสองของวันอังคาร มีการนำใบหยุดเคลื่อนไหวเหมือนคราวก่อนมาให้เซ็น และถูกนำตัวกลับไปที่กองทัพภาค 1 ตอนบ่ายสาม ในสภาพถูกปิดตาเหมือนกับขามา
เขาได้พบกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่งแจ้งเขาว่า มีการแจ้งความกับเขาแล้ว แต่ยังไม่ให้ดำเนินเรื่อง จะปล่อยค้างไว้ก่อน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน โดยย้ำว่า ถ้าผิดคำสั่ง คสช.จะดำเนินคดี ทั้งนี้ เขาไม่ทราบว่าเป็นข้อหาอะไร รู้แค่เพียงว่าข้อหานี้มีอายุความ 15 ปี
"แม้ไม่ได้ถูกทรมาน แต่รู้สึกถูกคุกคามอย่างมาก" ประวิตรกล่าว
สุดท้ายก่อนที่จะปล่อยตัว เจ้าหน้าที่จะขอไปส่งที่บ้าน แต่เขาขอให้ส่งที่รถไฟฟ้า BTS
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น